SC:บทที่522 ยุ่ง
เก็บแคปซูลเก็บของนี่ไปด้วย
หลังจากที่ยื่นแคปซูลเก็บของให้กับหยูซานหลินเฉิงก็พูดต่อ เธอนั้นอยู่กับฉันมานาน ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้มากพอเกี่ยวกับวิธีใช้แคปซูลพวกนี้ เพราะงั้นฉันจะไม่แนะนำอะไรเธอเพิ่ม เพียงแค่จำไว้ว่า อย่าใช้ต่อหน้าคนอื่น! แคปซูลบ้านนั่นสำหรับเธอแล้วครอบครัวป้าฉินที่จะลี้ภัยในกรณีที่เจอสถานการณ์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้หรือสภาพอากาศที่เกินทนเท่านั้น! ส่วนแคปซูลนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเธอ มันอยู่ในแคปซูลเก็บของ ฉันได้เก็บยาเพิ่มสมรรถนะคุณภาพสูงไว้จำนวนมาแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยมากนักในกรณีที่เป็นเธอ แต่มันก็ดีกว่าไปฝึกด้วยใบหน้าบึ้งตึงนั้น หลังจากที่ฉันไปแล้ว เธอต้องเชื่อมั่นในตัวเอง การเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ เธอต้องไม่ละทิ้งการฝึก เข้าใจไหม?
เข้าใจแล้ว!
เมื่อเห็นหลินเฉิงทำหน้าจริงจังหยูซานก็พยักหน้าอย่างหนักและพูด ไม่ต้องกังวล พี่หลิน ฉันอยู่กับพี่มานานแล้ว เพราะงั้นฉันได้เห็นผู้คนมากมายที่ตายเพราะไม่แข็งแกร่ง ดังนั้นฉันเข้าใจดีเกี่ยวกับความสำคัญของความแข็งแกร่ง ที่ซึ่งไม่ควรปล่อยให้ตก บางทีฉันอาจจะตามพี่ทันตอนที่พี่กลับมาก็ได้!
อ่า…
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและลูบหัวเด็กสาวที่ในที่สุดเธอก็กลับมาเป็นปกติ ถ้าอย่างงั้นเธอก็ต้องฝึกหนักแล้วล่ะ! ดี ตอนนี้น่ะยังไม่สาย เธอควรพักผ่อน เดี๋ยวฉันจะลงไปข้างล่างแล้วส่งเสี่ยวเตี๋ยกลับบ้านก่อน
พูดจบเขาก็หันหลังกลับและยังไม่ทันจะได้เดินไปเปิดประตูเพื่อจะออก
รอก่อนพี่หลิน! หยูซานรีบหยุดหลินเฉิงเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะออกไปและเมื่อเขาหันกลับมาและมองเธอด้วยความสงสัย เธอก็อธิบาย ฉันจะลงไปกับพี่ด้วยเหมือนกัน! เพราะว่าพี่เสี่ยวเตี๋ยนั้นอยู่ปลอบฉันมาตลอดตั้งแต่เที่ยงโดยที่ไม่ยอมไปไหนเลย เพราะงั้นฉันก็อยากจะไปส่งเธอด้วยเหมือนกัน ได้มั้ย?
หลินเฉิงยักไหล่หลังได้ยินแบบนั้น ก็ได้ งั้นก็รีบมา ไม่งั้นป้าฉินจะไปหาเธอที่ห้องนอนเสียก่อน
อ๋า!
หลังจากที่เห็นหลินเฉิงให้สัญญาหยูซานก็รีบกระโดดออกจากเตียงลงไปใส่รองเท้าแตะของเธอก่อนจะเดินลงไปด้านล่างกับเขาทันที
โย่ฉันคิดว่าพี่ลืมฉันแล้วซะอีก!
มองไปยังทั้งสองที่ลงมาจากบันไดหลี่เหมิงเตี๋ยที่กำลังนอนอยู่บนโซฟาและหั่นผลไม้ก็ลุกขึ้นมาและมองไปยังพวกเขา ฟังปากคอที่เราะร้ายของหลี่เหมิงเตี๋ยหลินเฉิงก็ขี้เกียจที่จะเถียงกับเธอและจ้องไปที่เธอก่อนจะบ่นเรื่องอื่นแทน เป็นเด็กเป็นเล็กควรทำตัวร้ายกาจให้มันน้อยๆหน่อยนะ ไม่รู้เหรอว่าเด็กอย่างเธอน่ะเอาชนะง่ายจะตาย?
เขาพูดพร้อมมองเวลาและก็พบว่ามันเกือบจะ 4 ทุ่มแล้ว จากนั้นจึงรีบพูดต่อ มันดึกแล้วนะเนี่ย ถ้าฉันไม่ส่งเธอกลับไปมีหวังป้าฉินได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอีกแน่ๆ ยังไงก็ตาม ฉันยังไม่ได้ขอบคุณเธอที่ช่วยไปคุยกับหยูซานให้ในวันนี้เลย เอาเป็นว่าจะพาไปจัดหนักมื้อใหญ่หลังจากฉันเคลียร์เรื่องยุ่งๆในวันพรุ่งนี้เสร็จแล้วเป็นไง?
แต่กระนั้นหลี่เหมิงเตี๋ยก็ส่ายหน้าและถอนหายใจ งานต่างๆภายในฐานมันเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว ฉันเองก็จะเริ่มออกไปทำงานกับทีมเพื่อหาวัตถุดิบพรุ่งนี้แล้วเหมือนกัน เพราะงั้นมันจะไม่มีโอกาสที่จะได้กินจัดหนักอะไรนั่นกับพี่แล้ว แต่ว่านะ ฉันยังสามารถอยู่แล้วก็กินมื้อใหญ่กับพี่ได้ก่อนที่จะไปทำงานได้อยู่นะ!
งั้นก็ดีมาตัดสินใจกันก่อน!
หลินเฉิงพยักหน้าให้กับคำพูดของหลี่เหมิงเตี๋ยและเขาพึงพอใจในการรักษาเสถียรภาพให้กลับมาเป็นปกติของผู้อาวุโสเหลียงอย่างมากคุณก็รู้ ฐานระดับสูงแห่งนี้มีผู้รอดชีวิตกว่า 1 แสนคนที่ต้องเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งคืน ซึ่งนั่นเท่ากับความวุ่นวายในระดับแผ่นดินไหวเลย ไม่ว่าจะเป็นใคร แต่เรื่องนี้มันยากที่จะทำให้สำเร็จในไม่กี่วัน แต่ผู้อาวุโสเหลียงและดาบรัตติกาลของเขาช่วยควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แถมยังทำให้งานต่างๆภายในฐานกลับมาเริ่มได้ปกติอีกด้วย
ถ้างั้นฉันกลับก่อนละกัน ไปแล้วนะ หยูซาน
หลี่เหมิงเตี๋ยมองนาฬิกาข้อมือแล้วก็พบว่าเวลามันล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้แล้วเธอรีบยืนขึ้นและกล่าวคำลาแก่หยูซานด้วยรอยยิ้มจากนั้นก็เตรียมตัวพร้อมที่จะกลับบ้าน
บ๊ายบายพี่เสี่ยวเตี๋ย~ หยูซานยิ้มและตอบรับอย่างรวดเร็วหลินเฉิงมองทั้งสองที่ดูจะพัฒนาความสัมพันธ์กันได้แบบก้าวกระโดดตลอดบ่ายนี้ มันเป็นที่น่าพอใจมาก จากนั้นเขาก็เปิดประตูและส่งหลิงเหมิงเตี๋ยกลับบ้านไป
…
เช้าวันต่อมา
นี่มันแค่อาหารเช้าเองนะยัยเปี๊ยก ทำไมถึงทำซะยังกับบ้านรวยขนาดนี้เนี่ย?
หลินเฉิงผู้ที่เพิ่งจะอาบน้ำอาบท่าเสร็จและนั่งลงไปบนโต๊ะกินข้าวเขามองโต๊ะทืี่เต็มไปด้วยเนื้อและผักมากมายก่อนจะพูดกับหยูซานผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆเขาและฮัมเพลงขณะป้อนอาหารเทียนซือด้วย
ได้ยินดังนั้นหยูซานก็ลูบหัวเทียนซือเบาๆจากนั้นก็ให้มันไปเล่นที่อื่นก่อนเพื่อที่จะได้หันมาอธิบายให้หลินเฉิงฟัง ฉันคิดว่าแบบนี้น่ะพี่หลิน ถ้าเกิดพี่ออกไปแล้ว พี่ก็จะไม่ได้กินอาหารฝีมือฉันไปอีกนานเลย เพราะงั้นฉันเลยอยากจะทำอาหารอร่อยๆให้พี่กินก่อนที่พี่จะไปไง…
ฟังที่หยูซานอธิบายหลินเฉิงก็หยิบเอาตะเกียบขึ้นมาและจ้องไปยังซุปสตูวปลาที่ดูจะหนักที่สุดบนโต๊ะอาหารในตอนนี้เลย เขายิ้มฝืนๆและถาม จริงๆไม่ต้องทำสตูวปลาตัวใหญ่ขนาดนี้เป็นมื้อเช้าก็ได้นะ หรือมันจำเป็น?
เธอไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะหยิบเอาชามเปล่าและตักน้ำซุปนั้นก่อนจะส่งให้หลินเฉิง ไม่เป็นไรหรอกพี่หลิน พี่กินปลาไม่หมดหรอก เชื่อสิเดี๋ยวมันก็เป็นอาหารของโคล่ากับเทียนซือ พวกนั้นเป็นนักกินตัวยงอยู่แล้ว เพราะงั้นมื้อนี้น่ะเล็กไปสำหรับพวกมันด้วยซ้ำ…
นี่เดี๋ยวนี้เธอทำอาหารโดยคำนึงถึงสัตว์เลี้ยงก่อนฉันเหรอ!?
เด็กสาวกล่าวขอโทษที่ทำให้เขาต้องรอหลินเฉิงส่ายหน้าแบบช่วยไม่ได้ก่อนจะหยุดพูดเรื่องนี้และรับชามซุปมาก่อนจะเริ่มจัดการมื้อเช้าที่ยิ่งใหญ่นี้อย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงที่จัดการอาหารเช้าแบบหนักหน่วงนี่โคล่าเทียนซือก็ได้เข้าร่วมในสงครามอาหารมื้อใหญ่นี้โดยสมบูรณ์เพื่อจัดการอาหารบนโต๊ะให้หมด
หลินเฉิงนั้นรู้สึกแน่นท้องไปหมดเขาไม่สามารถยืนได้อีกแล้วทำให้ได้แต่นั่งอยู่บนเก้าอี้และพ่นควันออกมาด้วยความสุขโดยไม่ขยับไปไหนทั้งนั้น
พี่หลินจะไปวันนี้หรือเปล่า?
เธอรีบเก็บจานเปล่าทั้งหลายและเอาไปล้างในครัวก่อนจะรีบเดินออกมาเมื่อเห็นว่าหลินเฉิงนั้นดูเตรียมพร้อมที่จะออกไปแล้วเธอจึงตะโกนถามไปก่อน
เมื่อเขาได้ยินเสียงเรียกหลินเฉิงก็หันกลับไปหาเธอ พยักหน้าและเอ่ยถาม มีอะไรหรือเปล่า?
หลินเฉิงที่กำลังจะไปแล้วจริงๆทำให้หยูซานขมวดคิ้วช้าๆก่อนจะพูดขึ้น ไม่หรอก ก็แค่เพิ่งจะคิดได้ว่า พี่หลินน่ะยุ่งมากๆทุกวันเลยนะตั้งแต่พี่มาถึงที่นี่ พี่ดูยุ่งกว่าตอนอยู่ข้างนอกซะอีก…
การมีชีวิตอยู่น่ะมันยากนะนับประสาอะไรกับบั้นปลายชีวิต ถ้าเธอไม่สู้ เธออาจจะตายวันนี้เลยก็ได้
เขารู้ว่าเธอนั้นตกหลุมรักเขาหลินเฉิงยิ้มและลูบหัวไหล่เธอเบาๆและปลอบเธอ มันยากมากๆสำหรับการมีชีวิตอยู่ของแต่ละคน นับประสาอะไรกับโลกที่ชิงถึงจุดจบไปก่อน เธออาจจะตายตอนไหนก็ได้ที่เธอเลิกที่จะดิ้นรน ฉันเองก็ไม่อยากจะออกไปข้างนอกทุกวันหรอก แต่เพราะว่าทุกๆวันมีเรื่องที่จำเป็นต้องออกไป เพราะงั้นฉันถึงต้องออกไปทุกวัน