The Legendary Mechanic – ตอนที่ 1274 เจรจา

ตอนที่ 1274 เจรจา
  ‘จอมเวทย์ลึกลับ’โจอี้ เทอเรน ยอดฝีมือสันโดษในมิติที่สอง คนจากยุคเดียวกับ’ราชาเอลฟ์’ปากร้าย ดีแลน
แต่ทว่า ไม่มีบุคคลเช่นนี้ภายใต้ประวัติศาสตร์ เขาเลี่ยงจักรวาลมานานโดยไม่มีใครรู้ ครั้งแรกที่เขาปรากฏต่อหน้าจักรวาลในชีวิตก่อนหน้าหานเซี่ยวคือการรุกรานของต้นไม้โลก
สายจอมเวทย์คล้ายกับสายช่างกลที่พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อพวกเขาอยู่มานานและมีความรู้มาก ส่วนใหญ่ อายุพวกเขาจะเกี่ยวข้องกับพลัง การอยู่ในมิติที่สองมาหลายปี โจอี้จึงค่อยๆสะสมความรู้อย่างช้าๆเหมือนหยดน้ำที่ค่อยๆหยดจนเต็มถัง แต่ทว่า เนื่องจากขาดพรสวรรค์ ศักยภาพ และปัจจัยอื่น ระดับของเขาจึงต่ำกว่าเสาหลักของสามอารยธรรมจักรวาล เขาถือเป็นแค่พลรบระดับสูงของจักรวาล แต่ถ้าไม่นับผู้คืนชีพ เขาคงยึดครองตำแหน่งหนึ่งในผู้อยู่เหนือที่แข็งแกร่งสุดในจักรวาล
หานเซี่ยวมีความประทับใจมากต่อเขา ระหว่างการรุกราน มิติที่สองถูกลดเป็นสนามรบ และองค์กรลับทั้งหมดกับพวกสันโดษก็กลายเป็นเป้าหมายพิชิต พวกเขาไม่สามารถซ่อนตัวได้อีก พวกเขาจึงรวมกลุ่มกันต่อต้าน
โจอี้เป็นหนึ่งในนั้น ว่ากันว่าเนื่องจากมิติที่สองได้รับความเสียหายรุนแรง เขาจึงถูกบังคับให้นำฐานเขาไปด้วย ใช้กลยุทธ์การรบแบบกองโจรกับกองต้นไม้โลก แต่สุดท้ายเขาก็ถูกฆ่าและดูดกลืนไปโดยต้นไม้โลก
ความรู้ต่างๆแวบเข้าหัวเขา หานเซี่ยวหรี่ตา สำรวจโจอี้ก่อนพูด
“โจอี้ เทอเรน….ฉันก็สงสัยว่ามันจะเป็นใคร มันกลายเป็นนายนี่เอง”
โจอี้กำลังจะแนะนำตัวเอง แต่ก็สะดุ้งเมื่อได้ยินชื่อเขา  “นายรู้ชื่อฉันได้ยังไง?!”
เขาสับสนเล็กน้อย สถานการณ์นี้คืออะไร?ฉันซ่อนตัวมาหลายปี ไม่มีใครในจักรวาลหลักที่ควรรู้ชื่อฉัน ชายคนนี้รู้จักฉันได้ไง?
หานเซี่ยวหัวเราะ”ฉันเดานะ สุดยอดไปเลยไหมละ?”
โจอี้สำลักคำพูด ทันใดนั้นก็รู้สึกหดหู่
เขารู้สึกว่านิสัยของแบล็คสตาร์ต่างจากข่าวลือเล็กน้อย เขาลอบระงับความรู้สึกหดหู่ กระแอมและพูด”อืม ไม่ว่านายจะเดาถูกไหม นายก็ดูเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นใคร…ฉันอยากรู้ ทำไมแบล็คสตาร์ผู้โด่งดังในจักรวาลหลักถึงมาเยี่ยมบ้านฉัน?”
“โอ้ นายรู้จักฉันด้วย ฉันคิดว่านายปลีกวิเวกและไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงในจักรวาลหลักเลยซะอีก”หานเซี่ยวพูด
“ฉันแค่จับตาดูข่าวเป็นระยะๆ”โจอี้เริ่มสงสัยในใจ เกิดความรู้สึกว่าแบล็คสตาร์มีความเข้าใจเขาดี แต่ทว่า เขาไม่เคยรับมือกับอีกฝ่ายมาก่อน ซึ่งทำให้เขารู้สึกแปลก
“งั้นเหรอ?”หานเซี่ยวไม่เห็นด้วยหรือปฏิเสธ”แต่ทว่า ไม่นานมานี้ นายสอดแนมฐานเพื่อนฉัน มันดูเหมือนจุดสนใจนายจะกว้างนะ ไม่ใช่แค่ข่าว”
“งั้น นายก็มาเพราะเรื่องนี้เอง”
โจอี้รู้ตัว เสียงระฆังภายในตัวเขาดังขึ้นเตือน
เขาเพิ่งพบแบล็คสตาร์ในมิติที่สองและสงสัยว่าทำไมเขาพึงมา เดิมเขาเพียงอยากรอเงียบๆและเดาเจตนาอีกฝ่าย แต่วินาทีที่เขาเห็นหานเซี่ยวยกมือเพื่อทำลายเวทย์เขา โจอี้ก็ทำได้แค่ออกมาพบเขา
เขาไม่คิดว่าวัตถุสุ่มๆที่ดึงดูดความอยากรู้เขาจะเกี่ยวข้องกับแบล็คสตาร์ ตอนนี้ เจ้านายมาเคาะประตูแล้ว
เนื่องจากอีกฝ่ายตรงมาที่นี่ เขาก็ต้องมีหลักฐาน  สีหน้าโจอี้เปลี่ยนไป
เมื่อเห็น หานเซี่ยวก็ยิ้ม”อย่างที่พูดกัน ผู้มาเยือนจากแดนไกลคือแขก’ นายจะไม่เชิญฉันเข้าไปนั่งคุยงั้นเหรอ?”
โจอี้พยักหน้า เขาเปิดช่องม่านพลังก่อนชักชวนหานเซี่ยว
“แน่นอน ตามฉันมา”
เขานำทางหานเซี่ยวบินเข้ามิติที่สอง โลกตรงหน้าเขาพลันเปลี่ยน โลกแสนสงบสุขที่เต็มไปด้วยธรรมชาติเข้าสู่สายตา เมืองขนาดใหญ่ที่ล้อมด้วยหอคอยขาวสูงเสียดฟ้า
จากมุมสูง หานเซี่ยวมองเห็นทิวทัศน์บนถนน เห็นประชากร ผู้มีขนาดเท่ามด บรรยากาศของเมืองมีชีวิตชีวามาก
ทั้งคู่ลงบนหอคอย โจอี้ดีดนิ้ว และโต๊ะหรูกับเก้าอี้สองชุดรวมถึงชากับของกินเล่นก็ปรากฏ
หานเซี่ยวยิ้มและพึมพำ”เวทมนตร์นี่สะดวกจริงๆ”   โจอี้เหลือบมองเขา ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ก่อนเชิญเขานั่ง”เชิญนั่ง มาลองชาพิเศษของฉันกัน”
ทั้งคู่นั่งตรงข้ามกัน
หานเซี่ยวจิบชา และกลิ่นหอมก็แผ่ซ่านไปทั่วปาก ชากลมกล่อมแต่ก็เข้มข้น แฝงด้วยกลิ่นนมจางๆและรสชาติที่ค้างอยู่ในคอ
“ของดี”หานเซี่ยววางถ้วยชาลงก่อนหันไปมองเมืองด้านล่าง”มิติที่สองนี้ไม่เลวเลย มันผ่านมานานแล้วทีท่ฉันไม่เห็นสถานที่เงียบสงบแบบนี้”
“นี่คือสถานที่ที่ฉันอยู่อย่างสันโดษ ทุกอย่างที่นายเห็นที่นี่ถูกสร้างขึ้นทีละนิด..”
เมื่อมันเป็นหัวข้อนี้ น้ำเสียงของโจอี้ก็อบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ราวกับเขาชอบให้คนอื่นชมความสำเร็จของเขา
หานเซี่ยวฟังเล็กน้อยแล้วยิ้ม”มันดีที่ได้อยู่ที่นี่ นายคงไม่รู้สึกเหงาแน่ มันดูเหมือนนายจะเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นเจดีย์เวทย์สินะ มันมีชื่อไหม?”
“มี มันเรียกว่า”โจอี้หยุดก่อนพูดให้จบ”อาณาจักรแห่งเทพ”
เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็ลอบยิ้ม
ตาแก่นี่คิดว่าฉันไม่รู้ว่าสถานที่นี้จริงแล้วเรียกว่าดินแดนสี่เทพและไม่บอกชื่อจริง กลัวว่าฉันจะเดาว่ามีผู้อยู่เหนืออีกสามคนซ่อนอยู่
ทั้งสามซ่อนตัวโดยจะถูกใช้เป็นไพ่ตาย กรณีที่ฉันสร้างปัญหา
หานเซี่ยวไม่เปิดเผยอีกฝ่าย เขากลับเปลี่ยนน้ำเสียงและตอบอย่างขี้เล่น”แต่ทว่า ฉันเห็นผู้อาศัยมากมายที่นี่ว่าเป็นเผ่ากาแล็กซี่ต่างๆในจักรวาลหลัก นายลักพาตัวคนจำนวนมากจากจักรวาลหลักมาสินะ?”
โจอี้นิ่ง จิบชาขณะตอบ”มันไม่ใช่การลักพาตัว จักรวาลเป็นสถานที่อันตราย ฉันแค่ช่วยพวกเขาให้ได้รับความมั่นคงในชีวิต ที่นี่ พวกเขาสามารถมีความสุขกับความสงบที่ฉันสร้าง มันผิดอะไร?”   “มันฟังดูดี นี่อาจเป็นชีวิตที่หลายคนฝัน แต่…หึ”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
การปกครองชีวิตของคนธรรมดาเป็นเรื่องแน่นอนสำหรับผู้อยู่เหนือหลายคน ไม่ว่ามวลชนจะเต็มใจยอมรับการจัดการชีวิตพวกเขาหรือไม่ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก ความคิดนี้ฝังแน่นในหมู่ผู้ใช้พลังมานานและไม่สามารถแยกออกได้
หานเซี่ยวไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่กลับส่ายหัวลับๆด้วยความไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติของโจอี้
ดินแดนสี่เทพฟังดูเหมือนสวรรค์ที่เป็นอิสระ แต่หานเซี่ยวรู้ดีว่าภายใต้กีบเหล็กของต้นไม้โลก ความสงบสุขแสนเปราะบางนี้จะต้านทานการโจมตีสักครั้งไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะละจากทางโลก
หานเซี่ยวเคาะโต๊ะ โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อเข้าหัวข้อหลัก”เอาล่ะ ฉันดื่มชานายแล้ว มาเข้าเรื่องกัน เป้าหมายที่นายใช้เวทย์สอดแนมเป็นเพื่อนฉัน ฉันอยากได้คำตอบ”   “นายตั้งใจจะทำอะไร?”โจอี้ตึงเครียด
หานเซี่ยวโบกมือ”ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากรู้แรงจูงใจและวัตถุประสงค์ของนาย รวมถึงว่านายทำได้ไง”
“นายรีบขนาดนี้ หรือว่าเป้าหมายการสอดแนมของฉันสำคัญต่อนายมาก?”โจอี้ขมวดคิ้ว ลอบสงสัยว่าทำไมแบล็คสตาร์ถึงทำให้เรื่องใหญ่
หานเซี่ยวกะพริบตา สำรวจสีหน้าโจอี้ก่อนหัวเราะ
จากคำพูดเหล่านี้ เขาอาจเข้าใจรายละเอียดเบื้องหลังโจอี้ ชายชราอาจไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดเบื้องหลังเทพอำนวย แต่มันไม่รู้ว่าเขาหาฐานเทพอำนวยเอได้ไง เขาอาจไม่มีแรงจูงใจรุนแรง
เพราะชายคนนี้สันโดษมานาน เขาจึงอ่านง่าย
“นายคิดว่าฉันมีเวลาว่างมากไหม?”หานเซี่ยวหันกลับมานาน  โจอี้รู้สึกตกใจกับคำถามนี้”ไม่ ด้วยตำแหน่งของฉัน ฉันเดาว่านายคงยุ่งมาก”
“งั้นเนื่องจากฉันมาเอง นายยังต้องถามท่าทีฉันอีกงั้นเหรอ?”หานเซี่ยวส่ายหัว รอยยิ้มเขาหายไป”ตอบฉันมา ฉันไม่อยากพูดซ้ำ”
ใบหน้าโจอี้กระตุก เขาตกใจกับท่าทีของหานเซี่ยวและรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
แต่ในฐานะคนที่ปลีกวิเวกมานาน นิสัยของเขาจึงผ่อนปรนขึ้น เขาระงับความไม่พอใจในใจ ตอบตามจริง
หานเซี่ยวสังเกตสีหน้า น้ำเสียงและการกระทำของเขาขณะฟังคำอธิบาย
ตามที่โจอี้พูด นี่เป็นเรื่องบังเอิญ เขาบอกว่าเขาไม่รู้รายละเอียดขององค์กรนี้ และเหตุผลที่สอดแนมเพราะเขาพบว่าเทพอำนวยจับสิ่งมีชีวิตเอสเปอร์แรกเริ่มไปมากผ่าน’ผู้ส่งสาร’ของเขา ทำให้เขาเกิดอยากรู้ เขาจึงทิ้งตราไว้ เช่นถ้าหากมีวันหนึ่งที่สายใยชะตากรรมพวกเขาเปลี่ยนหรือพันกับเขา งั้นเขาจะสามารถสังเกตได้ นี่คือคาถาที่เขาสร้างระหว่างสันโดษ
เมื่อไม่นานมานี้ เขาพลันเกิดลางสังหรณ์ ดังนั้นเขาจึงทำตามสัญชาตญาณเพื่อสังเกตสถานการณ์ขององค์กรลับนี้ แต่ทว่า ‘ผู้ส่งสาร’ที่เขาส่งออกไปโดนปิดกัั้นและเขาก็ไม่เห็นอะไรเลย
“นายบอกว่ามันบังเอิญ?”หานเซี่ยวไม่สามารถพิสูจน์ได้
แม้มันจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็ไม่สามารถมองมันเป็นเรื่องโกหกได้ มิติที่สองแปลกประหลาด มีมังกรซ่อนอยู่มากมาย เทพอำนวยดำเนินการในที่ลับมาหลายปี มันเป็นธรรมชาติที่จะมีร่องรอยกิจกรรมพวกเขาพบให้เห็นบ้าง มันไม่แปลกที่ยอดฝีมือจะเห็นโดยบังเอิญ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะหารายละเอียดขององค์กรได้
จอมเวทย์ระดับสูงมักมีทักษะลับ หลังใช้เวลาหลายปี โจอี้ก็ได้พัฒนาคาถาชุดพิเศษขึ้น ตามข้อมูลจากชีวิตก่อนหน้าเขา การวิจัยของเขาเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมที่เขาอาศัยเป็นหลัก คาถาของเขาเหมาะกับการต่อสู้ในมิติที่สองมาก ตรงกันข้าม มันไม่เหมาะที่จะสู้ในจักรวาลหลัก
หานเซี่ยวเชื่อประมาณ 60-70%ของสิ่งที่เขาพูด ไม่เพียงเขาจะสังเกตการกระทำของอีกฝ่าย แต่เขายังยึดพฤติกรรมอีกฝ่ายตามความรู้เขา คนคนนี้ไม่ใช่คนที่ชอบสอดแนมและไม่ทำงานให้ใคร
มันเพราะสิ่งนี้ที่ทำให้หานเซี่ยวไม่รู้ว่าโจอี้รู้เกี่ยวกับเทพอำนวยมากแค่ไหน เขายังบอกชัดเจนว่าเขาเกี่ยวพันกับเทพอำนวย นี่เพราะวินาทีที่เขาจำโจอี้ได้ เขาก็เปลี่ยนกลยุทธ์เริ่มต้น วางแผนดึงชายคนนี้ขึ้นเรือด้วย
นอกจากนี้ โจอี้เองก็รู้จักเขาและยังปฏิบัติตามด้วย หานเซี่ยวเดาว่าอีกฝ่ายก็คงอยากอยู่ฝ่ายเขาเพื่อเพลิดเพลินกับการคืนชีพ
ความคิดทุกประเภทแวบผ่านหัว และเมื่อโจอี้พูดจบ หานเซี่ยวก็ถือโอกาสจิบชาก่อนยิ้มเล็กน้อย  “ได้ ฉฉันชัดเจนแล้ว มันดูเหมือนจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ”
“มันดีที่นายเต็มใจเชื่อฉัน…”
โจอี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก เหตุผลที่ที่เขาพยายามอธิบายเพราะเขาอยากแก้ความเข้าใจผิด ไม่อยากปะทะกับแบล็คสตาร์
ครั้งนี้ คำพูดของหานเซี่ยวเปลี่ยนไป เขาพูดอย่างมีความหมาย”แต่ทว่า นี่ไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักที่ฉันมา มาคุยถึงเรื่องอื่นกัน..นายควรสนใจในวิหารสินะ?”
โจอี้่แปลกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าหานเซี่ยวจะเปลี่ยนหัวข้อ หลังลังเลชั่วขณะ เขาก็พยักหน้า
“ถูกต้อง ฉันสนใจมาก”
หานเซี่ยวหัวเราะ”ถ้านายต้องการ ฉันสามารถรวมนายเข้าไปได้”
โจอี้ตะลึง
เดิมเขาตั้งใจหาโอกาสติดต่อหานเซี่ยวและพยายามรับโอกาสคืนชีพ แต่ไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้
นี่คือครั้งแรกที่เราพบกัน แต่นายได้มอบโอกาสให้ฉันแล้ว?แบล็คสตาร์ใจกว้างขนาดนั้นเชียว?
เมื่อเห็นสีหน้าโจอี้ หานเซี่ยวก็รู้ว่าเขาคิดอะไร เขาถอนหายใจ”แน่นอน โอกาสนี้ไม่ได้มาฟรี ตอนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมกับสามอารยธรรมจักรวาลไม่สู้ดี ฉันต้องการเสริมพลังของสมาคม ตราบเท่าที่นายเข้าร่วมสมาคมและยืนข้างเรา นายจะได้โอกาสนั้น”
โจอี้ลังเลก่อนกระซิบ”แต่ฉันตัดสินใจปลีกวิเวกมานานแล้ว เรื่องของจักรวาลหลักไม่ใช่อะไรที่ฉันอยากยุ่ง…ฉันจะเข้าร่วมในนามหลังสมาคมคืนดีกับสามอารยธรรมจักรวาลแล้ว เป็นไง?”
“นายไม่อยากลงทุน แต่หวังผลตอบแทน ไม่คิดว่ามันเพ้อฝันไปหน่อยเหรอ?”หานเซี่ยวกลอกตา
สำหรับเขาที่กล้าพูดแบบนี้ เขาคงอยู่อย่างสันโดษมานานเกินไป  โจอี้ลำบากใจ”นายช่วยเปลี่ยนเงื่อนไขได้ไหมม?”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว”ฉันไม่คิดว่านายจะอยู่ในตำแหน่งที่ต่อรองได้นะ นอกจากนี้ นายคิดว่าฉันต้องการอะไร?”
โจอี้พูดไม่ออก
หานเซี่ยวยืนขึ้น ปัดชุดเขา
“ความลังเลของนายมาจากความจริงที่นายไม่เชื่อใจฉัน นายคิดว่าโอกาสล้มเหลวของฉันสูงมาก ฉันเชื่อว่าเราต้องสู้กันก่อนเพื่อให้นายเข้าใจ เป็นไง?มาประลองกันหน่อยไหม?”
“นี่ฟังดูเร่งรีบไปหน่อย”โจอี้แปลกใจ แต่ไม่ปฏิเสธ”ก็ดั ฉันอยากรู้ถึงความอึดของนาย ไปสู้กันข้างนอก”
แบล็คสตาร์มีชื่อเสียงมากและเนื่องจากโจอี้ปลีกวิเวกมานาน เขาจึงอยากดูว่าเขาจะสู้หานเซี่ยวได้ไหม การสร้างมิตรผ่านการต่อสู้มักเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับผู้อยู่เหนือ  แต่หานเซี่ยวกลับส่ายหัว
“นายเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ขอสู้กับนายตัวต่อตัว แต่เป็นพวกนายทั้งหมด”
เมื่อเขาพูด เขาก็หันไปอีกทาง
“พวกนายสามคน ฉันเชื่อว่าคงแอบฟังมามากพอแล้ว ออกมา”
สิ้นเสียง คนสามคนปรากฏตัวออกมา พวกเขาบินลงบนหอคอย มองกันอย่างช่วยไม่ได้
ทั้งสามคือผู้อยู่เหนืออีกสามคนของดินแดนสี่เทพ พวกเขาคิดว่าแบล็คสตาร์ไม่ค้นพบพวกเขา แต่กลายเป็นว่าอีกฝ่ายรู้นานแล้ว
เมื่อคิด ทั้งสามก็อดรู้สึกอายไม่ได้ แต่เมื่อได้ยินว่าแบล็คสตาร์อยากสู้กับพวกเขาสี่คนพร้อมกัน พวกเขาก็ไม่พอใจ
“แน่ใจนะว่าอยากสู้กับเราสีี่คน?”โจอี้ขมวดิ้ว รู้สึกว่าโดนดูถูก
“ถูกต้อง ไม่งั้นฉันเชื่อว่ามันคงจบเร็วไป”
หานเซี่ยวหัวเราะ  เขาได้เตรียมตัวสู้กับทั้งสี่พร้อมกันแล้ว ใครก็ตามที่หมัดหนักสุดจะมีสิทธิ์มีเสียงสุด
“อวดดี”
น้ำเสียงของโจอี้เย็นชา เขาอาจอารมณ์ดี แต่ก็มีความภาคภูมิใจ การโดนดูถูกทำให้เขาโกรธ
เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจ หานเซี่ยวก็ลบรอยยิ้มออกจากหน้า ดวงตาของเขาระเบิดสายฟ้าออกมา กลิ่นอายของเขาพุ่งทะยาน และพลังจักรกลสีทองก็ระเบิดรอบตัว
เสียงที่เต็มไปด้วยพลังงานออกจากปากเขา
“มันเป็นพวกนายที่หลบซ่อนมานานเกินไป พวกนายล้าสมัยไปแล้ว ฉันไม่ว่าอะไรที่จะช่วยให้พวกนายเข้าใจชัดว่ายุคนี้มันเป็นยุคของใคร!”
The Legendary Mechanic

The Legendary Mechanic

Status: Ongoing

คุณจะทำยังไงเมื่อคุณตื่นขึ้นและพบว่าคุณอยู่ภายในเกมที่คุณรัก? คุณจะทำยังไงเมื่อคุณตระหนักว่าคุณไม่ใช่แค่กลายเป็นNPC-แต่กลับถูกส่งย้อนเวลามาก่อนเกมเปิดตัว! จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความเป็นจริงทั้งสองของตัวเอกเรามาบรรจบกัน? หาน เซี่ยวคือผู้เล่นชั้นนำก่อนเขาถูกส่งเข้ามาในเกม โดยใช้ความรู้ของชีวิตในอดีต หาน เซี่ยวได้กวาดผ่านจักรวาลขณะรอคอยให้เหล่าผู้เล่นมาถึง นี่ไม่ใช่นิยายข้ามโลกทั่วไปของพวกคุณ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน