เมียหวานของประธานเย็นชา – ตอนที่ 436

ตอนที่ 436

บทที่ 436 จี้จิ่งเชิน คุณไม่ต้องโกหกฉันแล้ว

จี้จิ่งเชินจนปัญญาไปสักพัก

แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเขาร้องช่วยเหลือ แต่ไม่ได้เข้าไปใกล้ กลับก้าวถอยหลัง แสดงให้รู้ว่าไม่อยากเข้าไปช่วย

อีกฝั่ง ในที่สุดจงหลีก็สามารถสลัดการเกาะกุมของเด็กพวกนั้นออกไปได้ เขาจึงรีบไปหลบที่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกับพ่อบ้านยืนอยู่

เด็กพวกนั้นสูญเสียเป้าหมาย จึงได้เบี่ยงสายตามาที่จี้จิ่งเชินอีกครั้ง

เด็กยี่สิบกว่าคนวิ่งกรูเข้ามาล้อมเขาไว้ ทั้งร้องเรียก ทั้งหัวเราะ จนกลบเสียงของจี้จิ่งเชินไปจนหมด

“ ดูเหมือนพวกเขาจะยังจำจี้จิ่งเชินได้ ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองภาพจี้จิ่งเชินที่จนตรอกอยู่ตรงหน้า จึงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้จริงๆ

แต่ไม่นาน ไม่รู้ว่าเธอนึกอะไรออก รอยยิ้มบนใบหน้าก็มืดสลัวลง

“ แต่น่าเสียดายที่จี้จิ่งเชินจำพวกเขาไม่ได้แล้ว…… ”

จงหลีที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินคำนี้ ก็รีบหันกลับมามองใบหน้าด้านข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนทันที

เธอก้มหน้าเล็กน้อย ในดวงตามีความเหงาอยู่ในนั้น

จงหลีใจกระตุก ลังเลอยู่สักครู่ หรือว่าจะพูดดี

“ คุณผู้หญิงครับ อันที่จริง ประธานจี้เขา…… ”

เขาพูดได้ครึ่งนึง กลับหยุดพูดไป

เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับมาอย่างสงสัย

“ จี้จิ่งเชินทำไมหรอ? ”

จงหลีขมวดคิ้ว ในใจตีกันให้ยุ่งเหยิง

แต่พอเห็นสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว กลับปิดบังต่อไปไม่ได้

“ เที๋ยนเที๋ยน พฤติกรรมของประธานจี้ช่วงนี้ คุณมีความรู้สึกว่ามันผิดปกติไปไหม? ”

ได้ยินคำนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ชะงักไปเล็กน้อย เห็นสายตามั่นใจของจงหลี อยู่ๆในหัวของเธอก็มีอะไรแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“ คำพูดของนาย……หมายความว่ายังไง? ”

ในใจมีคำตอบเสมือนจริง แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่กล้าเชื่อ

จงหลีลังเลใจ เขาเคยรับปากกับจี้จิ่งเชินว่าจะไม่พูดออกไป

แต่พอเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเสียใจ เขากลับทนไม่ได้อีกต่อไป

“ อันที่จริง จี้จิ่งเชินจำความได้ตั้งแต่ตอนที่คุณถูกจี้ยี่หยันจับตัวไปแล้วครับ ”

“ เป็นไปได้ยังไง? ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดโต้แย้ง

แต่พอพูดจบ เธอกลับเกิดความลังเลขึ้น

“ เขาจำได้แล้ว? ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว และส่ายหน้าไปมา

“ แต่ทำไม? ในเมื่อเขาจำเรื่องทุกอย่างได้แล้ว ยังผลักไสไล่ส่งฉันอยู่ล่ะ? ”

“ คุณยังไม่เข้าใจอีกหรอ? ตอนนี้จี้จิ่งเชินไม่ใช่จี้จิ่งเชินคนก่อนแล้ว ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟังดังนั้น ก็หันกลับไปมองจี้จิ่งเชินที่ถูกเด็กล้อมไว้อยู่

และก็เข้าใจได้ทันที!

เพราะนั่งอยู่บนรถเข็น จี้จิ่งเชินจึงไม่สามารถหนีออกมาจากการเกาะกุมของเด็กๆได้ ถึงขั้นดูเหมือนกำลังอึดอัดใจ

“ เพราะขาของเขาหรอ? ”

“ ใช่ ” จงหลีพูด

“ อันที่จริงคำพวกนี้ ผมไม่ควรเป็นคนบอกคุณ…… ”

จงหลีก้มหน้าลงเล็กน้อย และฝืนยิ้มออกมา “ เพียงแค่ผมทนเห็นคุณเสียใจไม่ได้ ”

เขารวบรวมความกล้าและพูดมันออกไป และเงยหน้ามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างตื่นเต้น

กลับเห็นสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดอยู่ที่จี้จิ่งเชินตลอด

เธอเม้มริมฝีปากแน่น คล้ายกับกำลังคิดอะไรอยู่ และเหมือนไม่ได้ฟังคำพูดของเขาเมื่อสักครู่แม้แต่นิดเดียว

จงหลีชะงักไปเล็กน้อย รอยยิ้มมุมปากของเขาขมฝาดมากกว่าเดิม เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ยืนอยู่ข้างหลังเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ตลอด

ตอนบ่าย พวกเด็กๆถูกพนักงานพาตัวกลับเข้าไป จี้จิ่งเชินถึงได้เป็นอิสระ

เขาไม่กล้าอยู่ต่อ จึงรีบขึ้นรถและเตรียมออกไปจากที่นี่โดยเร็ว

พอขึ้นมาบนรถ ก็เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่ก่อนแล้ว

นึกถึงเมื่อสักครู่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้เข้ามาช่วย กลับตั้งใจมองเขาถูกเด็กๆแกล้งเล่น จี้จิ่งเชินจึงทำหน้าขรึม รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

แต่ไม่นาน เขากลับพบว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้า เหมือนกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ และเหมือนไม่เห็นการมาของเขาอย่างนั้นแหละ

จี้จิ่งเชินมองเธอสักพัก กำลังจะอ้าปากถาม อยู่ๆนึกสถานะของตัวเองตอนนี้ขึ้นมาได้ จึงทำได้เพียงเก็บคำพูดที่ติดอยู่ที่มุมปากลงไป

รถค่อยๆเคลื่อนออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผ่านไปสักครู่ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังไม่พูดอะไร เอาแต่ตกอยู่ในความคิดของตัวเองเงียบๆ

ในรถเงียบมาก จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนจากกระจกเล็กน้อย และก็ได้พูดออกมาอย่างอดไม่ได้

“ เมื่อสักครู่คุณเห็นแล้ว ทำไมไม่เข้ามาช่วย? ”

เดิมที คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ตอบ แต่เธอกลับพูดขึ้น: “ ฉันเห็นคุณกับพวกเขากำลังเล่นกันอย่างสนุก ขอโทษค่ะ ”

“ ใช่ล่ะ เด็กคนที่ดึงมือคุณอยู่ตลอด คือเด็กสองคนที่เดินหายไปในปราสาทเมื่อครั้งที่แล้วหรือเปล่า? ”

“ ใช่ พวกเขาคือ…… ”

จี้จิ่งเชินพูดไปเรื่อย ยังพูดไม่ทันจบ อยู่ๆก็นึกอะไรได้ จึงหยุดพูดทันที

เขาหันกลับมา และเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังมองเขาอยู่

ไม่คิดว่าสายตานั้นจะทำให้เขาไม่กล้าสบตาของเธอตรงๆ

“ คุณจำได้แล้ว? ”

ยังไม่รอให้จี้จิ่งเชินโต้แย้ง เธอก็ได้พูดต่อ: “ คุณรู้จักพวกเขา คุณจำได้แล้ว จี้จิ่งเชิน ”

จี้จิ่งเชินลังเลไปสักครู่ กำลังจะหาข้ออ้าง

เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พูดต่อ: “ จี้จิ่งเชิน คุณไม่ต้องโกหกฉันแล้ว ”

จี้จิ่งเชินอ้าปาก แต่สุดท้ายก็กำจัดข้ออ้างทั้งหมดออกไป

เห็นท่าทางของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนใจเต้น และมั่นใจความคิดของตัวเองแล้ว

“ คุณจำได้ตั้งแต่ตอนไหน? ”

“ ครั้งที่แล้วที่จี้ยี่หยันจับตัวคุณไป ผมตื่นมาก็จำได้แล้ว ”

“ แล้วทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะ? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนทนไม่ไหล เธอจึงพูดออกมาเสียงสูง

ที่แท้ในช่วงระยะเวลานี้ มีเพียงแค่เธอที่เป็นกังวลกับรู้สึกกลัวไปเองใช่ไหม?

ถ้าเทียบกับความตื่นเต้นของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ท่าทีของจี้จิ่งเชินกลับสงบนิ่งกว่ามาก

เขาถึงกับหันกลับไป และไม่มองเวินเที๋ยนเที๋ยนอีก

คล้ายกับถ้าทำแบบนี้ การตัดสินใจของตัวเองก็จะไม่ถูกเธอส่งผลกระทบ

“ บอกเธอแล้วได้อะไร? ”

เพิ่งพูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยื่นมือออกไปจับเขาไว้

เธอจับเขาไว้แน่น

“ ได้สิ! ฉันคิดว่าคุณจะจำฉันไม่ได้อีกแล้ว……ฉันคิดว่า…… ”

เธอพูดไป ความน้อยใจที่อยู่ในใจก็ทะลักออกมาทันที ดวงตาก็เริ่มร้อนขึ้น

ทุกครั้งที่มีน้ำตาทะลักออกมา ก็จะถูกเธอบังคับให้กลับเข้าไป

จี้จิ่งเชินรู้สึกปวดใจ

เขาอดกลั้น และดึงชายเสื้อของตัวเองออกมา

“ เวินเที๋ยนเที๋ยน เอาอย่างนี้ไหม? เดี๋ยวผมจะให้พ่อบ้านพาคุณไปส่งที่ตระกูลเวินหรือตระกูลหล่อน…… ”

“ คุณไม่ต้องการฉันแล้ว! ” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขัดจังหวะเขา

นิ้วของจี้จิ่งเชินสั่นเล็กน้อย

เขากำหมัดแน่น ก้มหน้า และวางกำปั้นลงไปที่บนหัวเข่า

เขากัดฟัน ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเกลียด

เกลียดตัวเอง

“ งั้นคุณบอกผมสิ ว่าผมในตอนนี้สามารถให้อะไรคุณได้บ้าง? ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไปเล็กน้อย เธอส่ายหน้าไปมา กำลังจะบอกเขาว่าเธอไม่ต้องการจี้จิ่งเชินให้อะไรเธอ เพียงแค่เขาอยู่ข้างกายเธอก็พอ

แต่น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินกลับเบาลง และผสมไปด้วยความจนปัญญา

“ เที๋ยนเที๋ยน ถึงขนาดที่ว่าผมไม่สามารถกอดคุณ ผมไม่สามารถปกป้องคุณ ทำได้เพียงจะนำพาความอันตรายมาให้คุณเท่านั้น ”

“ ผมในตอนนี้ยังจะมีประโยชน์อะไรได้อีกล่ะ? ”

เขาฝืนยิ้ม

“ ยังมีสิทธิ์อะไรที่จะอยู่ข้างกายคุณได้อีกต่อไป? ”

จี้จิ่งเชินก้มหน้า คำพูดทุกคำเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้าย

เขาได้รับบาดเจ็บ และหลบอยู่ในมุมของตัวเอง เลียรักษาบาดแผลอย่างโดดเดี่ยว ถึงขนาดไม่กล้าให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรับรู้

เขาจะให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ได้ยังไง ว่าผู้ชายที่เธอรักได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว?

แม้แต่คนธรรมดาทั่วไปก็ยังไม่เท่ากับคนพิการเลย…

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท