I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก – บทที่ 438: ไม่อยากช่วย!

บทที่ 438: ไม่อยากช่วย!

  SC:บทที่438: ไม่อยากช่วย!

  หลังจากที่คิดว่าครอบครัวของหลี่เฉิงหยีอาจจะไปที่ที่หลบภัยจากการเตือนของชูฉิงแล้วสิ่งสุดท้ายที่ทำให้หัวใจของหลินเฉิงเป็นกังวลก็หายไปด้วยเช่นกัน เขาหันไปมองชูฉิงที่อยู่ห่างออกไปอีกครั้งและพบว่าสายตาของเธอกำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างใจเย็น ทันใดนั้นเอง ปากของหลินเฉิงก็เปิดขึ้น จากนั้นเขาก็ตวัดขาไปโจมตีผู้ชายที่อยู่ข้างหลังของเขา ผู้มีพลังคนนั้นถูกเตะออกไป!

   ตอนนี้ที่คุณเลือกที่ของคุณแล้วผมก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดอีกต่อไป ผมแค่หวังว่าคุณจะเตรียมใจพอ เพราะผมไม่เคยอ่อนข้อให้กับศัตรู!  หลังจากที่เตะบุคคลที่มีพลังล่องหนที่แตะต้องเขา หลินเฉิงก็แกว่งดาบน้ำแข็งของเขาและพูดกับเหลียงเลาด้วยสีหน้าเย็นชา!

   อ๊าก!    เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้ความปราณีของหลินเฉิงเขาก็รู้ทันทีว่ามิตรภาพระหว่างทั้งสองได้หมดลง เหลียงเลาส่ายหน้าด้วยใบหน้าขมขื่น วินาทีนั้นเขารู้สึกเสียใจ เขาตัดสินใจเร็วเกินไปรึเปล่า?

  เมื่อคิดได้ดังนั้นเฒ่าเหลียงก็ยื่นมือของเขาออกมาและหยุดชายหนุ่มที่พร้อมจะเริ่มลงมือเมื่อเห็นว่าหลินเฉิงจะฆ่าเขา จากนั้นเขาจึงถอนหายใจออกยาวๆและพูดกับหลินเฉิง  หลิน ในชีวิตฉัน ฉันตัดสินใจเรื่องที่สำคัญกว่านี้มาแล้วนับไม่ถ้วน แต่การตัดสินใจวันนี้คือการตัดสินใจที่ฉันไม่แน่ใจมากที่สุด! โปรดเชื่อเถอะว่าที่ฉันทำแบบนี้ก็เพียงเพราะฉันต้องการให้พวกเรามีความหวังในการอยู่รอดให้ได้มากที่สุดในโลกที่วุ่นวายใบนี้… 

  เมื่อถึงตอนนี้เหลียงเห็นว่าท่าทางของหลินเฉิงดูช้าลง ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้หยุดเลยทันที แต่จิตสังหารของดาบน้ำแข็งนั้นหายไปอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเขาก็พูดต่อ  ฉันรู้ดีว่าผู้ที่ลังเลในการเลือกจะไม่มีจุดจบที่ดี แต่การตัดสินใจครั้งนี้หมายถึงความเป็นตายของกลุ่มดาบรัตติกาลของพวกเรา เพราะแบบนั้นฉันถึงเลือกที่จะให้ความร่วมมือด้วย แต่ถ้าหากพวกเราไม่พิจารณาถึงตัวเลือกของสำนักงานหลักตั้งแต่แรก พวกเราจะร่วมสู้กับนายแน่ และประสิทธิภาพในการสู้รบของนายก็จะได้เป็นที่ประจักกับทุกคน! เพราะฉะนั้น…. 

  ดูเหมือนว่าเขากำลังตัดสินใจเรื่องสำคัญมากๆในใจของเขาสีหน้าของเหลียงเปลี่ยนไปมาก และในที่สุดเขาก็กัดฟันและหันหลังกลับไปหาลูกน้องที่อยู่ด้านหลังและตะโกนออกมา  เจ้าหน้าที่ของดาบรัตติกาลทุกคนจงฟังคำสั่ง! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ พวกเราจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งมากกว่านี้! เข้าใจมั้ย? 

   นี่… 

   คุณเหลียงมันเหมาะสมหรอครับที่เราจะทำแบบนี้? 

   นั่นสิ่ครับคุณคุยกับทางสำนักงานใหญ่ก่อนดีรึเปล่าครับ?    เมื่อได้ยินความสั่งของเหลียงเลาเจ้าหน้าที่ของดาบรัตติกาลทั้งหมดต่างประหลาดใจ เพราะผู้มีพลังส่วนมากนั้นอาศัยอยู่ในฐานทัพสมุทรสีครามมาตั้งแต่ต้น ความเข้าใจและความน่ากลัวของฐานทัพ โดยเฉพาะความแข็งแกร่งของสำนักงานหลัก ไม่ใช่สิ่งที่คนภายนอกจะเข้าใจได้ และตอนนี้ เมื่อเห็นการตัดสินใจที่ไม่คาดคิดและสายตาเย็นชาของเหลียงเลา พวกเขาเริ่มก็รู้สึกหวาดกลัวทันที!

   พอแล้ว! 

  หลังจากที่ทำมือห้ามเหลียงก็ตัดสินใจทิ้งความคิดในการรายงานไปที่สำนักงานใหญ่ไป ในฐานะที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าหลักของดาบรัตติกาล เขารู้ดีว่าความคิดของเจ้าหน้าที่ของดาบรัตติกาลพวกนี้เป็นอย่างดี เขารู้ดีว่าการตัดสินใจที่กระทันหันของเขาสร้างผลกระทบกับความคิดของคนพวกนี้อย่างไร

  แต่ในเวลาเดียวกันด้วยพลัง ‘ศักยภาพในการการสังเกต’ ที่พิเศษของเขา สิ่งที่เหลียงกลัวมากที่สุดไม่ใช่สำนักงานใหญ่ที่ดูทรงเกียรติแต่ขาดความแข็งแกร่ง แต่เป็นพลังสุดยอดที่เขามองไม่เห็นและหลินเฉิงที่เป็นคนมาความสามารถระดับต้นๆที่เขากลัวมากที่สุด!

  ในฐานะของผู้อาวุโสที่เคยเห็นผู้มีความสามารถผ่านตามามากมายเหลียงมั่นใจว่าเมื่อผู้มีความสามารถละทิ้งข้อจำกัดทางศีลธรรมทั้งหมดไป ความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อฐานทัพสมุทรสีครามของเขาหรือเพื่อความต้องการส่วนตัว มันก็ไม่ต่างไปกับการสังหารหมู่นองเลือดอยู่ฝ่ายเดียว!

  ที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ก็เพราะครั้งนี้หลินเฉิงยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อยู่ แต่ถ้าหากเขาตั้งใจจะสู้กับบริษัทเห่ยซานจริงๆ เมื่อเขาถูกบังคับ เขาจะไม่คิดถึงเรื่องอัตราส่วนของคนตายที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นเลย และพวกเขาก็ไม่สามารถรับมือกับมันได้!

  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเหลียงไม่ต้องการจะสู้กับหลินเฉิงตั้งแต่แรกอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่เขาเจอหลินเฉิงครั้งแรก เขาก็สนใจชายหนุ่มผู้มีความแข็งแกร่งคนนี้เป็นอย่างมาก แต่เขาไม่คิดว่าความก้าวหน้าไประดับต่อไปของหลินเฉิงจะรวดเร็วขนาดนี้ เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้ คนที่ดูมีเหตุผลในสายตาเขาจะกล้าท้าทายทั้งฐานทัพสมุทรสีคราม

  ประเด็นหลักก็คือสำนักงานใหญ่ทั้งหมดถูกข่มขู่ด้วยคนๆเดียวซึ่งมันทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจภายในระยะเวลาสั้นๆ

  ฝ่ายหนึ่งคือฐานทัพสมุทรสีครามที่ฝั่งแน่นและมีประวัติยาวนานส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือหลินเฉิง ผู้ที่แข็งแกร่งจนไม่สามารถวัดได้ เมื่อคิดตามตรรกะของคนปกติ หลินเฉิงจะเลือกที่จะเข้าไปใกล้ฐานทัพสมุทรสีคราม เพราะอย่างๆที่แล้ว ไม่ว่าหลินเฉิงจะมีพลังมากแค่ไหน เขาก็มีเพียงตัวคนเดียว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะล้มกองกำลังที่ยิ่งใหญ่อย่างฐานทัพสมุทรสีคราม!

  แต่หลังจากคิดได้ดังนั้นจู่ๆเฒ่าเหลียงก็รู้สึกว่าถ้าเป็นคนอื่นๆอาจจะไม่สามารถทำได้ หลินเฉิง ชายผู้ที่เต็มไปด้วยความลับมากมาย ไม่ได้หวังว่าจะทำทั้งหมด ในฐานะหัวหน้าของดาบรัตติกาล เขารู้สึกผิดกับความเสียหายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าหากหลินเฉิงยอมให้ทางฐานทัพจับตัวอย่างง่ายดาย สำหรับเขาและดาบรัตติกาลแล้ว นั่นจะเป็นเรื่องที่ดีมาก!

  ดังนั้นหลังจากที่คิดเกี่ยวกับมันซ้ำแล้วซ้ำอีกในที่สุด เหลียงก็ตัดสินใจว่าจะไม่เข้าไปช่วย!

  ถึงแม้ว่ากำลังต่อสู้ของดาบรัตติกาลไม่ได้อ่อนแอแต่จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บก็ยังมากอยู่ดีเมื่อต้องสู้กับคนที่มีความสามารถระดับปีศาจอย่างหลินเฉิง ถ้าหากสำนักงานใหญ่พ่ายแพ้ให้กับหลินเฉิงเพราะขาดความช่วยเหลือ มันก็แสดงให้เห็นแค่ว่าพวกเขาไร้ความสามารถและไม่ควรได้รับการเลื่อนระดับ!

  แต่ถ้าหากหลินเฉิงพ่ายแพ้ให้กับสำนักงานใหญ่โดยปราศจากดาบรัตติกาลมันก็แสดงให้เห็นแค่ว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นยังไม่เพียงพอที่จะท้าทายกองกำลังล้าสมัยกองนี้ และมันก็เป็นเรื่องดีที่เขาจะพ่ายแพ้เพราะอย่างไรแล้ว คนหนุ่มมักจะมีไฟแรงกล้า แต่พวกเขาจะตาบอดไม่ได้!

  ส่วนเรื่องสถานการณ์ของเขาหลังจากที่การต่อสู้จบลง

  เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เหลียงก็ถูหน้าผากตัวเองอย่างอดไม่ไหว ตอนที่เขาตัดสินใจลงไป เขาก็ได้ตัดสินใจไปแล้วว่าไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะในตอนจบ ดาบรัตติกาลของพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะไม่มีส่วนร่วมได้อีกต่อไป ไม่ใช่แค่เพียงแค่เขาจะถูกตัดสิทธิ์ แต่แม้แต่ผู้คนที่เขาดูแลก็อาจจะต้องถูกตัดหัวหลังจากฤดูใบไม้ร่วงเช่นกัน!

  แต่ถึงอย่างนั้นเหลียงก็ยังยืนยันกับสิ่งที่เขาตัดสินใจไป เพราะไม่ว่าเส้นทางของดาบรัตติกาลหลังจากนี้จะยากเย็นแค่ไหน มันก็ยังดีกว่าสถานการณ์ที่น่าละอายเช่นนี้ ถึงแม้ว่าดาบรัตติกาลถูกตั้งว่าเป็นหน่วยงานอิสระตั้งแต่ตอนที่ก่อตั้ง แต่มันก็ยังเป็นแค่ภาพของนักสู้ในสายตาของพวกมีอำนาจเบื้องบน และตอนนี้ ก็ถูกส่งมาหยุดระเบิดปรมาณูของหลินเฉิง แต่เขากลับไม่ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ความรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออกทำให้เขารู้สึกขัดกับคำสั่งตั้งแต่ต้น และมันก็ขัดแย้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าคำสั่งจะสำเร็จ เขาก็คงไม่ดีไปกว่านี้เหมือนกัน!

  ————————————-

 

I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก

I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing

末世胶囊系统 เรื่องย่อ : หลินเฉิงได้ผูกมัดกับระบบแคปซูล ตราบใดที่เขามีค่าพลังงานเพียงพอ เขาสามารถแลกเปลี่ยนกับของเหล่านี้ได้ เช่น แคปซูลอาวุธ เครื่องป้องกัน  รถ  บ้าน หรือแคปซูลที่เพิ่มความสามารถต่างๆ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้หลินเฉิงดีใจ เพราะมันหมายความว่า เขาจะต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ ในวันสิ้นโลกที่จะมาถึง….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท