พลังดวงดาวจำนวนมากไหลเข้าไปในร่างของเป่ยเฟิงอย่างต่อเนื่อง สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสวรรค์สำหรับผู้ฝึกฝนมรดกหยินหยาง !
เหล่าศิษย์ของนิกายหยินหยางจำนวนนับไม่ถ้วนจะมีความสุขมากหากได้มาอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเป่ยเฟิง
พลังจำนวนมากไหลเข้าไปในร่างของเป่ยเฟิง มันทำให้เลือดและกล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว !
พลังเพียงสายเดียวก็ทำให้ร่างของเขาแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่าแล้ว แต่ทว่าตอนนี้มันกลับมีหลายสาย นอกจากจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้วมันยังช่วยทำให้เขาสามารถตัดผ่านระดับไปยังระดับต่อไปได้ง่ายขึ้นด้วย !
หลังจากที่มาถึงขั้นสามของร้อยปีมันทำให้เป่ยเฟิงหยุดชะงักเอาไว้ตรงนี้เนื่องจากเขาต้องการทำให้หลิงฉีแข็งแกร่งกว่าเดิมเสียก่อน เมื่อเลือดและร่างกายแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจะทำให้หลินฉีที่ถูกสร้างออกมายิ่งแข็งแกร่งและบริสุทธิ์ !
เป่ยเฟิงในตอนนี้ไม่รู้สึกใด ๆ เลย เขาราวกับจมลงไปในช่วงเวลาที่อยู่ในท้องมารดา เขากอดขาของเขาด้วยแขนสั้น ๆ เหมือนตัวนิ่ม ส่วนร่างจริงของเขาในตอนนี้ได้ลอยอยู่ท่ามกลางทะเลพลังดวงดาว !
เป่ยเฟิงอยู่ในไข่ยักษ์ราวกับตัวเองกำลังได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในไข่ยักษ์ !
พลังกว่า 99 สายของไข่ไหลเข้าไปในพระราชวังแห่งดวงดาวและดวงดาวแห่งภัยพิบัติ และอีก 9 สายถูกดูดซับโดยเป่ยเฟิงเอง !
พลังทั้ง 9 สายไหลไปทั่วร่างของเขาทำให้เลือดและฉีของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ! มันราวกับชั้นเปลวไฟจำนวนมากกำลังห่อหุ้มร่างของเขาเอาไว้ !
หลังจากเสียสติและการรับรู้ทั้งหมดไปเป็นเวลานาน ในไม่ช้าเป่ยเฟิงก็ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากการหลับไหลของเขา
“แกร๊ก !”
ทันทีที่เขาขยับร่างกายเบา ๆ เสียงแตกบางอย่างก็ดังขึ้น
มันเป็นเสียงแตกจากเลือดและกล้ามเนื้อที่เกิดจากการตื่นขึ้นของพลังใหม่ทั้งหมดในร่างของเขา เลือดของเขาในตอนนี้หนาเท่าปรอทและมีแสงสีทองจาง ๆ เปล่งประกายออกมา !
เส้นเอ็นทั้งหมดในร่างก็แข็งแรงพอ ๆ กับสายธนู เส้นเลือดในร่างมันกว้างและลื่นไหลราวกับแม่น้ำ กระดูกสันหลังของเขาคมและแข็งราวกับมังกร !
การเคลื่อนไหวเบา ๆ ของเขาทำให้เป่ยเฟิงรู้สึกราวกับเขาสามารถแยกพื้นดินออกจากกันได้ !
นี้คือพลัง !
พลังที่ทรงพลังที่เขาไม่เคยรู้สึกถึงมาก่อน !
ร่างกายทั้งหมดของเขามันราวกับทำมาจากเพรชและทองคำ มันปราศจากสิ่งเจือปนและสกปรกใด ๆ !
“ดูเหมือนว่าข้าจะตัดผ่านระดับไปยังขั้นสี่ของร้อยปีแล้ว ?”
จิตใจของเป่ยเฟิงสั่นไหวเบา ๆ เขาไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นความจริง
หลังจากมองดูอย่างละเอียดแล้วเป่ยเฟิงก็ไม่พบว่ารากฐานของเขามีส่วนใดเสียหาย ตรงกันข้ามกับความคาดหวัง รากฐานของเขาในตอนนี้มันมั่นคงจนไม่มีใครเทียบได้ !
เลือดและฉีในร่างของเขาทรงพลังอย่างมาก อวัยวะทั้งหมดส่องแสงสลัว ๆ หลากหลายแสง
“เดี๋ยวนะ ความแข็งแกร่งของร่างกายข้ามันดูเหมือนจะเกินขอบเขตของระดับร้อยปีไปแล้ว ! นี้มันใกล้กับระดับราชาพันปีเลยนี่ !”
เป่ยเฟิงส่งการรับรู้ไปตามร่างกายและเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่ตามมาเรื่อย ๆ เขายังค้นพบอีกว่ามีพลังจำนวนมากในร่างที่ยังไม่ได้ถูกดูดซับเข้าไป !
ความแข็งแกร่งของร่างกายเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว หากไม่ใช่เพราะฉีที่ยังอ่อนแอ เขามั่นใจว่าเขาสามารถตัดผ่านระดับไปยังราชาพันปีได้ในทันทีด้วยร่างกายปัจจุบันในตอนนี้ !
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นคือพระราชวังแห่งดวงดาว !
พระราชวังแห่งดวงดาวในตอนนี้สูงกว่า 333 เมตร นอกจากนี้มันยังปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมาจาง ๆ !
“ถึงข้าจะอยู่ในขั้นก่อเกิดดวงดาว แต่มันน่าจะมีชั้นในพระราชวังดวงดาวแค่ 9 ชั้นสิ ทำไมมันถึงมี 10 ชั้นกัน ?”
เครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่ปรากฏบนหน้าใบที่สับสนของเป่ยเฟิง จากที่มรดกได้กล่าวเอาไว้นั่นบอกไว้ว่าพระราชวังแห่งดวงดาวมีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ทว่าพระราชวังแห่งดวงดาวของเขากลับมีถึง 10 ชั้น !
“ถ้า 9 ชั้นเทียบได้กับขั้นสี่ของร้อยปี งั้นพระราชวังแห่งดวงดาวที่มี 10 ชั้นนี้มันคืออะไร ตกลงว่าข้าอยู่เหนือกว่าขั้นร้อยปีหรือว่าอยู่ในขั้นพันปีกันแน่ ?”
เป่ยเฟิงเกาหัวด้วยความสงสัย อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งที่เขารู้สึกได้นั้นมันไม่ใช่ของปลอมแน่นอน พูดอีกอย่างก็คือตราบใดที่เขาได้ให้พระราชวังแห่งดวงดาวได้ดูดกลืนพลังจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวเข้าไป มันก็ใกล้จะตัดผ่านระดับไปยังขั้นราชาพันปีได้ !
หลังจากนั้นเป่ยเฟิงก็หันไปสนใจดวงดาวแห่งภัยพิบัติต่อ จากภายนอกมันดูเหมือนกระแสน้ำวนสีดำที่หมุนตลอดเวลา แต่เหนือกระแสน้ำวนจะมีกลุ่มแสงสีดำที่เปล่งประกายไกลกว่า 10 เมตรอยู่ในมิติที่ผันผวน
“พลังดวงดาวเยอะจริง แต่นี้มันยังไม่พอที่จะให้กำเนิดเทพเจ้าแห่งดาวภัยพิบัติอีกงั้นรึ ?”
เป่ยเฟิงอุทานด้วยความตกใจ ความอยากอาหารของสหายผู้นี้จะเยอะเกินไปแล้ว หากพลังดวงดาวทั้งหมดถูกดูดซับโดยพระราชวังแห่งดวงดาวมันอาจทำให้เขามีพลังไปถึงขั้นราชาพันปีไปแล้วก็ได้ !
แม้ว่าจะรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อมองกระแสน้ำวนสีดำ แต่เป่ยเฟิงก็พอใจมากแล้ว เวลาสั้น ๆ มันช่วยย่นเวลาในการฝึกฝนของเขาไปได้อย่างน้อย 10 ปี ! ในขณะเดียวกันมรดกหยินหยางของเขาก็ประหยัดเวลาไปได้มาก !
ตอนนี้เขาสะสมพลังดวงดาวได้เพียงพอแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเข้าใจศิลปะแห่งดวงดาวและค่ายกลแห่งดวงดาว เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะไปถึงจุดสูงสุดของพระราชวังแห่งดวงดาว !
พลังงานทั้งหมดในไข่ยักษ์ได้หายไปแล้ว มันหลงเหลือแต่เพียงลูกบอลสีแดงขนาดเท่ากำปั้นที่อยู่กลางไข่ยักษ์
เป่ยเฟิงยื่นมือออกไปแล้วลูกบอลก็หล่นลงมา จริง ๆ แล้วมันคืองูตัวเล็ก ๆ ที่พันกันไปมาและมันกำลังกัดหางของมัน !
งูตัวเล็กตัวนี้สูญเสียสัญญาณแห่งชีวิตไปแล้ว แต่พลังฉีจำนวนมากในร่างของมันมีมากมายมหาศาลทำให้มันยังคงดูสูงส่งและทรงพลัง !
เป่ยเฟิงเอางูเข้าไปในแหวนแล้วก็เดินจากไป
เขาไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาภายนอกผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อเขาออกมาในตอนนี้ก็เป็นเวลากลางวันแล้ว เมื่อเป่ยเฟิงคลานออกมาจากพื้นแล้วหันกลับมามองไข่ เขารู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย
รอยร้าวเหมือนใยแมงมุมจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏไปทั่วผิวของเปลือกไข่ ในไม่ช้ามันก็ค่อย ๆ แตกออกจากนั้นหินรอบ ๆ ก็กลิ้งเข้าไปข้างในเพื่อกรบร่องรอยของไข่ยักษ์ทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ของมนุษย์และสัตว์อสูรที่อยู่แนวเทือกเขาร้อยทำลายนั้นน่ากลัวมาก กระต่างนักเลงที่มีพลังขั้นสี่ของร้อยปีจำนวนมากกระโดดไปทั่วและฆ่าล้างทั้งมนุษย์และสัตว์อสูร
ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนตกอยู่ในมือของเหล่ากระต่ายนักเลง นี้มันราวกับช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดสำหรับพวกเขา ใครจะไปคิดกันว่ากระต่ายที่น่ารำคาญที่พวกเขาเคยฆ่าในอดีตจะน่ากลัวขนาดนี้ !
จากสถิติที่บางคนรวบรวมมา มีคนอย่างน้อย 5,000 คนที่ถูกจับหรือไม่ก็ถูกฆ่าโดยกระต่ายนักเลง !
ส่วนเป่ยเฟิงเองในตอนนี้ก็กำลังเจอปัญหาบางอย่างในขณะที่มองหลุมขนาดใหญ่ที่เขาเพิ่งตกลงไป
“ความแข็งแกร่งของข้สมันเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ดูเหมือนต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะคุ้นเคยกับมันได้”
เขาก้าวออกไปเบา ๆ แต่เขาไม่รู้สึกเหมือนปกติ เสียงดังขึ้นที่ใต้เท้าแล้วตามมาด้วยหลุมขนาดใหญ่ที่ปรากฏใต้เท้าของเขาจากนั้นเขาก็ตกลงไปในหลุมที่เขาสร้างขึ้นมาเอง
นี้เป็นเพียงแค่ก้าวเดียว แต่ก้าวเดียวก็ทำให้เกิดหลุมลึกว่า 20 เมตรและกว้างกว่า 5-6 เมตร !
“ตอนนี้ข้าหนักแค่ไหนกัน ?”
มุมปากของเป่ยเฟิงกระต่ายอย่างต่อเนื่อง เขาจำได้ว่าพลังงานจำนวนมากที่เขาดูดซับไปนั้น เส้นพลังงานแต่ละเส้นมันหนักกว่า 500,000 จิน !
เป่ยเฟิงรู้ว่าน้ำหนักของเขาในตอนนี้ไม่เบาแน่นอน การจะสร้างหลุมขนาดใหญ่แบบนี้ได้อาศัยเพียงความแข็งแกร่งมันก็มากเกินไป หากประเมินความแข็งแกร่งไว้ต่ำสุดก็เป็นไปได้ว่าน้ำหนักคือตัวการสำคัญ !
เพียงแค่เขายืนนิ่ง ๆ ร่างของเขาก็จมแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาต้องหนักมากแน่นอน
เป่ยเฟิงส่ายร่างเบา ๆ จากนั้นก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับจรวด
“เคล็ดการฝึกฝนที่ซับซ้อนของมรดกหยินหยางมันทำให้พลังจิตและจิตวิญญาณของข้าแข่งแกร่งขึ้นมาก ดูเหมือนพลังจิตและจิตวิญญาณของข้าในตอนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกราชาพันปี !” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง ความรู้สึกนี้มันช่างอัศจรรย์จริง ๆ
เพียงแค่ไม่กี่เดือนเป่ยเฟิงก็สามารถพัฒนามาจนมีพลังถึงขั้นสี่ของร้อยปีได้ หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปยังโลกภายนอก มันจะทำให้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องตกใจตาย !
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องทำความเข้าใจกับศิลปะแห่งดวงดาวให้เร็วที่สุดโดยเฉพาะทักษะกระเรียนพันตัวของมรดกหยินหยาง แต่มันก็ไม่ได้มีบอกเอาไว้ว่าต้องทำยังไงกับจะเข้าใจทักษะกระเรียนพันตัวได้”
เป่ยเฟิงปรากฏตัวที่ถ้ำที่เขามา หลังจากนั้นเขาก็อาบน้ำแล้วปล่อยผมให้แห้งโดยปล่อยมันลงมาด้านล่าง
ผิวหนังของเขานั้นแม้แต่หญิงสาวก็ต้องรู้สึกอิจฉา กล้ามเนื้อของเขาทรงพลังยิ่งกว่าพวกสัตว์อสูร กล้ามเนื้อของเขาไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนนักเพาะกาย แต่มันผอมและเพรียวราวกับถูกออกแบบมาเพื่อทำให้เร็วและแข็งแกร่ง
เมื่อมองเงาสะท้อน เป่ยเฟิงก็เงียบไปนาน ร่างนี้มันแตกต่างไปจากร่างชายชราใกล้ตายเมื่อไม่กี่เดือนก่อน มันราวกับเขาเปลี่ยนเป็นคนอื่น นี่คือชายหนุ่มรูปหล่อที่ทำให้ใครมองก็ไม่สามารถละสายตาไปได้
เส้นทางการฝึกฝนคือการพัฒนาร่างกายอย่างต่อเนื่อง ยิ่งระดับวิวัฒนาการสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ร่างกายสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ยีนที่ไร้ประโยชน์จะถูกกำจัดทิ้งและแทนที่ด้วยยีนที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบมากขึ้น รวมไปถึงยีนที่มีอยู่บางอันก็จะถูกพัฒนาไปทำให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกว่าเดิม !
ตลอดการวิวัฒนาการนี้มันไม่ใช่สิ่งผิดปกติใด ๆ มันเป็นการวิวัฒนาการเพื่อทำให้มนุษย์หรือใครก็ตามที่แข็งแกร่งได้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เป่ยเฟิงในปัจจุบันราวกับเด็กหนุ่มอายุ 20 ปี มันไม่เหมือนกับชายแก่ที่อายุ 92 ปีแม้แต่น้อย
หลังจากผูกผมด้วยริบบิ้นสีเงินเสร็จแล้วเขาก็หยิบเสื้อคลุมสีขาวอันสง่างามออกมาจากแหวนมิติ เขาในตอนนี้ราวกับนายท่านสุดหล่อเหลา
หลังจากนั้นเป่ยเฟิงก็เดินออกมาจากถ้ำแล้วไปหาหลี่ปู้และคนอื่น ๆ ที่ยังคอยทำหน้าที่เหมือนเดิม
“ทะ ท่านหัวหน้าตระกูล !”
เมื่อหลี่ปู้เห็นเป่ยเฟิง ร่างของเขาก็สั่นพร้อมกับปากที่อ้าค้าง รูปลักษณ์ของเป่ยเฟิงเปลี่ยนไปมาก แต่มันก็ยังมีความเป็นตัวตนเดิมของเขาอยู่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนออร่าของใครคนหนึ่งเป็นคนอื่น อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะรู้เรื่องนี้แต่หลี่ปู้ก็ยังต้องร้องออกมาด้วยความตกใจอยู่ดี
การเปลี่ยนแปลงของเป่ยเฟิงมันมากเกินไป แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วเป่ยเฟิงเปลี่ยนไปเยอะ เยอะแบบมากเกินไปภายในไม่กี่เดือน !
แต่เดิมเขาเป็นชายชราผมขาวที่กำลังใกล้ตาย แม้แต่หมอก็บอกว่าเขาสิ้นหวังแล้ว แต่หัวหน้าตระกูลก็ลากขาตัวเองออกมาจากประตูนรกมาได้ด้วยความมุ่งมั่นของเขา !
หลังจากเปลี่ยนจากชายชราเป็นชายวัยกลางคนเมื่อไม่กี่เดือน ตอนนี้เขาก็เปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มพร้อมกับพลังที่ทรงพลัง แม้แต่หลี่ปู้ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่น่ากลัวเมื่อยืนต่อหน้าเป่ยเฟิง !
หัวหน้าตระกูลฆ่าเขาได้อย่างแน่นอน ! ความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิงเพิ่มขึ้นมากเกินไป ดูเหมือนว่าแม้แต่เขาเองก็ยังควบคุมแรงกดดันของตัวเองได้ไม่สมบูรณ์จึงทำให้แรงกดดันส่งต่อมาถึงหลี่ปู้ได้
“ในตอนที่กำลังฝึกฝนเหมือนปกติอยู่ ตอนนั้นเมื่อมองไปที่น้ำที่กำลังไหลรวมไปถึงรากฐานที่มั่นคงก่อนหน้านี้รวมไปถึงประสบการณ์ที่รอดมาจากประตูความตายมาได้มันทำให้ข้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้นมาได้ !”
อารมณ์ของเป่ยเฟิงดีเยี่ยม เขายิ้มออกมาด้วยความสดชื่น
หลี่ปู้รู้สึกว่าเข่าของเขาอ่อนลงเมื่อได้ยินคำพูดของเป่ยเฟิง เขาอยากจะลองดูว่าตัวเองควรจะลองเสี่ยงดูบ้างดีหรือไม่ ไม่แน่เขาอาจจะตัดผ่านระดับไปยังขั้นราชาพันปีเลยก็ได้
…
แน่นอนว่ามันเป็นเพียงความคิดไม่ใช่สิ่งที่เขากล้าลองทำ ทุกคนมีเส้นทางของตัวเองและไม่ใช่เส้นทางของคนอื่นจะเหมาะกับเขา แม้ว่าเขาจะอยากลองแต่ก็มีแนวโน้มว่าเขาอาจจะตายก็ได้
“พักกันซักหน่อยละกัน ข้าอยากจะหาสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมาก ๆ มาทดสอบความแข็งแกร่งของข้าหน่อย นอกจากนี้ข้ายังควบคุมพลังของตัวเองไม่ค่อยได้”
“ครับ !”
หลี่ปู้รู้สึกคิ้วของเขากระตุกเบา ๆ พร้อมกับตอบสนองคำพูดของเป่ยเฟิง คนอื่นต้องฝึกฝนด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับการพัฒนาที่แสนช้ากว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้ แต่นี้หัวหน้าตระกูล ดูความเร็วในการพัฒนาของเขาสิ มันเร็วจนไม่มีใครไล่ตามได้ทัน ! หากมันยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปเป็นไปได้ว่าอีกไม่กี่เดือนเขาอาจจะตัดผ่านระดับไปยังขั้นราชาพันปีเลยก็ได้ !