มีสีขาวไร้ขอบเขต โดยปราศจากสสารใด
ทันใดนั้น วังวนสีฟ้าก็ปรากฏ พวกหานเซี่ยวบินออกมา
โจอี้ส่งข้อความจิต นี่คือต้นแบบของมิติที่สองทีท่ฉันสร้าง เรามักประลองกันที่นี่ นายคงไม่มีปัญหาหรอกนะ?
ได้
หานเซี่ยวพยักหน้า
หลังตกลงกันว่าจะสู้ พวกเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนตำแหน่งเพราะกลัวจะทำลายฐานตัวเอง โจอี้เปิดประตูมิติ นำทุกคนมาสนามฝึกของเขา
จอมเวทย์ระดับสูงสามารถใช้เวทย์เช่นการสรรค์สร้างเพื่อสร้างมิติที่สองเทียมได้ โลกสีขาวนี้ถือเป็นต้นแบบไม่สมบูรณ์
แม้นายอยากสู้กับเราสี่ เราก็จะไม่เอาเปรียบนาย อย่างมาก เราทุกคนก็จะเข้าไปทีละคนจนกว่าฝ่ายหนึ่งจะยอมรับความพ่ายแพ้
โจอี้แค่นเสียง จากนั้นก็ถอยไป
หานเซี่ยวยิ้มโดยไม่พูด เปิดหน้าต่างสถานะ
ตามคาด การแจ้งเตือนผุด บอกเขาว่าภารกิจพิเศษกระตุ้น มันคล้ายกับข้อกำหนดภารกิจผู้อยู่เหนือ ซึ่งทนให้ได้ระยะเวลาหนึ่ง รางวัลแบ่งเป็นระดับต่างๆ ด้วยคะแนนสูงสุดจะมอบการสุ่มความสามารถจากทั้งสี่ รวมถึงได้รับพรสวรรค์[ผู้ปรับเปลี่ยนมิติที่สอง]
พรสวรรค์นี้ช่วยให้เขาได้รับโบนัสตามสภาพแวดล้อมตอนสู้ในมิติที่สอง เพิ่มพลังต่อสู้เขาเล็กน้อย มันเป็นพรสวรรค์ทั่วไป แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไร
เห้ย มันคงดีถ้าฉันได้รับเรื่องแบบนี้ทุกครั้ง
หานเซี่ยวยิ้ม ตอนนี้ โจอี้ผู้ทิ้งระยะห่างไปหยุด เขาประสานมือ ปลดปล่อยวงเวทย์มากมาย ซึ่งเปลี่ยนเป็นประตูแสง สัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วนกรูออกมา
นายอยากแข่งขันกับฉันในรูปแบบกองทัพ?
หานเซี่ยวพยักหน้า
อีกฝ่ายต้องได้ยินชื่อเสียงเขามาถึงไม่ยอมให้เขาเข้าประชิดง่ายๆ ดังนั้น พวกเขาจึงอยากใช้กลยุทธ์คลื่นมนุษย์แทน
โจอี้ไม่ได้ถนัดด้านอัญเชิญ แต่การใช้ชีวิตในมิติที่สองมานาน มันทำให้เขาเห็นสิ่งมีชีวิตมิติที่สองประหลาดมากมาย ปล่อยให้เขาทำสัญญา และส่วนใหญ่ก็ยังทรงพลังมาก
หานเซี่ยวเดาความคิดของอีกฝ่าย เขาอยากใช้รากฐานแข็งแกร่งของเขาเพื่อสู้กับเขา เนื่องจากเขาคิดว่าหานเซี่ยวขาดการสะสม เพิ่งเข้าอาณาจักรผู้อยุ่เหนือไม่นาน
ได้ ฉันจะเล่นกับนาย หานเซี่ยวไม่สนใจ เขาดึงกล่องกองทัพมิติที่สองออกมา และกองทัพจักรกลนับไม่ถ้วนก็กรูออกมา เทียบกับขบวนรบที่กระจัดกระจายของโจอี้ กองทัพจักรกลดูเป็นระเบียบไปเลย
ในเวลาเดียวกัน เขายังเรียกบัลลังก์จักรกลออกมา ลอยขึ้นสูงในส่วนกลางของกองทัพ เหมือนผู้บัญชาการ
กองทัพจักรกลและสัตว์ประหลาดขยายปริมาณ แนวต่อสู้ยืดออกไปไร้สิ้นสุด
ขณะที่เหล่าสัตว์ประหลาดคำราม กองทัพจักรกลกลับยืนปักหลักเงียบ
เมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายระดมกองทัพ หานเซี่ยวก็โบกมือสั่งการ ลงมือได้
ทันทีที่เขาพูด กองทัพจักรกลก็เคลื่อนไหว
กองทัพจักรกลแนวหน้าพลันยกโล่ขึ้น รุกไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียง สำหรับหน่วยรบระยะไกลที่แนวหลัง พวกมันเปิดฉากยิงพร้อมกัน ลำแสงพลังงานไซโอนิคหนาแน่นดูเหมือนจะรวมกันเป็นม่านแสง ยิงใส่สัตว์ประหลาดโดยตรง หานเซี่ยวดูมันทำลายศัตรู ระเบิดเศษเนื้อไปทั่ว นอกจากนี้ แนวหน้ายังพัวพันระยะประชิด ทำเหมือนกองโจรอิสระที่หาโอกาสโจมตีจุดอ่อนของแนวรบศัตรู
ในเวลาเดียวกัน โซ่สายฟ้าสีทองขนาดใหญ่ถูกปล่อยออกจากบัลลังก์ พลันเชื่อมต่อกับหน่วยรบต่างๆ ทหารจักรกลจำนวนมากโดนย้อมด้วยสายฟ้าสีทอง ได้รับบัฟของพลังจักรกล ประสิทธิภาพพวกมันเพิ่มขึ้นทันตาเห็น
โจอี้ไม่เต็มใจแสดงความอ่อนแอ ด้วยการสะบัดมือ ลำแสงเวทย์สาดบนสิ่งมีชีวิตอัญเชิญ ซึ่งให้สภาพคล้ายกับพร สิ่งมีชีวิตอัญเชิญเหมือนคลื่นน้ำ พุ่งเข้าหากองทัพจักรกล!
ด้วยความที่มีสิ่งมีชีวิตหลากหลาย ขบวนรบพวกมันจึงไม่กระจัดกระจายไปพร้อมคำอวยพรจากคาถาโจอี้ สิ่งมีชีวิตประเภทต่างๆก่อตัวเป็นขบวนรบ เสริมประสานกันแทนที่จะกรูกันเข้าไป
คลื่นทั้งสองเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระแทกกันอย่างดุร้าย คล้ายกับดาวหางชนพื้นดิน!
บูม!
ความโกลาหลปะทุขึ้น และฉากก็วุ่นวาย ฟันของกองทัพทั้งสองเกี่ยวพันกัน ขณะที่ทหารจักรกลปะทะกับเลือดเนื้อ พวกมันสู้กัน เข่นฆ่ากันไม่หยุด!
แต่ทว่า วินาทีที่ปะทะกัน กองทัพจักรกลกลับเหนือกว่า กดดันสัตว์ประหลาดไปด้านหลัง
เป็นกองทัพจักรกลที่ทรงพลังมาก!
โจอี้กลืนน้ำลายด้วยความตกใจก่อนรีบร่ายคาถาบัฟชั่วคราวเพื่อรักษาความมั่นคงของแนวหน้า เขายังร่ายคาถาฟื้นฟูเพื่อรักษาบาดแผลพวกมัน
มันน่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดไร้ผล
หานเซี่ยวแข็งแกร่งขึ้นมาก ด้วยการเพิ่มของการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพ ผู้ศรัทธาจักรกลห หลักฐานความเป็นผู้นำ และเทพจักรกล นี่มอบพลังให้เขาอย่างท่วมท้น ซึ่งแม้กระทั่งจักรพรรดิจักรกลก็เทียบไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เขาตัดสินใจวิจัยสมบัติทางเทคโนโลยีของเจซมาหลายทศวรรษและทำให้กองทัพจักรกลของเขาพัฒนาขึ้นมาก ไม่เพียงจะมีรุ่นใหม่ เครื่องจักรทั้งหมดยังมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายระดับ
ระดับพลังของหานเซี่ยวอาจอยู่แนวหน้าของจักรวาลแล้ว ไม่จำเป็นที่เขาต้องระเบิดศักยภาพเขา และสามารถบดขยี้ได้แทบทุกคนอย่างตรงไปตรงมา
สำหรับสิ่งมีชีวิตอัญเชิญของโจอี้ พวกมันไม่มีทางเทียบกองทัพจักรกลของหานเซี่ยวได้!
สนามรบเปลี่ยนเป็นฝ่ายเดียว ที่จักรกลโดนโจมตีและถอยตามใจชอบ ขบวนรบพวกมันยังอัดกันแน่น ค่อยๆกัดกินขบวนรบของสิ่งมีชีวิตอัญเชิญ
ที่ด้านหลัง หานเซี่ยวยังนั่งนิ่งบนบัลลังก์ ปรับพลังจักรกลเขา เขามีเครื่องจักรมากเกินไปแล้ว และพลังจักรกลของเขาก็ไม่พอครอบคลุมทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงต้องปรับจุดที่จะมอบพลังจักรกบ ใช้มันเป็นเครืองมือเพื่อควบคุมสถานการณ์และสนามรบโดยรวม
ในเวลาเดียวกัน หานเซี่ยวยังเปิดบัฟรูปแบบการต่อสู้เฉพาะ ซึ่งคือทักษะสั่งการที่ใช้โดยรูปแบบกองทัพ มีวิธีต่อสู้มากมาย ขบวนรบและกลยุทธ์จะมีอยู่ในรูปแบบของทักษะและพรสวรรค์ค่างๆ และนี่คือทักษะประเภทสั่งการพิเศษที่ช่วยเพิ่มพลังของกองทัพ มันตะเพิ่มสถานะทั้งหมด 10% ซึ่งคล้ายกับการติดปีกให้เสือ
อย่างรวดเร็ว สิ่งมีชีวิตอัญเชิญเสียหายหนัก และโจอี้ก็เจ็บปวดใจ เขายกมือ ดึงพลังมานาจากเจดีย์เวทย์ที่ลอยในอากาศ ก่อนตบฝ่ามือของเขากับส่วนหนึ่งของจักรกลฝ บูซ!
วงเวทย์สีทองขนาดใหญ่คล้ายดอกบัวเบ่งบาน และพื้นทีท่ในตำแหน่งกองทัพจักรกลก็พลันพังทลาย กระแสมิติโกลาหลโหมกระหน่ำ แต่มันโดนจำกัดให้อยู่ในพื้นที่วงกลมนี้
ทหารจักรกลในบริเวณดูเหมือนจะโดนยางลบลบหายไปในอากาศ ทหารที่เข้ามาบริเวณนี้ยังหายไปเช่นกัน
หานเซี่ยวหรี่ตา
คาถาขับไล่ชั่วพริบตา น่าสนใจ..
ทหารจักรกลที่หายไปไม่ได้โดนทำลายแต่กลับโดนขับไล่ด้วยคาถาของโจอี้เข้ากระแสมิติของโลกมิติที่สอง ทั้งหมดแยกกัน ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันจะไปไหน ผลกระทบนี้คล้ายกับกระสุนขับไล่มิติที่เทพอำนวยมี แต่มันดีกว่า
นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่โจอี้เหมาะกับการสู้ในมิติที่สองสุด เขาได้สร้างคาถามากมายที่มีผลในสถานที่นี้และไม่สามารถใช้ในจักรวาลหลักได้
โจอี้เหยียดมือออกไป ขับไล่จักรกลออกไปเพิ่ม ตอนนี้ สัมผัสของเขาดังเตือน และไม่ลังเลที่จะใช้คาถาเคลื่อนย้ายระยะสั้น
ซวบ!
ในช่วงเวลาต่อมา รังสีหนาแน่นสูงได้เจาะชั้นเวทย์ที่เขาตั้ง
โจอี้ที่หายไปด้านข้างหันมามองต้นกำเนิดของลำแสง เขาพบว่ามันเป็นหานเซี่ยวที่สวมชุดจักรกลสีดำ เขายกนิ้วขึ้นชี้ หลายนิ้วของชุดจักรกลยังเปล่งแสงอยู่
นายหลบได้เร็วดีนะ ฉันยังคิดว่าจะลองความสามารถต่อสู้จริงของรังสีแยกแกมม่าต่อต้านจอมเวทย์ซะหน่อย
น้ำเสียงของหานเซี่ยวดูเสียใจ
รูปแบบของช่างกลทั่วไปคือเตรียมมาตรการรับมือศัตรูทุกประเภท ในอดีต หานเซี่ยวพัฒนาอาวุธใหม่เพื่อสู้กับสายอื่น โดยการเปลี่ยนชุดจักรกล
รังสีแยกแกมม่าต่อต้านจอมเวทย์นี้มีพื้นฐานจากกลุ่มรังสีแกมมาเข้มข้นสูงซึ่งเลียนแบบการระเบิดของรังสีแกมมา เสริมด้วยพลังงานยับยั้งเวทย์ผ่านการเปลี่ยนแปลงย้อนกลับของพลังงานไซโอนิค มีการตั้งสมมติฐานว่าเมื่อโดนจอมเวทย์ มันจะยับยั้งเวทย์ไปหลายชั่วโมง ทำให้คาถากับเวทย์ของศัตรูอ่อนแอ
หานเซี่ยวส่ายหัวก่อนยืนขึ้นจากบัลลังก์และหายตัวไป
หัวใจของโจอี้เต้นกระหน่ำ เขาพลันสะบัดหลังมือที่เต็มไปด้วยพลังเวทย์ไปด้านหลัง ขวางหมัดของหานเซี่ยว
บูม!
เมื่อมือกับหมัดปะทะกัน คลื่นกระแทกสีฟ้าและม่วงก็พลันระเบิด!
โจอี้กำลังจะยืมแรงเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างพวกเขาแต่ก็พบว่าฝ่ามือของเขาติดอยู่กับหมัดของหานเซี่ยว เขาเห็นชุดของหานเซี่ยวสว่างขึ้นพร้อมกับแสงสีฟ้าที่กะพริบเหมือนมันกำลังหายใจ
สีหน้าโจอี้เปลี่ยนไป เขาพบว่ามานาในตัวของเขาไหลเข้าไปหาศัตรู
โมดูลการสลายตัวนี้คือค้นโดยหานเซี่ยว ด้วยการกระตุ้นกระบวนการผลิตและเปลี่ยนแปลงของพลังงานไซโอนิค เขาสามารถสร้างพลังงานที่สามารถกลืนพลังงานอื่นได้ ตราบเท่าที่ข้อกำหนดตรงกัน มันสามารถกำจัดและดูดซับพลังงานของศัตรู เปลี่ยนมันเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาปฏิกรณ์พลังงานเขา
พูดง่ายๆ นี่คล้ายกับเคล็ดดูดซับดวงดาว!
โจอี้ตัดสินใจทันที เปิดใช้อักขระและสร้างความผันผวนมิติ กลืนตัวเขาเข้าไปและกำจัดสภาวะควบคุมขณะที่เขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยย
โอ้ เขามีทางหนีมากมายจริงๆ คิ้วของหานเซี่ยวขมวด และหันไปสำรวจสภาพแวดล้อม เขาเห็นกระแสมิติโกลาหลระเบิดจากสุดปลายสนามรบ พ่นโจอี้ออกมา กระแสมิติโกลาหลที่ดูเหมือนจะควบคุมไม่ได้กลับกลายเป็นยานพาหนะส่วนตัวเขา
เกือบไป..ฉันเสียมานาไปประมาณ 5% จากการสัมผัสสั้นๆ โจอี้แอบแปลกใจ
ครั้งนี้ เส้นสีฟ้าบนชุดจักรกลหานเซี่ยวหม่นลงขณะที่เขาส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
มันดีกว่าที่พวกนายจะเข้ามาหาฉันพร้อมกัน นายคนเดียวไม่ทำให้ฉันกดดันเลย
เมื่อได้ยิน สีหน้าของโจอี้ก็สลด อีกสามเองก็มีสีหน้าไม่สู้ดี
ในการปะทะสั้นๆ โจอี้ได้ประสบกับพลังของหานเซี่ยวเอง เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายไร้จุดอ่อน เหมือนภูเขาที่ไม่สามารถทำลาย เขาไม่อาจคิดหาทางเอาชนะแบล็คสตาร์ได้ด้วยความสามารถของเขา
เนื่องจากโจอี้แกร่งสุดในหมู่สี่คน พวกของเขาจึงลอบตกใจกับเหตุการณ์นี้ แม้จะไม่ได้สู้กับแบล็คสตาร์ พวกเขาก็รู้ว่าผลลัพธ์พวกเขานั้นคงแย่กว่า
ไม่มีประเด็นอะไรให้ส่งตัวเองไปโดนฆ่าทีละคน!
ทั้งสามเริ่มโดนล่อลวงด้วยข้อเสนอของหานเซี่ยว
เดิม พวกเขาไม่ลงมือเพราะพวกเขายังรักษาศักดิ์ศรีของผู้อยู่เหนือ แต่ตอนนี้ที่พวกเขาจะโดนทุบตีถ้าไปทีละคน มันดีกว่าที่จะล้อมแบล็คสตาร์และเลี่ยงการเป็นคนโง่
สำหรับแผนเข้าทีละคนตอนแรก…นั่นเป็นความคิดของโจอี้ ไม่เกี่ยวกับพวกเขา
หนึ่งในนั้นกระแอมเล็กน้อย ในเมื่อนายเรียกร้อง เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้!’
หานเซี่ยวลอบยกนิ้วโป้งให้พวกเขา
หน้าด้าน นี่แหละสไตล์ฉัน!
ทั้งสามไม่ดูด้านข้างอีก เข้าร่วมสนามรบทีละคน เมื่อเห็น โจอี้ก็หน้าแดงเมื่อนึกถึงความคิดเขาก่อนสู้
แต่ทว่า เขารู้เต็มอกว่าแค่การพึ่งพาตัวเองไม่พอ เขาจึงเลือกไม่ปฏิเสธเพื่อนๆ เขาแกล้งทำเป็นไม่พูดอะไรและร่วมมือกัน
ทั้งห้าสู้กันอย่างดุเดือด ปะทะกัน ทำให้ผนังมิติที่สองสั่นสะเทือน มิตินี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นยเพื่อต้านทานผลพวงการต่อสู้ของพวกเขาและในไม่ช้ามันก็เต็มไปด้วยหลุม
…
การต่อสู้นี้กินเวลาหลายชั่วโมงและพวกเขาก็ได้ปั่นผ่านสนามรบทั้งสาม ด้วยมิติที่สองแห่งที่สี่ที่พวกเขากำลังสู้กันที่ใกล้แตกอีกอัน
มีเกาะลอยขนาดใหญ่ที่นี่ และตอนนี้ ทั้งเกาะก็เต็มไปด้วยเลือด มีซากศพเกลื่อนไปหมด
บนพื้นดิน โจอี้กำลังพิงไม้เท้าเขา หอบอย่างหนัก ทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ
ด้วยความกลัวในดวงตา เขายกมือที่สั่นสะท้านขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้หานเซี่ยว ฉัน ไม่สิ เราแพ้แล้ว อย่าเข้ามาอีก!
ไม่ไกลนัก หานเซี่ยวหยุดขยับ เสียงของเขาเจือด้วยความเสียใจ แค่นี้?ฉันยังมีของหลายอย่างที่ไม่ได้ทดสอบ
มันใช้เวลานานกว่าจะหาคู่ต่อสู้ซ้อมมือได้ เขาไม่อยากรีบจบการต ่อสู้นี้ เขานำอุปกรณ์ทั้งหมดที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมา ทรมานพวกโจอี้เล่น
ครั้งนี้ เพราะเขามุ่งเน้นทดสอบอุปกรณ์ หานเซี่ยวจึงไม่เอาจริงในการต่อสู้และไม่ใช้ไพ่ตายใด ถึงกระนั้น พวกโจอี้ก็ทำอะไรไม่ได้ สถานการณ์มักอยู่ในการควบคุมของเขา
เขาชัดเจนถึงพลังเขาดี ถ้าทุกคนสู้กับเขาซึ่งๆหน้า โดยปราศจากผู้อยู่เหนือนับสิบที่มีขั้นพลังงานกว่าเจ็ดหมื่นไล่ตาม ไม่มีทางที่ใครจะทำอันตรายเขาได้!
หานเซี่ยวถอนหายใจโล่งอก
นี่ยังไม่นับเป็นการอุ่นเครื่องของฉันเลยฉันให้โอกาสพวกนาย แต่พวกนายไม่รับมัน
เมื่อได้ยิน ทั้งสี่ก็พูดไม่ออก
ถ้าคำพูดนี้พูดก่อนต่อสู้ พวกเขาคงไม่พอใจ แต่ตอนนี้ พวกเขาตระหนักดีถึงช่องว่างแล้ว รู้ว่าแบ็คสตาร์สามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดได้ง่ายๆ ความอวดดีในหัวใจพวกเขาจึงหายไป
ผู้อยู่เหนือเข้าใจโลกดี ถ้าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้ ก็ไม่มีอะไรที่ทำได้นอกจากทน
แต่ทว่า ขณะที่พวกโจอี้โดนทรมาน พวกเขายังเห็นการสะสมที่หานเซี่ยวแสดง ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมแบล็คสตาร์ถึงกล้าสู้กับสามอารยธรรมจักรวาล
กองทัพจักรกลของแบล็คสตาร์น่าเหลือเชื่อ พวกมันเยอะเกินไป กองทัพจักรกลของเขาเรียกได้ว่าไร้สิ้นสุด!
เห็นได้ชัดว่าฉายา’จักรพรรดิจักรกล’เป็นของนายแทน!
