กลางคืน
หน้าจอของคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่อง มีใบหน้าหล่อมากของสองคน
เย้นโม่หลินกำลังวิดีโอคอล โห้หลีเฉิน
ไม่มีใครพูดคุยกัน พวกเขาจ้องมองกัน บรรยากาศดูแปลกไปเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเย้นโม่หลินดูเหมือนได้ตัดสินใจอะไร แล้วพูดอย่างเก้อเขินว่า
“ผมมีคำถามอย่างหนึ่งจะต้องถามนาย”
โห้หลีเฉิน พิงเก้าอี้อย่างสบายอกสบายใจ แล้วพูดช้าๆว่า “พูดสิ”
“นายเคยหมดความสนใจต่อเย้นหว่านไหมครับ”
โห้หลีเฉินพูดว่า “ไม่เคยเลย”
มันเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ให้ความสนใจกับเธอมากที่สุด
โห้หลีเฉิน ว่องไวและเฉียบแหลมมาก ได้เข้าใจว่ามันเกิดอะไรบางอย่างในทันที และถามกลับว่า
“คุณหมดความสนใจต่อกู้จื่อเฟยแล้วหรือ”
เย้นโม่หลินส่ายหัว แต่พยักหน้าอีกครั้ง
เขาพูดอย่างขัดเคืองว่า
“ผมมีเรื่องหนึ่งคิดไม่เข้าใจเลย หลังจากที่กู้จื่อเฟยกลับมาคราวนี้ อยู่ดีๆผมก็ไม่สามารถจูบเธอได้แล้ว ผมไม่อยากจูบเธอ และก็ไม่อยากเข้าใกล้กับเธอมากเกินไป”
ผู้ชายต่างก็เป็นคนที่ทำตามเรื่องทางเพศ ปฏิกิริยาของร่างกายเป็นสัญชาตญาณมากที่สุด
มันเป็นเหตุผลที่เย้นโม่หลินรู้สึกว่าเขาหมดความสนใจกับกู้จื่อเฟยแต่ก็เป็นหมดความสนใจกับทางร่างกายเท่านั้น ในใจของเขา เขายังไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอ
โห้หลีเฉินเลิกคิ้ว “เคยอยากทำหรือ”
เย้นโม่หลินดูอึดอัดเล็กน้อย มอง โห้หลีเฉินและคิดว่าหงุดหงิดเล็กน้อย
เขาไม่รู้สึกละอายหรือ ที่ถามคำถามแบบนี้
ไม่น่าแปลกใจที่โกงน้องสาวของเขาให้ตั้งท้องก่อนแต่งงาน
เหยียดหยามเลย
แต่เย้นโม่หลินยังคงตอบอย่างเก้อเขินว่า “ก่อนหน้านี้ ถ้าเธอเข้าใกล้ผม ร่างกายของผมก็จะมีปฏิกิริยา”
ไม่ใช่แค่จูบเท่านั้น ที่ทำให้เขาคึกคัก แม้ว่าปกติกู้จื่อเฟยแซวเขา เขาก็อดกลั้นไว้ไม่ได้เกือบทุกครั้ง
แล้วไม่ได้เอาเธอทันที ก็เพราะเขาได้พยายามอดกลั้นตัวเอง
แต่ตอนนี้ เขาไม่ต้องอดกลั้นเลย เขาแทบไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
โห้หลีเฉิน หรี่ตาและถามว่า
“ยกเว้นเรื่องสนิทสนม คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเธอในเวลาอื่นๆ”
เย้นโม่หลินพูดว่า “เช่นกับเมื่อก่อน รักสงสารเธอ อยากให้สิ่งของที่ดีที่สุดกับเธอเสมอ และไม่ว่าเป็นอะไรก็ตามใจเธอ”
โห้หลีเฉิน พยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูด ดวงตาลึกซึ้ง ราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว แล้วพูดอย่างกังวลว่า
“ถามคำถามมากขนาดนี้ นายมีข้อสรุปอย่างไร”
หลังจากหยุดชั่วคราวเย้นโม่หลินพูดอย่างแน่วแน่อีกครั้งว่า “จุดประสงค์ที่ผมมาหานาย คือเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์นี้ ผมไม่อยากให้เธอเป็นเสียใจ”
เขาไม่ใช่ไม่ได้สังเกตเห็นถึงการจิตตกของกู้จื่อเฟย
ทุกครั้งที่เขาได้เห็น เขาก็รู้สึกทรมานและไม่สบายใจ คิดว่าตัวเองไร้ความสามารถ
โห้หลีเฉิน ยิ้ม”เรื่องนี้มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย”
สีหน้าของเย้นโม่หลินไม่ดีทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉิน พูดต่อ
“จริงๆแล้วนายสนใจใบหน้าเธอใช่ไหม แต่ว่านายไม่อยากยอมรับนั่นแหละ เพราะว่าไม่อยากเป็นผู้ชายเฮงซวย นายอาจดูใบหน้าแบบนี้ของเธอรู้สึกแย่มาก จึงไม่อยากเธอ
เย้นโม่หลิน”…”
จู่ๆเขาก็คิดว่าเขาทำผิดแล้วในการหาโห้หลีเฉินมาระบายความในใจ
ใครบอกว่า โห้หลีเฉิน เป็นคนที่จัดการเรื่องความรักความผูกพันเก่งและคนที่รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับการจีบสาว ที่แท้เป็นนักต้มตุ๋นเลย
“ในเมื่อนายไม่ชอบเธอ ก็ไม่ต้องคบกันแล้วนะหรือว่านายใช้โอกาสนี้เลิกกับเธอเถอะ”
“เป็นไปไม่ได้เลย”
เย้นโม่หลินปฏิเสธโดยไม่ได้คิดสักหน่อย จนกระทั่งอยากวางสายวิดีโอคอล
เขามาหาโห้หลีเฉินเพื่อค้นหาปัญหา ไม่ใช่หาโห้หลีเฉินมาให้เขาเลิกกันเลย
แล้วทำไมโห้หลีเฉินกับเย้นหว่านร่วมเป็นร่วมตายและสนิทกัน แต่พูดกับเขากลับเป็นท่าทางอย่างไม่มีความเคารพและถือความรักเป็นการเล่น
มันไม่น่าเชื่อถือแม้แต่น้อยเลย กวนตีนมากเลย
“ทำไมเป็นไปไม่ได้ล่ะ”
โห้หลีเฉินไต่ถามอย่างใคร่ครวญว่า “เพราะคำสัญญาเมื่อก่อน จะต้องรับผิดชอบต่อเธอหรือ”
เย้นโม่หลินขมวดคิ้วแน่นๆ เขาก็ตอบไม่ได้เลย
ที่จริง เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องความรับผิดชอบเลย แต่เขาได้ตัดสินใจแล้วว่ากู้จื่อเฟยเป็นภรรยาของเขา และจะอยู่ด้วยกันมาตลอดชีวิต
แม้ว่าเขาจะพบความรู้สึกนั้นกับ กู้จื่อเฟยไม่เจอ ในตอนนี้ แต่เขาก็ยังอยากจะมองดูเธอ และเขาจะรู้สึกสบายใจและจิตสงบหากเธออยู่ข้างกายเธอ
สิ่งที่คบกับเธอก็เหมือนกับความยึดเหนี่ยวของเขา
ทันใดนั้น สายตาของ โห้หลีเฉิน เฉียบแหลมขึ้น แล้วถามเขาตรงๆว่า
“เย้นโม่หลินนายรักกู้จื่อเฟยไหม”
เย้นโม่หลินนิ่งอึ้งไป คำถามนี้เขาจะไม่สามารถตอบได้เลย
กู้จื่อเฟยยังไม่ได้สอนเขาว่าความรักคืออะไร ก็ล้มเลิกแต่กลางคันแล้ว
โห้หลีเฉิน พูดต่อว่า
“ถ้ารัก แล้วคือรักเธอที่เมื่อก่อนหรือรักเธอที่ในตอนนี้”
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว “มันมีความแตกต่างอะไรหรือ”
“ถ้านายเข้าใจว่านายรักเธอหรือไม่ นายอาจก็รู้ว่าปัญหาของนายใบตอนนี้คืออะไรแล้ว”
โห้หลีเฉิน พูดจบก็วางสายวิดีโอคอล
คำพูดที่เขาควรพูดก็พูดได้หมดแล้ว
ความรักจะต้องการให้เย้นโม่หลินไปซาบซึ้งเอง
เย้นโม่หลินจับจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กลับมาที่เดสก์ท็อป จิตใจสับสนวุ่นวายเหมือนด้ายพันกัน
รักไหม
รักเธอที่เมื่อก่อนหรือรักเธอที่ตอนนี้
……
เย้นโม่หลินดูแลกู้จื่อเฟยและคบกันกับเธอตามปกติ
แต่สิ่งที่แปลกคือเขาเริ่มขาดสมาธิอย่างลึกลับซับซ้อน
และจ้องมองใบหน้าของเธออย่างตรงๆ มองมาเป็นเวลานาน สีหน้าสลับซับซ้อน ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ และเรียกเขาก็ไม่ได้ตอบทันเวลา
ครั้งนี้ก็เหมือนเดิมอีกครั้ง
กู้จื่อเฟยผลักเขา “นายอยากมองอะไรออกในใบหน้าฉันอ่ะ หรือว่าอยากให้รอยแผลเป็นของฉันหายไปโดยการมอง”
เย้นโม่หลินตอบโดยไม่รู้ตัว
“เปล่านะ ผมแค่คิดว่าเธอดูดีในทุกรูปร่าง”
คิ้วและตานั้น จมูกนั้น ปากเล็กๆนั้น แม้แต่เป็นรอยแผลเป็นที่เต็มใบหน้าของเธอ ก็คือรูปร่างที่ชื่นชอบมากที่สุดสำหรับเขา
กู้จื่อเฟยอดไม่ได้ที่จะขำ
จับมือเขาแล้ววางบนใบหน้าของตัวเอง เธอพูดอย่างลังเลใจเล็กน้อยว่า
“โม่หลิน ฉันอยากทำศัลยกรรมพลาสติก ได้ไหมคะ”
“ทำศัลยกรรมพลาสติกหรอ”เย้นโม่หลินงง
กู้จื่อเฟยพูดอย่างใจเด็ดจริงจังว่า
“หลังจากเรื่องการเสียโฉม แม้ว่าป่ายฉีจะช่วยฉันฟื้นคืนมาเป็นโฉมหน้าเหมือนเดิม ฉันก็คิดว่ามันไม่ใช่ของฉันอีกแลัว ฉันหาความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไม่เจอค่ะ
ยิ่งกว่านั้น ทุกครั้งที่เห็นหน้าเดิมของฉัน อาจจะนึกถึงความทุกข์ที่ถูกขีด ฉันไม่อยากให้อนาคตของฉันดิ้นหลุดชีวิตที่ฝันร้ายแบบนี้ไม่ได้
ในเมื่อการกำจัดรอยแผลเป็นก็ต้องทำการผ่าตัด งั้นฉันอยากเปลี่ยนใบหน้าค่ะ เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่แตกต่างไปจากเดิม และเผชิญกับชีวิตใหม่ในอนาคต”
เมื่อพูดจา เธอมีความประหม่าเล็กน้อย แล้วมองเย้นโม่หลินอย่างกระวนกระวายใจ “ยายคิดว่ายังไงคะ นายจะชอบใบหน้าใหม่ของฉันไหมคะ”
เย้นโม่หลินเม้มปาก ในใจของเย้นโม่หลินมีความรู้สึกซับซ้อนที่บอกไม่ออก
เมื่อก่อนแม้ว่ากู้จื่อเฟยจะไม่หลงตัวเอง แต่เธอก็มั่นใจมาก และก็ชอบใบหน้าของเธอเองมากเลย
แต่ตอนนี้เธอกลับไม่อยากเอวใบหน้าเดิมของเธอแล้ว
หน้าเสียโฉมมันมีผลกระทบขนาดใหญ่เช่นนี้หรอ…
เมื่อเห็นสีหน้าของเย้นโม่หลินกู้จื่อเฟยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
เธอกัดริมฝีปากและพูดเบาๆว่า “ยังไงนะคะ นายไม่เห็นด้วยเหรอคะ”
“ใช่ครับ”
เย้นโม่หลินตอบอย่างเคร่งขรึม
เขาก็ประหลาดใจมากเมื่อพูดคำนั้น
สำหรับข้อเรียกร้องของกู้จื่อเฟยเขายินยอมอยู่เสมอเลย เธอร้องขออะไรก็จะให้อะไรเธอ เธออยากทำอะไรก็ทำได้เลย ทุกสิ่งทุกอย่างก็เน้นความสุขของเธอเป็นหลัก
แต่ตอนนี้เธอขอร้องเขาจนขนาดนี้ และบอกว่าเธอจะกลัวด้วย แต่เขากลับ…
ปฏิเสธ