Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 535

ตอนที่ 535

สัตว์อสูรร้อยปีจำนวนมากถูกนำมาใช้เป็นหนูทดลองของเป่ยเฟิง

มีสัตว์อสูรทั้งหมด 64 ตัว โดยแบ่งออกเป็นระดับละ 16 ตัว ในไม่ช้าขั้นแรกของร้อยปีก็ถูกนำไปใช้ทดลองจนหมด

เป่ยเฟิงราวกับนักวิทยาศาสตร์บ้าที่อยู่ในจุดสูงสุดของความบ้าคลั่ง เขายื่นมือออกไปจับสัตว์อสูรระดับสองร้อยปีขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม ความจริงที่เกิดขึ้นมันราวกับตบหน้าเขาแรงมาก

ในขณะที่เขาจับตามองการเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรขั้นสองของร้อยปี มันทำให้เป่ยเฟิงตระหนักถึงบางอย่างที่ผิดปกติ

เมื่อสัตว์อสูรถูกปล่อยตัว มันก็วิ่งหนีออกไปดังเช่นปกติ แต่เมื่อมันไปถึงระยะทางหนึ่งเป่ยเฟิงก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถบังคับพันรูปร่างได้

“ไม่คิดเลยว่าจะมีปัญหาที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ดูเหมือนสัตว์อสูรขั้นสองของร้อยปีจะควบคุมได้ยากกว่าเดิมมาก มันหลุดพ้นจากการควบคุมของข้าได้ยังไงกัน ? หรือว่า 1,000 เมตรคือขีดจำกัดของข้าและน่าจะมีเหตุผลอื่นด้วย ดูเหมือนว่ามันมีวิธีหลุดพ้นจากพันรูปร่างมากเกินไป”

เป่ยเฟิงส่ายหัว ก่อนหน้านี้เขาเอาแต่ทดลองกับสัตว์อสูรขั้นหนึ่งของร้อยปี เขาจึงไม่เจอปัญหานี้ แต่เมื่อเป็นขั้นสองของร้อยปี ปัญหานี้ก็ถูกพบทันที

สัตว์อสูรขั้นสองของร้อยปีมันมีสติปัญญาที่สูงกว่าเดิม มันจึงรู้ว่าเข็มในหัวนั้นอันตราย ดังนั้นทันทีที่มันเป็นอิสระ สิ่งแรกที่มันทำคือการเอาเข็มออกไปให้ได้ !

เมื่อพบว่าการทดลองมีปัญหา เป่ยเฟิงจึงไม่สามารถทำอะไรได้ เขาถอนหายใจเบา ๆ และสั่งผู้คุ้มกันของเขา “เอาพวกมันออกไป แต่อย่าเพิ่งฆ่าพวกมัน ข้ายังต้องการพวกมันอยู่”

“ขอรับ !”

ผู้คุ้มกันพยักหน้าก่อนจะเกาหัวด้วยความสับสนในขณะเอาสัตว์อสูรออกไป

เป่ยเฟิงไม่ได้คร่ำครวญปัญหาของพันรูปร่างอีกต่อไป เขาหยิบทรัพยากรจำนวนมากออกมาและเริ่มฝึกฝน

ในช่วงเวลาที่ฝึกฝน เป่ยเฟิงได้เผาผลาญทรัพยากรไปมากกว่าพันล้าน HCD อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย

ตราบใดที่ความแข็งแกร่งของคนเพิ่มขึ้น มันก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงิน

หนึ่งในข้อมูลที่เขารู้คือมีสมุนไพรชื่อว่าใบไม้หางแมวปีศาจ มันเป็นสมุนไพรจิตวิญญาณที่สามารถปลดล็อคศักยภาพของสิ่งมีชีวิตออกมาได้ ราคาแต่ละใบนั้นมีมากถึงหลายร้อยล้าน HCD และมันเป็นสินค้าที่ต้องการอย่างมากแต่มันก็หายากมากเช่นกัน

สมุนไพรชนิดนี้ส่งผลกับผู้ที่มีพลังขั้นราชาพันปีด้วย ใบหางแมวปีศาจนั้นสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมหลักและส่วนประกอบของโอรสบางอย่างได้อีกด้วย !

เป่ยเฟิงมีใบหางแมวปีศาจหลายร้อยใบ สิ่งเหล่านี้ถูกเก็บเอาไว้ในแหวนมิติของผู้ฝึกตนที่ฉลาดบางคน พวกเขาหนีออกมาได้ทันก่อนที่จะมีการต่อสู้ที่วุ่นวายเกิดขึ้น

แม้ว่าจะเก็บมาได้ส่วนน้อยเพราะส่วนใหญ่ของใบหางแมวปีศาจถูกทำลายไปเพราะการต่อสู้ แต่มันก็เพียงพอสำหรับตระกูลหลี่แล้ว !

นี่ไม่ใช่สมุนไพรจิตวิญญาณที่มีค่าที่สุดของเป่ยเฟิงที่ได้มา สมบัติที่แท้จริงคือไผ่จักรพรรดิสวรรค์ หากถูกนำกลับไปขายเป็นเงินมันจะเพียงพอที่จะซื้อเมืองเทียนฮวงทั้งเมือง !

แน่นอนว่าเป่ยเฟิงไม่มีทางเอามันไปขายเด็ดขาด นอกจากนี้ถึงเขาเอาไปขาย เขาก็อาจจะไม่มีชีวิตที่จะได้อยู่ใช้เงินเหล่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมหาศาลจะพุ่งเข้ามาและฉีกเป่ยเฟิงเป็นชิ้น ๆ แทน !

เป่ยเฟิงไม่ได้มีนิสัยตระหนี่นัก ใบหางแมวปีศาจหลายร้อยใบนี้มันจะถูกใช้สำหรับตระกูลหลี่และเหล่าผู้คุ้มกัน

ใบหางแมวปีศาจรูปร่างคล้ายใบยาสูบบนโลกใบเดิม ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือมันมีสีแดงและมีขนใต้ใบ ภายใต้ขนเหล่านั้นมันคือเส้นเลือดที่ดีของใบ

เส้นขนแต่ละเส้นเต็มไปด้วยของเหลวสีทองจาง ๆ ที่ไหลวนกลายเป็นวงทำให้มันดูพิเศษ

ใบหางแมวปีศาจแต่ละใบยาวครึ่งเมตร พื้นผิวทั้งหมดของมันเป็นพืชที่ไม่มีราก มันดูแปลกประหลาดมาก [เป็นต้นพืชแต่รูปร่างเป็นใบไม้]

เป่ยเฟิงกัดใบหางแมวปีศาจและขนของมันก็สัมผัสกับปากของเขา ทันทีที่มันแตะกับน้ำลายของเขามันก็กลายเป็นรสชาติที่แปลกประหลาดจนเขาเกือบจะโยนทิ้งไป

“ทำไมรสมันถึงแย่ขนาดนี้” เป่ยเฟิงเปิดปากและทำหน้าขมขื่น เขาไม่กล้ากัดมันอีกต่อไป

แต่เมื่อคิดถึงข้อดีของมัน เขาก็บีบจมูกและกัดอีกครั้ง

“กรุ้บ กรุ้บ !”

เสียงเหมือนเจ้ากระต่ายเคี้ยวแครอท ในขณะที่เป่ยเฟิงกำลังเคี้ยวใบไม้ น้ำสีทองที่อยู่ในใบไม้ก็ไหลออกมาและก่อนที่เป่ยเฟิงจะได้ลิ้มรสมัน น้ำสีทองก็หลอมรวมเข้ากับรสชาติที่แปลกประหลาดก่อนหน้านี้

“หืม รสชาติมันเปลี่ยนไป !” เป่ยเฟิงเคี้ยวเร็วมากโดยคิดจะกลืนให้ไวที่สุด แต่ใครจะไปคิดกันว่าของเหลวสีทองจะรวมเข้ากับรสชาติที่แปลกประหลาดจากขนใต้ใบและกลายเป็นรสชาติใหม่ !

มันเหมือนน้ำหวานเหนียวที่กำลังขยับไปมารอบ ๆ ลิ้นของเขา ความรู้สึกของเขาราวกับกำลังดื่มน้ำเลิศรส

เมื่อเขากลับมาตั้งสติได้ เขาก็กินมันจนเสร็จแล้ว

“โอ้ เราไม่อาจตัดสินคนหนึ่งได้เหมือนการตัดสินหนังสือจากปกของมัน !”

เป่ยเฟิงได้แต่ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ อาหารนี้ดูเหมือนไม่มีวิธีกินมากนัก แต่ความจริงแล้วมันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมอยู่ในตัว หากเขาทำการกินใบหางแมวปีศาจโดยไม่ถูกวิธี เขาจะต้องพลาดรสชาติที่แสนอร่อยนี้ไปแน่นอน

หลังจากกลืนใบหางแมวปีศาจแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกไม่สบายใด ๆ อย่างไรก็ตามนั้นแค่ผิวเผินเท่านั้น ด้วยพลังจิตของเขา เขาค้นพบว่ามันมีพลังบางอย่างปลดปล่อยออกมา พลังนี้ชื่อว่าพลังแห่งชีวิต !

มันไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้พลังของผู้ฝึกตนก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว พลังนี้จะค่อย ๆ จมลงไปในเซลล์ของร่างกายแล้วเปลี่ยนแปลงแก้ไขมันทำให้มันมีศักยภาพมากขึ้น

เป่ยเฟิงหลับตาและเริ่มฝึกเคล็ดบัญญติกฏสวรรค์

เป่ยเฟิงฝึกเคล็ดนี้มาจนถึงขั้นสามแล้ว วันที่เขาทำลายคอขวดไปยังขั้นราชาพันปีนั้นก็คือเขาจะฝึกมันได้ถึงขั้นสี่ และในเวลาเดียวกันเขาก็จะสร้างเทวรูปอีกรูปได้

เทวรูปมีประโยชน์มาก ยิ่งใช้คู่กับวิชาสัตว์อสูรมันยิ่งทวีคูณความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

แม้ว่าเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์จะใช้ทรัพยากรจำนวนมาก แต่มันก็ทำให้รากฐานของเป่ยเฟิงมั่นคงเช่นเดียวกัน

เคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์จะกำเนิดเทวรูปที่แตกต่างกันออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็จะมีพลังวิญญาณอีกอันทันทีที่เขามีพลังขั้นราชาพันปี

ความสามารถของพลังวิญญาณเป็นสิ่งที่ดูแคลนไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่นเป่ยเฟิงเดิมเขามีพลังวิญญาณเดี่ยว แต่ด้วยเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์ทำให้เขามีพลังวิญญาณอีกอย่าง

เคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์แบ่งออกเป็น 7 ขั้น สามขั้นแรกคือ “โลก” สามขั้นต่อมาคือ “สวรรค์” และขั้นสุดท้ายคือ “กฏแห่งสวรรค์”

จากขั้นที่สี่เป็นต้นไปจะอยู่ในหมวดหมู่ ‘สวรรค์’ ดังนั้นมันจึงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างขั้นที่สามและสี่ มันต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อเชื่อมมันเข้าด้วยกัน !

ในฐานะที่เป่ยเฟิงเป็นผู้ฝึกมัน แม้ว่าเขาจะมาถึงขั้นสามในตอนนี้อาจจะดูช้า แต่หากเทียบกับก่อนหน้านี้แล้วมันเป็นความเร็วที่ดูบ้าคลั่งมาก

การฝึกตนต้องใช้ความพยายามเป็นเวลานาน ในพริบตามันก็ผ่านไปหนึ่งวัน

พลังของเป่ยเฟิงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุดนิ่งราวกับทะเล !

เมื่อแสงตะวันแรกส่องเข้ามา ออร่าของเป่ยเฟิงก็ลุกโชน

“แกร๊ก !”

เสียงบางอย่างแตกดังออกมาจากร่างของเป่ยเฟิง จากนั้นเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์ก็ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น !

“ตู้มมม !”

เป่ยเฟิงในตอนนี้ราวกับภูเขาที่ระเบิด เสียงดังในร่างของเขากระจายออกไปทุกทิศทาง

“หืม ?” หลี่ปู้อุทานออกมาเบา ๆ จากนั้นผู้คุ้มกันทั้งหมดก็ละทิ้งงานตัวเองแล้ววิ่งเข้าไปในส่วนลึกของภูเขา

เมื่อพวกเขาพบว่าเป่ยเฟิงนั่งไขว่ห้างและกำลังฝึกฝนอยู่ ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จากนั้นใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความจริงจัง พวกเขาล้อมรอบเป่ยเฟิงและมองรอบ ๆ จับตาดูทุกอย่างราวกับเหยี่ยว

‘ขั้นสามชั้นกลาง พลังของข้าในตอนนี้มาถึงขั้นสี่ของร้อยปีชั้นกลางแล้วสินะ ความแข็งแกร่งในตอนนี้เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากไม่ใช่น้อย’

เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นและแรงกดันของเขาก็ค่อย ๆ สงบลง

‘มีความแตกต่างกันอยู่มากในตอนนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ต่อให้เป็นครึ่งก้าวราชาพันปีขั้นต้นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ส่วนครึ่งก้าวราชาพันปีขั้นกลางก็ไม่เท่าไหร่ ส่วนครึ่งก้าวราชาพันปีขั้นสูงและขั้นสูงสุดข้ายังไม่เคยเห็นมาก่อน’ เป่ยเฟิงคิดเงียบ ๆ และประเมินความแข็งแกร่งในปัจจุบันของตัวเองนั้นแข็งแกร่งเทียบเท่าครึ่งก้าวราชาพันปี

“ขอแสดงความยินดีกับท่านหัวหน้าตระกูล !”

เมื่อเป่ยเฟิงลืมตาขึ้น หลี่ปู้และคนอื่น ๆ ก็รีบแสดงความยินดีกับเขาทันที

“อืม ขอบใจมาก ไปได้แล้ว หลี่ปู้เจ้าอยู่ก่อน” เป่ยเฟิงยืนขึ้นแล้วโบกมือเบา ๆ

“ขอรับ !”

คนที่เหลือหันหลังเดินจากไปหลงเหลือเพียงหลี่ปู้เพียงลำพัง

หลี่ปู้ก้มหัวลงด้วยความเคารพและถามขึ้น “ท่านหัวหน้าตระกูลมีอะไรข้ารับใช้ ?”

“หลี่ปิงเป็นยังไงบ้าง ?” เป่ยเฟิงถาม ผ่านมาหลายวันแต่หลี่ปิงก็ยังไม่ตื่น

“ท่านหัวหน้าตระกูล อาการของหลี่ปิงดีขึ้นมาก เลือดฉีของเธอกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ข้าคิดว่ายังคงต้องใช้เวลาอีกไม่นานกว่าเธอจะตื่นขึ้น” หลี่ปู้ตอบกลับทันที

หลังจากมอบสมบัติล้ำค่าจำนวนมากให้หลี่ปิง เลือดฉีของเธอก็ไม่ได้ลดลงอีกต่อไป อาการของเธอเริ่มกลับมาดีขึ้นมาก

“อืม ที่ผ่านมาข้าเห็นความพยายามของพวกเจ้าทั้งหมดแล้ว พวกเจ้าทุกคนทำได้ดีมาก ตระกูลหลี่และข้าจะไม่ปฏิบัติกับพวกเจ้าอย่างไม่ยุติธรรม นี่คือใบหางแมวปีศาจ มันสามารถพัฒนาศักยภาพของคนที่กินเข้าไปได้ โดยคนหนึ่งจะกินมันได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ต่อให้กินอีกใบมันก็จะไร้ประโยชน์ทันที”

เป่ยเฟิงตัดสินใจมอบใบหางแมวปีศาจให้หลี่ปู้และคนอื่น ๆ ก่อน

หลี่ปู้ตัวแข็งค้างและรีบก้มหัวลง “ท่านหัวหน้าตระกูล ทุกอย่างที่ทำให้เรามีวันนี้คือตระกูลหลี่ พวกเราทำเพียงทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ท่านไม่จำเป็นต้องมอบสมุนไพรล้ำค่าเหล่านี้ให้พวกเรา ท่านหัวหน้าตระกูลโปรดเก็บมันไว้ด้วยเถอะ”

ด้วยพลังจิตและวิญญาณอันทรงพลังของเป่ยเฟิง เขาจึงรู้ได้ว่าคำพูดของหลี่ปู้นั้นจริงใจและไม่ได้พูดเพื่อเอาใจเขา

“นี่คือสิ่งที่เจ้าควรได้รับ ตระกูลหลี่ของข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้าเสียเลือดโดยไม่จำเป็น เลิกพูดแล้วเอาไปซะ” เป่ยเฟิงตัดสินใจบังคับ

“ข้าขอสาบานว่าจะปกป้องตระกูลหลี่จนกว่าชีวิตจะหาไม่ !”

หลี่ปู้ในตอนนี้รู้สึกเต็มใจที่จะตายเพื่อท่านหัวหน้าตระกูล จริง ๆ แล้วต่อให้เป่ยเฟิงไม่มอบใบหางแมวปีศาจ หลี่ปู้ก็ไม่กล้าทรยศต่อตระกูลหลี่หรือเขาอยู่ดี แต่ตอนนี้เขารู้สึกเคารพในตัวเป่ยเฟิงอย่างมาก เทียบกันแล้วเป่ยเฟิงปฏิบัติกับพวกเขาได้ดีกว่าตระกูลอื่น ๆ ที่มักจะทำกับผู้คุ้มกันของพวกเขาเหมือนสุนัขเท่านั้น

“สิ่งที่ข้าต้องการไม่ใช่คำพูดแต่เป็นการกระทำ แต่พวกเจ้าทุกคนจำไว้ให้ดีว่าพวกเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลี่และข้าก็จะไม่ตระหนี่ในการเลี้ยงดูพวกเจ้าทุกคน แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งพวกเจ้าทรยศตระกูลหลี่ ต่อให้พวกเจ้าหนีไปยังสุดขอบโลกข้าก็มีวิธีที่จะจับพวกเจ้ากลับมา” เป่ยเฟิงเตือนพวกเขาอย่างจริงจัง แม้ว่าหลี่ปู้จะไม่ได้เป็นคนที่มีความทะเยอะทะยาน แต่การเตือนซ้ำ ๆ มันช่วยทำให้พวกเขาไม่มีความคิดอื่นใดเมื่อพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท