The Legendary Mechanic – ตอนที่ 853 -854

ตอนที่ 853 รายงาน
ไม่กี่นาทีก่อนหน้าบนแขนเงิน ดาวแม่ของศาสนจักรอาร์เคน…
เหล่าบิชอปมารวมกันในโถงอีกครั้งนั่งและหลับตาพักผ่อน
ศาสนาและอำนาจของศาสนจักรเป็นแบบศูนย์รวมความศรัทธาและการเมืองพวกเขาแยกออกจากกันไม่ได้ เหล่าบิชอปคือคนที่มีอำนาจมหาศาล ชุดคลุมของบิชอปทุกคนหรูหราและสไตล์ก็แตกต่างกันมากในสีและลวดลาย ซึ่งแสดงว่าบิชอปแต่ละคนอยู่ฝ่ายไหน
อิทธิพลของปฏิบัติการนี้สูงมากดังนั้นเหล่าบิชอปจึงต้องจัดการเอง
เวลาผ่านไปนานแล้วตั้งแต่พวกเขาส่งกองยานไปศาสนจักรไม่มีเครือข่ายสื่อสารควอนตัมในโลกริบหรี่ ดังนั้นข้อความจึงสามารถส่งกลับมาได้ผ่านวิธีพิเศษเท่านั้น ดังนั้น เหล่าบิชอปจึงยังรอข่าวดีจากพวกแซ็กแมน
บิชอปคนหนึ่งมองเวลาและพยักหน้า”พวกเขาควรทำสำเร็จแล้ว”
“แต่ทำไมเราถึงยังไม่ได้รับข้อความ?”
“บางทีอาจกำลังนับผลกำไร”
ด้วยบางคนที่เริ่มเรื่องพวกเขาจึงคุยกันเสียงเบา พวกเขาใจเย็นและไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไร
ในมุมมองพวกเขากองกำลังทางฝั่งพวกเขาเหนือกว่า ไม่มีเหตุผลให้ล้มเหลวเลย
ประตูห้องพลันเปิด
เพดานของโถงประชุมโต๊ะกลมสูงมากและประตูก็ยังสูงถึงสิบเมตรมันเป็นสีขาวบริสุทธิ์ และไม่ดูเหมือนทำจากโลหะแต่ทำจากหยกขาว ไม่มีรอยอะไรบนประตู มันเรียบเนียนเหมือนกำแพงตอนปิด ครั้งนี้ ประตูขาวนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นฟองสบู่จากตรงกลางและหด เหมือนของเหลวเดือด แต่มันไม่เปิดออกสนิท และเปิดรูกว้างแค่สองเมตร คนๆหนึ่งเดินเข้ามาในห้องและช่องว่างก็ปิดด้านหลังเขา
เหล่าบิชอปหยุดคุยและยืนขึ้นทักทายด้วยความเคารพ
“พระสันตะปาปา”
นี่คือผู้นำสูงสุดของศาสนจักรอาร์เคนพระสันตะปาปา
พระสันตะปาปาส่งเสียงทักทายและเดินไปที่นั่งหนักที่นั่งคือบอลขาวลอยได้ เมื่อเขานั่ง ส่วนหนึ่งของบอลนี้ก็ยุบลงเหมือนมันเบาและปรับให้เข้ากับรูปทรงเขา
จากนั้นเหล่าบิชอปถึงนั่งลงเมื่อเห็นพระสันตะปาปามาเองเพื่อรอข่าวและไม่คิดพูด พวกเขาก็หยุดคุย
หลังรอสักพักภาพฉายของผู้บัญชาการกองยานก็ปรากฏตรงกลางโต๊ะกลม ในที่สุดเขาก็มารายงาน
ผู้บัญชาการกองยานทำท่าทักทายแบบทหารและกล่าวด้วยใบหน้าแข็งทื่อ”พระสันตะปาปาเหล่าบิชอบที่เคารพ..การต่อสู้จบลงแล้ว เรากำลังถอนทัพ”
“อืมรีบนำลูกบาศก์วิวัฒนาการกลับมา เราจะส่งกองทัพไปช่วยเหลือคุณ”บิชอปที่ใจร้อนกล่าว
ผู้บัญชาการกองยานเปิดปากและเผยสีหน้าลำบากใจเหมือนเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
เมื่อเห็นทุกคนก็สับสน ผู้บัญชาการที่พวกเขาส่งไปครั้งนี้คือพวกหัวกะทิ ทำไมเขาถึงทำท่าแบบนี้?
“มีปัญหาอะไร?”บางคนถาม
“..ครับเราทำภารกิจไม่สำเร็จ ปฏิบัติการนี้ล้มเหลว”ผู้บัญชาการกองยานตอบ
เหล่าเบื้องบนทุ่มทรัพยากรไปมากเพื่อให้พวกเขาได้เปรียบแต่ทว่า ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังทำภารกิจสักอันไม่สำเร็จ ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังเสียผู้อยู่เหนือ ผู้บัญชาการรู้สึกอับอายมากและรู้ว่าอนาคตเขาจบลงแล้ว
“ล้มเหลว?!”เหล่าบิชอปตกตะลึงและโกรธใช้ทรัพยากรไปมากขนาดนั้น แต่แผนนี้ก็ยังล้มเหลว?!
“บอกรายละเอียดมาคุณล้มเหลวได้ยังไง?เราให้คุณสองภารกิจ รับลูกบาศก์วิวัฒนาการและฆ่ามิลิซาสกับผู้อยู่เหนือของจักรวรริด อย่าบอกนะว่าคุณทำไม่สำเร็จสักอย่าง”
“..ครับเราไม่อาจเอาชนะพวกแบล็คสตาร์ได้ ชิงลูกบาศก์วิวัฒนาการไม่ได้ และก็ไม่สามารถฆ่าหรือจับผู้อยู่เหนือคนใดของจักรวรรดิได้…”
ใบหน้าของเหล่าบิชอปกระตุก
ชิงลูกบาศก์ไม่ได้?ไม่เป็นไรเหนือสิ่งอื่นใด แบล็คสตาร์ก็หยุดสัมผัสจิตของไซเคอร์ไว้ มันจึงไม่แปลกอะไรที่จะล้มเหลว แต่พวกแกต้องฆ่าผู้อยู่เหนือให้ได้สักคนสิ?ทำไมแกถึงทำไม่สำเร้จ?คิดว่าการร่วมมือกับสหพันธ์แห่งแสงและหยิบยืมอุปกรณ์เปิดท้องฟ้าหลากมิตินั้นไม่มีราคาหรือไง?!
บิชอปคนหนึ่งอดถามไม่ได้”พวกคุณนำคฑาหมื่นเทพไปด้วยครั้งนี้ทำไมถึงฆ่าผู้อยู่เหนือไม่ได้?แซ็กแมนและคนอื่นไม่ได้ใช้มันหรือไง?”
“พวกเขาใช้มัน..”
“งั้นมันเกิดอะไรขึ้น?”
“มันคือแบล็คสตาร์แซ็กแมนและคนอื่นใช้คฑาหมื่นเทพ ทำใหมิลิซาสบาดเจ็บสาหัส แต่แบล็คสตาร์กลับใช้วิธีบางอย่าง ป้องกันการโจมตีของคฑาหมื่นเทพได้โดยตรง!”
เหล่าบิชอปขมวดคิ้วคฑาหมื่นเทพไม่ใช่ไม่มีทางป้องกันได้ มันแค่ว่าวิธีส่วนใหญ่เปล่าประโยชน์ พวกเขาเคยอ่านประวัติแบล็คสตาร์มาก่อนและรู้ความสามารถของแบล็คสตาร์ เขาดูเหมือนจะไม่มีวิธีป้องกันการโจมตีของคฑาหมื่นเทพ นอกจากนี้ นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาใช้คฑาหมื่นเทพกับเขา แบล็คสตาร์จะรู้ผลการโจมตีของคฑาหมื่นเทพได้ยังไง?ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่แบล็คสตาร์จะเตรียมการมาล่วงหน้า
“มีอีกเรื่องครับ…คฑาหมื่นเทพถูกผนึกโดยแบล็คสตาร์แซ็กแมนและคนอื่นบอกว่าพวกเขาไม่สามารถทำลายมันได้ ..”จากนั้น ผู้บัญชาการกองยานก็เผยสภาพปัจจุบันของคฑาหมื่นเทพให้พวกเขาดู
สีหน้าของเหล่าบิชอปเปลี่ยนไปคฑาหมื่นเทพคืออาวุธทำลายล้างของพวกเขา แต่มันกลับถูกผนึกด้วยวัสดุบางอย่าง ที่แม้กระทั่งจอมเวทย์ผู้อยู่เหนือก็ไม่สามารถทำลายได้?
บิชอปสะกดกลั้นความโกรธเขาและกล่าว”ไร้ประโยชน์เสียจริง..นำคฑาหมื่นเทพกลับมาซะ”
ครั้งนี้อีกคนเคาะโต๊ะ”ต่อให้คุณไม่อาจใช้คฑาหมื่นเทพได้ ที่นั่นก็ยังมีถึงเจ็ดผู้อยู่เหนือและนั่นก็มากพอจะกำจัดศัตรู ทำไมถึงถอยก่อนภารกิจจะสำเร็จ?”
ผู้บัญชาการกองยานกัดฟัน”ทางฝั่งศัตรูมีมากกว่าสามเราไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์เรียกออสตินมาช่วยและออสตินก็รออยู่ใกล้ดาวประภาคาร เขาแทรกแซงการต่อสู้นี้ และจากนั้นเทพเอสก็ถูกตัดสินบนโดยแบล็คสตาร์และหนีไป นำทัพเขาจากไป ดีแลนถูกจับโดยแบล็คสตาร์ หากเราสู้ต่อ กำลังเสริมของจักรวรรดิจะมาถึง เราถูกบังคับให้ต้องถอย…”
หลังได้ยินรายละเอียดของการต่อสู้เหล่าบิชอปก็โกรธจัด
แค่ปฏิบัติการล้มเหลวก็น่าโมโหพอแล้วแต่ไม่ใช่แค่ภารกิจจะไม่สำเร็จ แกยังเสียผู้อยู่เหนือไปด้วย?!
พวกไร้ประโยชน์!
หากไม่ใช่เพราะพวกเขาต้องไว้หน้าผู้อยู่เหนือเหล่าบิชอปอาจแหวกมิติไปบีบคอพวกเขาแล้ว
ครั้งนี้พระสันตะปาปาที่ฟังเงียบๆพูดขึ้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“ระดมทัพเพื่อช่วยวงแหวนดาวกระจายป้องกันัจกรวรรดิจากการทำลายสถานีประตูดาวเรา คุณต้องนำแซ็กแมนและคนอื่นกลับมากาแล็กซี่กลาง ส่งกำลังเสริมไปเพื่อป้องกันจักรวรรดิจากการขัดขวางพวกเขา ในเวลาเดียวกัน เสริมแนวป้องกันของแขนเงินเพื่อเตรียมรับการล้างแค้นของจักรวรรดิ แจ้งกองยานของทุ่งดาวต่างๆให้เตรียมพร้อมรับศึก”
จากนั้นพระสันตะปาปาก็ยืนขึ้นและออกไป แม้เขาจะไม่เผยอารมณ์ใด เหล่าบิชอปก็รู้จักนิสัยพระสันตะปาปาและรู้ว่าเขากำลังโกรธจัด
…
ในเวลาเดียวกันสหพันธ์แห่งแสงเองก็ได้รับข้อความด้วย
“ศาสนจักรล้มเหลว?”
ประธานบาเดอร์ตกใจเขาค้นผ่านข้อมูลและหรี่ตา
“น่าแปลกใจ..”ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว”ศาสนจักรถูกบังคับให้ถอยโดยดาวประภาคาร?ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง”
บาเดอร์ไม่ตอบกลับนิ้วเขาปาดบนจอเสมือนหลายครั้ง นำข้อมูลแบล็คสตาร์ขึ้นมา”แทนที่จะบอกว่าศาสนจักรถูกทำให้ถอยด้วยดาวประภาคาร ต้องบอกว่าศาสนจักรแพ้แบล็คสตาร์ต่างหาก ทาราคอฟคือผู้บัญชาการที่เด่นด้านการป้องกัน มันไม่แปลกที่เขาจะทนได้นานต่อให้กองยานจะน้อยกว่าครึ่ง แต่ตัวแปรของสงครามอยู่ที่สนามรบของผู้อยู่เหนือ แบล็คสตาร์พลิกกระดานทางฝั่งสนามรบผู้อยู่เหนือ ซึ่งทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป”
“ศาสนจักรอาร์เคยเสียผู้อยู่เหนือจิ๊ จิ๊..”ผู้อาวุโสสูงสุดแสยะยิ้ม”พวกเขาเสียหายหนักจริงๆ”
บาเดอร์เองก็ยิ้มแม้พวกเขาจะร่วมมือกับศาสนจักร เขาก็มีความสุขกว่าที่ได้เห็นทั้งสองฝั่งเสียหาย ไม่ว่าจักรวรรดิและศาสนจักรจะสู้กันมากแค่ไหน สหพันธ์แห่งแสงก็คือคนที่ได้รับผลประโยชน์
เหนือสิ่งอื่นใดพวกเขาไม่ได้ส่งกองทัพไปและให้ยืมอุปกรณ์เปิดท้องฟ้าแหวกมิติ ต่อให้จักรวรรดิอยากล้างแค้น พวกเขาก็ต้องไปลงที่ศาสนจักรและไม่ทำอะไรกับสหพันธ์มาก
“ท่านวางแผนจะทำอะไรต่อ?”
บาเดอร์ไตร่ตรองก่อนพูด”จักรวรรดิคริมสันจะต้องไม่ปล่อยศาสนจักรไปง่ายๆ…ส่งกองทัพและพันธมิตรเราในวงแหวนดาวกระจายไปแทรกแซงซะ”
“ท่านคิดจะช่วยให้ศาสนจักรหลบหนี?”
“ไม่การร่วมมือระหว่างเราและศาสนจักรจำกัดแค่การให้ยืมอุปกรณ์เคลื่อนย้าย และข้อตกลงนั้นก็สิ้นสุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องจับมือกันอีก…เราจะช่วยจักรวรรดิสกัดกั้นกองยานของศาสนจักร!”
ผู้อาวุโสสูงสุดส่ายหัวด้วยความหน่ายใจ
เป็นคนที่น่ากลัวเสียจริง…ขายหุ้นส่วนทันทีหลังแผนล้มเหลว..แต่ทว่าพวกเขาไม่เคยเป็นพันธมิตรกันตั้งแต่ต้น พวกเขาแค่กำหนดเป้าไปยังจักรวรรดิขณะจักรวรรดิกำลังสำรวจโลกริบหรี่ สามอารยธรรมจักรวาลเป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว พวกเขาจะร่วมมือกันหากมีผลกำไรและจะสู้กันในเวลาที่เหลือ พวกเขาชินกับมันแล้ว
ผู้อาวุโสสูงสุดพลันคิดถึงบางสิ่งและหัวเราะ”จะว่าไปผู้ชนะครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นเทพเอส”
“ฉันไม่คิดแบบนั้นมันแค่โอกาสใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการแค่ครั้งเดียว”บาเดอร์มองข้อมูลของหานเซี่ยวอีกครั้ง”ศาสนจักรมีศีลธรรมต่ำ ดังนั้นจักรวรรดิต้องทำการประกาศเรื่องนี้แน่ นี่หมายความว่าความสำเร็จของแบล็คสตาร์จะกระจายไปทั่วจักรวาล ผู้อยู่เหนือที่ฆ่าหรือจับผู้อยู่เหนืออีกคนได้นั้นแตกต่างจากคนที่ไม่สามารถทำได้มาก”
“นอกจากนี้เขาคือเป้าหมายหลักของศาสนจักร แต่เขากลับบังคับให้อีกฝ่ายต้องถอยได้ เขาใช้ศาสนจักรเป็นบันไดให้เขาเหยียบ อิทธิพลเขาจะขยายขึ้นมาก ไม่ใช่แค่นั้น การบรรลุความสำเร็จเช่นนี้จะทำให้ตำแหน่งเขาในจักรวรรดิเพิ่มขึ้นมากเป็นแน่”
“แบล็คสตาร์คือผู้ชนะในครั้งนี้”
..
การต่อสู้เพิ่งจบเมื่อเบื้องบนของสามอารยธรรมได้รับข่าว หานเซี่ยวก็บินไปในยานรบกองทัพแบล็คสตาร์และบอกฟิลลิปให้นับความสูญเสีย
กองทัพแบล็คสตาร์ไม่มียานมากมายบนดาวประภาคารในช่วงการต่อสู้ กองยานจักรวรรดิคือทัพหลัก ดังนั้นความเสียหายยานจึงไม่มาก แต่ทว่า องครักษ์แบล็คสตาร์ทั้งหมดมีส่วนร่วมและเขาก็อยากรู้ว่ามีใครตายไหม
ออโรร่ารอในห้องวินาทีที่เห็นหานเซี่ยว เธอก็รีบพุ่งหาเขา
ออโรร่ากอดเขา
“ดีจังที่ลุงหานไม่เป็นอะไรฉันกังวลมาก!”ออโรร่าฝังหัวเธอในอ้อมอกหานเซี่ยว
กลิ่นหอมจากออโรร่าทำให้หานเซี่ยวผ่อนคลาย
การเผชิญหน้ากับเจ็ดผู้อยู่เหนืออันตรายมากไม่เพียงจะถูกทุบตี แต่เขายังต้องทนความเจ็บปวดจากการยกระดับอีกด้วย ตอนนี้ เขาผ่อนคลายได้แล้ว จากนั้นถึงรู้สึกถึงความเหนื่อยและความเจ็บปวดทั่วร่าง ความเจ็บปวดจากการยกระดับยังไม่หายป
หานเซี่ยวก้มมองออโรร่าสัมผัสถึงความนุ่มนวลในอ้อมแขน เขารู้สึกดีขึ้นมาก เขาลูบหัวออโรร่าและถาม”พี่สาวเธอไปไหน?เธอไม่เป็นไรนะ?”
“หืมฉันส่งพลังชีวิตให้เธอหลายครั้ง เธอยังไม่ตาย”
ครั้งนี้ประตูเปิด ฮีล่าและองครักษ์แบล็คสตาร์เดินเข้ามา ทุกคนบาดเจ็บ แต่ไม่มีใครตาย นี่ต้องขอบคุณยาที่ออโรร่าทำ องครักษ์แบล็คสตาร์ทุกคนมียาของออโรร่า พวกมันมีประสิทธิภาพมากและก็มากพอจะรับรองชีวิตของภัยพิบัติเหล่านี้
ออโรร่าหันไปและดูผานระหว่างช่องว่างแขนของหานเซี่ยวตระหนักว่าฮีล่ามีแผลและเลือดไหล เธอจึงรีบวิ่งไป
“พี่พี่บาดเจ็บ ให้ฉันรักษา”
ฮีล่าโบกมือและปฏิเสธ’การต่อสู้จบลงแล้วบาดแผลเล็กๆเช่นนี้จะหายเอง ไม่ต้องเสียพลังชีวิตน้องหรอก”
จากนั้นเธอก็หันไปมององครักษ์แบล็คสตาร์ด้านหลัง”พวกนายเองก็ด้วย..อืมยกเว้นเฟย์ดิน”
เฮดาวี่และคนอื่นเดิมหวังให้ออโรร่ารักษาแต่เมื่อได้ยิน พวกเขาก็จำต้องปล่อยความคิดนั้นไป
“ทำไมยกเว้นฉัน?”เฟย์ดินชี้ตัวเอง”อย่าเข้าใจผิดเฉินซิ่งบอกฉันให้ถาม”
“แบล็คสตาร์บอกว่านายโชคดีและบอกว่าเราได้รับผลประโยชน์จากโชคนายเป็นครั้งคราว”ฮีล่าบอกความจริง
จากนั้นฮีล่าก็หันไปมองหานเซี่ยวเธอสำรวจเขาและเห็นว่าเขาไม่เสียแขนหรือขา เธอจึงโล่งใจ ริมฝีปากเธอขยับเล็กน้อยราวกับอยากพูดบางสิ่ง แต่สุดท้ายก็แค่พยักหน้า
ครั้งนี้เฮดาวี่พลันกล่าว”ฉันเพิ่งได้ยินว่านายจับผู้อยู่เหนือได้ เขาอยู่ไหน?”
ด้วยเรื่องที่ถูกหยิบขึ้นทุกคนจึงอยากรู้ นี่คือครั้งแรกที่ผู้บัญชาการกองทัพพวกเขาเอาชนะผู้อยู่เหนือ ดังนั้นจึงอยากเห็นเชลย
หานเซี่ยวยิ้มและบอกกองทัพจักรกลเขาให้นำตัวดีแลนเข้ามาดีแลนถูกมัดไว้ด้วยจักรกลทั่วร่างเหมือนมัมมี่เหล็ก เผยแค่ใบหน้า
ของเหล่านี้ไม่อาจจำกัดการเคลื่อนไหวของผู้อยู่เหนือได้แต่ดีแลนรู้ว่าเขาถูกละทิ้งและก็เปล่าประโยชน์ที่จะดิ้นรน เขาไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับความจริง
องครักษ์แบล็คสตาร์เข้ามาและสำรวจเขาคุยถึงเขาต่อหน้า
“เอาชนะด้วยการโจมตีครั้งเดียว?นายอ่อนแอมาก”
“นายพูดเรื่องอะไร?ผู้บัญชาการเราแกร่งเกินไปต่างหาก!”เฮดาวี่กล่าว
“ใช่ใช่ ใช่!”
ดีแลนโกรธในฐานะผู้อยู่เหนือ ตอนนี้เขากลับถูกมองเหมือนสัตว์ในสวน เขาเกือบจะระเบิดความสามารถเขาออกมาสั่งสอนภัยพิบัติเหล่านี้
แม้จะด้วยสภาพนี้เขาก็ไม่อาจทนถูกคนทำให้อับอายได้!
เมื่อสังเกตเห็นกระแสพลังงานหานเซี่ยวก็กล่าว”อยากต่อต้าน?”
“บอกลูกน้องแกให้ไสหัวไป!”ดีแลนคำราม”อย่าคิดว่าแกจะทำให้ฉับอับอายได้เพียงเพราะแกจับฉันต่อให้ในสภาพนี้ ฉันก็ฆ่าพวกมันได้ง่ายๆ”
“โอ้แกเตือนฉัน การจับแกแบบนี้คงไม่ปลอดภัยพอ”
หานเซี่ยวยิ้มเขานำกาลอวกาศแอมเบอร์ออกมาและทำให้ดีแลนลอยในอากาศ
องครักษ์แบล็คสตาร์รู้ผลของมันพวกเขาล้วนถอยห่างไป
เมือ่เห็นสีหน้าพวกเขาดีแลนก็พลันรู้สึกไม่ดีและถาม”แกจะทำอะไร?”
“ไม่ต้องห่วงแกเป็นเชลย ไม่เพียงฉันจะไม่ทำร้ายแก แต่ยังรับรองความปลอดภัยแก”หานเซี่ยวหัวเราะ”เชื่อฉัน มันไม่เจ็บหรอก”
หานเซี่ยวใช้กาลอวกาศแอมเบอร์หลังจากนั้น มันก็ล้อมทั้งตัวดีแลน และหานเซี่ยวก็ตัดกระแสพลังงาน ดีแลนคือเชลย ดังนั้นเขาจึงมีเวลามากพอจะใช้อำพัน
วินาทีต่อมากาลอวกาศก็แข็งตัวและสร้างเป็นบอลอำพัน แช่แข็งดีแลนไว้ภายใน สีหน้าสับสนเขาหยุดนิ่ง
“แบบนี้ก็ไม่ต้องเสียกำลังคนมาจับตาดูเขา”หานเซี่ยวหัวเราะ
เฮดาวี่เคาะอำพัน”จะฆ่าฉันได้อีกไหม?”
ดีแลนถูกแช่แข็งแต่ยังสัมผัสถึงโลกภายนอก เมื่อตระหนักว่าไม่อาจขยับตัวได้ เขาจึงงุนงง
งั้นนี่คือความสามารถที่ผนึกคฑาหมื่นเทพ นี่ไม่ใช่ความสามารถของแบล็คสตาร์!
นอกจากลูกบาศก์วิวัฒนาการแบล็คสตาร์มีสมบัติจักรวาลอื่นอีก?!
หลังหยอกล้อกับดีแลนสักพักองครักษ์แบล็คสตาร์ก็พากันออกไป หลังศึกใหญ่ พวกเขาก็เหนื่อยและอยากพัก
หลังเห็นทุกคนออกไปหานเซี่ยวก็เปิดหน้าต่างสถานะ
ในที่สุดเขาก็มีเวลาตรวจสอบความสูญเสีย
ตอนที่ 854 จ้าวแห่งช่างกล
”ศาสนจักรบีบให้ฉันต้องนำไพ่ตายออกมามากเลยทีเดียว…”
เวทีที่อัตรายสุดผ่านไปแล้วแต่หานเซี่ยวรู้ว่าการต่อสู้ยังไม่จบ ศาสนจักรอาร์เคนพลันปรากฏโดยใช้อุปกรณ์ของสหพันธ์แห่งแสง แต่พวกเขาต้องข้ามจักรวาลกลับเอง ด้วยวิธีการของจักรวรรดิ ไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยให้ศาสนจักรกลับไปแบบนั้น…..
โอ้มันคือห้าผู้อยู่เหนือ
ดังนั้นเมื่อฮีเบอร์น้อยและคนอื่นมาถึง มันจะเป็นการไล่ล่าของพวกเขาแทน จักรวรรดิมีกองทัพนับพันล้านในโลกริบหรี่ ดังนั้นคนของศาสนจักรกลุ่มนี้จะไม่สามารถถอยได้ง่ายๆ
ต่อให้พวกเขาสามารถหนีออกโลกริบหรี่ได้วงแหวนดาวกระจายก็ยังรอพวกเขาอยู่ วงแหวนดาวกระจายคือฐานของอาณาจักรเคล็นท์ แดนหลั่งเลือดและกองทัพแบล็คสตาร์ การได้รับของขวัญใหญ่เช่นนี้ หานเซี่ยวย่อมต้องให้คืน เขาไม่ใช่คนตระหนี่ เขาได้ตัดสินใช้กองทัพแบล็คสตาร์ทั้งหมดและเเครือข่ายเขาในวงแหวนดาวกระจายเพื่อลงมือ
ขณะวางแผนในหัวหานเซี่ยวก็มองหน้าต่างสถานะในเวลาเดียวกันเพื่อคำนวณความสูญเสีย
การรีบเลื่อนระดับในช่วงบทลงโทษค่าประสบการณ์ทำให้เขาเสียค่าประสบการณ์มากมายแม้แต่หานเซี่ยว เขาก็รู้สึกปวดหัวเมื่อคิดถึงจำนวน เขาไม่ชอบการเสียเปล่า หากค่าประสบการณ์ส่วนนั้นนำมาใช้เพื่อเลื่อนระดับพิมพ์เขียว เขาคงได้แต้มศักยภาพมากมาย
ในแง่ของบัตรอัญเชิญตัวละครการใช้ของบัตรเรย์โนล ออโรร่าและเอเมสล้วนถูกใช้จนหมด บัตรเทพเอสและฮีเบอร์ใชได้อีกครั้งเดียว ทั้งคู่เป็นไพ่ตายที่ทรงพลัง นั่นโดยเฉพาะผนึกเอสเปอร์
นอกจากนี้เทพเอสคือผู้ชนะของการโจมตนี้ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากตอบสนองเทพเอสเพื่อทำให้เทพเอสออกสนามรบ ด้วยพลังงานวิวัฒนาการ เทพเอสต้องรับมือได้ยากขึ้นและอาจเข้าใกล้กับประตูของระดับที่สูงกว่า นั่นทำให้เขาไม่พอใจ
”อย่างไรก็ตามรางวัลภารกิจคือบัตรอัญเชิญตัวละครลึกลับสามใบ พร้อมกับบัตรอัญเชิญตัวละครเปล่าสองใบจากรางวัลสุ่มและบัตรอัปเกรดความสามารถ อย่างน้อยมันก็ไม่ขาดทุน”หานเซี่ยวส่ายหัว
ความเสียหายที่เกิดกับเครื่องจักรค่อนข้างสูงทหารจักรกลจำนวนมากถูกทำลาย สิ่งมีชีวิตจักรกลยังไม่เป็นไร หานเซี่ยวจงใจไม่ปล่อยให้พวกมันเข้าร่วมการต่อสู้กับผู้อยู่เหนือ เพื่อให้ไม่เกิดการสูญเสีย
เทียบกับเครื่องจักรอื่นสิ่งมีชีวิตจักรกลที่มีความสามารถเติบโตมีศักยภาพสูงกว่า มันน่าเสียดายที่พวกมันถูกทำลายอยู่ฝ่ายเดียว
ในบางประเด็นหานเซี่ยวคือต้นเหตุของการต่อสู้นี้ หากผู้อยู่เหนือตายเพราะมัน จักรวรรดิย่อมไม่พอใจ แต่ทว่า โชคดี ด้วยความช่วยเหลือของออสติน พวกเขาแค่บาดเจ็บ ซึ่งทำให้ง่ายต่อหานเซี่ยว
แบบนี้เขาจึงเป็นหนี้ออสติน ซึ่งไม่ใช่เรื่องเลว บางครั้ง การเป็นหนี้คนก็จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
ออสตินเป็นกลางมาตลอดแต่หลังมายุ่งกับศาสนจักร มันก็ยากมากสำหรับเขาที่จะหาข้ออ้าง แม้เขาจะไม่เข้าร่วมกับจักรวรรดิทันที กองกำลังทั้งหมดในจักรวรรดิก็จะถือว่าเขาอยู่ข้างจักรวรรดิ เขาจะไม่สามารถเป็นกลางแบบเดิมได้อีก
จากนั้นหานเซี่ยวก็คิดถึงไซเคอร์และสีหน้าก็แปลกไป
“หากเป็นแบบนี้..ออสตินก็ถือว่าสนิทกับจักรวรรดิแล้วเอเมสคือพันธมิตรฉัน ดังนั้นเธอจึงถือเป็นพันธมิตรทางอ้อมของจักรวรรดิ ฮีเบอร์เองก็อยู่ข้างจักรวรรดิ นับรวมฉัน สี่ในห้าผู้อยู่เหนือของวงแหวนดาวกระจายเกี่ยวกับจักรวรรดิ ไซเคอร์จะต้องเก็บตัวเงียบแน่”
ด้วยความคิดนี้หานเซี่ยวจึงเปิดรายชื่อภารกิจและรับรางวัล เขาจะมั่นใจหลังแตะตัวเฟย์ดินเท่านั้น
[สาเหตุและผลกระทบ]สำเร็จ!
ตามผลงานท่านท่านได้รับค่าประสบการณ์45000ล้าน 3รางวัลสุ่ม[บัตรอัญเชิญตัวละคร-บุตรแห่งแสง แซ็กแมน] [บัตรอัญเชิญตัวละคร-เนตรม่วง ไซเคอร์]และ[บัตรอัญเชิญตัวละคร-เทพเอส]
[บัตรอัญเชิญตัวละคร-บุตรแห่งแสงแซ็กแมน] : [กระแสอนุภาคแสง-แทรกซึม] –ปล่อยลำแสงอนุภาคแสงทรงพลังที่มีความเสียหายระเบิด เจาะและแผดเผาสูง พลังงานแสงจะสร้างความเสียหายต่อเนื่องและมอบสถานะ[การรบกวนพลังงาน]และ[การยับยั้งพลังงาน]กับเป้าหมาย เมื่อเป้าหมายใช้การโจมตีพลังงาน พลังจะลดลง ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มและความแม่นยำจะลดลง การใช้0/5
[บัตรอัญเชิญตัวละคร-เนตรม่วงไซเคอร์] : [พลังงานจิต-กำแพงหัวใจ]-ใน4.7วินาที ความเสียหายจริงจากการโจมตีจิตจะลดลง85%หลังหักความต้านทานทางจิต มันให้ภูมิคุ้มกันความสามารถควบคุมจิตใจทุกชนิด หากผู้โจมตีคือผู้ใช้พลังจิต สติปัญญาและลี้ลับจะถูกนำมาคำนวณ หากหนึ่งในสถานะท่านสูงกว่าผู้โจมตี 45%ของความเสียหายทางทฤษฏีจะสะท้อนกลับ หากทั้งสองสถานะสูงกว่าผู้โจมตี 90%ของความเสียหายทางทฤษฏีจะสะท้อนกลับ หากทั้งสองสถานะท่านต่ำกว่าผู้โจมตี ความเสียหายจะไม่สะท้อน การใช้:0/3
[บัตรอัญเชิญตัวละครเทพเอส]:[ความสามารถ-คัดลอก] ผ่านการติดต่อ คัดลอกยีนเอสเปอร์ของเป้าหมายและได้รับบัตรอัญเชิญตัวละครใช้หนึ่งครั้งกับเป้าหมาย มีผลกับเอสเปอร์เท่านั้น การใช้:0/3
ได้รับรางวัลค่าประสบการณ์สูงสุดตามคาดผลของบัตรทั้งสามนั้นดีแต่เขาไม่โชคดีพอได้รับผนึกเอสเปอร์อีกครั้ง แต่ทว่า ความสามารถเอสเปอร์คัดลอกก็ไม่เลว เทพเอสมีความสามารถมากมา ยดังนั้นการได้รับสิ่งนี้ก็ต้องขอบคุณเฟย์ดินแล้ว
ท่านได้รับ1แต้มตำนาน
แต้มตำนานจักรวาล: ศัตรูของศาสนจักรอาร์เคน เผชิญหน้ากับสถานการณ์สิ้นหวัง ท่านสู้กลับและพลิกสถานการณ์ บังคับให้ศาสนจักรต้องถอยและยังจับผู้อยู่เหนือศัตรู ชื่อท่านจะกระจายไปทั่วจักรวาลด้วยศึกนี้และกลายเป็นตำนาน!
ศัตรูของศาสนจักรแต้มตำนานขั้นสูงสุด แต้มตำนานจักรวาล..ดูเหมือนนี่จะกลายเป็นฉายาใหม่
ผู้อยู่เหนือทุกคนมีฉายามากมายที่แสดงถึงสิ่งที่พวกเขาทำหานเซี่ยวตอนนี้มีฉายา ‘กายอมตะ’ ‘แบล็คสตาร์ผู้ทำลายไม่ได้’ ‘ผู้บัญชาการกองทัพแบล็คสตาร์’และฉายาอื่น เมื่อศึกนี้กระจาย เขาอาจได้รับฉายา’ศัตรูของศาสนจักร’
ศาสนจักรอาร์เคนอยากฆ่าเขาและเขาก็ผนึกสมบัติจักรวาลรวมถึงจับผู้อยู่เหนืออีกฝ่าย ตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายไม่อาจจับมือกันได้อีก
การจับผู้อยู่เหนือเป็นๆมีความหมายพิเศษย้อนกลับไป นี่คือเหตุผลที่ฮีเบอร์อยากจัดการกับเขา แต่ก็ล้มเหลว และตอนนี้หานเซี่ยวก็บรรลุมันก่อนฮีเบอร์ แบบนี้ ชื่อเสียงเขาในจักรวาลจึงต่างไปและตำแหน่งเขาจะสูงขึ้น..เขารู้สึกว่าฮีเบอร์ต้องอิจฉา
พูดก็พูดฮีเบอร์กำลังเดินทางมาหนุนเขา มันทำให้หานเซี่ยวอดหัวเราะไม่ได้เมื่อนึกถึงสีหน้าของฮีเบอร์
หน้าต่างสถานะยังแสดงว่าเขาได้สร้างดันเจี้ยน[โลกริบหรี่-ศึกดาวประภาคาร]ผู้อยู่เหนือทั้งหมด11คนได้เข้าร่วมความขัดแย้งนี้ ซึ่งยากจะเกิดขึ้น นี่ทำให้ทั้งจักรวาลสั่นคลอน แม้มันจะเกิดในโลกริบหรี่และยังไม่เผยแพร่ต่อสาธารณะ มันก็ชัดเจนว่าข่าวนี้ต้องสร้างพายุ
ด้วยอิทธิพลมากมายเช่นนั้นการจะสร้างดันเจี้ยนขึ้นจึงไม่แปลก น่าเศร้า ด้วยมาตรฐานของศึกนี้ ผลของดันเจี้ยนนี้คงแค่ขยายขอบเขตผู้เล่นเท่านั้น
หานเซี่ยวเปิดหน้าต่างสถานะและอ่านสถานะเขา
ระดับ260
สายอาชีพหลักช่างกล
เผ่า: เผ่าแบล็คสตาร์
สถานะ: 3247พละกำลัง 3980ความเชี่ยวชาญ 5889ความทนทาน 8489สติปัญญา 2950ลี้ลับ 1163เสน่ห์ 1โชค
แต้มสถานะ: 0
แต้มศักยภาพ: 33
พลังชีวิต: 3854550
ความแข็งแกร่ง: 3521025
พลังงาน: 82120[ระดับ17]
โบนัสสถานะพลังงานระดับ17: +1260พละกำลัง +1488ความเชี่ยวชาญ +1890ความทนทาน +2345สติปัญญา +1123เสน่ห์ +311520ความแข็งแกร่ง +1632%ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร
ขั้นพลังงาน: 49975
เกรด: S
โบนัสเกรดS: +50ความทนทาน +25ความต้านทานทั้งหมด +25%สถานะสูงสุด +15%สถานะอื่น +750แต้มสถานะ +50แต้มศักยภาพ
หมายเหตุ: นี่ดูเหมือนจะเป็นช่างกลผู้อยู่เหนือที่เดินทางสายรถถัง
“เกือบ50000ขั้นพลังงาน…”หานเซี่ยวลูบคางเขายังจำได้ตอนเขาบรรลุระดับผู้อยู่เหนือ ขั้นพลังงานเขาประมาณ43000 หลังจากนั้น เขาก็บ่มเพาะเตาหลอมดาวของฮีเบอร์สำเร็จ พร้อมกับไฟชีวิตจักรกล ซึ่งมอบขั้นพลังงานให้เขามาก
เทคนิคบ่มเพาะของฮีเบอร์มอบพลังงานให้เขา16000พลังงานสูงสุดเขามากกว่าห้าหมื่นแค่เล็กน้อยตอนเขาบรรลุระดับผู้อยู่เหนือ แต่ตอนนี้มันมากกว่าแปดหมื่น ระดับพลังงานเขาเพิ่มจาก15เป็น17
เขาไม่ลืม[การดูดซับรังสี]ซึ่งมอบสถานะนู่นนี่ให้เขา
“การวิวัฒนาการครั้งต่อไปคือระดับ300และขีดจำกัดระดับของจ้าวแห่งช่างกลก็อยู่ที่ระดับ40 ดังนั้นการเลื่อนขั้นสายอาชีพก็จะเป็นระดับ300ด้วย ดังนั้น จะมีเพียงการยกระดับที่ระดับ280”
หานเซี่ยวไตร่ตรอง
ขีดจำกัดของจักรพรรดิช่างกลคือ35และจ้าวแห่งช่างกลก็เพิ่มมาอีกห้า
ข้อดีของศาสดาและจักรพรรดิช่างกลจะเสริมขึ้นที่สายอาชีพขั้นนี้
เช่นเดียวกับการเลื่อนขั้นสายอาชีพสองครั้งก่อนหน้าความสามารถและพรสวรรค์ของเทคโนโลยีเสมือนเพิ่มขึ้นด้วย ครั้งนี้เพิ่มถึง60%
มีความสามารถใหม่สี่อย่าง
พรสวรรค์[จ้าวแห่งช่างกล]มอบความสัมพันธ์กับเครื่องจักร300%การบุกรุกเสมือน200%และประสิทธิภาพการป้องกันเสมือน และการเปลี่ยนแปลงบางอย่างต่อคุณสมบัติของพลังจักรกล ซึ่งเรียกว่า’พลังปกครอง’ การแนะนำนั้นสั้น บอกแค่ว่านี่คือคุณสมบัติของความสามารถของจ้าวแห่งช่างกล
ความสามารถ[ความสัมพันธ์กับเครื่องจักรขั้นผู้ปกครอง]มอบความสัมพันธ์กับเครื่องจักร190%ที่ระดับสูงสุด
ความสามารถ[การสร้างชีวิตสาวก]คล้ายกับ[พรสวรรค์จักรพรรดิ]ที่ยังมอบการเสริมพลังพิเศษกับเครื่องจักร แต่ทว่า ผลนั้นแตกต่าง[พรสวรรค์จักรพรรดิ]จะสามารถใช้ได้แค่สามครั้งกับเป้าหมายเดิมและไม่มีขีดจำกัดจำนวนของเป้าหมาย ส่วนผลของการสร้างชีวิตจะใช้กับ’พลังปกครอง’ พลังจักรกลจะเปลี่ยนทหารจักรกลเป็นอาวุธ’อัครสาวก’
การเสริมพลังจะแกร่งกว่ามันสามารถเปลี่ยนจักรกลธรรมดาเป็นมินิบอสได้และจักรกลที่มีรากฐานดีกว่าก็จะเป็นบอสได้เลย
ด้วยผลที่ทรงพลังเช่นนี้[การสร้างชีวิตสาวก]จะจำกัดจำนวนอาวุธอัครสาวก ที่ระดับสูงสุด เขาสามารถมีอาวุธอัครสาวกได้เพียงสิบสอง พลังปกครองในร่างพวกมันจะสามารถเรียกกลับได้ตลอดและมอบให้เครื่องจักรอื่น ความสามารถนี้ยังไปเสริมความสามารถต่างๆ
ความสามารถสุดท้าย[การจุติของผู้ปกครอง] คือความสามารถในการต่อสู้กับกองทัพระยะไกล ผ่านพลังจักรกลพิเศษของจ้าวแห่งช่างกล เขาสามารถจำแลงจิตสำนึก ความคิดและพลังลงในทหารจักรกลและเปลี่ยนทหารจักรกลนี้ให้เป็นเหมือนอวตารของเขา มันจะแบ่งปันสถานะ ความสามารถและพรสวรรค์ส่วนใหญ่ของร่างหลักและมีพลังของผู้อยู่เหนือ
นี่หมายความว่าไม่เพียงหานเซี่ยวจะสามารถให้โบนัสพลังจักรกลกับกองทัพระยะไกลได้ตอนเขาอยู่บ้าน เขายังสามารถใช้หนึ่งในพวกมันและสู้เองได้ ข้อจำกัดคือใช้ได้แค่ครั้งละเป้าหมายเดียว
ข้อแนะนำความสามารถยังบอกว่าหาก[การจุติของผู้ปกครอง]ใช้กับเป้าหมายเดิมถี่ๆมันจะมีโอกาสสร้างการเชื่อมต่อวิญญาณ
“ความสามารถทั้งสี่เหล่านี้ดีมากโดยเฉพาะ[การจุติของผู้ปกครอง]..”
“หลังศึกนี้จะมีคนน้อยมากที่คิดสร้างปัญหาฉันในอนาคต วิธีต่อสู้ฉันควรเริ่มมุ่งเน้นที่การต่อสู้ระยะไกล ความสามารถนี้จะเป็นประโยชน์ต่อฉันมาก”
หลังสรุปผลกำไรขาดทุนหานเซี่ยวก็ได้รับสายจากทาราคอฟว่าเออแรนเรลอยากคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
แม้กระทั่งสำหรับผู้อยู่เหนือเออแรนเรลก็ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะเห็นได้ตามใจชอบ มันชัดเจนว่าความสำเร็จเขาในการต่อสู้ทำให้เออแรนเรลแปลกใจ ซึ่งทำให้เธออยากคุยกับเขา
นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่ต้องคุยและแก้ไข รวมถึงภารกิจไล่ล่าพวกแซ็กแมน
“เข้าใจแล้วฉันจะรอให้เธอออนไลน์”
หานเซี่ยวนำอุปกรณ์สื่อสารออกมาและทำการคาดเดามากมายขณะรอสายเชื่อมต่อเงียบๆ
หลังประสบความสำเร็จมากมายครั้งนี้หากเขาร้องขอความรู้ขั้นสูงสุดใหม่ เออแรนเรลคงไม่ปฏิเสธเขาละมั้ง?
ปล.แก้จากเทพช่างกลเป็นจ้าวแห่งช่างกลน้า