ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 706

ตอนที่ 706

บทที่ 706 จับสลาก

“วันนี้ถือเป็นวันที่ดี คนที่มาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ล้วนเป็นเยาวชนทั้งนั้น อืม ไม่เลวเลย เยาวชนเหล่านี้ล้วนเป็นความหวังของวงการศิลปะการต่อสู้ในอนาคต

อันดับต่อไปพวกเขาจะเข้าสู่การแข่งขัน ณ ที่แห่งนี้เพื่อคัดเลือกผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแน่นอนว่าผลคะแนนนั้นสำคัญ แต่ประสบการณ์ระหว่างการแข่งขันนั้นสำคัญกว่า หากใครที่สามารถเข้าถึงความหมายที่แท้จริงของศิลปะการต่อสู้ได้ นั่นถึงจะเป็นประโยชน์สูงสุด! ”

“แปะ แปะ แปะ!”

เมื่อโจ้ส์เอ่ยจบ ทุกคนในที่นี้ล้วนปรบมือจนเสียงก้องกังวานไปทั่วสนาม

“อันดับต่อไปผมขอประกาศว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกแห่งวาติกันเริ่มต้นขึ้น…… ณ บัดนี้!”

เสียงประกาศของโจ้ส์ดังกึกก้องไปทั่วทุกสารทิศราวกับเสียงฟ้าร้อง

ท่ามกลางเสียงปรบมือดังกระหึ่ม โจ้ส์ก็เดินถอยหลังกลับไปหลายก้าว

โอ้ตูรองเลขาธิการสหภาพยุโรปท่านนี้จึงก้าวออกมาด้านหน้า

โอ้ตูไม่เพียงแต่ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสหภาพยุโรปเท่านั้น เขายังดำรงตำแหน่งเลขาธิการของสหภาพศิลปะการต่อสู้ระดับโลกอีกด้วย

“ขอบพระคุณสำหรับการกล่าวเปิดงานของท่านประธานโจ้ส์เมื่อสักครู่ รวมถึงการสรุปเส้นทางของศิลปะการต่อสู้ตลอดสิบปีที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า! ”

ก่อนอื่นโอ้ตูเอ่ยชมการเกริ่นเปิดงานของท่านประธานโจ้ส์ จากนั้นจึงเอ่ยต่อ “ผู้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มีทั้งสิ้น 64 คน แบ่งเป็นทั้งหมด 16 กลุ่ม ช่วงแรกจะเป็นการแข่งขันในกลุ่มเล็กก่อน ผู้ที่ได้อันดับที่หนึ่งของกลุ่มเล็กก็จะเข้าสู่การแข่งขันรอบแปดคนจากสิบหกคน จากนั้นผู้ที่ได้อันดับที่หนึ่งก็ต้องไปแข่งกับอันดับที่หนึ่งของอีกกลุ่ม ผู้ชนะก็จะเข้าสู้รอบสี่คนจากแปดคน เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงการแข่งขันรอบสุดท้าย ช่วงระยะเวลาการแข่งขันทั้งสิ้นสิบเอ็ดวัน!”

“อย่างที่ทุกท่านทราบ การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกนี้เรียกได้ว่ามีความครึกครื้นเป็นอย่างมาก และหัวใจของการแข่งขันคือความยุติธรรม คณะกรรมการตัดสินทั้งหลายล้วนมาจากทั่วทุกมุมโลก และบรรดาคณะกรรมการจะไม่มีการแทรกแซงการแข่งขันของผู้เข้าแข่งขัน!”

“ที่กล่าวมานี้คือกระบวนการการแข่งขันทั้งหมด ผมคงไม่พูดมากแล้ว อันดับต่อไปขอเชิญท่านอู่จื่อโจวหัวหน้าคณะกรรมการผู้ตัดสินของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ขึ้นมากล่าวคำสาบาน”

เอ่ยยังไม่ทันจบ โอ้ตูก็หมุนตัวผายมือเชิญอู่จื่อโจวขึ้นมากล่าวสาบาน

“กระผมอู่จื่อโจว เป็นตัวแทนกล่าวสาบานของคณะกรรมการการตัดสินการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ พวกเรากลุ่มคณะกรรมการการตัดสินขอสาบานว่าจะปฏิบัติตามกฎของการแข่งขันในครั้งนี้อย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดความยุติธรรมสูงสุด!”

อู่จื่อโจวก้าวมาด้านหน้าหนึ่งก้าว ยกมือขวาขึ้นพร้อมกับกำหมัดพลางเอ่ยสาบานเสียงดังฟังชัด

“อันดับต่อไป ขอเชิญอาเธอร์หัวหน้าราชองครักษ์แห่งคูเรียวาติกันเป็นตัวแทนผู้เข้าแข่งขันขึ้นมากล่าวสาบาน!”

อู่จื่อโจวเอ่ยจบ สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปยังอาเธอร์ที่อยู่แถวแรกของทางฝั่งผู้เข้าแข่งขัน

อาเธอร์ก้าวออกมาด้านหน้าหนึ่งก้าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนเอ่ย “กระผมเป็นตัวแทนของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดขอสาบานว่าจะปฏิบัติตามกฎกติกาของการแข่งขันอย่างเคร่งครัด เคารพการตัดสินของกรรมการและผู้ตัดสิน!”

“ดี!”

เมื่ออาเธอร์กล่าวสาบานจบก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้องจากทุกคนในสนามอีกครั้ง

ตอนนี้โอ้ตูยังยืนอยู่บนเวที หน้าที่ขอเขายังไม่เสร็จสิ้น เขาในฐานะเลขาธิการองค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลก เป็นทั้งพิธีกรเปิดงานและยังมีหน้าที่แบ่งผู้เข้าแข่งขันออกเป็นกลุ่มเล็กโดยการจับสลากอีก

“ทุกท่านคงจะทราบอยู่แล้วว่าหัวใจสำคัญของการแข่งขันในครั้งนี้คือความยุติธรรม ก่อนเริ่มการแข่งขันจะมีการจับสลาก เราจะใช้วิธีการจับสลากเพื่อแบ่งกลุ่มผู้เข้าแข่งขัน!”

โอ้ตูชะงักไปสักพักแล้วผินหน้าไปมองจอขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของตนก่อนเอ่ยต่อ “ตามธรรมเนียมที่ผ่านมา ก่อนการแข่งขันในครั้งนี้จะมีการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันที่ค่อนข้างมีฝีมือออกมาสิบหกคน สิบหกคนนี้ประกอบด้วย อาเธอร์แห่งวาติกัน วิลเลียมแห่งสภามืด เติ้งนีแห่งสหภาพยุโรป เฉินเฟิงแห่งประเทศหวาและ……”

โอ้ตูเอ่ยจบ บนจอขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังก็ปรากฏรายชื่อและข้อมูลของทั้งสิบหกคน ผู้ชมต่างตกตะลึงก่อนจะรีบจับจ้องไปยังหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อมองหาอันดับของผู้เข้าแข่งขันที่ตนชื่นชอบ

การแข่งขันในครั้งนี้นอกจากเฉินเฟิง วิลเลียมและผู้เข้าแข่งขันทั้งสิบหกคนที่ค่อนข้างมีความสามารถถูกแบ่งแยกออกจากกันก่อนแล้ว ผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออีกสี่สิบแปดคนจะต้องต่อแถวเพื่อทำการจับสลาก

“เห้พวก เกิดอะไรขึ้น? ทำไมนายถึงถูกจัดอยู่กลุ่มที่สิบหกล่ะ? นายอยู่ในอันดับที่สี่ไม่ใช่หรือไง!” ท่ามกลางกลุ่มคน ศีลสามกระซิบถามเสียงเบา

“นั่นเป็นแค่การจัดอันดับโดยบริษัทลอตเตอรี เป็นคนละส่วนกับองค์กรการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก เรื่องการแบ่งกลุ่มยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย” จียุ่นที่อยู่ด้านข้างอธิบายอย่างใจเย็น

บนเวทีที่โอ้ตู อู่จื่อโจวยืนอยู่ มีกล่องใบหนึ่ง ในกล่องบรรจุลูกบอลเล็กอยู่ 48 ลูก บนลูกบอลจะมีหมายเลขตั้งแต่ 1 ถึง 48ตามจำนวนผู้เข้าแข่งขัน

“ขออย่าได้อยู่กลุ่มเดียวกันเลย หากต้องประชันกับอาเธอร์ เช่นนั้นจะไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย!”

“นายคิดว่าแค่ไม่เจออาเธอร์ก็รอดแล้วอย่างนั้นหรือ? เท่าที่ฉันดูไม่ได้มีแค่อาเธอร์ ยังมีวิลเลียม เติ้งนีรวมถึงเฉินเฟิงจากหวาเซี่ย ไม่ว่าจะเจอใครในกลุ่มนี้ก็จบสิ้นแล้วทั้งนั้น!”

“พวกเขาทั้งสิบหกคนล้วนไม่ธรรมดา คนไหนก็ไม่ควรปะทะด้วยทั้งนั้น หากคิดว่าจะพึ่งดวง เช่นนั้นยอมแพ้ตั้งแต่เนิ่นๆจะดีกว่า การแข่งขันในครั้งนี้ต้องอาศัยความสามารถเท่านั้น!”

โอ้ตูประกาศเริ่มต้นการจับสลาก เอ่ยจบผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ด้านล่างก็เกิดอาการกระสับกระส่าย ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบา

“เฉินเฟิง นายยอมแพ้ตอนนี้ยังทัน หากฉันได้อยู่กลุ่มที่สิบหกกับนาย เช่นนั้นนายก็ไม่ต้องแข่งต่อแล้วล่ะ อืม จะพูดให้ถูกก็คือชีวิตของนายคงต้องสังเวยไว้ที่นี่ และผู้ชมก็จะกลายเป็นคนกลุ่มสุดท้ายที่ส่งนายสู่สุคติ!”

ในขณะที่ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ด้านล่างกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ เมื่อรอน ชาย์เฟร์เอ่ยคำพูดอาฆาตมาดร้ายออกมา ทุกคนต่างก็เงียบเสียงกันหมด

“ใช่หรือ? คนก่อนหน้าที่พูดกับฉันแบบนี้ตอนนี้ไม่มีชีวิตอยู่แล้วล่ะ ส่วนหัวของนายก็ฝากไว้ที่นายก่อนก็แล้วกัน!”

เฉินเฟิงไม่ได้โมโหกับคำพูดของอีกฝ่าย ทว่าเขากลับตอบรับอย่างไม่ใส่ใจ

ถึงแม้เสียงของเฉินเฟิงจะไม่ดังทว่าทุกคนในที่นี้ล้วนได้ยิน จุดประสงค์ของเฉินเฟิงในครั้งนี้ไม่ใช่ตำแหน่งแชมป์แต่คือการฆ่าคน ไม่รู้ว่าทำไมความคิดแบบนี้ถึงปรากฏอยู่ในใจของทุกคนโดยไม่รู้ตัว

เฉินเฟิงเอ่ยจบเสียงวิจารณ์จากรอบด้านก็หยุดลงจนบรรยากาศเงียบกริบในพริบตา

วินาทีนี้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนล้วนจับจ้องไปที่เฉินเฟิง

แสงอาทิตย์อาบไล้ใบหน้าของเฉินเฟิงทำให้เกิดความรู้สึกที่แปลกไป สีหน้าไร้อารมณ์ของเขาไม่มีคลื่นอารมณ์เลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าคำพูดเมื่อสักครู่เล็กน้อยจนไม่จำเป็นต้องสนใจ

คนที่ดูเหมือนจะธรรมดาคนนี้ คำพูดที่เปล่งออกมากลับสั่นไหวจิตใจของทุกคนได้

เพราะเฉินเฟิงพูดถูกและมันคือความจริง เรียกได้ว่าตั้งแต่เฉินเฟิงฝึกฝนการต่อสู้ ต้องพบเจอกับอันตรายมามากมาย แต่เขาก็ผ่านมันมาได้อย่างง่ายดายทุกครั้ง

คู่ต่อสู้ที่ทำตัวสูงส่ง ก่อนการแข่งขันมีความมั่นใจเต็มร้อย ทว่าเฉินเฟิงก็ใช้ความจริงพิสูจน์ว่าอาศัยแค่ความปากเก่งนั้นไร้ประโยชน์

อีกทั้งเฉินเฟิงอาศัยความสามารถของตนเองในการบุกเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นแล้วฆ่าผู้แข็งแกร่งมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้แข็งแกร่งอันดับเทพทั้งสองคน ซึ่งเรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลกแล้ว และประเทศญี่ปุ่นก็รู้สึกอัปยศเป็นอย่างมากเพราะเหตุการณ์นี้

การที่มีคนบุกมาฆ่าถึงที่ ฆ่าคนไปมากมายแต่สุดท้ายคนผู้นั้นกลับรอดกลับไป ไม่มีเรื่องอะไรที่น่าโมโหและอัปยศไปมากกว่านี้แล้ว

อีกทั้งเฉินเฟิงมีเรื่องกับอิทธิพลอีกมากมาย ทว่าในสถานการณ์แบบนี้เขาก็ยังไม่มีความเกรงกลัว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน