ความแข็งแกร่งของปลาวิญญาณนิรันดร์ที่ยาวกว่า 10 เมตรนั้นน่ากลัวมาก ผู้มีพลังระดับราชาพันปีธรรมดา ๆ ไม่มีทางเอาชนะมันได้
ยิ่งกว่านั้นคือจำนวนของมันมีน้อยและหาได้ยากมาก ๆ ตอนนี้แม้แต่ปลาวิญญาณนิรันดร์ที่โตเต็มที่ที่ยาวที่สุดยังยาวเพียง 6 เมตรเท่านั้น
แต่ในสายตาของหลี่ปู้และคนอื่น ๆ พวกเขามองเห็นพวกมันเป็นก้อนเงินขนาดใหญ่
หินวิญญาณระดับสูงมีราคาแพงมาก สมุนไพรจิตวิญญาณส่วนใหญ่เทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“เตรียมโยนตาข่าย” เป่ยเฟิงสั่งการลงไป
“ขอรับ !’ หลี่ปู้และคนอื่น ๆ ขานรับ จากนั้นก็ไปเตรียมตาข่ายที่พวกเขาเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ มันเป็นตาข่ายจากผ้าไหมสวรรค์ [อวนกับตาข่ายขอใช้ทับศัพท์นะครับ]
มูลค่าของมันถือว่าคุ้มมาก ตาข่ายยืดหยุ่นไม่น้อย และมันดูเหมือนปลาวิญญาณนิรันดร์ที่ยาวน้อยกว่า 10 เมตรไม่มีทางเจาะทะลุได้
เป่ยเฟิงไม่ได้เข้าไปยุ่ง เขานั่งอยู่บนดาดฟ้าและเพลิดเพลินไปกับสายลมพร้อมกับเคี้ยวอาหารทะเลไปด้วย
หลี่ปู้หยิบกล่องไม้ขนาดใหญ่ออกมา มันมีกลิ่นของแมลงกระจายออกมาจากกล่อง ข้างในกล่องเต็มไปด้วยแมลงขนาดใหญ่เท่านิ้วหัวแม่มือกำลังดิ้นไปมา
แมลงเหล่านี้มีความยาวกว่า 5-6 เซนติเมตร พวกมันมีวงแหวนบนร่างกายอยู่ 2 วง พวกมันมีสีดำและมีก้ามขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ร่างของพวกมันถูกปกคลุมไปด้วยเปลือกแข็ง ๆ
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของมันก็คือมันมีกลิ่นแปลก ๆ ซึ้งมีบางคนที่ได้กลิ่นก็จะเหมือนได้กลิ่นหอม
หลี่ปู้ขว้างกล่องที่เต็มไปด้วยแมลงหลายพันตัวลงไปในทะเลสีทอง
ทันทีที่แมลงหล่นลงน้ำ มันก็เริ่มดิ้นรน ปลาวิญญาณนิรันดร์มองพวกแมลงด้วยท่าทางกังวล แต่สุดท้ายก็มีปลาวิญญาณนิรันดร์ที่ยาวกว่า 4 เมตรตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาแมลงและนั่นทำให้ตัวอื่น ๆ ว่ายตามมา
ในขณะเดียวกัน ตัวตนระดับราชาพันปีทั้ง 10 ก็ลอยขึ้นไปบนฟ้าและเริ่มเหวี่ยงตาข่ายกระจายออกไปรอบ ๆ ปลา
ปลาวิญญาณนิรันดร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดและขึ้อาย เมื่อพวกมันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติพวกมันจะรีบหนีทันที
แต่เนื่องจากการล่อลวงของด้วงวิญญาณและความหิวของสัญชาตญาณ มันทำให้มันประมาท
ปลาวิญญาณนิรันดร์นั้น เมื่ออยู่ในน้ำมันจะรวดเร็วมาก ความเร็วของมันเกือบจะเทียบเท่าผู้มีพลังระดับราชาพันปีขั้นสามและสี่
ดังนั้นหลี่ปู้และคนอื่น ๆ จึงไม่กล้าประมาท พวกเขาเคลื่อนไหวช้า ๆ และอาศัยช่วงเวลาที่ปลาวิญญาณนิรันดร์กำลังกินอาหารล้อมรอบพวกมันไว้
ด้วงวิญญาณหลายพันตัวถูกกลืนลงไปภายในไม่กี่นาที เมื่ออาหารหายไปแล้วปลาวิญญาณจึงพบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง พวกมันเริ่มตกใจไม่น้อย
“ปุ๋ง ปุ๋ง ปู่ง ปุ๋ง !”
ฟองน้ำลอยออกมาพร้อมกับเสียงโหยหวนแปลก ๆ ของมันราวกับมันกำลังสื่อสารกันอยู่
ใบหน้าของหลี่ปู้เปลี่ยนไป เขารู้ได้ทันทีว่าพวกมันเตรียมจะหนี
เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่พวกเขาจับปลาวิญญาณนิรันดร์ พวกเขาจึงไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ว่าปลาเหล่านี้กินอาหารได้เร็วแค่ไหน
ตอนนี้ตาข่ายไม่ได้ถูกเหวี่ยงแบบครอบคลุมมากนัก แต่ปลาวิญญาณนิรันดร์มันกลับรู้ตัวเสียแล้ว
“แย่แล้ว ! เร็วเข้า รีบโยนตาข่ายเร็ว !” หลี่ปู้รู้ดีว่ามันไม่ใช่เวลาต้องมาระวังอีกต่อไป ตอนนี้ปลาวิญญาณนิรันดร์มันรู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรีบเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุดและจับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในไม่ช้าคนอื่น ๆ ก็ระเบิดพลังเต็มที่แล้วลากตาข่ายเข้าหากันทันที
แต่ท้ายที่สุดมันก็เหลือทางหนีเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะตอบสนองได้รวดเร็ว แต่มันก็สายเกินไปที่จะปิดเส้นทางหนีเอาไว้
นอกเหนือจากปลาวิญญาณนิรันดร์ 6-7 ตัวที่ว่ายน้ำช้ากว่าตัวอื่น ที่เหลือหนีไปได้
ทะเลสีทองนั้นกว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุด นี่เป็นเขตทะเลน้ำลึก เมื่อปลาวิญญาณหนีไปได้ พวกมันก็แค่ดำดิ่งลงไปในน้ำทิศใดทิศหนึ่งจากนั้นพวกมันก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เป็นปลาที่เร็วจริง ๆ”
เป่ยเฟิงยิ้ม
ภายในตาข่ายมีปลาตัวหนึ่งกำลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยความเหนียวและยืดหยุ่นของตาข่ายมันทำให้มันไม่สามารถเจาะทะลุตาข่ายออกมาได้
ด้วยพื้นที่ที่จำกัดและอีกฝ่ายเป็นถึงผู้มีพลังระดับราชาพันปี มันจึงไม่ใช่คู่ต่อกรที่คู่ควรนัก ในไม่ช้าพวกเขาก็ยกตาข่ายขึ้นมา
หลี่เหว่ยเอามีดขนาดเล็กออกมาแล้วเริ่มเฉือนตัวปลาเพื่อปล่อยเลือดของมันให้ไหลออกมา
ปลาวิญญาณนิรันดร์มีพิษที่สามารถฆ่าผู้มีพลังระดับร้อยปีขั้นสูงสุดได้อย่างง่ายดาย และมันก็ส่งผลต่อผู้มีพลังระดับราชาพันปีไม่น้อย
หลังจากนั้นก็เริ่มไล่เฉือนไปจนถึงหาง ในไม่ช้าเลือดสีเงินจำนวนมากก็ไหลออกมาจากบาดแผลจนทำให้เกิดกลิ่นหอมออกมา
หลังจากนั้นก็เก็บเลือดพวกนั้นเข้าไปในแหวนมิติ
วิธีเดียวที่จะระบายเลือดของมันออกมาได้อย่างเหมาะสมที่สุดก็คือตอนที่พวกมันยังมีชีวิต หากพยายามระบายเลือดของพวกมันออกมาในตอนที่พวกมันตายแล้ว เนื้อของพวกมันก็จะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
หลี่ปู้ยืนข้าง ๆ เป่ยเฟิงและกล่าวด้วยความเคารพ “ท่านหัวหน้าตระกูล ข้าน้อยทำงานล้มเหลว”
“ไม่เป็นไร แค่ระวังให้มากขึ้นในครั้งต่อไปก็พอ เจ้าก็รู้ว่าข้าชอบการกระทำมากกว่าคำพูด”
เป่ยเฟิงโบกมือโดยไม่แยแส
ความคิดของหลี่ปู้ไม่เคยเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย มีผู้คนจำนวนมากจะเสียความคิดดั้งเดิมไปเมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จ ยกเว้นแต่หลี่ปู้ เพราะเขารู้ดีว่าเขามีทุกวันนี้ได้เพราะใคร
“ว่ากันว่าปลาวิญญาณนิรันดร์มีรสชาติเอกลักษณ์หากกินมันแบบดิบ ๆ มา ๆ พวกเจ้าเลือกไปลองกันซัก 2 ตัว” เป่ยเฟิงพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
“เอ่อ ขอบคุณขอรับท่านหัวหน้าตระกูล” หลี่ปู้คำนับแล้วจากไป
สำหรับเป่ยเฟิง เขาหยิบปลาวิญญาณนิรันดร์ออกมาหนึ่งตัว จากนั้นก็ค่อย ๆ แล่หนังของมันออกมาโดยไม่ทำร้ายเนื้อด้านล่าง
ในมือของเขามีมีดสีดำปรากฎออกมา หลังจากนั้นเขาก็ตวัดมีดออกไปเบา ๆ ซึ้งเนื้อปลามันก็ค่อย ๆ ถูกแล่ออกมาในขณะที่ไม่มีใครมองเห็นใบมีดแม้แต่น้อย เป่ยเฟิงในตอนนี้ดูราวกับพ่อค้าขายเนื้อที่กำลังแงะเนื้อวัวออกมา
การกระทำของเขาไม่ใช่เรื่องยากเย็น ตราบใดที่ความแข็งแกร่งของร่ายกายไปถึงระดับหนึ่งและสามารถควบคุมร่างกายได้ดีเยี่ยม การกระทำดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องยาก
“ฟุ้บ !”
“ฉั้วะ !”
แม้ว่าการเฉือนจะดูเบา ๆ แต่เสียงของมันกลับคมชัดมาก
มีดขนาดเล็กนี้ถูกสร้างมาจากพันรูปร่าง มันจึงคมมาก เมื่อเขาเฉือนออกไปมันราวกับไม่มีอะไรขวางมันได้ เขาเพียงแค่ควบคุมทิศทางของมีดแล้วดันมันไปให้สุดก็พอ !
การกระทำของเป่ยเฟิงมันราวกับการสร้างงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
ในพริบตาอาวุธในมือของเขาก็หายไป
บนเขียงมีเนื้อปลาวิญญาณนิรันดร์วางอยู่ เนื้อปลามีสีชมพูอ่อน ๆ และเต็มไปด้วยลวดลายคล้ายเมฆ
สายลมของทะเลพัดผ่านมา มันทำให้ปลาวิญญาณนิรันดร์ตัวนี้ราวกับไม่ได้ถูกเฉือนแม้แต่น้อย !
นอกจากหัวปลาแล้ว เนื้อส่วนอื่นเริ่มร่วงหล่นลงมาจนดูราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน !
เนื้อชิ้นบาง ๆ ลอยขึ้นตามแรงลมก่อนจะหล่นลงมา
มันราวกับลมกระโชกที่พัดผ่านทุ่งข้าวสาลีจนดูราวกับคลื่นพัดผ่าน
เป่ยเฟิงไม่ได้ใช้เครื่องปรุงใด ๆ เพราะปลาวิญญาณนิรันดร์คือวัตถุดิบชั้นเลิศ !
ยิ่งวัตถุดิบดีมากเท่าไหร่ การจัดการยิ่งง่าย
รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบมันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสร้างขึ้นมาได้โดยการใช้เครื่องปรุง
เป่ยเฟิงหยิบเนื้อเข้าปาก แต่ทว่าเขากลับไม่รู้สึกถึงรสชาติใด ๆ
‘มันคือปลาปลอม ?’
เป่ยเฟิงสับสน เนื้อของปลาวิญญาณนิรันดร์มันเป็นสิ่งที่คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องการ อย่างไรก็ตาม มันกลับไม่มีรสชาติใด ๆ เลยแม้แต่น้อย
เป่ยเฟิงมีพลังระดับราชาพันปี ดังนั้นประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาจึงเด่นชัดกว่าคนอื่นมาก ในอีกแง่คือเขาสามารถรู้สึกได้ถึงเม็ดเกลือที่อยู่ในน้ำเลยด้วยซ้ำ !
การที่เนื้อปลาไม่มีรสชาติใด ๆ มันแปลกประหลาดเกินไป
เป่ยเฟิงสับสน จากนั้นเขาก็เคี้ยวมัน
“บูม !”
ทันใดนั้นเขาก็ทรุดตัวลงพร้อมกับร่างกายที่สั่นสะท้าน
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ !
มันมีรสชาติมากมายระเบิดออกมาไม่รู้จบ !
รสชาตินับไม่ถ้วนระเบิดในปากของเขา มันทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างเพราะรสชาติที่ละเอียดอ่อนต่าง ๆ ของมัน !
ใช่แล้ว ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขานั้นดีกว่าคนปกติ ดังนั้นเขาจึงได้รับผลกระทบมากกว่า !
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาไม่แม้แต่จะตอบสนองตัวเองได้
มีคนที่มีความรู้สึกไวต่อกลิ่นมาก และพวกเขาก็จะได้กลิ่นที่รุนแรงกว่าคนอื่นและได้กลิ่นที่คนอื่นไม่ได้กลิ่น
เป่ยเฟิงก็เหมือนพวกเขา เขาในตอนนี้กำลังดื่มดำกับรสชาติที่แตกต่างกันมากมาย