บทที่ 449 ใครกล้ารังแกเธอ
รอมาตั้งหลายวัน กลับขึ้นว่างดออกอากาศ
สีหน้าของจี้จิ่งเชินเคร่งขรึมขึ้นทันที
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ตอนที่รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าร่วมรายการนี้ เขาได้เคยติดตามรายการนี้อยู่พอสมควร
เพื่อดำเนินการได้อย่างราบรื่น เขายังตั้งใจขุดท่อน้ำ ไม่ว่าเงินทุนหรือเวลาออกอากาศ ถ้ามองจากเงื่อนไขภายนอกแล้ว คงจะไม่มีโอกาสได้งดออกอากาศอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้เพิ่งดำเนินรายการมาได้แค่สามสัปดาห์ก็งดออกอากาศเสียแล้ว
ทางฝ่ายกลางไม่มีปัญหา หรือว่ามีคนเป็นอะไร?
พอคิดได้ดังนั้น จี้จิ่งเชินก็ขมวดคิ้วทันที ในหัวของเขาได้ปรากฏภาพเวินเที๋ยนเที๋ยนได้รับบาดเจ็บขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่
เขานั่งลงไปบนเก้าอี้ รู้สึกไม่สบายใจ
เพราะไม่รู้ถึงสถานการณ์ช่วงนี้ของเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงทำให้เขาร้อนรน
แต่หลังจากนั้น เขาก็ทนไม่ไหวแล้ว ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นยืน และเดินลงไปด้านล่าง
เพิ่งมาถึงห้องรับแขก ก็เห็นพ่อบ้านกับแม่ครัวและคนอื่นๆกำลังรวมตัวกัน และไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรกันอยู่
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไปก็ได้ยินพวกเขากำลังพูดเรื่องที่รายการของเวินเที๋ยนเที๋ยนงดออกอากาศในวันนี้ เขาจึงแอบฟังอยู่ใกล้ๆ
“ ได้ยินมาว่างดออกอากาศแล้ว ไม่รู้ว่าจะกลับมาออกอากาศอีกตอนไหน ”
“ ฉันได้ยินเพื่อนคนนึงบอกว่า เหมือนที่สถานที่ถ่ายรายการมีคนได้รับบาดเจ็บ และเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ”
แม่ครัวพูดจบ พ่อบ้านได้ฟัง เขาก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมานิดหน่อย
“ คงไม่ใช่เป็นคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บหรอกนะ? ครั้งที่แล้วตอนที่เธอเข้าร่วมรายการ ก็ได้ถูกคนรังแกเหมือนกันหนิ? ”
“ ไม่ได้การล่ะ พรุ่งนี้พวกเราจะไปที่บ้านตระกูลเวิน ไปดูสถานการณ์ของคุณผู้หญิงกัน ”
พวกเขาพูดกัน และก็ลุกขึ้นยืน
“ งั้นตอนนี้ฉันจะไปเตรียมของที่ต้องเตรียม…… ”
พ่อบ้านเพิ่งจะหมุนตัว กลับเห็นจี้จิ่งเชินยืนอยู่ที่ข้างห้องรับแขก และกำลังมองพวกเขาอยู่ เห็นทีว่าคำพูดที่พวกเขาเพิ่งพูดกันเมื่อสักครู่ เขาคงได้ยินไปหมดแล้วอย่างแน่นอน
การกระทำของพ่อบ้านหยุดลงทันที
“ คุณผู้ชาย? มีธุระอะไรไหมครับ? ”
จี้จิ่งเชินถูกจับได้ สีหน้าเขากลับไม่มีความลำบากใจแม้แต่นิดเดียว เขาทำหน้าขรึม
เพราะว่าเขาเป็นห่วงเวินเที๋ยนเที๋ยนมาก เขาจึงเดินเข้าไป
และแสร้งถามโดยที่ตัวเองรู้อยู่แล้ว: “ วันนี้รายการงดออกอากาศหรอ? ”
พ่อบ้านได้ฟัง ก็รู้แล้วว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร
กลับแสร้งทำเป็นไม่รู้
“ รายการอะไรหรอครับ? ”
จี้จิ่งเชินรู้ว่าเขาตั้งใจ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย ในสายตาแสดงถึงการตำหนิ
พ่อบ้านทำได้เพียงพูดขึ้น: “ อ๊ะ ผมนึกออกแล้ว ที่คุณบอกคงไม่ใช่รายการที่คุณผู้หญิงไปเข้าร่วมใช่ไหม? ”
จี้จิ่งเชินทำหน้าขรึม ถึงแม้เขาจะรู้ว่าพ่อบ้านตั้งใจพูดหยอกล้อ แต่ความปลอดภัยของเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องมาก่อน
จึงพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
“ เมื่อสักครู่ที่พวกคุณบอกว่ามีคนได้รับบาดเจ็บนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
พ่อบ้านมีสีหน้าเย้ยหยัน เขารู้อยู่แล้วว่าคุณผู้ชายยังมีความรู้สึกกับคุณผู้หญิงอยู่
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่แอบดูรายการของคุณผู้หญิงอยู่ในห้องหรอก
ครั้งที่แล้วเขาตั้งใจนอนคว่ำและแอบฟังอยู่ด้านนอกประตูสักพัก
จี้จิ่งเชินเห็นเขายังไม่พูดอะไร จึงพูดเร่งอย่างไม่พอใจ
“ ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บอกผมมา ”
ในที่สุดตอนนี้พ่อบ้านก็ทำสีหน้าจริงจังสักที
“ สถานการณ์หลักพวกเรายังไม่ทราบค่ะ ฟังคนอื่นพูดมาอีกที ”
กำลังพูดบอก แม่ครัวก็ได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่ไปเข้าร่วมการถ่ายรายการของวันนี้ เพื่อต้องการทราบถึงสถานการณ์ต่างๆ
เธอเดินเข้ามาบอก: “ ไม่ใช่คุณผู้หญิงที่เป็นคนได้รับบาดเจ็บค่ะ ”
พ่อบ้านกับจี้จิ่งเชินได้ฟังก็โล่งใจขึ้นมาพร้อมกัน แต่สีหน้าของแม่ครัวกลับไม่ได้ผ่อนคลายลง
เธอพูดต่อ: “ แต่ได้ยินมาว่าสถานการณ์ที่ถ่ายรายการของวันนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ค่ะ ”
เธอขมวดคิ้ว กลัวว่าจี้จิ่งเชินจะโกรธเพราะเรื่องนี้
“ แต่ว่าคุณผู้หญิงถูกคนรังแกค่ะ ”
แค่ประโยคเดียว ก็ทำให้จี้จิ่งเชินกับพ่อบ้านเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน ในสายตาของพวกเขากำลังเปล่งแสงขึ้นมา
“ ใครกล้ารังแกเธอ? ” จี้จิ่งเชินพูดขึ้นเสียงเย็น
วันต่อมา เทปบันทึกภาพของรายการเมื่อครั้งก่อนได้ถูกส่งมาที่ห้องทำงานของจี้จิ่งเชิน
หลังจากที่ดูการถ่ายรายการระยะเวลาสองชั่วโมงเต็มเสร็จ สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็ดูไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ บริษัทเอ็มไอกรุ้ปทั้งบริษัทปกคลุมไปด้วยมรสุม
ในวีดีโอ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลีเจียเวยตั้งใจกลั่นแกล้งเวินเที๋ยนเที๋ยน
ในกล้องเห็นเท้าที่ยื่นออกมาอย่างกะทันหันข้างนั้นได้อย่างชัดเจน มองไม่ผิดอย่างแน่นอน
เพียงแค่หล่อนไม่นึกว่าแผนการของตัวเองจะไม่สำเร็จ กลับทำร้ายตัวเองแทน
และตอนนี้กลับผลักเหตุการณ์ครั้งนี้ไปให้เวินเที๋ยนเที๋ยนแทน
เพราะรายการไม่ได้ออกอากาศตามเวลา วันต่อมา ข่าวที่หลีเจียเวยได้รับบาดเจ็บก็ได้แพร่ขยายไปทั่วอินเตอร์เน็ต
เพราะเป็นดาวดวงใหม่ที่เพิ่งมีชื่อเสียง ภายใต้ชื่อเสียงนั้นจึงมีแฟนคลับจำนวนไม่น้อยคอยปกป้องอยู่
พอคนเหล่านั้นได้ยินว่าเป็นเพราะเวินเที๋ยนเที๋ยนหลีเจียเวยถึงได้ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็โมโหจนหน้ามืดตามัว และเริ่มโจมตีกับด่าเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเสียๆหายๆ
แฟนคลับที่เก่งกาจยังขุดเรื่องเมื่อก่อนของเธอขึ้นมา และประกาศไปทั่ว
ภายใต้การชักนำของหลีเจียเวยตอนนี้เกือบทุกคนคิดว่าเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ทำหล่อนได้รับบาดเจ็บ และเรียกร้องขอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาขอโทษ
จี้จิ่งเชินเห็นคำวิจารณ์พวกนี้ก็โมโหจนหน้าเขียว
เขาบอกแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องถูกคนรังแกอย่างแน่นอน
ไม่ฉลาดให้มากกว่านี้หน่อยล่ะ?
เขาโกรธจนกัดฟันแน่น ตอนถ่ายรายการเมื่อครั้งก่อน เธอควรชนหลีเจียเวยจนเป็นอัมพาต ให้พูดไม่ได้อีก
มีเรื่องอะไร เขาก็สามารถจัดการได้ทุกอย่าง
จี้จิ่งเชินกำลังโมโห จงหลีก็ได้ถือเอกสารเดินเข้ามา และเริ่มรายงานสถานการณ์เรื่องการเงินของบริษัทในช่วงนี้
รายงานเสร็จ กลับเห็นสีหน้าของจี้จิ่งเชินยังไม่ดีขึ้น
เขามองรายงานเรื่องการเงินที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง และรู้สึกไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ ประธานจี้ครับ? ” เขาพูดถามอย่างอดไม่ได้ “ มีผิดตรงไหนหรอครับ? ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว สายตานั้นราวกับว่ากำไรของบริษัทลดลงไปแปดสิบเปอร์เซ็นกับบริษัทย่อยถูกล้มละลายไปครึ่งนึงอย่างนั้นแหละ
เขาคิดอยู่สักพัก และก็ได้พูดขึ้น: “ เชิญให้หลีเจียเวยมาที่บริษัทหน่อย บอกว่าฉันอยากพบเธอ ”
พอได้ยินชื่อนี้ จงหลีก็เข้าใจได้ทันที
“ เป็นเพราะเรื่องรายการของคุณเวินหรือเปล่าครับ? ”
มิน่าล่ะถึงได้โมโหถึงขนาดนี้ ที่แท้ก็ไม่ใช่เรื่องบริษัท แต่เป็นเพราะเรื่องที่เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกรังแกนี่เอง
เรื่องเมื่อสองวันที่ผ่านมา จงหลีก็ได้เห็นเหตุการณ์จากบนอินเตอร์เน็ตแล้ว
ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นเทปบันทึกภาพกับเหตุการณ์ตอนนั้น แต่มองด้วยตาเปล่าก็รู้แล้วว่า ทั้งหมดเป็นฝีมือของหลีเจียเวยที่โน้มนำข้อวิจารณ์ต่างๆ
จี้จิ่งเชินไม่ได้ตอบ และก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร ทำเพียงพูดต่อว่าเสียงเบา
“ ผู้หญิงโง่คนนั้น ”
เขาให้เธอห่างจากเขาไปได้ยังไง
ผู้หญิงคนนั้นโง่ถึงขนาดนั้น ต้องมีเขาคอยปกป้องอยู่ข้างกายสิถึงจะถูก
ไม่นานหลีเจียเวย ก็ได้รับคำเชิญฉบับนั้น
ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนจี้จิ่งเชินจะผ่านความอันตรายมาไม่น้อย เคยล้มลงจนเกือบลุกขึ้นมาไม่ได้ และเกือบจากโลกนี้ไปแล้ว
แต่ตอนนี้เขายังคงเป็นคนคุมหางเสือที่อายุน้อยที่สุดในสามตระกูลใหญ่ เพิ่งกลับมาได้สองเดือน เขาก็สามารถทำให้บริษัทกลับมาโคจรใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และยังถูกคนเรียกว่าอัจฉริยะทางด้านธุรกิจมาโดยตลอด
ถึงแม้ว่าจะนึกเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นได้ แต่หลีเจียเวยจะไม่ยอมทิ้งโอกาสจับจี้จิ่งเชินที่ล่ำสันแบบนี้ไปอย่างเด็ดขาด เธอลังเลอยู่สองสามวินาที หลังจากนั้นก็ตอบรับไปอย่างไม่ลังเลอีก
วันต่อมา หลีเจียเวยแต่งหน้าจนสวยรวมทั้งทำผมลอนยาว และใส่เสื้อคอลึกกับกระโปรงสั้นสีม่วงมาโผล่ที่บริษัทเอ็มไอกรุ้ป