Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 637

ตอนที่ 637

ความเร็วของเรือเทียบเท่ากับความเร็วเสียง

และแน่นอนว่าอัตราการกินหินวิญญาณของมันทำให้ทุกคนต้องปวดใจ

หินวิญญาณในหม้อค่อย ๆ สลายกลายเป็นผงเมื่อหลิงฉีถูกใช้ไปจนหมด

เป่ยเฟิงนั่งอยู่บนดาดฟ้าเรือ กระแสลมที่พัดเข้ามาไม่สามารถสัมผัสกับเขาได้เพราะมันถูกกั้นไว้ด้วยเลือดฉีของเขา

น้ำสีทองของทะเลสีทองมันราวกับไวท์ชั้นเลิศ มีนกนางนวลตัวใหญ่จำนวนมากบินอยู่ด้านบน มันจะดำลงไปในน้ำแล้วโผล่ออกมาพร้อมกับปลายาวหลายเมตร

ทิวทัศน์ของที่นี่มันราวกับกำลังท่องเที่ยว มองไปที่ไหนก็มีแต่น้ำทะเล นอกจากกลิ่นเค็ม ๆ ที่พัดเข้ามาแล้วมันยังมีเรือจับปลาโผล่มาอีกเป็นบางครั้ง

พริบตาก็ผ่านไปครึ่งเดือน

ประตูสีทองขนาดใหญ่ปรากฎบนขอบฟ้า มันสูงกว่าหมื่นจั้งและดูเหมือนกับประตูไปสู่สวรรค์ เมื่อมองดูมันจะทำให้รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวที่กัดกินจิตใจ

“เมื่อผ่านประตูนี้จะหมายถึงเข้าไปในเขตทะเลลึก จากที่ข้าน้อยรู้มา ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนสร้างประตูนี้ กว่าหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมาเคยมีสัตว์อสูรพยายามจะทำลายประตูนี้ แต่สุดท้ายพวกมันก็ถูกหยุดและถูกสังหารโดยประตู” หลี่เหว่ยอธิบายกับเป่ยเฟิง

“อย่าบอกข้านะว่ามันคือประตูมังกร ?” เป่ยเฟิงหัวเราะ ดูเหมือนเขาจะคิดมากเกินไป

“ประตูมังกร ?” หลี่ปู้ถามด้วยความสนใจ

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกเรียกว่าประตูมังกร แต่คำว่ามังกรก็เพียงพอที่จะทำให้เขาสนใจแล้ว

เป่ยเฟิงระลึกถึงความทรงจำของเขาก่อนจะพูดขึ้น “ที่บ้านเกิดของข้า เคยมีประตูที่ถูกเรียกว่าประตูมังกร มันจะมีปลาชนิดหนึ่งที่ถูกเรียกว่าปลาคาร์พ มันเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่สุด แต่เมื่อพวกมันกระโดดข้ามประตูได้พวกมันก็จะกลายเป็นมังกร”

เรื่องราวของปลาคาร์พกระโดดข้ามประตูมังกรเป็นการบอกเล่าไปทั่วโลกนานมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายคนจะรู้จักมันดี

“มังกร ? นั่นเป็นสัตว์อสูรระดับสูงงั้นหรือท่านหัวหน้าตระกูล ?” หลี่ปู้ถามด้วยความสนใจ

เป่ยเฟิงยิ้มและกล่าว “มังกรเป็นสัตว์อสูรเทพเจ้าในตำนาน การโจมตีของมันเพียงครั้งเดียวมันเพียงพอที่จะทำลายดวงดาวเทียนมู่ แม้แต่สัตว์อสูรระดับสูงสุดก็ยังไม่คู่ควรที่จะถือรองเท้าให้มัน”

หลี่ปู้ประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าการทำลายดวงดาวเทียนมู่ด้วยการโจมตีครั้งเดียวมันเป็นยังไง แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นมัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน

ถึงอย่างนั้นหลี่ปู้ก็ไม่เชื่อมากนัก เขามองเป่ยเฟิงและไม่ได้พูดอะไร มันคงไม่มีทางที่มังกรจะมาปรากฎบนโลกใบนี้ได้หรอก

ไม่แม้แต่มังกรตัวเล็ก ๆ

เป่ยเฟิงสั่งให้จอดเรือที่ประตู จากนั้นเขาก็เหยียดมือไปที่ประตู

เมื่อรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ปล่อยออกมาจากประตู เป่ยเฟิงก็ดึงมือออกมา

“อุณหภูมิมันต่ำมาก ! ถึงอย่างนั้นความเย็นนี้กลับถูกหยุดเอาไว้ที่ประตูแทนที่จะกระจายออกมาด้านนอก” เป่ยเฟิงยกมือขึ้นและสังเกตเศษน้ำแข็งที่อยู่บนปลายนิ้วของเขา

อุณภูมิมันต่ำขนาดที่ว่าเป่ยเฟิงยังได้รับผลกระทบ !

หากเป็นผู้ฝึกตนระดับร้อยปี เขาคงจะตายไปแล้ว !

เป่ยเฟิงจ้องมองที่ประตูก่อนจะสั่งให้เรือแล่นออกไป

เมื่อแล่นออกไปได้สักพัก น้ำแข็งบนปลายนิ้วของเป่ยเฟิงก็ละลาย

“ท่านหัวหน้าตระกูล ได้เวลาอาหารแล้ว” หลี่เหว่ยกล่าวด้วยความเคารพในขณะยืนอยู่ด้านหลังเป่ยเฟิง

เป่ยเฟิงรวบรวมสติอีกครั้งแล้วตอบกลับ “อืม”

ลึกลงไปในใจเป่ยเฟิงกำลังคิดอยู่ว่าใครเป็นคนสร้างหอเชื่อมสวรรค์ และอะไรคือสิ่งที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างหอเชื่อมสวรรค์กับโลกใบนี้ได้

ยิ่งกว่านั้นคือทุก ๆ โลกมันมีร่องรอยการดำรงอยู่ของมนุษย์ แต่ทว่ามนุษย์ที่อยู่ในโลกหอเชื่อมสวรรค์มาก่อนกลับไม่เคยถูกค้นพบในดวงดาวเทียนมู่

คนเหล่านั้นหายไปไหน แล้วทำไมสัตว์อสูรถึงอยู่รอดมาได้ ทำไมมนุษย์ที่อยู่มาก่อนถึงหายไปไหนกัน ?

มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมนุษย์เหล่านั้นถึงหายไป มันราวกับพวกเขาทั้งหมดหายไปในคืนเดียว

‘แต่ทำไมข้าต้องมาคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ? ข้าเป็นแค่คนที่ผ่านทางมาเท่านั้น’

เป่ยเฟิงเดินตามหลี่เหว่ยไปที่ห้องพัก

ทะเลสีทองมีทรัพยากรจำนวนมาก แม้ว่าปลาหลายตัวจะไม่มีค่าเทียบเท่ากับปลาวิญญาณนิรันดร์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีประโยชน์เช่นกัน

เป่ยเฟิงนั่งอยู่ในห้องคนเดียว เขากำลังเพลิดเพลินกับอาหารของเขา

กลิ่นหอมของหอยนึ่งลอยเต็มห้อง บนโต๊ะมีกุ้งมังกรตัวใหญ่ที่มีเปลือกสีฟ้าเปล่งไอเย็นและดูสดใหม่

อีกจานคือหอยที่มีเปลือกสีขาวเหมือนหินอ่อน

และที่ดูสะดุดตาอีกอย่างคือหอยเม่นที่ดูเหมือนลูกบาสสีน้ำเงินที่เต็มไปด้วยหนาม

เป่ยเฟิงหยิบหอยที่ดูอ้วนและฉ่ำขึ้นมา เขาจุ่มมันลงในจานซอสแล้วเอาเข้าปาก ทันทีที่เขากัด น้ำของมันก็ระเบิดออกมาเต็มปาก แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับอาหารทะเลที่จะมีกลิ่นคาว แต่มันไม่ใช่หอยชิ้นนี้ มันมีรสที่เบาบางและเต็มไปด้วยกลิ่นหอม

ใช่แล้ว หอยตัวนี้เป็นสัตว์อสูรที่มีพลังระดับขั้นสี่ของร้อยปี

ดวงตาของเป่ยเฟิงเปล่งประกายในขณะเคี้ยวเนื้อหอย แม้ว่าขนาดของมันจะมีขนาดเท่ากำปั้น แต่มันกลับให้พลังงานเขาได้ไม่น้อย

เป่ยเฟิงตื่นเต้นมาก เขาลองอาหารจานอื่น ๆ ต่อทันที

เนื่องจากพ่อครัวประจำตระกูลไม่ได้มากด้วย ดังนั้นเป่ยเฟิงจึงจำเป็นต้องทำอาหารเอง มันจึงเป็นธรรมดาที่รสชาติจะไม่ได้ยอดเยี่ยมนัก แต่อาศัยเพียงแค่คุณภาพของตัววัตถุดิบ มันก็เพียงพอที่จะมีรสชาติล้ำเลิศแล้ว

หลังจากกินเสร็จ เป่ยเฟิงก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ลุกออกไปจากโต๊ะ

หลังจากทำความสะอาดห้องเสร็จ เป่ยเฟิงก็โบกมือจากนั้นกองหินวิญญาณก็ปรากฎออกมา

“รากฐานของข้าน่าจะแข็งแกร่งพอแล้ว มันถึงเวลาบรรลุอีกขั้นแล้ว’ เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

เป่ยเฟิงเตรียมพร้อมที่จะบรรลุขั้นต่อไป

เขารวบรวมพลังจิตของเขามาไว้ที่กระดูกสันหลัง

กระดูกสันหลังคือเสาหลักของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นมันจึงถือว่าเป็นแหล่งพลังงาน

กระดูกสันหลังที่แข็งแกร่ง ย่อมทำให้เจ้าของแข็งแกร่งขึ้นตาม !

หลังจากกลั่นเลือดฉีได้แล้ว เขาก็เริ่มบรรลุ !

ราวกับเสือดุร้ายที่วิ่งลงจากเขา เลือดฉีของเขาในไม่ช้าก็สามารถทำลายกำแพงกั้นในส่วนของกระดูกสันหลังส่วนที่ห้าลงได้ !

หลังจากทำลายกำแพงได้ เป่ยเฟิงก็ขมวดคิ้ว ความเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจินตนาการได้

มันเป็นกระบวนการปกติสำหรับผู้ฝึกตน ยิ่งต้องการพลังมากเท่าไหร่ ราคาที่ต้องจ่ายก็ต้องสูงตาม !

การต่อสู้กับใครสักคนนั้นเป็นประสงค์ของสวรรค์ ส่วนการต่อสู้กับตัวเองนั้นเป็นเรื่องปกติของผู้ฝึกตน !

นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนจำนวนไม่น้อยถึงใช้อายุขัยตัวเองจนหมด

ในขณะที่ผู้ฝึกตนระดับร้อยปีนั้นแม้ว่าจะมีชีวิตยืนยาวได้ 800 ปี แต่พวกเขากลับมีชีวิตอยู่ได้เพียง 5-600 ปีเท่านั้น

นั่นเป็นเพราะพวกเขาต้องต่อสู้เผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่ตัวเองต้องเผชิญในขณะฝึกฝน

บางคนอาจไม่รู้สึกถึงอาการบาดเจ็บภายใน และนั่นเป็นสาเหตุที่ว่าแม้เขาจะดูแข็งแกร่ง แต่ก็เหมือนคนที่พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ

แม้ว่าผู้ฝึกตนจะเข้าใจร่างกายของตนได้ดีกว่าคนธรรมดา แต่มันมีข้อจำกัดบางอย่างที่พวกเขาไม่สามารถทำได้

ยกตัวอย่างเช่นอาการบาดเจ็บจะทำให้สูญเสียเซลล์จำนวนมากไป ซึ้งในระหว่างการฟื้นฟู เซลล์เก่าจะถูกทำลายและแทนที่ด้วยเซลล์ใหม่

และหากมันเกิดขึ้นบ่อย ๆ มันจะทำให้อายุขัยของคน ๆ หนึ่งได้รับผลกระทบตามไปด้วย … เว้นเสียแต่ว่าจะพบกับยาที่จะยืดอายุให้ยืนยาวขึ้น

ยาศักดิ์สิทธิ์ มันถือว่าเป็นยาคุณภาพต่ำที่สุดในยาที่ใช้ยืดอายุ มูลค่าของยานั้นเทียบเท่ากับเมืองหลายเมืองเลยทีเดียว

สิ่งเดียวที่ยายืดอายุไม่สามารถช่วยได้คือมันไม่สามารถยืดอายุให้ไกลเกินกว่าขีดจำกัดของตัวเอง

ยกตัวอย่างเช่นผู้ฝึกตนระดับร้อยปีขั้นสูงสุดจะมีอายุยืนยาวสูงสุด 800 ปี

หากผู้ฝึกตนคนนั้นกำลังจะตายเมื่ออายุครบ 600 ปี พวกเขาสามารถใช้ยายืดอายุเพื่อยืดอายุขัยของตัวเองออกไป และตามทฤษฎีแล้วเขาจะมีชีวิตได้ต่อไปอีก 200 ปี

ในทางกลับกันหากผู้ฝึกตนระดับร้อยปีขั้นสูงสุดมีอายุครบ 800 ปีแล้ว ยายืดอายุจะไม่ส่งผลใด ๆ กับเขาอีกต่อไป

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท