The Legendary Mechanic – ตอนที่ 821-822

ตอนที่ 821 เรดาห์จับศัตรู อีซอป
ดาวเคราะห์สีฟ้าดาวอความารีนหมุนช้าๆพร้อมด้วยยานอวกาศที่บินออกจากดาวอย่างต่อเนื่อง
ดวงอาทิตย์ส่องลงบนอาคารสูงของเมืองหลวงและหน้าต่างก็สะท้านท้องฟ้าและเมฆขาว รถไฟวิ่งตามรางและยานพาหนะต้านแรงโน้มถ่วงที่บินภายในเมือง มันเจริญรุ่งเรืองและงดงาม
ที่อาคารโดยสารของเมืองแบล็คสตาร์เบนเน็ตยืนตรงนั้นพร้อมกลุ่มคน
เขายืนอยู่ข้างหน้าต่างสังเกตทิวทัศน์ของเมืองหลวงที่มีชีวิตชีวา ความโล่งใจเห็นได้บนหน้าเบนเน็ต
ด้วยหานเซี่ยวที่ช่วยให้อความารีนเข้ากลุ่มอารยธรรมวงแหวนดาวกระจายได้หลายกลุ่มการเงินและองค์กรจึงเริ่มให้ความสนใจกับการพัฒนาดาวอความารีนขึ้น นี่พามาซึ่งโอกาสทางการพัฒนารอบใหม่ ด้วยการหมุนเวียนทางการค้าที่เพิ่มขึ้น
สำหรับประชาชนหลังประสบกับความยากลำบากมามาก ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มยิ้มกับวันที่ดีขึ้น ผู้คนมีความสุข เริ่มบูชาแบล็คสตาร์มากขึ้น
ยานอวกาศบินไปที่ท่าและประตูมันก็เปิด เนโร่เดินออกมา พ่วงด้วยทหารหลายคนและวินาทีที่เขาเห็นเบนเน็ต สีหน้าเขาก็อ่อนลง รีบวิ่งด้วยขาสั้นๆ
“พ่อ!”
เบนเน็หันไปก้มมองด้วยใบหน้าสงสัย”ทำไมลูกถึงกลับมาเร็วนักละ?แบล็คสตาร์พาลูกไปจักรวาลเพื่ออะไร?”
เนโร่เกาหัวน้ำเสียงเขาซึม”เราแค่ศึกษาทฤษฏีช่างกลซะส่วนใหญ่ พ่อบุญธรรมเพิ่งพาผมออกไปเล่นได้ไม่กี่วันก่อนทิ้งผมไว้…”
หานเซี่ยวนำทัพส่วนใหญ่ไปโลกริบหรี่และมันก็ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาตอนไหน ดังนั้นเขาจึงทิ้งเนโร่ไว้ สั่งให้ซิลเวียส่งคนพาเขากลับอความารีน
ขณะพูดเนโร่ดูเหมือนจะโกรธ
“คุณเรย์โนลบอกว่านี่คือวันหยุดสำหรับผมและเขายังให้การบ้านผมมาด้วย เขาบอกว่าผมต้องกลับไปในสองเดือน ตอนนั้น เขาจะส่งคนมารับผมเพื่อให้ผมไปเรียนต่อภายใต้เขา”
เมื่อได้รับคำสั่งของหานเซี่ยวเรย์โนลก็สอนเนโร่ทุกครั้งที่หานเซี่ยวไม่อยู่ เขาจริงจังกับหน้าที่มากและก็วางแผนหลักสูตรล่วงหน้าไว้เป็นปีๆ
“มันเป็นโอกาสหายากที่แบล็คสตาร์จะรับเลี้ยงลูกอย่าปล่อยไปละ”เบนเน็ตหัวเราะและลดสายตาให้อยู่ระดับเดียวกับเนโร่”บอกพ่อว่าลูกเจออะไรบ้างในจักรวาล”
เนโร่เล่าประสบการณ์เขาเขาฟังดูตื่นเต้น มันยังเป็นครั้งแรกของเขาที่ได้สำรวจจักรวาล เขาเห็นเรื่องแปลกๆและน่าสนใจมามาก และยังพอใจกับการเดินทางโดยรวม
เบนเน็ตฟังและพยักหน้าลอบถอนหายใจ
เขาสามารถรู้สึกได้ว่าหานเซี่ยวนั้นสนใจในตัวเนโร่มันไม่ใช่แค่เพราะเด็กนี่เป็นลูกเขา แต่มันดูเหมือนว่าเขาจะมีพรสวรรค์ที่ทำให้หานเซี่ยวสนใจ ดังนั้นเบนเน็ตจึงภูมิใจมาก
ลูกเขากลับมีพรสวรรค์เช่นนั้นมันดูเหมือนว่าเขาจะมียีนที่ดีกว่า เบนเน็ตเริ่มพิจารณาจริงจังว่าควรปั้มลูกอีกคนไหม
เขาไม่เต็มใจมองสิ่งนี้เป็นเรื่องผลประโยชน์แต่หากเขาคำนึงถึงอนาคตของดาวอความารีน หากเขามีลูกที่มีพรสวรรค์เพิ่ม ด้วยทั้งหมดที่เรียนภายใต้หานเซี่ยว ดาวอความารีนย่อมมีอนาคตสดใส
แม้เขาจะแก่ตัวร่างเขาก็ยังหล่อหลอมด้วยทักษะนักสู้ เขาเต็มไปด้วย’กระสุน’
ท่ามกลางรายชื่อชายทรงเสน่ห์ผู้นำดาวอความารีนเบนเน็ตคืออันดับสอง ซึ่งแสดงว่ามีคนรักและสนับสนุนเขามากแค่ไหน หัวใจของพลเมืองคือเรื่องหนึ่ง นอกจากนี้ สถานะเขา อายุและร่างสมส่วนยังให้ความมั่นคง ซึ่งดึงดูดสาวๆได้มาก
สำหรับอันดับหนึ่ง..มันย่อมเป็นหานเซี่ยวตำแหน่งนี้คือสิ่งที่ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ ด้วยความสำเร็จมากมาย มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมองเขาจากมุมไหน พวกเขาก็ยังพบว่าเขานั้นหล่อ
ก่อนหน้านั้นเนโร่พูดจนคอเขาแห้ง และในที่สุดก็ถอนหายใจ เขายังตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นในจักรวาล
เบนเน็ตหยุดเขาลูบหัว”เอาละพอแล้ว เมื่อเรามีเวลา พ่อจะมาคุยกับลูกอีก ลูกควรกลับบ้านพักซะหน่อย พ่อยังต้องรอคนที่นี่”
“พ่อไม่ได้มาเพื่อรับตัวผมหรอ?”
เบนเน็ตส่ายหัวมองจักรวาลด้านบน
“พ่อกำลังรอคนที่สำคัญกว่านั้น”
..
ในเวลาเดียวกันในปลายขอบอิทธิพลของดาวอความารีน ยานอวกาศสีน้ำเงินกำลังแล่นผ่านจักรวาลในไฮเปอร์ไดรฟ์ เข้าใกล้ดาวอความารีนอย่างรวดเร็ว
“งั้นนี่ก็คือดาวอความารีน ดาวแม่แบล็คสตาร์…”
ภายในห้องสิ่งมีชีวิตผิวสีน้ำเงินจ้องจอ น้ำเสียงเขาดูพอใจ เขาคือกัปตันยานและมีสี่แขนสามตา คล้ายกับลูกยานคนอื่น
ทั่วยานคือสมาชิกจากเผ่าเนตรม่วง
กัปตันหันไปมองลูกยานก่อนเตือนอย่างเย็นชา”แบล็คสตาร์ได้ขโมยสมบัติชาติเราและนี่นับเป็นความอัปยศของเผ่าเรา ผู้นำเผ่าเราอ่อนแอ ไม่กล้าทำอะไร แต่เรา ชาวอวิตานกล้า!”
เสียงของกัปตันดูฮึกเหิมมองพวกเขาจับอาวุธกันแน่น
“เพราะลูกบาศก์วิวัฒนาการดาวอวิตานเราจึงถูกโจมตี และคนนับไม่ถ้วนก็ตาย คนรักและเพื่อนเรายังตกอยู่ในหายนะนี้ มีหลายคนตาย แต่เพื่อไม่ให้ลูกบาศก์วิวัฒนาการตกอยู่ในมือคนอื่น!ดังนั้น สงครามนี้จึงไม่ได้เกิดแค่เพราะเทพเอส แต่ยังเป็นแบล็คสตาร์ด้วย!”
กัปตันชี้ไปทิศทางดาวอความารีนก่อนคำราม”มีเพียงการนองเลือดถึงจะช่วยให้แบล็คสตาร์สำนึกผิดได้ช่วยให้เขาเข้าใจว่าเราเผ่าเนตรม่วงรู้สึกยังไง ความสิ้นหวังที่เขาทิ้งไว้ให้เรา เราจะมอบมันให้เขาคืน!”
ลูกยานหลายคนคำรามด้วยความเกลียดชัง
เดิมทีเพื่อล่อเสือออกจากถ้ำ พวกเขาอยากนองเลือด ภัยพิบัติบนดาวอวิตานเป็นความเจ็บปวดมากสุดของเผ่าเนตรม่วง และผู้รอดชีวิตหลายคนก็เสียความคิดเพราะความเกลียด ดังนั้น กลุ่มหัวรุนแรงจึงเกิดขึ้น พวกเขาเรียกตัวเองว่า’วิญญาณอวิตาน’ พวกเขาประกอบไปด้วยผู้รอดชีวิตของดาวอวิตาน โดยเฉพาะคนที่เสียเพื่อนและคนรักไป
เพราะพวกเขาเสียสมบัติชาติลูกบาศก์วิวัฒนาการ ชื่อเสียงของไซเคอร์ในหมู่เผ่าเนตรม่วงจึงลดลง พวกหัวรุนแรงโทษไซเคอร์และเกลียดคนร้ายอย่างเทพเอสมาก เพราะรากเหง้าของภัยพิบัตินั้นคือลูกบาศก์วิวัฒนาการ คนใกล้ชิดพวกเขาถึงต้องเสียสละชีวิต ดังนั้น วิญญาณอวิตานจึงเกลียดคนถือลูกบาศก์ โยนความเกลียดไปทางแบล็คสตาร์ ผู้ถือครองมัน
ลูกบาศก์วิวัฒนาการคือสมบัติของชาติพวกเขาในสายตาเผ่าเนตรม่วงความประทับใจนี้จะฝังไว้นานและตอนนี้ลูกบาศก์ก็เปลี่ยนผู้ถือครอง เผ่าเนตรม่วงมองหานเซี่ยวเป็นศัตรู สำหรับวิญญาณอวิตาน พวกเขายิ่งกว่า เนื่องจากไซเคอร์ไม่อาจเอาลูกบาศก์คืนได้ ราวกับเขากลัวการโต้ตอบของจักรวรรดิ วิญญาณอวิตานจึงเสียศรัทธาในตัวไซเคอร์และตัดสินใจลงมือเอง
เมื่อได้ยินที่หานเซี่ยวจะพาเจ้าหน้าที่เขาออกเดินทางนานวิญญาณอวิตานก็เห็นถึงโอกาส ดังนั้น พวกเขาจึงคิดโจมตีดาวแม่แบล็คสตาร์ เพื่อทำการแก้แค้น
เนื่องจากดาวอความารีนคือส่วนหนึ่งของสภาอารยธรรมวงแหวนดาวกระจายแม้กระทั่งไซเคอร์จึงไม่กล้าทำอะไร แน่นอน กฏเช่นนี้จะมีผลต่อพวกระดับสูงเท่านั้น ไม่ใช่พวกนอกกฏ พวกเขาไม่สนใจกฏ รวมถึงผลที่ตามมา
แม้ไซเคอร์จะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำที่ดีสุดของเผ่าเนตรม่วงจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่ใช่พระเจ้าและไม่อาจควบคุมความคิดของทุกคนได้ ทุกเผ่ามักมีคนที่ไม่ชอบใจผู้นำตนเอง นี่คือสิ่งที่แม้แต่อารยธรรมขั้นสูงก็หลีกเลี่ยงไม่ได
กัปตันหันไปหาผู้ช่วยเขา”อาวุธเป็นยังไง?”
“ระเบิดพลังงานไซโอนิคห้าลูกมากพอจะทำลายทั้งดาวครับพวกมันพร้อมใช้งานตลอดเวลา”
“ดีมากกล่าวกันว่าระเบิดนี้สามารถทำลายได้ทั้งทวีปด้วยลูกเดียว สามลูกพอจะทำลายผิวดาว และวัตถุประสงค์เราคือทำให้แน่ใจว่าทั้งห้าฝั่งของดาวอความารีนจะถูกทำลาย ให้พวกมันรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเรา!”น้ำเสียงกัปตันดูน่ากลัว พวกเขาไม่ได้วางแผนจะหนีเลย
แม้ระเบิดพลังงานไซโอนิคขั้นสูงจะไม่อาจเทียบได้กับระเบิดพลังงานไซโอนิคแรกเริ่มพวกมันก็ยังเป็นอาวุธต้องห้ามเพราะพวกมันจะก่อให้เกิดมลภาวะร้ายแรง มีเพียงอารยธรรมกลุ่มดาวถึงมีของเช่นนี้
วิญญาณอวิตานคือองค์กรที่เพิ่งจัดตั้งไม่นานและไม่ครอบครองเทคโนโลยีใดระเบิดนั้นได้การสนับสนุนเงียบๆโดยคนที่เป็นของอารยธรรมภายในบริเวณที่เผ่าเนตรม่วงอาศัย
อารยธรรมนี้มักระแวดระวังเผ่าเนตรม่วงและเพราะพวกเขามีศาสนจักรหนุนหลัง จึงไม่มีใครกล้าต่อต้านพวกเขา แต่ทว่า วิญญาณอวิตานเป็นโอกาสสำหรับพวกเขาที่จะใส่ร้ายเผ่าเนตรม่วง
เพียงเมื่อกัปตันกำลังจะโจมตีสัญญาณก็ดังบนเรดาห์พวกเขาและปัญญาประดิษฐ์ของยานก็ส่งการแจ้งเตือน
“คำเตือน!ตรวจพบวัตถุขนาดใหญ่กำลังเข้าใกล้!”
ทุกคนหันไปมองและเห็นเกาะลอยขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนมาทางพวกเขา
“เกาะมังกร?”กัปตันจำเกาะมังกรนี้ได้และสับสนว่าทำไมมันถึงปรากฏที่นี่ราวกับมันกำลังเคลื่อนไปทางดาวเคราะห์อความารีน
เกาะมังกรค่อยๆเคลื่อนมาทางยานอวกาศสีน้ำเงิน
“รีบหลบอย่าขวางทางเกาะมังกร”
กัปตันรีบสั่งเกาะมังกรคือกองกำลังเป็นกลางและจะไม่โจมตียานอวกาศใดที่ผ่านมา เขาวางแผนหยุดปฏิบัติการชั่วคราว รอให้เกาะมังกรจากไปก่อนลงมือ
ยานอวกาศอยู่ด้านล่างเกาะและจากหน้าต่าง พวกเขาสามารถเห็นแค่หินที่เป็นรากฐานของเกาะ
คนขับยกยานขึ้นและบินไปเหนือฐานของเกาะมังกรระดับเดียวกับแนวเมือง
ทุกคนภายในห้องมีอาการตกใจรุนแรงพวกเขาพบว่าในตำแหน่งที่โดดเด่นสุดของเกาะ เอเมสกำลังยืนอยู่ตรงนั้นในชุดดำ จ้องมองมาที่พวกเขา!
“เธอกำลังมองมาที่เรา?”
เพียงเมื่อคิดสนามพลังก็กดทับพวกเขา
ฮึ่ม!
ดอกไม้เลือดเบ่งบาน!
ร่างของสมาชิกเผ่าเนตรม่วงทุกคนถูกบีบเป็นกองเนื้อตายโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
บนท่าจอดของเกาะมังกรเอเมสโบกมือ ขับไล่สนามพลังก่อนพูดกับวิลน่า”ค้นหายาน ดูว่ามีอาวุธอันตรายหรือไม่”
“ค่ะ”วิลน่าใช้คนของเธอทันที
จากนั้นเอเมสก็หันไปมองอีซอปขมวดคิ้ว
“แน่ใจนะว่าคนภายในยานวางแผนทำร้ายดาวอความารีน?ฉันไม่ได้ฆ่าคนผิดใช่ไหม?”
อีซอปลูบเครา”เมื่อเธอบอกว่าจะย้ายเกาะมังกรมาฉันก็ได้ทำนายล่วงหน้าแล้ว คนเหล่านี้คือคนของเผ่าเนตรม่วง และมันดูเหมือนว่าเพราะปัญหาของลูกบาศก์วิวัฒนาการ พวกเขาจึงอยากทำลายดาวอความารีนเพื่อแก้แค้นแบล็คสตาร์ พวกเขาจะทำไม่สำเร็จเพราะพวกเขาจะถูกทำลายโดยการป้องกันทางอวกาศของแบล็คสตาร์ แต่ในเมื่อเรามาแล้ว ก็ทำแทนเขาไป”
เอเมสส่ายหัว”ไม่คิดเลยว่าจะต้องกลายมาเป็นผู้พิทักษ์บ้านเกิดเขา”
อีซอปจ้องเธอ”ไม่ใช่ว่าเธอย้ายเกาะมังกรมานี่เพื่อช่วยเขาปกป้องดาวอความารีนหรือ?”
“โอ้นี่ก็เพื่อผลประโยชน์ของเกาะมังกร นอกจากนี้ ฉันกำลังเสริมพลังให้พันธมิตรเรา มันจะเพื่อช่วยเขาได้ยังไง?ต่อให้มาช่วย มันก็ต้องเป็นลูกศิษย์ทั้งสองของฉัน”เอเมสหมุนตัวเดินออกไป
อีซอปมองเอเมสเดินออกไปก่อนหันไปหาเจนนี่
“เราเกือบถึงแล้วแจ้งพวกเขาด้วย”
เจนนี่พยักหน้า
…
เบนเน็ตยังยืนอยู่บนท่าแหงนมองสังเกตจักรวาล
เงาขนาดมหึมาค่อยๆบดบังแสงอาทิตย์มันขยายอย่างรวดเร็ว บดบังทั้งท่าจอด
เกาะขนาดมหึมาปรากกในวิสัยทัศน์พวกเขาล่องมาทางดาวเคราะห์อความารีน
เบนเน็ตยิ้ม
“ในที่สุดVIPก็มาถึงแล้ว”
ตอนที่ 822 จัดการ
เกาะมังกรลอยอยู่ข้างดาวอความารีนเหมือนดาวเทียมยักษ์และพลเมืองบนพื้นก็สามารถเห็นเกาะลอยฟ้าได้หากแหงนมองคนนับไม่ถ้วนอดหยุดสิ่งที่กำลังทำและแหงนมองฟ้าไม่ได้
“นั่นอะไร?ทำไมมันดูคุ้นๆ?”
“พระเจ้า!ฉันเคยเห็นมันในสารานุกรมนั่นคือเกาะมังกรในตำนาน มันล่องอยู่ในอวกาศ!วังของจักรพรรดินีมังกร!”
“โอ้!งั้นมันก็คือเอเมส”
หลังดาวอความารีนหลุดพ้นจากโกโดร่าความรู้ของพลเมืองก็เพิ่มขึ้นมาก พวกเขามีความเข้าใจพื้นฐานต่อบุคคลชื่อดังในวงแหวนดาวกระจายและคุ้นเคยกับเอเมสสุดเพราะหานเซี่ยว
พลเมืองรู้ว่าเธอเคยเป็นหัวหน้าของแบล็คสตาร์และรู้ว่าพวกเขาติดต่อกับกาแล็กซี่ได้ก็เพราการคุ้มครองของเกาะมังกรดังนั้น เอเมสและเกาะมังกรจึงมีตำแหน่งพิเศษในหัวใจของพลเมือง
เมื่อเห็นเกาะมังกรเข้าใกล้ดาวหลายคนก็อดแปลกใจและอยากรู้ไม่ได้ พวกเขาโทรหาเพื่อนเพื่อแจ้งข่าวและความปั่นป่วนครั้งใหญ่ก็บังเกิด
กลุ่มการเงินต่างๆบนดาวยังสังเกตเห็นและแปลกใจมากพวกเขาไปหารัฐบาลอความารีนเพื่อสอบถาม
ในเวลาเดียวกันเอเมสและคนอื่นก็มาถึงท่าในยานเล็กๆเพื่อพบเบนเน็ต
“ท่านจักรพรรดินีมังกรดาวเคราะห์อความารีนขอต้อนรับท่าน”เบนเน็ตก้มหัวและพูดด้วยน้ำเสียงเคารพ
เขาสนิทกับหานเซี่ยวมากและพวกเขาก็รู้จักกันมา20ปี ดังนั้น เขาจึงสามารถคุยเล่นกับหานเซี่ยวได้ แต่ทว่า เขาไม่ได้สนิทกับเอเมส และแม้เบนเน็ตจะรู้ว่าหานเซี่ยวมีความสัมพันธ์อันดีกับเอเมส เขาก็ไม่กล้าล้ำเส้น
เอเมสโบกมือเพื่อแสดงว่าเบนเน็ตไม่จำเป็นต้องสุภาพเธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม”แบล็คสตาร์ควรแจ้งคุณถึงคำขอของฉันแล้ว และคุณก็ควรติดต่อกับเจนนี่แล้ว”
เบนเน็ตพยักหน้าเขาได้รับข่าวจากหานเซี่ยวและรู้ว่าเกาะมังกรจะมาประจำการใกล้ดาวอความารีน เขาตกใจมากเมื่อได้ยินข่าวและยินดี เขารู้ว่านี่คือโอกาสหายากและรีบระดมกำลังคนเพื่อร่วมมือกับเกาะมังกร
เขาเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตามคำขอของเอเมสและวางแผนประกาศต่อสาธารณะหลังเกาะมังกรมาถึงความฉับพลันของข่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความประทับใจต่อทุกคนและสร้างภาพลักษณ์ใหม่
เช่นนั้นเบนเน็ตจึงไม่ประกาศเรื่องนี้ต่อพลเมืองของดาวอความารีนล่วงหน้า
“ผมจะจัดงานแถลงข่าวในนามดาวอความารีนและประกาศว่าเกาะมังกรจะตั้งฐานที่นี่”
“ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”
“ผมต้องการเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงบางสื่อมีกลุ่มนักข่าวประจำการที่นี่และการเชิญพวกเขาก็ใช้เวลาไม่นาน คุณคิดว่าอย่างไร?”
จากนั้นเอเมสก็พยักหน้าเพื่อบ่งบอกถึงการอนุมัติเกาะมังกรจะอยู่ที่นี่เป็นเวลานานและเหตุผลที่เธอมาวันนี้ก็เพื่อเข้าร่วม
“ใช่แล้วฉันพบกับพวกสุดโต่งจากเผ่าเนตรม่วงด้วย พวกเขามาอยู่แถวอความารีนและมีระเบิดอันตรายบนยาน มันดูเหมือนพวกเขาตั้งใจซุ่มโจมตีอความารีน ฉันฆ่าพวกเขาไปแล้ว มีบันทึกอยู่ในยานด้วย และฉันจะมอบมันให้คุณ”
เบนเน็ตผงะ
เผ่าเนตรม่วง…นี่ควรเพราะแบล็คสตาร์?พวกเขาต้องโยนความเกลียดมาที่ดาวอความารีน
“ผมจะแจ้งเรื่องนี้กับท่านแบล็คสตาร์”เบนเน็ตกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักหน่วงเรื่องนี้เกี่ยวกับเผ่าของผู้อยู่เหนือคนอื่น ดังนั้นมันจึงไม่เหมาะสำหรับผู้นำอารยธรรมที่ยังไม่ถึงระบบดาวที่จะจัดการ ดังนั้น เขาจึงเตรียมถามความเห็นของหานเซี่ยว
แม้เรื่องนี้จะถูกหยุดได้ทันมันก็อาจกล่าวได้ว่าดาวอความารีนถูกปองร้ายเพราะแบล็คสตาร์ ดาวอความารีนเคยประสบกับหายนะคล้ายกันตอนสเตฟานี่ ผู้อยู่ภายใต้พันเงาบุก
แต่ทว่าเบนเน็ตไม่มีข้อร้องเรียนใด เขาชัดเจนมากว่าเนื่องจากพวกเขาอยากเพลินเพลินกับผลประโยชน์ที่แบล็คสตาร์พามา พวกเขาจึงตกเป็นเป้าโดยศัตรูของแบล็คสตาร์ ไม่มีของฟรีในโลก
การต่อสู้ระหว่างพวกระดับสูงเหมือนพายุและดาวอความารีนก็แค่เรือลำน้อยในมหาสมุทร พวกเขาจะล่มอย่างง่ายดายหากไม่ระวัง แต่ทว่า มันก็ขี้ขลาดเกินไปสำหรับพวกเขาที่จะทิ้งขว้างโอกาสพัฒนาอารยธรรมและตัดความสัมพันธ์กับผู้พิทักษ์ บางทีผู้นำหกประเทศอาจพิจารณาทางเลือกนี้ แต่เบนเน็ตจะไม่ลังเลแน่
ด้วยการมาของเกาะมังกรและผู้อยู่เหนือที่ประจำอยู่ความปลอดภัยของดาวย่อมเพิ่มขึ้นหลายระดับ และไม่มีใครจะมอง
ดาวอควารีนเป็นจุดอ่อนแบล็คสตาร์อีก
เบนเน็ตไม่รู้ถึงเจตนาของเอเมสในการมายังดาวอความารีนดังนั้น เขาจึงรู้สึกว่าหานเซี่ยวต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ หากไม่ เอเมสคงไม่ไว้หน้าดาวอความารีนมาขนาดนี้ เช่นนั้น เขาจึงอดชื่นชมหานเซี่ยวไม่ได้
…
สามชั่วโมงต่อมาผู้สื่อข่าวมากมายมารวมกันในโถง รอการเริ่มของการแถลง
“รัฐบาลดาวอความารีนเรียกร้องให้มีการแถลงหลังการปรากฏของเกาะมังกร”
“มันอาจเป็นข่าวใหญ่”
“เกาะมังกรมักลอยรอบจักรวาลและจะไม่อยู่ที่เดียวเป็นเวลานานมันไม่ควรเป็นสิ่งพิเศษสำหรับพวกเขาที่จะมาอความารีนใช่ไหม?”
จากนั้นผู้สื่อข่าวก็เห็นคนงานหลายคนแบกอุปกรณ์และตั้งถ่ายทอดสดในห้อง
ทุกคนอดตกใจไม่ได้
พวกเขาอยากถ่ายทอดสดไปทั่วดาวมีเพียงเรื่องใหญ่ถึงต้องมีการถ่ายทอดสด
เพียงเมื่อทุกคนกำลังเดาว่าจะมีประกาศอย่างไรประตูโถงเปิดกว้าง เมื่อหันไปมอง สีหน้าทุกคนกลับเต็มไปด้วยความตกใจ
บุคคลที่เดินมาไม่ใช่คนของรัฐบาลอความารีนทั่วไปแต่เป็นผู้นำรัฐบาลข้างเขาคือคนชื่อดัง จักรพรรดินีมังกรเอเมส
นักข่าวทุกคนตกใจมากทำไมเอเมสถึงปรากฏในงานแถลงรัฐบาลอความารีน?!
จากนั้นพวกเขาก็มองเบนเน็ตและเอเมสเดินขึ้นเวที
“มีเรื่องที่ผมต้องประกาศทั้งทุ่งดาว”เบนเน็ตกระแอมลำคอ”จากวันนี้ไปเกาะมังกรจะอยู่นอกชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์อความารีนเป็นเวลานานและผม ตัวแทนของรัฐบาลดาวอความารีนก็ขอต้อนรับเพื่อนบ้านใหม่เรา”
ก่อนทุกคนจะได้ตอบสนองเอเมสก็กล่าว”เกาะมังกรลอยล่องมานาน และฉันก็ตัดสินใจหยุดมัน จากวันนี้ไป สถานที่นี้ควรเป็นค่ายหลักของเกาะมังกร”　　บูม!
ทั่วโถงปั่นป่วน
นักข่าวทั้งหมดสั่นสะท้าน!
นี่คือข่าวใหญ่!
…
ข่าวเกาะมังกรตั้งฐานกระจายไปทั่วทุ่งดาวเหมือนไฟป่าและทุกองค์กรก็ตกตะลึง
สำหรับเกาะมังกรที่หยุดลอยไปทั่วมันอาจหมายความว่าเอเมสกำลังจะตั้งองค์กรอย่างจริงจัง แต่ทว่า นี่ไม่ใช่ข่าวที่ทำให้คนสับสนสุด ข่าวที่น่าตกใจสุดคือความจริงที่ว่าสถานที่ตั้งฐานใหม่เธอคือดาวแม่ของแบล็คสตาร์!
ทุกองค์กรรู้ว่าฐานที่สะดุดตาสุดของแบล็คสตาร์คือศูนย์ใหญ่พวกเขาซึ่งตั้งบนดาวประตูทอง หลังหานเซี่ยวได้รับเก้าอี้ในสภาพอารยธรรมผ่านชื่อดาวอความารีน หลายคนก็รู้สึกว่าดาวอความารีนกลายเป็นฐานที่สองของแบล็คสตาร์
แต่เกาะมังกรกลับมาตั้งฐานหลักในฐานหลักของแบล็คสตาร์?
นี่หมายความว่าสององค์กรผู้อยู่เหนือกำลังจับมือกัน?
ไม่ต้องมีมากกว่านี้!
ย้อนกลับตอนฮีเบอร์ท้าทายแบล็คสตาร์แบล็คสตาร์จับมือกับจักรพรรดินีมังกร นอกจากนี้ พันธมิตรระหว่างกองทัพแบล็คสตาร์และเกาะมังกรคือสิ่งที่ทุกคนในวงแหวนดาวกระจายตระหนัก แต่ต่อให้สองฝ่ายเป็นพันธมิตร ขอบเขตปฏิบัติการพวกเขาก็ยังชัดเจนและไม่ขัดแย้งกัน กองทัพแบล็คสตาร์มีหลายสาขาขณะที่เกาะมังกรลอยไปทั่วไม่มีที่ตั้งแน่นอน
แต่ตอนนี้เกาะมังกรเลือกอยู่บนดาวอความารีน พวกเขาไม่ได้ตั้งสาขาชั่วคราวแต่เป็นฐานหลัก!
สำหรับองค์กรในระดับกองทัพแบล็คสตาร์และเกาะมังกรพวกเขาจะไม่ตั้งฐานหลักพวกเขาที่ตำแหน่งเดียวกันหากไม่ใช่เหตุผลพิเศษ พวกเขาจะแค่ตั้งสาขาในอาณาเขตพันธมิตรเท่านั้น แต่ทว่า จักรพรรดินีมังกรได้ยกฐานเธอมาดาวแม่ของแบล็คสตาร์และเจตนาเธอก็ชัดเจน
สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจกันและกัน!
พวกเขาเชื่อใจกันหากไม่ พวกเขาคงไม่หันหลังให้กันได้แบบนี้ ความไว้วางใจนั้นหาได้ยากในหมู่ชาวกาแล็กซี่
ความสัมพันธ์ที่สองฝ่ายแสดงเกินขอบเขตพันธมิตรทั่วไปพวกเขาสนิทกันจนถึงจุดที่ทุกองค์กรอดคิดถึงความเป็นไปได้ไม่ได้ หรือจะมีโอกาสที่สององค์กรจะควบรวมกัน?
ไม่มีผู้อยู่เหนือคนใดเต็มใจอยู่ภายใต้อีกคนนอกจากการร่วมมือกัน มีความสัมพันธ์อื่นที่เป็นปกติมากในหมู่สิ่งมีชีวิตทั่วไปแต่หายากมากในหมู่ผู้อยู่เหนือ…
องค์กรต่างๆไม่เพียงจะปล่อยให้จินตนาการพวกเขาไหลไปอย่างดุเดือดแต่ยังทำการประเมินตามประวัติระหว่างแบล็คสตาร์และจักรพรรดินีมังกร นอกจากนี้ แบล็คสตาร์ยังเคยนำเอเมสไปจักรวรรดิกับเขา!
นี่เป็นสัญญาณอันตราย
หากสองฝ่ายรวมกันองค์กรที่ทรงพลังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนจะเกิดขึ้นในวงแหวนดาวกระจาย และสมดุลของวงแหวนดาวกระจายจะเปลี่ยนไป
ย้อนกลับไปหลายองค์กรอยากให้เกาะมังกรและกองทัพแบล็คสตาร์แตกหักกัน แต่พวกเขาล้มเหลว ตอนนี้ หลายองค์กรยังไม่เต็มใจเห็นเกาะมังกรและกองทัพแบล็คสตาร์สนิทกันขึ้น
เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวกับผลประโยชน์หลายองค์กรจึงตื่นตัว
..　　ตรงกันข้ามกลุ่มการเงินมากมายกลับตื่นเต้นกับข่าวนี้
ศักยภาพการพัฒนาของดาวอความารีค่อนข้างดีอยู่แล้วและบวกกับการปรากฏของเกาะมังกร ศักยภาพของดาวอความารีนย่อมระเบิด
กลุ่มการเงินทั้งหมดที่ให้ความร่วมมือกับดาวอความารีนแต่เริ่มอัดฉัดทุนเขาไปเพิ่มและหลายกลุ่มการเงินก็เริ่มเข้าหาดาวอความารีนเพื่อแสวงหาการร่วมมือ
พลเมืองดาวอความารีนย่อมไม่ปฏิเสธและเต็มไปด้วยความแปลกใจ
..
ในโลกริบหรี่แสงไฮเปอร์ไดรฟ์แหวกผ่านจักรวาลและหยุดนอกชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์สีม่วง นี่คือกองยานที่หานเซี่ยวอยู่
กำลังคนส่วนใหญ่ของพวกเขาได้ถูกส่งไปสำรวจดาวอื่นทำให้กองยานมีขนาดเล็ก
ดาวสีม่วงนี้คือหนึ่งในสถานีขนส่งในความทรงจำหานเซี่ยวและเป็นเป้าหมายที่เขาเตรียมสำรวจมันชื่อว่าดาวแพนกูรัสในชีวิตก่อนหน้าเขา
เพราะภูมิภาคที่ไร้การสำรวจไม่มีประตูดาวกองยานจึงใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะมาถึง
“เรามาถึงที่หมายแล้วผู้บัญชาการกองทัพ โปรดให้คำสั่งต่อไป”
ออโรร่ายืนขึ้นตรงและแสร้างเลียนแบบเสียงทหารที่ทำการรายงานแต่ก่อนจะพูดจบ เธอก็ไม่อาจกลั้นเสียงหัวเราะได้
“ทีมวิศวควรตั้งประตูดาวที่นี่และกองยานตรวจจับควรหมุนอบดาวเพื่อสร้างแผนที่ใช้อุปกรณ์ตรวจจับเพื่อตรวจจับสิ่งมีชีวิตและทรัพยากรบนดาวด้วย เราจะให้ทีมสำรวจลงไปหลังแผนที่เสร็จแล้ว..”
ก่อนหานเซี่ยวจะพูดจบเสียงฟิลลิปก็ดังขึ้นไอรีนโนเวล
“นายท่านมีข้อความด่วนจากดาวอความารีน ฮึ่ม..”
จากนั้นข้อความก็ปรากฏในเครือข่ายควอนตัมเขามันคือข่าวที่ส่งมาโดยเบนนเต เบนเน็ตรายงานว่าเกาะมังกรมาถึงแล้วและยังกล่าวเรื่องวิญญาณอวิตาน ถามเขาว่าควรจัดการยังไง
หานเซี่ยวขมวดคิ้วทันที
“ไซเคอร์ไม่ตอแยฉันแต่กลับมีคนภายในเผ่าเขาที่อยากจัดการกับฉันวิญญาณอวิตาน?ดูเหมือนจะเป็นองค์กรเล็กๆ พวกเขาเกลียดเทพเอสนี่?ทำไมถึงลากฉันไปด้วย?พวกเขายังอยากทำการฆ่าตัวตายและทำลายทั้งดาว?เกลียดอะไรขนาดนั้น?แล้ว ระเบิดไซโอนิคของพวกเขามาจากไหน?”
หานเซี่ยวขมวดคิ้วนี่คือหนึ่งในผลข้างเคียงจากการถือครองลูกบาศก์ เขาไม่สนใจกับองค์กรหัวรุนแรงเช่นนี้นัก ความสามารถทางจิตทุกคนจำกัดและทั้งสงครามกับภัยพิบัติคือทางเดียวที่จะทำให้เกิดกลุ่มหัวรุนแรงแบบนี้
แต่ทว่าการกระทำที่อาฆาตของพวกเขาทำให้ไซเคอร์ชมชอบ
หานเซี่ยวส่ายหัวเขาไม่คิดแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เนื่องจากดาวอความารีนมีเก้าอี้ในสภาอารยธรรมมันคล้ายกับการได้รับสิทธิพิเศษของอารยธรรมระบบดาว และพวกเขาก็ได้รับการคุ้มครองโดยสนธิสัญญา นี่คือโอกาสดีสำหรับเขาที่จะคว้าผลประโยชน์
จากนั้นเขาก็ตอบกลับเบนเน็ต
“เก็บหลักฐานไว้และติดต่อผลึกม่วงในนามฉันนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมอารยรรมวงแหวนดาวกระจายและเผยมันต่อทุกอารยธรรม ฉันจะจัดการที่เหลือเอง”
แม้เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับไซเคอร์แต่คนก็ยังรังเกียจเขาแน่
กลุ่มหัวรุนแรงเล็กๆของเผ่าเขาคือการส่งหลักฐานมาเข้ามือเสือท้ายที่สุด ทั้งเผ่าเนตรม่วงจะต้องถูกตำหนิในเรื่องนี้ ใครจะรู้ว่าไซเคอร์จะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้?