ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 881

ตอนที่ 881

รอจนกระทั่งทุกอย่างสิ้นสุดลง เฉินเฟิงก็วางนายท่านลงไปที่เดิมก่อนจะช่วยสวมเครื่องช่วยหายใจให้กับเขาอีกครั้ง

“แค่นี้ก็จบแล้วงั้นหรอ?สรุปแล้วนายท่านป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่?” เฉินเฟิงกล่าวถามด้วยความสงสัย

หลงหลินหันมาถลึงตาใส่เฉินเฟิง ราวกับกำลังตำหนิความอยากรู้อยากเห็นของเขา

เมื่อเห็นอย่างนั้นเฉินเฟิงจึงไม่คิดที่จะไถ่ถามเอาความอะไรอีก แต่กลายเป็นว่าหลงหลินกลับเป็นฝ่ายบอกออกมาเสียเอง : “พิษหนาวจากใจ”

ทันทีที่หลงหลินพูดจบ ทางฝั่งเฟิ่งซีก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจทันที : “เป็นไปไม่ได้หรอก อาจารย์เคยบอกว่า พิษหนาว(เป็นพิษทำให้เลือดในร่างแข็งตัวจนเสียชีวิต)แบบนี้มันสาบสูญไปหมดแล้วนี่ พี่ดูผิดไปหรือเปล่า”

เฉินเฟิงที่เดิมทีมีข้อสงสัยอยากจะถามอยู่แล้ว เมื่อได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้นไปอีก

“ตอนแรกฉันก็คิดว่าตัวเองดูผิดไป แต่ว่าฉันตรวจดูไปตั้งสี่รอบแล้ว ซึ่งผลสรุปมันก็ออกมาเหมือนกันหมดเลย และถ้าหากจะต้องเลือกคำตอบใดคำตอบหนึ่งจริงๆ ฉันก็คงจะเชื่อว่ามีใครบางคนฝึกฝนเอา พิษหนาวนี้ออกมาใช้อีกครั้ง”

เฟิ่งซีถึงกับตะลึงงัน ในขณะที่ทางด้านเฉินเฟิงก็ยังคงไม่เข้าใจ : “พิษแบบนี้มันรักษาไม่หายงั้นหรอ?”

เฟิ่งซีกล่าวตอบ: “เมื่อหลายปีก่อนในตอนที่หลินชีงตี้มาหาอาจารย์ก็เป็นเพราะได้รับพิษนี้เข้าไป ซึ่งในตอนนั้นอาจารย์ได้เพียงแค่ชะลออาการกำเริบของพิษนี้บนร่างกายของหลินชีงตี้เท่านั้น โดยไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้”

เฉินเฟิงถึงกับต้องแอบตะลึง ถึงแม้จะรู้ว่าหลินชีงตี้เคยมารับการรักษาอาการป่วย แต่เขานั้นก็ไม่เคยรู้ว่ารักษาโรคอะไร คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีอาการเดียวกันกับนายท่านเชียน

“แล้วทำไมถึงต้องบอกว่ามันหายสาบสูญไปแล้วล่ะ ทั้งที่หลินชิงตี้ก็ได้รับพิษนี้เข้าไปไม่ใช่หรอ ?ซึ่งระยะเวลาจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็น่าจะยังไม่เกินยี่สิบปีด้วยซ้ำ” เฉินเฟิงถามอย่างสงสัย

เฟิ่งซีตอบกลับ: “นั่นก็เป็นเพราะว่าหลินชีงตี้นั่นแหละ หลังจากที่เขาได้สอบถามอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขของการทำพิษชนิดนี้ขึ้นมา เขาก็ได้เริ่มมีการสืบหา ก่อนที่จะทำการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ และด้วยชื่อเสียงและเกียรติยศของหลินชีงตี้จึงสามารถทำให้วัตถุดิบชนิดหนึ่งที่ยากในการสกัดออกมานั้น หมดหนทางที่จะสกัดมันออกมาได้อีก และนั่นเลยเป็นสาเหตุให้พิษชนิดนี้หายสาบสูญไปอย่างกะทันหัน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนหนีรอดจากเหตุการณ์วิบัติครั้งนั้นมาได้”

เมื่อนึกถึงความน่าเกรงขามของมหาปรมาจารย์ เฉินเฟิงก็สามารถเข้าใจได้ในทันที

แต่เขาก็ไม่วายต้องถามกลับอีกครั้ง: “แต่ในเมื่อท่านปูถูสามารถควบคุมพิษชนิดนี้ได้ อย่างนั้นหลงหลินก็คงน่าจะทำได้อยู่มั้ง”

เฉินเฟิงพูดพลางหันไปมองหลงหลิน ในขณะที่หลงหลินเองก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

แต่ว่าเฟิ่งซีกลับกล่าวแย้ง: “พี่ พวกเรากลับกันเถอะ !เรื่องนี้พวกเราช่วยอะไรไม่ได้หรอก และก็ไม่ควรเข้าไปช่วยด้วย”

หลงหลินถอนหายใจออกมา: “ฉันรู้ว่าเธอกำลังกังวลเรื่องอะไร แต่ด้วยความสัมพันธ์ของนายท่านเชียนและอาจารย์ แล้วไหนจะเรื่องของหยกลายมังกรอีก เรื่องนี้พวกเราจำเป็นต้องทำจริงๆ ”

เฟิ่งซีรีบแย้งกลับอย่างร้อนรน: “แต่ว่าคนที่วางยานั่น……。”

หลงหลินขัดคำของเธอทันที: “เธอไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้พวกเราอยู่ในบ้านตระกูลเชียน ต่อให้มีคนอยากจะมาแก้แค้นอะไร นั่นมันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพวกเรา”

เฟิ่งซีเป็นคนที่เชื่อฟังคำพูดของหลงหลินมาแต่ไหนแต่ไร และครั้งนี้ก็ไม่แตกต่างออกไป เมื่อหลงหลินพูดจบ เฟิ่งซีก็ไม่ได้พูดแย้งอะไรอีก แต่ความขุ่นเคืองที่แสดงออกมาบนใบหน้า กลับทำให้เห็นถึงการต่อต้านที่ไร้เสียงภายในจิตใจของเธอ

ทางด้านเฉินเฟิงที่เห็นสีหน้าของหลงหลินนิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงยิ่งไม่กล้าจะพูดอะไรไปมากกว่านั้น

ทางสามคนออกมาจากในนั้น โดยมีเชียนสวนยี่กำลังเฝ้าดูแลอยู่ด้านนอก

เมื่อเห็นทางสามคนเดินออกมา เชียนสวนยี่ก็รีบเดินเข้าไปหาทั้งสามทันที

เดิมทีเขาเป็นคนที่มองสง่าผ่าเผยอย่างมาก แต่ว่าเพราะความร้อนรนในตอนนี้ จึงทำให้ภาพลักษณ์ของเขาลดลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีใครมาชี้ว่าอะไรเขาได้ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับคำถาม: “คุณหนูฉาง ตอนนี้คุณพ่อเป็นยังไงบ้างครับ ?”

หลงหลินตอบกลับอย่างสงบนิ่ง: “ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้บอกเอาไว้แล้วว่าฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ดังนั้นอีกหลายวันจากนี้คงต้องรบกวนบ้านของคุณอีกเยอะเลย”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ เชียนสวนยี่ก็รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย เพราะอย่างน้อยคำตอบที่ได้ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้หนทางรักษา หรือว่าเป็นคำพูดที่ต้องรอพระประสงค์ของสวรรค์อะไรพวกนี้

เขาจึงรีบกล่าวขอบคุณทันที: “ขอบคุณทั้งสองอย่างมาก ที่ยินยอมอยู่ที่นี่เพื่อรักษาอาการป่วยของคุณพ่อ ส่วนในเรื่องของที่พักได้มีการจัดเตรียมไว้แล้วครับ”

จากนั้นเชียนสวนยี่ก็พาทั้งสามคนมายังพักยังลานเล็กสำหรับแขก โดยเป็นทีเดียวกับครั้งที่แล้วที่เฉินเฟิงได้มาพัก ซึ่งเป็นกระท่อมไม้ไผ่หลังหนึ่ง

แต่ทว่าครั้งนี้เป็นพวกเขาสามคนมาพักด้วยกัน

“ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ผมคงจะไม่รบกวนการพักผ่อนของพวกคุณสามคนแล้ว ไว้วันพรุ่งนี้ผมค่อยกลับมาหาพวกคุณอีกที”

รอจนกระทั่งเขาจากไป ทางด้านเฟิ่งซีก็ไม่มีอะไรสงสัยอีกแล้ว เพราะหากดูจากความพึงพอใจของเธอในตอนที่กลับเข้ามาอีกครั้งนั้น คาดว่าเธอคงน่าจะได้ออกเดินสำรวจป่าไผ่ที่อยู่ด้านนอกนี้ไปหนึ่งรอบแล้ว

ส่วนหลงหลินก็ไม่ได้สนใจอะไรกับการกระทำของเธอ เพียงเดินเข้าไปในห้องตัวเอง และถึงแม้จะเป็นการเดินสำรวจง่ายๆ แต่ดูเหมือนว่าจะเสียแรงไปไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะตอนนี้เธอดูท่าจะเหนื่อยล้าเอามากๆ

ทางด้านเฉินเฟิงเดินเข้าไปหาเฟิ่งซีแล้วพูดด้วยความห่วงใย: “คุณไม่จำเป็นต้องกังวลขนาดนั้นหรอก ที่นี่ยังมีผมอยู่ด้วยไม่ใช่หรือไง ผมจะดูแลความปลอดภัยของพวกคุณสองพี่น้องเอง”

เฟิ่งซีเหลือบหันไปมองเฉินเฟิง ราวกับว่าคำพูดนี้ของเขาจะทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นมา แต่เธอก็ยังแย้งกลับอย่างไม่สบอารมณ์ : “หากอยู่ในสถานการณ์จริง คุณจะทำอะไรได้”

เฉินเฟิงที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกไม่พอใจ ก่อนจะตอบกลับ: “จะยังไงผมก็เป็นคนในแดนระดับสูง แล้วผมจะไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร ขอเพียงไม่ใช่คนจากแดนมหาปรมาจารย์ ผมก็กล้ามั่นใจได้เลยว่ามีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละที่สามารถล้มผมได้”

เฟิ่งซีถึงกับต้องส่งเสียงเยาะเย้ยออกมา : “ถ้าหากว่าคุณต่อสู้เก่งขนาดนั้น ทำไมถึงได้ถูกพวกเราช่วยเอาไว้ล่ะ ต่อให้วิชาต่อสู้จะเก่งกาจขนาดไหน บางครั้งมันก็ไร้ประโยชน์ เพราะคนที่ต้องการจะทำร้ายคุณ พวกเขามักจะสามารถหาหนทางที่จะทำร้ายคุณจนได้”

เฉินเฟิงขมุบขมิบริมฝีปาก โดยไม่รู้ว่าจะเถียงกลับอย่างไรดี จากนั้นเขาจึงได้เพียงตอบกลับไปอย่างไร้ยางอายเท่านั้น: “ต่อให้พวกเขาอยากจะทำร้ายพวกคุณ ผมก็จะเข้าไปบังหน้าพวกคุณเอาไว้ คอยเป็นเกาะกำบังรับอาวุธเหล่านั้นแทนกับพวกคุณ ”

เฟิ่งซีได้แต่มองเฉินเฟิงอย่างอึ้งตะลึง ราวกับคิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะพูดประโยคแบบนี้ออกมาได้

แต่นั่นก็สามารถทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เพราะที่จริงแล้วระหว่างพวกเธอกับเฉินเฟิงเหมือนจะไม่ได้มีความสนิทสนมกันถึงขนาดนั้น

แต่ก็เป็นเพราะเฉินเฟิง จึงทำให้สกัดซี่ได้คลายความกังวลใจเมื่อสักครู่นี้ไป ทั้งอารมณ์ของเธอก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยเลย ก่อนที่เธอจะกวาดตาใส่เฉินเฟิง : “หึ คนกะล่อนปลิ้นปล้อน แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีแน่นอน ไปแล้วดีกว่า”

เมื่อด่าจบ เธอก็วิ่งหนีไปทันที เหลือเพียงเฉินเฟิงที่ยืนงงคนเดียวอยู่ตรงนั้น

จนในวันถัดมา ปรากฏว่าเชียนสวนยี่ได้มายังลานเล็กนี้ตั้งแต่เช้าเลย ก่อนจะกล่าวถามทั้งสามคนว่านอนหลับพักผ่อนกันสบายหรือไม่ พร้อมถามเรื่องอื่นๆ อีกเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยพาทั้งสามไปทานอาหารเช้า

ในระหว่างทางเชียนสวนยี่ก็พูดขึ้น: “วันนี้ผมไม่สามารถอยู่ดูแลพวกคุณทั้งสามแล้ว ในบ้านมีเรื่องบางอย่างที่ผมต้องไปจัดการ แต่ว่าผมได้จัดเตรียมคนที่จะมาอยู่ดูแลเป็นเพื่อนพวกคุณเอาไว้แล้ว ฉะนั้นพวกคุณไม่ต้องกังวลใจไป หากว่ามีเรื่องอะไรก็สามารถสั่งเขาได้เลย เขาจะช่วยเหลือพวกคุณอย่างเต็มที่แน่นอน”

แน่นอนว่าหลงหลินไม่มีความเห็นอะไรอยู่แล้ว จึงทำเพียงพยักหน้าเข้าใจ ส่วนเฉินเฟิงและเฟิ่งซีต่างก็ว่าตามสิ่งที่หลงหลินบอก ดังนั้นจึงยิ่งไม่มีความเห็นอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลังจากที่ทั้งสามทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เชียนสวนยี่ก็ได้พาเขาคนนั้นมาเจอพวกเขา และเมื่อแนะนำตัวก็ปรากฏว่าเขาเป็นหลานชายคนหนึ่งของเชียนสวนยี่ และเหมือนว่าจะเป็นรุ่นเดียวกันกับเชียนหนิงด้วย ซึ่งมีชื่อว่าเชียนชิว เขามีใบหน้าหล่อเหลาดูดี รูปร่างสูงยาวเข่าดี เป็นเหมือนร่างโคลนนิ่งอีกคนของเชียนสวนยี่ที่ดูสง่าผ่าเผยแบบนั้นเลย

แต่หลังจากที่เชียนสวนยี่จากไป เชียนชิวคนนี้ก็เหมือนจะมีความกระฉับกระเฉงขึ้นมา และความกระตือรือร้นที่เขามีต่อสองพี่น้องตระกูลฉางนั้นก็หาอะไรมาเทียบไม่ได้เลย

“พี่สาวทั้งสอง ถ้าหากว่ามีเรื่องอะไรให้ช่วยสามารถเรียกผมได้ทันทีเลยนะครับ คุณลุงบอกกับผมแล้วว่าขอเพียงแค่พวกคุณพูดมา ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องทำให้ดีที่สุด”

ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าในสายตาของเขาจะไม่มีเฉินเฟิงเลย

ไม่คิดเลยว่าเสน่ห์ของสองพี่น้องตระกูลฉางจะไม่มีใครสามารถต้านทานไว้ได้เลยจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าเสียดาย เพราะว่าสองพี่น้องตระกูลฉางดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อยเลย

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน