Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 561

ตอนที่ 561

ชัยชนะของเป่ยเฟิงและคนของเขาทำให้หลายคนประหลาดใจ คนส่วนใหญ่ไม่คิดว่าพวกเขาจะชนะ

หลายคนเชื่อว่ามันง่ายมากที่ราชาพันปีถึง 3 คนจะจัดการผู้ฝึกตนขั้นร้อยปีได้ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พลิกผัน ใครจะไปคิดกันว่าสัตว์อสูรจะฆ่าราชาพันปีคนหนึ่งได้ภายในไม่กี่นาที และหยานไป๋ผู้มีพลังราชาพันปีขั้น 3 กลับถูกคนสามคนรวมพลังกันเอาชนะมาได้ !

หลังจากผู้ฝึกตนจากไป หลงเหลือแต่เพียงซากการต่อสู้และซีซุยซานผู้มีแววตาสดใสกำลังยืนอยู่ที่นั่น

“การมาเที่ยวครั้งนี้นำพาให้ข้าเจอสมบัติ ! ถึงสัตว์อสูรจะเอาไปเป็นศิษย์ของนิกายสวรรค์นิรนดร์ไม่ได้ แต่ก็ยังมีพวกเขาอีก 3 คนที่เอาไปเป็นศิษย์ได้ !”

ยิ่งคิดเท่าไหร่ ซีซุยซานก็ยิ่งตื่นเต้น แม้จะเป็นนิกายทรงพลัง แต่จำนวนศิษย์หลักของพวกเขามีน้อยมาก

มันไม่ใช่ไม่มีใครต้องการเข้านิกาย แต่เพราะมันเป็นความต้องการที่สูงเกินไปในการเข้า ! ผู้ฝึกตนธรรมดาที่สู้กับคนมีพลังระดับเดียวกันได้นั้นไม่สามารถเข้าร่วมได้ !

ศิษย์หลักของนิกายสวรรค์นิรันดร์มีน้อยถึงน้อยมาก แต่ทว่าศิษย์รับใช้กลับมีมากกว่าหมื่นคน !

ลองนึกภาพศิษย์หลักเพียงคนเดียวแต่กลับมีศิษย์รับใช้พันคน มันจะสะดวกสบายแค่ไหนกัน !

ซีซุยซานซ่อนความตื่นเต้นไม่ไหวอีกต่อไป เขารีบเดินไปหาเป่ยเฟิงด้วยความกระตือรือร้น “เจ้าสนใจเข้าร่วมนิกายของข้าหรือไม่ ?”

เขานึกภาพตัวเองจะได้รับคำชดเชยมากแค่ไหน หากนำทั้ง 3 คนกลับไปที่นิกายพร้อมเขาได้ !

จำนวนผู้ฝึกตนที่ต้องการเข้านิกายนั้นมีมากมายจนนับไม่ไหว แต่จำนวนหลักกลับมีเพียงหลักสิบ เมื่อรวมผู้อาวุโสและผู้นำบางคนแล้ว นับรวมดูร้อยกว่าคนเท่านั้น

นี่จึงเป็นสิ่งที่บอกได้ว่ามันยากแค่ไหนในการเข้านิกายสวรรค์นิรันดร์ อย่างไรก็ตามซีซุยซานมั่นใจว่าทั้งสามจะต้องผ่านการทดสอบแน่นอน !

เมื่อทั้งสามเข้าร่วมนิกายได้ ทางนิกายก็จะให้รางวัลกับเขา !

“ข้ายังไม่มีแผนที่จะเข้าร่วมกับนิกายไหน ขอบคุณสำหรับคำเชิญ เอาละจ่ายเงินมาได้แล้ว”

เป่ยเฟิงส่ายหัว เมื่อเห็นชายร่างใหญ่กระตือรือร้นอย่างมากที่จะให้เขาเข้าร่วม เขารู้สึกไม่ดีและโบกมือปฎิเสธ เป่ยเฟิงไม่รู้ว่าเขามาจากนิกายไหน

“ลืมเรื่องจ่ายเงินไปก่อน ถ้าเจ้าไปกับข้าและทดสอบเข้านิกาย ข้าจะมอบหินวิญญาณระดับสูงให้กับเจ้าคนละ 50,000 ก้อน !” ซีซุยซานยื่นข้อเสนอ สำหรับเขาการเสียหินวิญญาณระดับสูง 50,000 ก้อนนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเขาเป็นคนที่ร่ำรวยพอตัว

“อะไรนะ ?” เป่ยเฟิงประหลาดใจ เขามองซีซุยซานโดยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“นิกายสวรรค์นิรันดร์ของข้าไม่ได้รับคนเข้าร่วมง่าย ๆ พวกเจ้าทั้งสามได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเต็มไปด้วยพรสวรรค์ หากพวกเขาผ่านการทดสอบได้เมื่อไหร่ พวกเจ้าก็จะกลายเป็นศิษย์หลักของนิกายทันที !” ซีซุยซานพูดด้วยความภูมิใจ

“นิกายสวรรค์นิรันดร์ ?”

ทั้งสามมองหน้ากันด้วยความสับสน

“นอกจากนี้ หากเจ้าได้กลายเป็นศิษย์หลักของนิกาย สถานะของเจ้าจะได้รับความเคารพอย่างสูง แม้แต่ราชาหมื่นปีก็ไม่ต้องการทำให้เจ้าโกรธ !” เมื่อเห็นเป่ยเฟิงกำลังสงสัย ซีซุยซานรีบอธิบายเพิ่มทันที “นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เจ้าไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าหอเชื่อมสวรรค์อีกต่อไป นอกจากนี้แม้ว่าเจ้าจะทำผิดร้ายแรงแต่ก็ไม่มีใครทำอะไรกับเจ้าได้ !”

เป่ยเฟิงตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของนิกายสวรรค์นิรันดร์มาก ราชาหมื่นปีเป็นคนที่สามารถเดินทางผ่านห้วงอวกาศได้โดยใช้เพียงร่างกายของพวกเขา และตามที่ซีซุยซานกล่าวมา การกลายเป็นศิษย์หลักของพวกเขานั่นหมายถึงมีสถานะเทียบเท่ากับพวกเขา !

ในเวลาเดียวกัน เป่ยเฟิงก็คิดได้ว่านิกายสวรรค์นิรันดร์นั้นเป็นตัวเลือกที่ใช้ปกป้องเขาได้อย่างยอดเยี่ยม

นอกจากนี้การมีศิษย์หลักจำนวนน้อยมากมันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาถึงเต็มไปด้วยทรัพยากรจำนวนมาก !

“ขอโทษ แต่ข้ายังไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมนิกายเลยตอนนี้”

เป่ยเฟิงส่ายหัวปฎิเสธข้อเสนอของซีซุยซาน เขามีความลับที่ไม่ต้องการให้ใครรู้มากเกินไป

เป่ยเฟิงกลัวว่าจะเกิดปัญหากับเขาได้เพราะยิ่งคนแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องการครอบครองความลับที่ถูกปกปิดมากยิ่งขึ้น

“เห้อ เอาเถอะ นิกายสวรรค์นิรันดร์จะเปิดทดสอบให้เข้าร่วมทุก ๆ ร้อยปี ถ้าเจ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็เอาของชิ้นนี้ไปที่หอเชื่อมสวรรค์ที่ 7 แล้วจากนั้นก็เริ่มการทดสอบ”

ซีซุยซานส่ายหัวด้วยความผิดหวัง เขาใช้เล็กจิกเข้าที่ข้อมือ จากนั้นหยิบหยกออกมาแล้วหยดเลือดลงบนหยกแล้วยื่นให้พวกเขา

ซีซุยซานมีความภาคภูมิใจในตัวเอง หลักจากที่พยายามหลายครั้งเมื่อเห็นว่าพวกเขาปฎิเสธ เขาจึงจากไปทันที

“นิกายสวรรค์นิรันดร์”

หยกมีสีเขียว มันมีต้นสนแกะสลักอยู่ด้านบน

ต้นสนที่แกะสลักนั้นมีความละเอียดสูงมาก มันดูสมจริงราวกับเป็นต้นไม้จริง ๆ มันเหมือนต้นสนที่ถูกย่อขนาดเล็กลงหลายร้อยเท่าและถูกนำมาผนึกลงบนหยก ! ความสดใสที่เปล่งประกายสะท้อนจากต้นหยกนั้นส่องเข้ามาในดวงตาเป่ยเฟิงและถูกสลักไว้ในใจของเขา

ในใจของเป่ยเฟิงเกิดระลอกคลื่น จากนั้นก็เริ่มก่อตัวกลายเป็นเมล็ดที่ค่อย ๆ งอกต้นกล้าออกมา ในไม่ช้าก็กลายเป็นต้นสนสูงหนึ่งร้อยจั้งที่มีกิ่งก้านเต็มไปด้วยใบหนาแน่น

ต้นสนขนาดมหึมากอดวิญญาณของเป่ยเฟิงเอาไว้และส่งหมอกรักษาจิตวิญญาณที่เสียหายของเขา

“แสงนิรันดร์ จุดจบแห่งความมืดมิด !”

เป่ยเฟิงคิดถึงประโยชนี่ทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง

“โฮก “!

“มู่ววว !”

ฮานกุยและเจ้าตัวนิ่มรีบวิ่งมาหาเป่ยเฟิงพร้อมกับใบหน้าที่น่าสงสาร

“โอเค โอเค ข้ารู้แล้วว่าพวกเจ้าต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อย” เป่ยเฟิงเกลี้ยกล่อมสัตว์อสูรทั้งสอง

ที่จริงแล้วเป่ยเฟิงไม่ได้คาดหวังไว้เลยว่าฮานกุยและเจ้าตัวนิ่มจะเต็มใจต่อสู้เพื่อเขาจนถึงที่สุด มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะคิดแบบนั้นเพราะเจ้ากระต่ายมันเป็นคนบังคับให้พวกมันติดตามเขามา

หลังจากสัตว์อสูรมีพลังสูงมากขึ้น พวกมันก็จะมีสติปัญญาที่สูงตามไปด้วย ดังนั้นปกติพวกมันจะหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่ทำให้พวกมันบาดเจ็บหนัก นอกจากนี้พวกมันทั้งสองเองก้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากู่ฉี แต่ทว่ามันกลับเลือกที่จะต่อสู้เพื่อเขา

เป่ยเฟิงไม่ได้ใจร้ายกับพวกมัน เขามอบโอรสแห่งชีวิตให้พวกมันตัวละหนึ่งเม็ด โอรสนี้ไม่เพียงแค่รักษาพวกมันเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาพวกมันไปด้วย !

แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่โอรสแต่ละเม็ดเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตจำนวนมากที่มาจากหินย้อย ซึ้งมันยังมีผลในการรักษาอาการบาดเจ็บของผู้มีพลังระดับราชาพันปีได้ดีอีกด้วย

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท