เมียหวานของประธานเย็นชา – ตอนที่ 444

ตอนที่ 444

บทที่ 444 ปากอย่างใจอย่าง

จี้จิ่งเชินปรับสีหน้าให้กลับมาเย็นชาเหมือนเดิม

“ ไม่ต้อง ”

พูดเสร็จ เขาก็หมุนตัวเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องทำงาน และไม่หันกลับมาอีก

เลขามองเขาด้วยใบหน้าที่เข้าใจยาก สุดท้ายก็ยังไม่เข้าใจ เธอยักไหล่ และไปติดต่อเรื่องสถานที่ตามคำสั่งของจี้จิ่งเชิน

หลังจากที่โทรศัพท์อยู่หลายสาย เธอก็รีบเดินไปทางด้านนอก

ที่เธอไม่ได้สั่งเกตก็คือ หลังจากที่เธอเดินเข้าลิฟท์ไปแล้ว ประตูห้องทำงานของจี้จิ่งเชินได้ถูกเปิดออกอีกครั้ง

หลังจากกลับเข้าห้องทำงานไป จี้จิ่งเชินที่กำลังรู้สึกทุรนทุรายอยู่ในใจก็ได้มาโผล่ที่ประตูอีกครั้ง สายตาของเขาเริ่มไปหยุดอยู่บนดอกไม้ที่อยู่ในถังขยะช่อนั้น

ลังเลใจเพียงแค่ไม่กี่วิ เขาก็ทำหน้านิ่ง และเดินไปก้มเก็บดอกกุหลาบในถังขยะขึ้นมา และนำมากอดไว้ในอ้อมอก

“ ผู้หญิงโง่ ”

เขาพูดด่าเสียงเบา หลังจากนั้นก็หมุนตัว และกลับเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้ง

ผ่านไปสองสามนาที เลขาก็กลับมา เธอเคาะประตูห้องทำงานของท่านประธาน ตอนที่เธอกำลังแจ้งเรื่องออกเดินทางให้กับจี้จิ่งเชินให้ทราบ กลับเห็นดอกไม้ช่อนั้นตั้งอยู่บนโต๊ะ เธอจึงรู้สึกตกตะลึงไป

“ ประธานจี้คะ ดอกไม้ช่อนั้นใช่…… ”

เธอพูดขึ้นอย่างสงสัย แต่ยังพูดไม่จบ ก็ถูกสีหน้าเย็นชาของจี้จิ่งเชินขัดจังหวะเสียก่อน

“ เรื่องที่ให้คุณไปทำ ทำเสร็จแล้วหรือยัง? ”

เลขารีบดึงสติกลับมาทันที

“ แจ้งเรียบร้อยแล้วค่ะ สามารถออกเดินทางได้ทุกเมื่อเลยค่ะ ”

จี้จิ่งเชินพยักหน้า เขาควบคุมรถเข็น และเดินออกมาจากด้านหลังโต๊ะทำงาน

“ ไปกันเถอะ ”

พูดจบ เขาก็เดินนำออกไปจากห้องทำงาน

ฝีเท้าของเลขาช้าลง เธอหันกลับไปมองดอกกุหลาบที่อยู่บนโต๊ะอยู่บ่อยครั้ง ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

จนกระทั่งเดินออกมาจากประตูห้องทำงาน เธอก็หันไปมองถังขยะ พบว่าข้างในว่างเปล่า ไม่มีอะไร เธอถึงเข้าใจขึ้นมาทันที

และก็แอบอมยิ้ม

ดอกไม้ช่อนั้นเป็นช่อเดียวกับที่เพิ่งเอามาส่งจริงๆด้วย

ประธานจี้คงรู้ว่าใครส่งมาให้อย่างแน่นอนเลยล่ะสิ?

ผ่านไปสองสามวัน จี้จิ่งเชินทำงานเสร็จ ก็ได้กลับไปที่ปราสาท

ยังไม่ได้เดินเข้าไปในห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียงโทรทัศน์เสียแล้ว

รอจนเขาเดินเข้าไป แต่ตอนนี้ พอคนสองสามคนที่อยู่ในห้องรับแขกเห็นเขา ก็รีบปิดโทรทัศน์ทันที

จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว เขารีบหันไปดู แล้วก็เห็นชื่อรายการจากบนจอโทรทัศน์

《ล่าสมบัติ》

จี้จิ่งเชินนึกย้อนไปในภาพที่ตัวเองเพิ่งเห็นเมื่อสักครู่ ต่อมาก็นึกเรื่องที่จงหลีได้บอกเขาเมื่อวันก่อนว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนรับงานถ่ายรายการมาจากท่านเปิง

คำนวณเวลาสักพัก ก็คงจะใกล้ฉายแล้วเต็มทน?

เขาคิดไปด้วย และมองพวกคนที่อยู่ในห้องรับแขกไปด้วย

ในมือของพ่อบ้านยังถือรีโมทเอาไว้อยู่ เมื่อสักครู่ต้องเป็นเขาแน่ๆที่พอเห็นตัวเขาเข้ามา ก็รีบปิดโทรทัศน์อย่างรวดเร็ว

คนที่เหลือยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกด้วย

“ พวกคุณกำลังดูอะไรกันอยู่? ”

แม่ครัวกำลังจะพูดตอบ พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างกลับดึงเธอไว้เสียก่อน

และเขาก็ได้พูดตอบแทน: “ ก็แค่รายการโทรทัศน์ทั่วไปเท่านั้น ไม่มีสาระอะไรหรอก ปกติคุณผู้ชายก็ไม่ชอบดูอยู่แล้วหนิ? ”

“ งั้นหรอ? ”

จี้จิ่งเชินตอบกลับไปนิ่งๆ

แม่ครัวเรียกให้เขาเดินไปทางห้องอาหาร และได้พูดขึ้น: “ คุณผู้ชายคะ อาหารค่ำได้เตรียมเสร็จแล้ว คุณจะรับประทานตอนไหนก็ได้ค่ะ ”

จี้จิ่งเชินชำเลืองมองโทรทัศน์นิดหน่อย เห็นได้ชัดว่ายังอยากดูต่อ แต่พอเห็นสายตาของพ่อบ้านแล้ว เขาจึงเก็บสายตากลับมา ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเดินตามแม่ครัวไปที่ห้องอาหาร

เขาเพิ่งจะเหยียบเข้าไปในห้องอาหาร พ่อบ้านก็เปิดโทรทัศน์ขึ้นมาใหม่

เสียงรายการโทรทัศน์ก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

จี้จิ่งเชินนั่งอยู่ในห้องอาหาร เขาหูผึ่งอย่างอดไม่ได้ และเขาก็ฟังเสียงพูดคุยที่ดังมาจากในห้องรับแขก

ห่างกันไกลมาก จึงทำให้ได้ยินไม่ชัดเจน คล้ายกับเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังพูดคุยอยู่

แม่ครัวนำอาหารสองสามอย่างมาเสิร์ฟ แต่จี้จิ่งเชินกลับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใจทั้งดวงกับสติไปจดจ่ออยู่ที่รายการโทรทัศน์นั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในรายการโทรทัศน์ คล้ายกับเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังวิเคราะห์ขวดยานัตถุ์อย่างไม่เร่งรีบ วิธีการพูดของเธอเป็นขั้นเป็นตอนมาก

จี้จิ่งเชินฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม

“ คุณผู้ชายคะ? คุณผู้ชาย? ” แม่ครัวเรียกสองสามครั้ง เขาถึงได้ดึงสติกลับมา

“ เป็นอะไรไปคะ? ”

จี้จิ่งเชินหันกลับมา แม่ครัวกลับมองเขาด้วยใบหน้าที่ลำบากใจ และชี้นิ้ว

“ คุณผู้ชายคะ ในมือคุณนั้น……คือส้อมค่ะ ”

จี้จิ่งเชินก้มลงไปดู พบว่าในมือของตัวเองกำลังถือส้อมเอาไว้อยู่จริงๆ และกำลังใช้มันทานซุป

เขาจึงมีสีหน้าลำบากใจขึ้นมาทันที

แต่เขายังแสร้งทำเป็นไม่ทุกข์ร้อนอะไร และวางส้อมลง

“ อ๋อหรอ? ผมหยิบผิดน่ะ ”

แม่ครัวกลับไม่สนใจ เธอมองไปทางห้องรับแขก มีความรีบร้อนนิดหน่อย

“ คุณผู้ชายคะ ตอนนี้ ถ้าไม่มีงานอะไรแล้ว ฉันขอตัวไปดูรายการโทรทัศน์ที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ ”

จี้จิ่งเชินใจเต้นเล็กน้อย และเขาก็ได้พูดถามขึ้น: “ รายการอะไร? ”

“ น่าจะเป็นรายการของคุณเวินค่ะ ได้ยินมาว่ารับมาจากท่านเปิง ทุกสัปดาห์จะฉายสองตอน วันนี้เป็นตอนแรกค่ะ? ”

เธอพูดขึ้นอย่างดีใจ: “ คุณผู้ชาย ถ้าคุณอยากดู ไม่อย่างนั้นให้พวกเขาเอารายการมาฉายที่ห้องอาหารดีไหมคะ? ”

จี้จิ่งเชินได้ฟัง กำลังจะตอบตกลงไปอย่างลืมตัว แต่กลับชะงักไปทันที

เขาทำหน้าขรึม

“ ไม่ต้อง รายการประเภทนั้นไม่เห็นมีสาระอะไรเลย ”

พูดจบ เขาก็ก้มหน้ารับประทานอาหารค่ำด้วยใบหน้าที่ตั้งใจ

ได้ยินคำคำนี้ แม่ครัวก็รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย และทำได้เพียงเดินกลับไปที่ห้องรับแขก

เธอเพิ่งเดินออกไป จี้จิ่งเชินก็หูผึ่งขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้พ่อบ้านตั้งใจลดเสียงให้เบาลง จึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด ทำได้เพียงย้ายเก้าอี้ไปนั่งลงที่ที่ใกล้กับห้องรับแขก ในที่สุดเขาก็สามารถได้ยินเสียงรายการโทรทัศน์เสียที

สีหน้าบนใบหน้าของเขาถึงได้ผ่อนคลายลง

รายการโทรทัศน์ฉายตั้งแต่เวลาสองทุ่มถึงสามทุ่ม

ตอนที่จี้จิ่งเชินกลับมาก็สายแล้ว จึงดูได้เพียงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย

กลุ่มคนในปราสาทนั่งอัดกันอยู่ที่ห้องรับแขก และมักจะได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นอยู่เรื่อยๆ

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รอจนรายการของเวินเที๋ยนเที๋ยนจบลง พวกเขาถึงจะแยกย้าย

พ่อบ้านกับแม่ครัวเพิ่งเดินเข้ามาในห้องอาหาร ก็เห็นจี้จิ่งเชินนั่งอยู่ที่ที่ใกล้กับห้องรับแขก

แม่ครัวมีสีหน้าแปลกใจ

“ คุณผู้ชายคะ……เดิมที คุณนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ใช่หรอคะ? ”

เธอชี้นิ้วไปที่มุมอีกมุมที่อยู่ค่อนข้างไกลกับห้องอาหาร และพูดถามขึ้นอย่างไม่รักษาน้ำใจ

จี้จิ่งเชินทำหน้าขรึม ไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา

“ เก้าอี้ตรงนั้นเสีย ”

แม่ครัวมองเก้าอี้ที่จี้จิ่งเชินนั่งอยู่ตอนนี้อย่างประหลาดใจ และยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่

“ แต่คุณผู้ชายคะ ที่คุณนั่งอยู่ตลอดก็คือเก้าอี้ของตัวเองนะคะ หรือว่าเป็นตัวเดียวกัน ”

สีหน้าบนใบหน้าของจี้จิ่งเชินแข็งทื่อไปทันที เขาวางส้อมกับมีดลง

และพูดเปลี่ยนประเด็น: “ ผมขอตัวไปพักผ่อนก่อน ”

พูดจบ เขาก็เดินขึ้นไปข้างบนอย่างเร่งรีบ

พ่อบ้านมองตำแหน่งของโต๊ะอาหารนิดหน่อย กลับเข้าใจได้ทันที และใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา

แม่ครัวที่ยืนอยู่ด้านข้างยังคงไม่เข้าใจ

“ คุณผู้ชายเป็นอะไรกันแน่? ”

พ่อบ้านส่งเสียงฮึออกมาอย่างลำพองใจ

“ ปากบอกไม่ต้องการ แต่ร่างกายกลับซื่อสัตย์สะจริงๆ ”

อีกฝั่ง จี้จิ่งเชินกลับเข้ามาในห้องนอน

เดิมที เขาเตรียมจะจัดการงานที่ต้องทำของวันพรุ่งนี้ แต่หลังจากที่เปิดคอมพิวเตอร์แล้ว เขากลับอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว

ถึงขนาดตอนที่รอเขาดึงสติกลับมา ตัวเองก็ทำการค้นหารายการที่เวินเที๋ยนเที๋ยนไปเข้าร่วมอย่างไม่รู้ตัว

มองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า จี้จิ่งเชินก็ขมวดคิ้ว คล้ายกับกำลังรู้สึกไม่พอใจต่อการกระทำของตัวเอง

เขาทำการเลื่อนเม้าส์ไปเรื่อยๆ

ทำเป็นดูว่ามีคนรังแกเธอไหม

ผู้หญิงคนนั้นซื่อบื้อเกินไป

เขาหาข้ออ้างให้กับตัวเอง

เมื่อก่อน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เคยเข้าร่วมรายการแบบนี้ แต่กลับถูกคนรังแก

จี้จิ่งเชินคิดไปด้วย กดเปิดรายการนั้นไปด้วย และทำการดูย้อนหลัง

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน