ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 576 ผู้หญิงแซ่จงคนนั้นไม่เหมาะสมกับลูก

บทที่ 576 ผู้หญิงแซ่จงคนนั้นไม่เหมาะสมกับลูก

บทที่ 576 ผู้หญิงแซ่จงคนนั้นไม่เหมาะสมกับลูก

เฉินซานเข้ามาที่ห้องพักผู้ป่วยที่มีคุณยายคนหนึ่งนอนอยู่ ใบหน้าดูบูดบึงเล็กน้อยมองมาที่เขา พอยันตัวขึ้นได้นางก็เริ่มคร่ำครวญทันที “ใจดีมาดูหญิงแก่อย่างฉันได้ด้วยเหรอ? แกไม่ได้อยู่กับแม่สะใภ้คนนั้นของแกเหรอไง ที่พูดว่าลูกชายเลี้ยงดูยามแก่เฒ่า ๆ อะไรนั่น ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะเลี้ยงแกมา แต่แกกลับเลือกคนนอกนั่น!”

“แม่ แม่อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย มันทำให้ผมลำบากเหมือนกันนะ” เฉินซานรีบพูด

“ฉันทำให้แกลำบากตรงไหน? แกจากไปตั้งหลายปี กลับมาก็พาผู้หญิงปากจัดแบบนี้มาด้วย นี่คือการกตัญญูต่อฉันอย่างนั้นเหรอ? นี่แกกลัวว่าฉันจะไม่ตายเร็ว ๆ สินะ ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลมาตั้งแต่เมื่อวาน หล่อนเคยมาดูฉันสักครั้งไหม? หล่อนคิดว่าตัวเองมีหลานสาวให้ตระกูลเฉินแล้วคิดว่าเก่งนักเหรอ?” ย่าเฒ่าเฉินด่า

เมื่อวานนี้นางทะเลาะกับลูกสะใภ้หลังจากที่อดทนมานาน ตั้งแต่ที่ลูกสะใภ้คนนี้แต่งเข้ามาหล่อนไม่ลดราวาศอกให้เลยแม้แต่ครึ่งเดียว นางเลยแกล้งทำเป็นล้ม แล้วมาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้

แต่ว่าตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ลูกสะใภ้คนนั้นก็ไม่พาหลานสาวมาเยี่ยมนางที่นี่แม้เพียงครึ่งก้าว!

ย่าเฒ่าเฉินจึงรู้สึกแค้นใจขึ้นมา

นางคิดจะจบเรื่องกับผู้หญิงคนนี้เต็มทน

“ฉันไม่สน ลูกสะใภ้อกตัญญูแบบนี้ฉันไม่ต้องการ แกเลิกมันให้ฉันเดี๋ยวนี้!” ย่าเฒ่าเฉินประกาศออกมาเป็นครั้งสุดท้าย

“แม่ครับ แม่ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้สังคมมันเป็นยังไง ยังจะให้เลิกอะไรอีก?” เฉินซานพูด

“งั้นแกก็ไปหย่ากับหล่อนซะ หล่อนจะไสหัวไปที่ไหนก็เชิญ แล้วแกค่อยแต่งงานใหม่ มีหลานชายให้ฉัน แล้วเอาลูกสาวไร้ค่านั้นไสหัวไปซะ!” ย่าเฒ่าเจียงพูด

“ก็เอาสิ ยายแก่งี่เง่าอย่างคุณยังกล้าให้ฉันกับเฉินซานหย่ากันงั้นเหรอ!” ด้านหน้าประตูมีเสียงดังปังจากการถูกคนถีบประตูเปิดเข้ามา

หลังจากนั้นก็เกิดการทะเลาะกันยกใหญ่ ทำให้คนไม่น้อยพากันมามุ่งดู

เฉินซานเดินตีมึนออกมาจากฝูงชน เขาเดินออกมาข้างนอกและคิดว่าจะได้เจอกับหลินชิงเหออีก

แต่น่าเสียดายที่เธอไปแล้ว

เฉินซานรู้สึกถอดใจเล็กน้อย ตอนแรกถ้าเธอยอมหนีตามเขาไปละก็ ด้วยความสามารถของเธอจะต้องให้กำเนิดลูกชายกับเขาได้แน่

อีกอย่างก็คือเธอมีประวัติการศึกษาสูง จะต้องสามารถหางานดี ๆ ทำได้สักงานแน่ แถมเธอฉลาดขนาดนี้ จะต้องจัดการปัญหาเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้ได้แน่ เขาก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกกดดันแบบนี้…

หลินชิงเหอที่กลับมาถึงบ้านแล้ว ไม่รู้เลยว่าผู้ชายแย่ ๆ คนนั้นคิดกับเธอเช่นนี้

เธอกลับมาถึงบ้านแล้วแต่ก็ยังคงขมวดคิ้วอยู่นิด ๆ ด้วยนึกว่าชีวิตนี้จะไม่ต้องเจอกับเฉินซานอีกแล้วเสียอีก แต่คิดไม่ถึงว่ากลับต้องมาเจอเขาแบบนี้

เพียงเห็นท่าทางของเขาเธอก็มองออกว่าเขาไม่ได้มีชีวิตที่ดีเท่าไร แต่ยิ่งเห็นเขามีชีวิตล้มเหลวก็ยิ่งดีใจ ตอนนั้นเขายังดูหนุ่มกว่าโจวชิงไป๋ด้วยซ้ำ พอมาตอนนี้เมื่อเทียบเขากับชิงไป๋ของเธอแล้วอีกฝ่ายยังดูแก่กว่าเล็กน้อยเลย

เมื่อก่อนเป็นไก่อ่อนอย่างไร ตอนนี้ก็ยังเป็นไก่อ่อนอย่างนั้น

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้หลินชิงเหอต้องมุ่นคิ้วอยู่นี้ก็คือตอนนี้เธอยังเจอกับเฉินซานที่นี่ได้ ถ้าอย่างนั้นนางเอกในนิยายคนนั้น ก็อาจจะเจอกับเจ้าสามของเธอได้หรือไม่นะ?

เพราะเนื้อหาในนิยายถูกเธอทำให้เละตุ้มเป๊ะไปหมดแล้ว คนคนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่โผล่ออกมาเลย

คนที่นำพาความหายนะมานั้น แทบทำให้เจ้าสามของเธอหลงเสน่ห์หล่อนจนเกือบตาย

หลินชิงเหอคิดเรื่องนี้จนหัวหมุนไปหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งวุ่นวายใจ หลังจากนั้นเธอก็เอนตัวและนอนหลับไป

โจวชิงไป๋มองท่าทางของภรรยาแล้วมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย ต่อให้ภรรยาของเขาไม่พูดเขาก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่พอเห็นท่าทางแบบนั้นของภรรยาแล้วเขาก็รู้สึกหนักใจ

ชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเริ่มเข้าไปทำกับข้าวให้กิน พอหลินชิงเหอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็รู้สึกดีขึ้นมาก รอจนเจ้าสามกลับมาแล้ว เธอจึงค่อยลองพูดกับเขา

โจวชิงไป๋ต้มซุปน้ำใสยกเข้ามาให้ชามหนึ่ง หลินชิงเหอดื่มน้ำซุปแล้วพูด “ฉันนอนไปนานแค่ไหนคะ?”

พวกเธอกลับมาตอนเก้าโมงกว่า อีกครู่เดียวก็จะสิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว

“ตอนที่คุณเจอคนคนนั้น เขาพูดกับคุณว่าอะไรเหรอ?” โจวชิงไป๋นั่งลงแล้วถาม

พูดตามตรงว่าโจวชิงไป๋ไม่ได้รู้สึกไม่มั่นใจให้ตัวเองเลย ภรรยาของเขาไม่มีทางชายตาแลเฉินซานนั่นหรอก

แต่หลังจากที่ภรรยาของเขาเห็นอีกฝ่าย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้สึกดีใจอย่างยิ่ง

หลินชิงเหอไม่ใช่คนที่นี่ เธอเป็นคนจากโลกอนาคต ซึ่งเธอก็ได้บอกเขาเมื่อนานมาแล้ว เพราะว่าระหว่างที่อยู่ด้วยกันทุกเช้าเย็น เขาก็ไม่อยากบังคับฝืนใจเธอจนเกินไปนัก แต่เธอก็ตัดสินใจบอกกับเขาในเวลาต่อมา

แต่ถ้าหลินชิงเหอบอกเนื้อหาภายในหนังสือเล่มนี้ เธอก็กลัวว่ามันจะท้าทายทัศนคติต่อโลกนี้ของเขาเกินไป

ดังนั้นเธอจึงไม่ได้วางแผนจะบอกมาก่อน

“ไม่ได้พูดอะไรค่ะ เพียงแค่ทักทายฉันนิดหน่อยเท่านั้น บอกว่าคิดไม่ถึงที่เห็นฉันที่นี่” หลินชิงเหอพูด

โจวชิงไป๋มองเธอ

หลินชิงเหอกลอกตามองเขาแล้วพูดว่า “ทำไมคะ คุณคิดว่าฉันกับเขามีอะไรให้พูดกันอีกเหรอ? ก็แค่ไก่อ่อนคนหนึ่ง มองสภาพของเขาแบบนั้นก็รู้แล้วว่าเขามีชีวิตที่น่าอนาถมากแค่ไหน ดูจากภายนอกยังแก่กว่าคุณตั้งเยอะ” พอพูดถึงตรงนี้ หลินชิงเหอก็ยิ้มกริ่มตบเบา ๆ ที่หน้าของโจวชิงไป๋ “ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ อย่าทำให้ตัวเองแก่เร็วเกินไปนัก ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้มีแค่ฉัน ลูกสาวที่คลอดออกมาอาจไม่สนใจคุณก็ได้”

โจวชิงไป๋หัวเราะ

เรื่องที่ได้พบกับเฉินซานคนนั้น หลินชิงเหอก็ได้ทำการป้องกันเอาไว้นานแล้ว เธอคิดว่าคนที่เคยเจอกันไม่ว่าอย่างไรก็ต้องได้เจอกันอยู่ดี

ดังนั้นหลินชิงเหอจึงรอเจ้าสามกลับมาบ้าน แล้วหลังจากนั้นก็เรียกเขามาหา

“ม้าครับ เมืองเซี่ยงไฮ้เจริญรุ่งเรืองจริง ๆ ผมไปถ่ายได้ตั้งหลายรูป” โจวกุยหลายพูดยิ้ม ๆ

หลินชิงเหอยิ้มแล้วพูด “ชอบก็ถ่ายเอาไว้เยอะหน่อย ถ่ายสถานที่เด่นของเซี่ยงไฮ้เอาไว้นะ”

โจวกุยหลายพยักหน้า

หลินชิงเหอเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แล้วจึงพูดขึ้น “ครอบครัวเรามีกฎอยู่ว่าจะไปมีแฟนนอกบ้านก็ได้ ถ้าเห็นว่าคนไหนดีหรือถูกใจจะต้องพามาให้ที่บ้านดูก่อนจะเลยเถิด จริงสิ แม่ไปดูดวงมาให้ลูกแล้ว ลูกกับผู้หญิงแซ่จงน่ะไม่เหมาะสมที่จะแต่งงานกัน”

โจวกุยหลายที่กำลังรินน้ำให้ตัวเองอยู่ พอได้ยินก็แทบจะทำน้ำหก

โจวชิงไป๋ทำเค้กข้าวก่ำ(1)ให้ภรรยาเสร็จพอดี พอเดินออกมาก็ปรายสายตาเย็น ๆ มองลูกชายตัวเอง

โจวกุยหลายรีบพูด “ไม่ใช่นะป๊า ป๊าเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้ว่าอะไรม้านะ”

หลินชิงเหอกินเค้กข้าวก่ำ ขณะที่โจวกุยหลายพูดกับเธอ “ทำไมจู่ ๆ ม้าก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะครับ? ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงแซ่จง? หมอดูที่ไหนดูให้ครับเนี่ย รู้สึกเหมือนเชื่อถือไม่ได้เลย”

“ทำไมจะเชื่อถือไม่ได้? หมอดูคนนั้นมีความสามารถจริง ๆ นะ ลูกถามป๊าของลูกได้เลย มีหมอดูคนหนึ่งดูว่าชะตาชีวิตของป๊ายังมีลูกสาวอีกหนึ่ง ม้าน่ะไม่เชื่อ แต่ป๊าของลูกเชื่อไปแล้ว และลูกเห็นท้องม้าไหม? อายุปูนนี้แล้วยังท้องได้อยู่อีก” หลินชิงเหอพูด

“เลวร้ายขนาดนี้เลยเหรอครับ” โจวกุยหลายพูดอย่างประหลาดใจ

โจวชิงไป๋ปรายตามองเขา “ม้าพูดอะไรก็เชื่อฟังซะ”

หลินชิงเหอส่งสายตารักใคร่ให้สามีหนึ่งที หลังจากนั้นก็ปรายตามองลูกชายตัวเอง “ได้ยินแล้วใช่ไหม มีแค่คนแซ่จงที่ไม่เหมาะสมกับลูก ต่อให้คนคนนั้นจะดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตด้วยกันได้หรอก”

นางเอกคนนั้นชื่อว่าจงฉิง เจ้าสามของเธอเพียงเห็นหล่อนครั้งแรกก็ตกหลุมรัก หลังจากนั้นความหายนะก็มาเยือนเขา

แม้ว่าตอนนี้จะไม่เหมือนกับต้นฉบับเดิมอีกแล้ว แต่หลินชิงเหอเป็นคนที่โดนงูกัดรอบหนึ่งแล้วสิบปีก็ยังกลัวเชือกอยู่* พระเอกของเรื่องยังดีกว่าหน่อย ที่เขาให้ความรู้สึกเหมือนเห็นอกเห็นใจเจ้าใหญ่ของเธออยู่บ้าง เธอจึงไม่ได้อคติกับเขาเท่าใดนัก

*ผิดเป็นครู รู้จักเข็ดหลาบ

แต่กับนางเอกคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะหล่อนมีแนวโน้มว่าจะเป็นตัวทำลายคนอื่น

……………………………………………………………………………………………………………………………

(1)เค้กที่มีแป้งข้าวเจ้าดำหรือข้าวก่ำเป็นส่วนผสมหลัก (ภาพจาก https://bit.ly/2UWaSFN)

สารจากผู้แปล

นางเอกของเรื่องเดิมจะปรากฏตัวตอนไหนนะ แม่จะไม่ยอมให้มาทำร้ายลูก ๆ ของแม่เด็ดขาด

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม

Status: Ongoing

<strong>*นิยายเรื่องนี้อยู่ในยุค 1960 เทียบกับ พ.ศ. คือ 2503 เป็นยุคที่ประเทศจีนอยู่ในช่วงปฏิรูปการปกครองโดยมีพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้นำ ดังนั้นสรรพนาม ฉากเรื่อง ตัวละคร จะไม่เหมือนกับภาพในนิยายจอมยุทธ์กำลังภายใน</strong>

<strong>จู่ ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูกสามในยุคปฏิรูปการปกครองปี 60 …</strong>

<strong>ใครจะไปคิดว่าชีวิตธรรมดาของ หลินชิงเหอ ผู้จัดการฝ่ายขายสาวจะเผชิญกับความไม่ธรรมดา หลังทะลุมิติเข้าไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่เธออ่าน ซึ่งต้องเผชิญกับความยากลำบากของสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น ไม่มีอะไรจะกินและไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะสวมใส่ แต่โชคยังดีที่เธอได้พื้นที่มิติส่วนตัวไว้เก็บของ ทำให้เธอรอดตายไปได้ชั่วคราว แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้นก็คือ บุตรชายทั้งสามของเธอดันเป็นตัวร้ายในอนาคตของนิยายเรื่องนี้น่ะสิ แถมสามีในมิตินี้ของเธอยังต้องพบกับจุดจบน่าอนาถอีกด้วย</strong>

<strong>ตัวประกอบแม่ลูกสามอย่างเธอจะเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องและเอาตัวให้รอดอย่างไรดีเนี่ย…</strong>

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท