เป่ยเฟิงยืนอยู่บนดาดฟ้าราวกับรูปปั้น
หากเดินเข้าไปใกล้ก็จะพบว่าเขาหลับตาอยู่
เขาหลับตาและยืนนิ่งหมกมุ่นอยู่ในใจ
เมื่อคลื่นขนาดใหญ่มาถึง เป่ยเฟิงก็จะโจมตีออกไปด้วยดาบของเขา !
แม้ว่าท่าทางของเขาจะดูเหมือนเรียบง่าย แต่ความจริงแล้วมันดูราวกับเป็นภาพลวงตาที่น่าขนลุก
คลื่นขนาดใหญ่ที่สูงหลายร้อยเมตรถูกตัดแบ่งออกเป็นสองส่วน
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงแรงบันดาลใจมากมายในใจของเขา
ดาบของเขาคอยปรับเปลี่ยนมุมการตวัดอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้การฝึกฝน หลังจากตวัดไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในไม่ช้าเขาก็สามารถทำให้มันเหมาะกับตัวเองได้มากยิ่งขึ้น
เขาเชี่ยวชาญมากขึ้นถึงขั้นที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรัศมีดาบได้
“มันมีอะไรแปลก ๆ ?”
เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นและพึมพำกับตัวเอง แม้ว่ารัศมีดาบที่เพิ่งตวัดไปจะดูสมบูรณ์แบบ แต่เป่ยเฟิงรู้สึกอึดอัดแปลก ๆ และไม่สามารถอธิบายได้
“น้ำเทียนจุน !”
เป่ยเฟิงคิดบางอย่างจากนั้นขวดหยกก็ปรากฎในมือ
ของเหลวสีเขียวหนึ่งหยดถูกเก็บรักษาไว้ในขวดหยก ของเหลวนี้ปลดปล่อยพลังประหลาดออกมา
หากใครได้มองมัน พวกเขาก็จะพบว่ามีชั้นหมอกบาง ๆ ล้อมรอบของเหลวเอาไว้
น้ำเทียนจุนคือของที่เหมาะกับการทำความเข้าใจในตอนนี้มากที่สุด
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เพิ่มความเข้าใจอะไรมากนัก แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาตกอยู่ช่วงสมาธิหรือการทำความเข้าใจในช่วงสั้น ๆ
หากเป็นคนปกติเขาจะบอกว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป แต่เป่ยเฟิงไม่สนใจ
“จิตวิญญาณ !”
เป่ยเฟิงกลืนน้ำเทียนจุนเข้าไป จากนั้นแรงบันดาลใจต่าง ๆ ก็ปะทุขึ้นในใจของเขา
เป่ยเฟิงตกตะลึงและในที่สุดเขาก็เข้าใจว่ามีอะไรขาดหายไป !
จิตวิญญาณมนุษย์หรือความเชื่อนั้นเป็นพลังที่ทรงพลังมาก
แม้ว่าจะเป็นคนธรรมดา แต่เมื่อใกล้ตายมันก็จะมีความน่าสะพรึงกลัว
นี่เป็นเรื่องจริงของผู้ฝึกตน
เป่ยเฟิงเพิ่งตระหนักดีว่าแม้ว่าดาบที่เขาตวัดจะทรงพลังแต่มันสามารถใช้ร่วมกับวิชาสัตว์อสูรเพื่อเพิ่มพลังให้มันได้ !
“ข้าเคยใช้ดาบมาก่อน แต่ข้าไม่เคยรู้ว่าความหมายของมันคืออะไร”
เป่ยเฟิงคิด
“แล้วดาบของข้ามันมีความหมายว่ายังไงกัน ?”
เป่ยเฟิงคิด
เป่ยเฟิงในตอนนี้อยู่ในห่วงสมาธิและไม่สนใจโลกภายนอก
แต่เมื่อคลื่นลูกใหญ่มาถึง หลี่ปู้ที่อยู่ด้านหลังเป่ยเฟิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“สะบั้นสิบทิศ !”
หลี่ปู้สูดหายใจเข้าลึก ๆ และเมื่อเห็นว่าเป่ยเฟิงติดอยู่ในห่วงสมาธิ เขาจึงไม่ลังเลอีกต่อไป ง้าวปรากฎในมือของเขาจากนั้นเขาก็ตวัดมันไปทางคลื่นยักษ์ด้านหน้า !
ราวกับแผ่นดินไหว รัศมีง้าวที่ยาวและใหญ่พุ่งออกมา รัศมีมันประกอบไปด้วยเลือดและฉี !
จากนั้นมันก็ปะทะเข้ากับคลื่น !
ทันใดนั้นคลื่นสูงหลายร้อยเมตรก็พังทลาย แต่มันไม่ได้แยกออกเป็นสองส่วน
“ตูม !”
คลื่นพังทลายลงและน้ำทะเลจำนวนนับไม่ถ้วนก็กลับไปอยู่ในทะเล
เป่ยเฟิงไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย เขายังคงติดอยู่ในห่วงสมาธิ
“ความเชื่อมั่นทำให้วิถีแห่งเต๋าก้าวหน้า นี้คือรากฐานของความเชื่อ งั้นความหมายของดาบของข้าก็คือการปิดกั้นการหลบหนีที่ดีที่สุด จากนั้นดาบของข้าก็จะคมมากขึ้น ?”
เป่ยเฟิงราวกับค้นพบเส้นทางเล็กน้อย
“ไม่สิ ดาบของข้าไม่ใช่สิ่งที่เป็นนิรันดร์ อีกครั้ง !”
“ความหมายมันคืออะไร ? ไม่ได้อยู่ในสามอาณาจักร กระโดดออกจากธาตุทั้งห้า สวรรค์และโลกหายไป และข้าก็ไม่มีวันถูกทำลาย ! การฝึกฝนคือการยืดอายุขัยเพื่อเผชิญหน้ากับท้องฟ้า ! และดาบของข้าก็มีไว้เพื่อปกป้องเส้นทางของข้า มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน !”
เป่ยเฟิงตกใจ หลังจากคิดไปคิดมาเขารู้สึกราวกับไม่สามารถอธิบายได้
“ดาบที่ไร้ชื่อและมันมาพร้อมกับคลื่น !”
เป่ยเฟิงพึมพำกับและลืมตาขึ้น
ด้านหลังของเป่ยเฟิง หลี่ปู้สังเกตเห็นเป่ยเฟิงและอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน !
“ไม่คิดเลยว่าเพียงแค่คิดเรื่องนี้ได้ วิถีแห่งเต๋าของข้าจะบรรลุขั้นที่สามได้ง่ายแบบนี้ !”
เป่ยเฟิงราวกับปลดหินก้อนใหญ่ที่ถ่วงหัวใจเอาไว้ เขารู้สึกได้ถึงความแตกต่างของสวรรค์และโลกที่แตกต่างไปจากเดิม
“วิถีแห่งเต๋าขั้นที่สาม ไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งให้ข้า แต่มันยังมีความสามารถอันใหม่รวมถึงยังควบคุมเลือดและฉีได้ง่ายยิ่งขึ้น”
เป่ยเฟิงรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวเขาเอง
แรงกดดันจากพายุหายไปอย่างช้า ๆ เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังที่ฟื้นกลับมาสมบูรณ์แบบ
“การมองภูเขาที่ไม่ใช่ภูเขา มันไม่ใช่น้ำแต่มันคือท้องฟ้า ข้าไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป”
เป่ยเฟิงยิ้มอย่างอารมณ์ดี
หลังจากเป่ยเฟิงตระหนักได้ถึงความหมายที่แท้จริงของวิถีแห่งเต๋าของเขา พลังของสวรรค์และโลกก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเขาอีกต่อไป
แต่ไม่ใช่ว่าสวรรค์และโลกไม่ได้ช่วยให้เขาเข้าใจ แต่เพราะเขาอ่อนแอเกินไปจนไม่สามารถรู้ได้ถึงความหมายของสวรรค์และโลก
ในอดีต มีคนจำนวนมากได้ท้าทายสวรรค์และพวกเขาก็พบจุดจบ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีชีวิตรอด มันจึงบอกได้เลยว่าคนที่มีความสามารถพอจะให้สวรรค์และโลกสนใจนั้นมีน้อยแค่ไหน
แม้ว่าสวรรค์และโลกจะไม่สนใจ แต่เป่ยเฟิงก็ท้าทายและสามารถทำมันได้ !
เป่ยเฟิงไม่สนใจว่าชีวิตจะสวยงามเหมือนดอกไม้ในฤดูร้อนหรือไม่ เขาไม่ต้องการเป็นแค่ดอกไม้ในฤดูร้อน แต่เขาต้องการดอกไม้ !
เขาต้องการสิ่งที่มากกว่าคนอื่นและไม่ต้องการเสียมากกว่าคนอื่น ในเมื่อเขามีวิธีที่จะให้ได้มันมากขึ้น ทำไมเขาต้องสนใจคนอื่นด้วย ?
“ต้านคลื่น !”
เป่ยเฟิงถือดาบ ท่าทางของเขาไม่เหมือนมือสมัครเล่นอีกต่อไป มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม
แต่เดิมแล้วดาบเป็นเพียงดาบธรรมดา ๆ ที่เป็นเพียงอาวุธมีคมเท่านั้น
หลังจากเป่ยเฟิงให้ความหมายกับดาบ มันก็ไม่ใช่อาวุธธรรมดาอีกต่อไป แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา
เพียงแค่ถือดาบ มันก็ให้ความคุ้นเคยและแปลกประหลาดในเวลาเดียวกัน
เป่ยเฟิงตวัดดาบเงียบ ๆ ในรูปแบบที่เรียบง่าย !
“ฉีกกระชากมัน !’
วินาทีต่อมา รอยแตกที่น่ากลัวก็แยกทะเลออกเป็นสองส่วนเงียบ ๆ !
ช่องว่างกว้างหลายสิบเมตรแยกออกมาไปจนถึงขอบสายตาของทุกคน !
ดาบฉีที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่ในช่องว่างและแยกน้ำทะเลไว้ทำให้มันไม่สามารถมารวมตัวกันได้ในเวลาสั้น ๆ
เป่ยเฟิงไม่ได้คิดว่ามันน่าแปลกตรงไหน
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการเคลื่อนไหวง่าย ๆ แต่หลังจากการตวัดพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ท่าทางที่เรียบง่ายมันก็ไม่ใช่เรียบง่ายอีกต่อไป !