Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน – ภาค 35 ตอนที่ 24 การเข้าโจมตีของประมุขเกาะจันปา

ภาค 35 ตอนที่ 24 การเข้าโจมตีของประมุขเกาะจันปา

เหล่าประชากรจำนวนนับไม่ถ้วนของเมืองฟู่จวินเงยหน้าขึ้นมองรอยแยกของห้วงอากาศอันบิดเบี้ยวขนาดมหึมาสายแล้วสายเล่าที่แผ่ไปทั่วเวหาเบื้องบนของเมือง มองดูเหล่ามารแหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลี

มีบางคนที่หลั่งน้ำตาด้วยความยินดี

มีพลเมืองบางคนที่คุกเข่าลงร้องไห้คร่ำครวญอย่างใหญ่โต

แสดงอากัปกิริยาต่างๆ นานากันทั่วทุกหนแห่งภายในเมือง

ถึงอย่างไรยิ่งเป็นผู้บำเพ็ญ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานต่างก็สามารถขัดเกลาจิตแห่งวิถีของตนออกมาได้ เพียงแต่ว่าระดับขั้นการฝึกจิตใจสูงต่ำต่างกันเท่านั้นเอง แต่เพียงแค่มีชีวิตอยู่ได้นานถถึงระดับหนึ่ง ต่างก็มีความคิดที่ฝังแน่นพอด้วยกันทั้งสิ้น ความกังวลก็ยิ่งมาก ก็ยิ่งเพิ่มความไม่ยอมจำนนแล้วก็ตายไปเช่นนี้ พวกเขายังมีเรื่องที่อยากทำมากมายเหลือเกิน

การบูชาโลหิตมาถึง พวกเขาก็ไม่ยอมจำนนใจจริงๆ แต่ก็ไร้ซึ่งกำลัง! ดังนั้นการช่วยเหลือของตงป๋อเสวี่ยอิงก็เป็นการช่วยเหลือพวกเขาออกมาจากหุบเหวลึกแห่งฝันร้าย ก็ย่อมมีอากัปกิริยาแตกต่างกันไปอยู่แล้ว

“ก็เป็นผู้แกร่งกล้าน่าหวาดหวั่นผู้นั้นอีกแล้วหรือ” เทพจักรวาลแห่งเกาะจันปาที่ควบคุมผนึกสมบัติลับล้ำค่าอยู่ด้านนอกเมืองมองดูรอยแยกของห้วงอากาศสายแล้วสายเล่ากลางอากาศอย่างหวาดหวั่น เขาคิดอยากหนีขึ้นมาในทันใด!

“หนีหรือ”

เสียงเยียบเย็นดุจน้ำแข็งสายหนึ่งดังขึ้นในห้วงสมองของเทพจักรวาลผู้นี้

ปึง

จากนั้นระลอกคลื่นอันไร้รูปร่างก็โจมตีบนร่างของเขา ร่างของมารระดับเทพจักรวาลผู้นี้ถูกแยกสลายไปในทันที พลพรรคมารที่เคลื่อนไหวในครั้งนี้ถูกผลาญสังหารจนสิ้นอีกครั้ง

……

และที่เกาะจันปา

ประมุขเกาะจันปานั่งอยู่ในตำแหน่งสูง บรรดาลูกน้องของเขาก็กระจายตัวกันอยู่ภายแต่ละแห่งในโถงตำหนัก แต่ละคนมองดูทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองฟู่จวินอยู่ห่างๆ ผ่านกระจกยลฟ้า

ตอนที่ตงป๋อเสวี่ยอิงตะโกนอย่างโกรธเคืองแล้วสำแดงกระบวนท่าผลาญสังหารที่กินอาณาบริเวณใหญ่โตนั้นเอง

“เป็นเขาอีกแล้วหรือ” ร่างกายอวบอ้วนหาใดเปรียบของประมุขเกาะจันปาสั่นสะท้านขึ้นมาด้วยความโมโห ดวงตาเล็กทั้งคู่จ้องมองภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่บนกระจกยลฟ้า

ประมุขเกาะจันปาก็คือผู้แกร่งกล้าระดับเทพจักรวาลขั้นสุดยอด เป็นถึงมารที่ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน เขาปกครองกุมอำนาจอย่างโอหังมาเป็นระยะเวลายาวนานไร้ที่สิ้นสุด ต่อให้เป็นบุคคลผู้ไร้เทียมทานก็ฆ่าไม่ตาย! ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดกล้ามาทำการยุแหย่เขามาเนิ่นนานเหลือเกินแล้ว คราวก่อนเขาก็แค่ทำเป็นว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เรื่องเช่นเดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง ประมุขเกาะจันปาเข้าใจว่านี่ย่อมมิอาจเป็นเรื่องบังเอิญได้อย่างแน่นอน!

ดินแดนจิตโลกากว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด

จะบังเอิญเผชิญกับผู้แกร่งกล้าคนนี้อย่างต่อเนื่องกันถึงสองครั้งได้อย่างไรกัน นอกจากนี้ที่ต่อเนื่องกันทั้งสองครั้ง การบูชาโลหิตล้วนดำเนินไปเป็นระยะเวลาสั้นนิดเดียวเท่านั้น ผู้แกร่งกล้าผู้ลึกลับผู้นั้นจึงลงมือ!

มาดูตอนนี้ ผู้แกร่งกล้าผู้ลึกลับผู้นี้คงจะได้รับข่าวแล้วรีบมา

“นี่มันตบหน้าข้า จันปา เลยทีเดียวนะ!” ประมุขเกาะจันปายืนขึ้นมา

โถงตำหนักก็เงียบงันลงไปเสียแล้ว

ทุกคนมองไปทางประมุขเกาะบ้านตน

“พรึ่บ”

ประมุขเกาะจันปาพลันยื่นมือออกมา สองมือราวกับมีพลังอันน่าหวาดหวั่นเสียดฟ้า คว้าจับกลางห้วงอากาศ แคว่ก… ฉีกเปิดประตูห้วงมิติแห่งหนึ่งออกมา สามารถเห็นเมืองฟู่จวินที่อีกด้านหนึ่งของประตูได้! ร่างอวบอ้วนหาใดเปรียบของประมุขเกาะจันปาก้าวยาวๆ ก้าวหนึ่งก็ก้าวผ่านประตูห้วงมิติแห่งนี้ ไปถึงด้านนอกเมืองฟู่จวินแล้ว

“ท่านประมุขเกาะจะห้ำหั่นกับผู้แกร่งกล้าผู้ลึกลับผู้นั้นขึ้นมาแล้ว” เหล่ามารระดับเทพจักรวาลของเกาะจันปาภายในโถงตำหนักกลุ่มหนึ่งกลับมีความชุลมุนกันขึ้นมา ถึงขนาดที่มีจำนวนไม่น้อยเผยสีหน้ากระวนกระวายออกมา

“คราวก่อนผู้แกร่งกล้าผู้ลึกลับผู้นั้นก็จัดการพลพรรคของเกาะจันปาเรา คราวนี้ก็ลงมืออีก มีความแค้นกับเกาะจันปาของพวกเราใช่หรือไม่”

“พวกเราล้วนไม่รู้จักเขากันทั้งสิ้น บางทีอาจมีความแค้นกับท่านประมุขเกาะก็เป็นได้”

“ท่านประมุขเกาะห้ำหั่นกับผู้แกร่งกล้าผู้ลึกลับ ท่านประมุขเกาะมีพลังยุทธ์กล้าแกร่งก็ย่อมไม่หวั่นกลัวอยู่แล้ว แต่ถ้าหากผู้แกร่งกล้าผู้ลึกลับผู้นั้นลงมือกับพวกเราขึ้นมาเล่า ก็คงจะวุ่นวายใหญ่โตเสียแล้ว”

บรรดามารระดับเทพจักรวาลเหล่านี้ต่างก็มีความกระวนกระวายลุกลี้ลุกลนอยู่บ้าง

“วางใจเถิด ท่านประมุขเกาะได้จัดวางค่ายกลเอาไว้บนเกาะอย่างหนาแน่นมาเป็นระยะเวลาอันยาวนานแล้ว ต่อให้บุคคลผู้ไร้เทียมทานมาถึง ท่านประมุขเกาะก็ยังสามารถต้านรับซึ่งๆ หน้าได้ ขอเพียงแค่พวกเราอยู่ภายในเกาะก็คงจะไม่มีอันตรายแล้วล่ะ”

“หรือว่าพวกเราจะซ่อนตัวอยู่กันภายในเกาะตลอดไปเลยดีเล่า”

พวกเขาวิพากษ์วิจารณ์ไปพลาง พินิจดูเหตุการณ์ด้านนอกเมืองฟู่จวินผ่านกระจกยลฟ้าไปพลาง

******

ด้านนอกเมืองฟู่จวิน

ตงป๋อเสวี่ยอิงผลาญสังหารมารระดับเทพจักรวาลผู้นั้น แล้วเก็บเอาสมบัติลับล้ำค่าที่มารตนนั้นทิ้งเอาไว้ขึ้นมา รวมถึงสมบัติลับล้ำค่าต้องห้ามชิ้นนั้นด้วย แล้วก็รู้สึกได้ว่าห้วงมิติด้านข้างถูกฉีกทึ้งเปิดออกมา เงาร่างอวบอ้วนสายหนึ่งก้าวยาวๆ ก้าวหนึ่งก็ข้ามผ่านระยะทางอันไกลโพ้น เดินเข้ามาผ่านประตูห้วงมิติที่ฉีกขาดนี้

“เป็นเขา ประมุขเกาะจันปาหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงกระจ่างแจ้งในใจ

ทุกคนที่ไปถึงระดับสุดยอด เคล็ดลับวิชาก็ยิ่งทวีความลึกลับมิอาจคาดคะเนได้

เหมือนกับตน เพราะฝึกกายคละถิ่นชั้นที่สอง หลังผ่านการทำให้สมบูรณ์แบบของตนแล้ว ลำพังแค่ระดับความแข็งแกร่งของร่างกาย เกรงว่าคงจะเทียบเคียงได้กับยอดฝีมือระดับสุดยอดทางด้านการหลอมกายแล้ว แต่เคล็ดลับวิชาควบคุมร่างกายนานาชนิดกลับมิอาจเทียบเคียงได้เลย อย่างเช่นพวกเจ้าศิลา การรวมและกระจายร่างไม่ธรรมดา สามารถปรากฏตัวที่แห่งหนใดในโลกกำเนิดได้ในพริบตา อาศัยร่างกายรับสัมผัสโลกกำเนิด ก็สามารถตรวจตราทุกหนแห่งของโลกกำเนิดได้ในพริบตา…

วิธีการต่างๆ นานาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ตงป๋อเสวี่ยอิงไม่มี!

แต่ทางด้านวิถีอากาศ ผสานรวมกับเคล็ดสืบทอดลับ เจ็ดกระบวนคละถิ่น เคล็ดวิชาที่ตงป๋อเสวี่ยอิงสำแดงนั้นเป็นสิ่งที่ยอดฝีมือวิถีอากาศขั้นสุดยอดจำนวนมากพอสมควรต่างก็ไม่เข้าใจกันสักเท่าใดนัก พวกเขาใช้พลังคละวิถีได้ห่างชั้นกับตงป๋อเสวี่ยอิง ทำให้ตงป๋อเสวี่ยอิงเข้าใจกระจ่างว่าความเร้นลับของวิถีอากาศยังอ่อนแออยู่พอสมควร ยังคงแสดงพลังรบขั้นสุดยอดออกมาเช่นเดิม

“ประมุขเกาะจันปาเป็น ‘สายพละกำลัง’ ขึ้นชื่อลือชาในด้านความโอหังในทางสายพละกำลัง เพียงแต่ว่าไปถึงขั้นสุดยอดแล้วก็มีสิ่งที่เกินกว่าจินตนาการต่างๆ นานา เป็นศัตรูตัวฉกาจคนหนึ่ง!” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบพึมพำ

ดูที่ดินแดนจิตโลกา ผู้ที่ไปถึงระดับสุดยอดทางสายพละกำลังมีเพียงแค่สองท่านเท่านั้น คนหนึ่งคือประมุขเกาะจันปา อีกคนหนึ่งคือจักรพรรดิเทพผลาญโลกา! จักรพรรดิเทพผลาญโลกามีสุดยอดสมบัติลับล้ำค่าอยู่ พลังยุทธ์ก็ย่อมต้องยิ่งน่าหวั่นเกรงอยู่แล้ว

“สมควรตาย”

ประมุขเกาะจันปามาอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง ไม่สามารถช่วยเหลือเทพจักรวาลใต้บังคับบัญชาผู้นั้นได้ เขาก็เดือดดาลจนตาแทบถลน

ถึงแม้ว่าใต้บังคับบัญชาของเขาจะมีเทพจักรวาลอยู่ถึงสิบกว่าคน แต่ภายในระยะเวลาอันสั้นก็ตายอย่างต่อเนื่องไปถึงสองคน แล้วเขาจะไม่โมโหได้อย่างไรกันเล่า

“เจ้าจงใจเป็นปฏิปักษ์ต่อข้าอย่างนั้นหรือ” ประมุขเกาะจันปาถลึงตามองตงป๋อเสวี่ยอิง ห้วงอากาศโดยรอบกำลังบิดเบี้ยว พรึ่บๆๆ ระลอกคลื่นอันไร้รูปร่างแผ่กระจายออกไปโดยมีประมุขเกาะจันปาเป็นศูนย์กลาง ปกคลุมทั่วบริเวณโดยรอบ อีกทั้งยังกดดันพันธนาการตงป๋อเสวี่ยอิงเอาไว้ด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาเดือดดาลหาใดเปรียบ

และด้วยห้วงมิติชั้นแล้วชั้นเล่าโดยรอบร่างของตงป๋อเสวี่ยอิง เคล็ดวิชาของประมุขเกาะจันปาย่อมไม่สามารถสัมผัสถูกร่างของตงป๋อเสวี่ยอิงได้อย่างแท้จริงอยู่แล้ว

“ไม่รู้ว่าข้า จันปา ไปเป็นศัตรูกับเจ้าตั้งแต่เมื่อใดกัน ได้โปรดพูดมาดีกว่า ดีร้ายอย่างไรก็ให้ข้าได้เข้าใจสักหน่อยเถิด” ประมุขเกาะจันปาเอ่ยเสียงต่ำ ดวงตาเล็กทั้งคู่จ้องมองตงป๋อเสวี่ยอิงอย่างเต็มไปด้วยความร้ายกาจ

“เป็นศัตรูหรือ ระหว่างเจ้ากับข้า นี่เป็นครั้งแรกที่พบหน้ากัน” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

“ครั้งแรกหรือ” ประมุขเกาะจันปาขมวดคิ้ว “หรือว่าการสังหารของผู้ใต้บังคับบัญชาของข้า ไปสังหารญาติสนิทมิตรสหายของเจ้าเข้าอย่างนั้นหรือ”

“ไม่เคยเลย” ตงป๋อเสวี่ยอิงส่ายศีรษะ

“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงได้คอยเป็นปรปักษ์กับข้า สังหารผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้ล่ะ” ประมุขเกาะจันปาถามอย่างโมโห

ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยอย่างเย็นชา “ทำไมเล่า ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้ากล้าสังหารหมู่บูชาโลหิตเมืองแห่งหนึ่ง แล้วข้ายังไม่สามารถสังหารพวกเขาได้อีกหรือไร”

“เจ้าสังหารพวกเขาเพราะการบูชาโลหิตอย่างนั้นหรือ” ประมุขเกาะจันปายากที่จะเชื่อได้

“ใช่แล้ว ก็เป็นเพราะการบูชาโลหิตนั่นแหละ! มารเหล่านี้ย่อมสมควรตายอยู่แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยอย่างเรียบเฉย

ประมุขเกาะจันปาไม่กล้าเชื่ออยู่บ้าง

บนดินแดนจิตโลกา…

ยังมีคนบ้าเช่นนี้อยู่จริงๆ หรือ

“จนถึงบัดนี้ ดินแดนจิตโลกามีการบูชาโลหิตมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง เหตุใดก่อนหน้านี้ไม่เห็นเจ้าจะลงมือเลย แต่ในการบูชาโลหิตสองครั้งหลังสุดของเกาะจันปาของข้า เจ้ากลับลงมือเล่า” ประมุขเกาะจันปาเอ่ยเสียงต่ำ

“เพราะว่าก่อนหน้านี้ข้ายังไม่เคยบรรลุ พลังยุทธ์ไม่เพียงพอ ก็ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องลงมืออยู่แล้ว” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

“หึๆ ดูท่าทางเกาะจันปาของข้าช่างโชคดีเสียจริง” ประมุขเกาะจันปาถลึงตามองตงป๋อเสวี่ยอิง “เจ้ามีพลังยุทธ์เช่นนี้ ก่อนหน้านี้จะต้องมิใช่ผู้ที่เงียบเชียบไร้ชื่ออย่างแน่นอน ที่แท้แล้วเจ้าเป็นใครกันแน่”

“พลังยุทธ์แข็งแกร่ง ก็ต้องมีชื่อเสียงอย่างแน่นอนเช่นนั้นหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงเอ่ยอย่างเรียบเฉย

ประมุขเกาะจันปาเข้าใจ

บางทีอาจมีความเป็นไปได้อยู่อย่างหนึ่งว่านี่คือผู้สันโดษคนหนึ่งจริงๆ เช่นนั้นหรือ แน่นอนว่าความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือผู้แกร่งกล้าผู้นี้คงจะซ่อนเร้นตัวตน ถึงอย่างไรกล้าทำเช่นนี้ได้ ก็เท่ากับฉีกหน้าเกาะจันปาของพวกเขา ถ้าหากเปิดเผยตัวตน มารที่ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานอย่างประมุขเกาะจันปาผู้นี้… ก็ย่อมต้องแก้แค้นอย่างหนักหน่วงอยู่แล้ว!

“ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าเป็นมาร ส่วนข้าก็คือหัวหน้าของพวกเขา เหตุใดเจ้าจึงไม่สังหารข้าเสียเล่า” ประมุขเกาะจันปายิ้มเย็น

“บุคคลผู้ไร้เทียมทานต่างก็ฆ่าเจ้าไม่ตายกันทั้งสิ้น ข้าก็ยังมิอาจสังหารเจ้าได้ชั่วคราว จำเป็นจะต้องเปลืองแรงเปล่าด้วยหรือไร” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด

“อ้อหรือ ความหมายของเจ้าก็คือ ถ้าหากเจ้าสามารถสังหารข้าได้ ก็จะสังหารข้าอย่างนั้นน่ะหรือ”

“ใช่แล้ว”

“น่าเสียดาย… บนดินแดนจิตโลกา ผู้ใดก็มิอาจสังหารข้าได้หรอก!” สองตาของประมุขเกาะจันปามีแววอาฆาตอันน่าหวาดหวั่นปรากฏขึ้นมาในทันที “อยู่ต่อหน้าข้า เจ้าปกปิดตัวตนมิได้หรอก”

ประมุขเกาะจันปาปล่อยหมัดออกมาอย่างฉับพลัน

กำปั้นอันอวบอ้วนระเบิดออกมาในทันที

ห้วงมิติโดยรอบแหลกสลายเป็นผุยผงจนสิ้น แรงปะทะอันไร้ที่สิ้นสุดพลันเข้าใกล้ร่างกาย

ผู้แกร่งกล้าระดับยอดสุดบนดินแดนจิตโลกาก็มีอยู่เพียงเท่านั้น ที่เป็นด้านวิถีอากาศก็ยิ่งน้อยจนสามารถนับนิ้วได้ จะต้องสามารถคาดเดาตัวตนของคนผู้ลึกลับผู้นี้จากเคล็ดวิชาการต่อสู้ได้อย่างแน่นอน! ประมุขเกาะจันปาต้องการจะต่อสู้เพื่อคาดเดาตัวตนของบุคคลตรงหน้า หลังจากนั้นก็จะทำให้บุคคลลึกลับผู้นี้ได้เข้าใจว่า…อะไรที่เรียกว่ามาร!

“ทำได้ดีนี่” ตงป๋อเสวี่ยอิงกลับมีจิตต่อสู้เดือดพล่าน

เขาอยากจะบรรลุถึงขั้นสุดยอด ก็จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อขัดเกลา!

เขาอยากจะทำให้มารทั่วทั้งใต้หล้าต้องหวั่นเกรง ก็ยิ่งต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตนเอง!

และผู้แกร่งกล้าขั้นสุดยอด ‘ประมุขเกาะจันปา’ ก็คือเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดแล้ว!

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

Status: Ongoing
ในแคว้นอันหยางสิงแห่งชนเผ่าเซี่ย
มีดินแดนใต้อาณัติแห่งหนึ่งที่แสนจะเล็กและไม่สะดุดตา นามว่า ‘แดนอินทรีหิมะ’ เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากที่แห่งนี้ เมื่ออายุได้แปดปี บุพการีทั้งสองถูกพรากไปต่อหน้าต่อตา เขายอมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยบุคคลอันเป็นที่รักกลับมา ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนอย่างหนักวันแล้ววันเล่า หรือการผจญกับเหล่าสัตว์มารแสนอันตราย ล้วนมิอาจทำลายปณิธานอันแรงกล้านี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน