ในสมัยก่อน ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ 1 คนเทียบเท่ากองทหาร 1 กองพัน พวกเขามีความสามารถในการควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ !
หลังจากนั้นเมื่อมาถึงยุคสมัยใหม่หรือยุคที่อาวุธทุกชนิดมีประสิทธิภาพทำลายล้างสูงปรากฏขึ้น และภายใต้ภูมิศาสตร์หรือพื้นที่ที่เหมาะสมรวมไปถึงสถานการณ์ในบางครั้งมันทำให้อาวุธสมัยใหม่สามารถใช้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ได้
แต่ในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรคค์ก็เปรียบดั่งอาวุธนิวเคลียร์ที่เคลื่อนไหวได้ ดังนั้นประเทศอื่น ๆ ที่มีพวกเขาอยู่จะไม่เคลื่อนไหวหากไม่มีเหตุผลเพียงพอ ประเทศต่าง ๆ ที่มีตัวตนระดับนี้ก็จะไม่รุกรานประเทศที่มีผู้เชี่ยวชาญด้วยเช่นกันหากไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ถึงแม้ว่าจะสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ได้ แต่พวกเขาไม่มีเหตุผลจำเป็นที่ต้องทำ ด้วยความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้มีพลังที่เทียบเท่าทหารในอดีต แต่พวกเขาก็ยังเป็นสิ่งที่น่ากลัวอยู่ดี
ทุกประเทศให้ความเห็นตรงกันว่าควรจะรีบกำจัดระเบิดเวลานี้ เมื่อใดก็ตามที่ระเบิดลูกนี้หมดไป พวกเขาก็จะสามารถพัฒนาตัวเองได้โดยไม่มีความกลัวใด ๆ อีกต่อไป
นอกเหนือจากเผ่าพันธุ์ครึ่งปีศาจอย่างแวมไพร์ที่ต้องถูกฆ่าแล้ว ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ในประเทศเล็ก ๆ ก็ต้องหายไปด้วยเช่นกัน
ในประเทศเล็ก ๆ ตำแหน่งของผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์นั้นสูงส่งมาก พวกเขาเหมือนระเบิดนิวเคลียร์เดินได้ที่ทำให้ทุกคนกลัวและเคารพ
ในเวลาเดียวกัน เป่ยเฟิงก็เสร็จสิ้นการฝึกในตอนเช้า ผิวของเขามันวาวเหมือนหยก มีกลิ่นหอมจาง ๆ คล้ายกลิ่นกุหลาบลอยออกมาจากร่างของเขา
“ไป๋เซียง มาเจอกันหน่อย”
เป่ยเฟิงกวักมือเรียกไป๋เซียงพร้อมรอยยิ้มลี้ลับ
“เจ้านาย ถึงเมื่อก่อนผมจะเอาชนะเจ้านายได้ แต่นั้นมันอดีต มันไม่มีความจำเป็นอีกแล้วเจ้านายก็รู้นิ ?”
แม้ว่าไป๋เซียงจะไม่ใช่เครื่องมือลับคมที่ดีที่สุด แต่เขาก็ไม่ได้โง่ ช่วงเวลาที่เขาเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเป่ยเฟิงเขาก็ตอบกลับทันที
เป่ยเฟิงยิ้มอย่างไร้เดียงสาและพูด “ไร้สาระ เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นหรือยังไง ?”
“ใช่ !”
ไป๋เซียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่พร้อมกับขนหัวลุกเมื่อมองเห็นรอยยิ้มไร้เดียงสาบนหน้าเป่ยเฟิง เขาตอบกลับโดยไม่ลังเล
“มานี่มา ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้ถึงตาย”
เป่ยเฟิงเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มที่เปลี่ยนแปลง อาจจะเป็นเพราะความแข็งแกร่งเมื่อคืนทำให้ไป๋เซียงหวาดกลัวเขาขนาดนี้
“ฉันจะใช้ความแข็งแกร่งในระดับเซียนเทียนขั้นสุดท้ายแบบปกติ คิดว่าไง ?” เป่ยเฟิงกรอกตาเมื่อเห็นว่าไป๋เซียงพยายามถอยหลังไปไกล ๆ
‘อืม ฉันเป็นคนที่ใจกว้างมาก ๆ และฉันไม่เคยคิดที่จะแก้แค้นเลยซักครั้ง ฉันแค่อยากให้ไป๋เซียงรู้ว่ามีคนแข็งแกร่งกว่าเขานอกจากนี้ยังช่วยให้เขาเข้าใจถึงความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาด้วย มิหน่ำซ้ำมันยังช่วยฝึกฝนทักษะการต่อสู้ของเขาให้สูงขึ้นด้วย ใช่ มันต้องเป็นแบบนี้แน่นอน !’ เป่ยเฟิงให้เหตุผลในใจ
ไป๋เซียงรู้สึกสนใจเล็กน้อย เขาถามกลับด้วยท่าทีเปลี่ยนไป “แน่ใจนะ ? เจ้านายจะกลับคำไม่ได้นะ !”
“อืม ฉันไม่กลับคำพูดของฉันหรอกน่า !” เป่ยเฟิงตอบกลับโดยไม่ต้องคิด จากนั้นเขาก็วิ่งไปด้านหลังภูเขา
ไป๋เซียงลูบมือและขยับข้อนิ้วด้วยความตื่นเต้น เขารีบวิ่งตามเป่ยเฟิงไป ทุกก้าวที่เขาก้าวลงพื้นจะเกิดรอยแตกราวกับมันเพิ่งถูกสัตว์อสูรโบราณเดินผ่านมา
ทุ่งกว้างขนาดใหญ่ปรากฏหลังจากวิ่งผ่านป่า มีร่องรอยที่น่ากลัวอยู่ทุกที่ มันมีทั้งต้นไม้ที่หักโค่นรวมไปถึงหินที่แตกหัก มีรอยฝ่ามือขนาดใหญ่และรอยหมัดจำนวนมากอยู่บนพื้น
ถึงแม้ร่างกายของไป๋เซียงจะมีขนาดใหญ่ แต่การวิ่งของเขามันไม่ได้เข้ากับตัวแม้แต่น้อย ในไม่ช้าเขาก็วิ่งจนเห็นข้างหลังของเป่ยเฟิง
2 แรงกดดันขนาดใหญ่ลุกโชนและปะทะกัน
สัตว์ตัวเล็ก ๆ รวมไปถึงแมลงที่อยู่แถวนั้นรีบหลบหนีหายไปทันที พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไวต่ออันตรายมากเมื่อเทียบกับมนุษย์
“ฟู้ว !”
ไป๋เซียงดูมั่นใจอย่างมากในขณะที่เขาเริ่มโจมตีออกไป ดาบสีทองหลายเล่มปรากฏด้านหลังเขาทำให้เขาดูราวกับนายพลศักดิ์สิทธิ์ !
ดวงตาของเป่ยเฟิงสว่างไสวด้วยความประหลาดใจ ใครจะไปคิดกันว่ากายานิรันดร์ ทองเจิศจรัสจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ ตอนแรกเป่ยเฟิงคิดว่ากายานิรันดร์ ทองเจิศจรัสของไป๋เซียงมีไว้เพื่อรองรับการทุบตีเท่านั้น เขาไม่คิดเลยว่ามันจะสามารถใช้โจมตีได้ !
“แก๊ง !”
เป่ยเฟิงไม่ได้ถอยหลังออกไปแม้แต่ก้าวเดียว เขาระเบิดพลังออกมาพร้อมกับนกอินทรีที่ปรากฏออกมาข้างหลัง !
“หยินน !”
นกอินทรีร้องออกมา มันราวกับมันโผล่ออกมาจากสมัยโบราณ กรงเล็บของมันคมมาก มันราวกับเหล็ก 2 อันที่ถูกทำให้แหลมคม !
ชื่ออินทรีทะลวงสวรรค์บ่งบอกได้แล้วว่าความสามารถในการตัดของมันคมแค่ไหน นกอินทรีตัวนี้ก็เหมือนชื่อของมัน มันมีความกล้าหาญพอที่จะเรียกตัวเองว่าทะลวงสวรรค์ !
“ดาบดิน !”
ไป๋เซียงไม่สะทกสะท้าน ดาบข้างหลังเขาค่อย ๆ หล่อหลอมจนกลายเป็นดาบที่ปลดปล่อยความคมออกมา !
“ชั้วะ !”
อากาศราวกับถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ เสียงมันน่ากลัวมาก !
ดาบดินปรากฏตรงหน้าก่อนจะปะทะเข้ากับนกอินทรีด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ !
“แก๊ง !”
การโจมตีทั้ง 2 ทักษะแสดงให้เห็นว่าแต่ละทักษะมันโหดร้ายแค่ไหน เมื่อทั้ง 2 ปะทะกันแต่ละครั้งมันจะส่งเสียงจนแสบแก้วหูออกมา !
“เอ๊ะ ?”
“หมียักษ์ ออกมา !”
“โฮก !”
การโจมตีทั้ง 2 หลังจากปะทะกันซักพักมันก็หยุดลง สุดท้ายก็เป็นกรงเล็บอินทรีของเป่ยเฟิงที่พ่ายแพ้และนั่นก็ทำให้เขาตกใจมาก ! รูปแบบอินทรีของเขาแน่นอนว่าทรงพลังมาก แต่สุดท้ายกลับถูกทำลายโดยไป๋เซียง !
เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เขารีบใช้รูปแบบหมีทันที อุ้งเท้าสีขาวเหมือนหิมะและกว้าง 10 เมตรปรากฏด้านหลังเป่ยเฟิง ทุกครั้งที่มีสายลมพัดมันจะทำให้ขนสีขาวบนอุ้งเท้าโบกสะบัดไปตามสายลม !
เขาจะแสดงให้ไป๋เซียงได้เห็นว่ารูปแบบหมีของเขาเป็นยังไง !
เสียงคำรามดังขึ้นทำให้สัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนที่หนีออกไปไม่ไกลรีบวิ่งออกไปไกลกว่าเดิม แม้แต่นกบนฟ้าก็พุ่งลงมาปะทะกับพื้นเพราะความตกใจ !
“วิ้ง วิ้ง !”
ไป๋เซียงเป็นคนที่อยู่ใกล้ที่สุด แน่นอนว่าเขาไม่สามารถหนีจากเสียงคำรามได้ สุดท้ายมันก็ทำให้เขาสับสนมึนงงจนเกิดเสียงหึ่ง ๆ ในหูของเขา
“วิชาสังหาร วิชาดิน เขย่าโลกะถล่มภูผา !”
ไป๋เซียงไม่กล้าประมาทเพราะเขารู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลจากอุ้งเท้าสีขาว เขาตัดสินใจใช้พลังเต็มที่ทันที !
รูปแบบหมีเป็นทักษะที่เป่ยเฟิงฝึกมานานที่สุด นอกจากนี้หมียักษ์ของเขาก็ถูกปรับแต่งด้วยเทวรูปสวรรค์รูปแรกที่เกิดจากเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์อีกด้วย
ด้วยการรวมตัวกันของทั้ง 2 แน่นอนว่ามันไม่ใช่แบบ 1+1 อาจจะกล่าวได้ว่ามันทำให้เป่ยเฟิงเข้าใจได้ถึงวิถีเต๋าแห่งการต่อสู้มากขึ้นกว่าเดิม !
ไป๋เซียงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ ดาบสีทองข้างหลังเขาแตกเป็นชิ้น ๆ ก่อนจะรวมเข้ากับตัวเขา จากนั้นเขาก็พุ่งไปปะทะกับอุ้งเท้าหมี !
หมียักษ์เป็นตัวตนที่ทรงพลังมาก ! นอกจากความบริสุทธิ์ที่ปลดปล่อยออกมาแล้วมันยังเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่แพร่กระจายออกมา !
เมื่อพลังบริสุทธิ์ถึงระดับหนึ่ง มันจะทำให้เกิดปรากฏการณ์คล้ายภาพลวงตาที่แค่ภาพลวงตาออกมาก็สามารถล้มคู่ต่อสู้ได้แล้ว !
แน่นอนว่าเป่ยเฟิงยังห่างไกลกว่าจะเข้าถึงพลังที่ทำให้เกิดภาพลวงตาระดับนั่น ถึงอย่างนั้นเพียงแต่ใช้หมียักษ์โดยไม่ต้องมีพลังลวงตา มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาทรงพลัง !
แต่ไป๋เซียงไม่ได้อ่อนแอ เขามีพลังระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุด นอกจากนี้เขายังฝึกฝนแบบควบคู่ เพียงแค่ความสามารถในการฝึกฝนแบบควบคู่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าคนที่อยู่ระดับเซียนเทียนระดับเดียวกันอย่างน้อย 2 เท่า !
นอกจากนี้เขายังมีทักษะการต่อสู้อย่างทองเจิศจรัสที่ยังไม่สามารถบรรลุทั้งหมดได้อีกด้วย !
แผ่นดินสีทองขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับหมียักษ์ราวกับจะกลืนกินมัน ในเวลาเดียวกันเมื่อหลิงฉีปะทะกันก็ทำให้พลังงานเลือดและฉีที่อยู่ภายในระเบิดออกมา !
รัศมีความคมจำนวนนับไม่ถ้วนกระเด็นไปทุกทิศทาง
เมื่อพลังทั้ง 2 ชนิดปะทะกันมันทำให้เกิดระเบิดขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถคาดคิดได้ว่าอันตรายแค่ไหน !
“บูม !”
แรงระเบิดมหาศาลทำให้เกิดเมฆเห็ดขนาดเล็กพุ่งไปบนฟ้า
คลื่นปะทะถูกส่งออกไปทุกทิศทาง ทำให้ต้นไม้เล็ก ๆ ที่เพิ่งเติบโตต้องหักลงไป !
เป่ยเฟิงและไป๋เซียงถอยหลังหลายก้าวพร้อมกับรอยแตกยาว 10 เมตรปรากฏบนพื้น !
การโจมตีของทั้งคู่ทำให้เกิดการหักล้างกัน มีหลุมขนาดใหญ่กว้าง 20-30 เมตรและลึก 7-8 เมตรปรากฏบนพื้น น้ำที่อยู่ใต้ดินเริ่มปะทุก่อนจะเกิดน้ำพุเล็ก ๆ พุ่งออกมาราวกับเป็นน้ำพุแห่งชีวิต
การปะทะกันจบลงด้วยการเสมอ อย่างไรก็ตามรอยยิ้มแปลก ๆ ยังไงปรากฏบนหน้าเป่ยเฟิง
เมื่อเห็นใบหน้าของเป่ยเฟิง ไป๋เซียงหัวใจหล่นวูบ เขารีบหันหลังและวิ่งหนีทันที !