บทที่ 455 I love you forever and ever
“ จี้จิ่งเชิน นายฟังให้ดีนะ…… ”
พอเวินเที๋ยนเที๋ยนพูด ผู้กำกับก็ให้คนถือกล้องถ่ายภาพหันกล้องไปทางเธอ
เขามีลางสังหรณ์ว่า อาจเป็นเพราะคำพูดต่อไปของเวินเที๋ยนเที๋ยน ทำให้เรตติ้งรายการของสัปดาห์นี้พุ่งกระฉูดอย่างแน่นอน
ผู้กำกับดูไปด้วย พูดกำชับไปด้วย: “ คำพูดที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดออกมาทั้งหมด ต้องใส่ลงไปในรายการทุกคำ ห้ามขาดตกบกพร่อง! ครั้งนี้พวกเรารอเรตติ้งระเบิดได้เลย! ”
เพราะนี่เป็นสัปดาห์สุดท้าย บวกกับความต้องการของทางฝั่งรับผิดชอบในการดำเนินการ รายการของสัปดาห์นี้จึงยืดเวลาฉายให้นานกว่าปรกติ
ตอนดึก
ตอนที่จี้จิ่งเชินสิ้นสุดจากงาน และกลับมาถึงที่ปราสาท รายการยังคงดำเนินอยู่
พอเขาเข้ามา ก็เห็นทุกคนกำลังนั่งดูรายการอยู่ในห้องรับแขก
รายการใกล้เข้าสู่ช่วงท้ายแล้ว พิธีกรกับแขกผู้มีเกียรติคนอื่นๆกำลังจี้ถามคำถามอะไรกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่
แม่ครัวเห็นจี้จิ่งเชินเดินเข้ามาทางหางตา เธอจึงรีบพูดขึ้น: “ คุณผู้ชาย นี่เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว คุณมาดูด้วยกันสิคะ ”
จี้จิ่งเชินกลับมองไปที่ห้องรับแขกด้วยใบหน้าที่ติดเย็นชา
“ ไม่แล้วล่ะ ไม่ได้สนใจ ”
ถึงแม้ว่าจะไม่ดูตอนนี้ แต่หลังจากที่ทานอาหารค่ำเสร็จและกลับถึงห้องแล้ว เขาก็จะเปิดคอมพิวเตอร์ และทำการดูรายการใหม่อีกครั้งแน่นอน เขาเพิ่งหมุนตัวไปเมื่อสักครู่ อยู่ๆในโทรทัศน์ที่อยู่ด้านหลัง เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับเรียกชื่อเขาขึ้นมา
“ จี้จิ่งเชิน นายฟังให้ดีนะ…… ”
การกระทำที่จี้จิ่งเชินกำลังควบคุมรถเข็นอยู่ได้หยุดลงทันที เขาหยุดอยู่ที่เดิม แต่ไม่ได้หันกลับมา
เขาหันหลังให้ห้องรับแขก ได้ยินเสียงเวินเที๋ยนเที๋ยนดังออกมาจากในโทรทัศน์
“ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ”
อยู่ๆในห้องรับแขกก็มีเสียงร้องตกใจของพ่อบ้านกับแม่ครัวและคนอื่นๆดังขึ้น
ในที่สุดจี้จิ่งเชินก็หันกลับมา และสบเข้ากับสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ในจอโทรทัศน์พอดี เหมือนฝ่ายนั้นอยู่ต่อหน้าตัวเองเลยก็ว่าได้
ไม่รู้ว่าเธอตัดสินใจอะไรอยู่ในใจ สองตานั้นเป็นประกายจนชวนให้คนตกใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขา และพูดขึ้น: “ จี้จิ่งเชิน ของขวัญทุกชิ้นที่นายมอบให้ฉัน ฉันทะนุถนอมมันอย่างดีทุกชิ้น คำพูดที่นายเคยพูดทุกคำ ฉันก็จำมันขึ้นใจอยู่ตลอด ”
“ ทุกสิ่งทุกอย่าง การกระทำทุกการกระทำ ตั้งแต่เรารู้จักกัน ฉันจำมันได้อย่างชัดเจน ไม่เคยลืมมันเลยสักครั้ง ความทรงจำที่ฉันเก็บมันไว้ นอกจากข้างกายนายแล้ว ฉันก็ไม่อยากไปที่ไหนอีก ”
“ ต่อให้มีอุปสรรคอะไร เราก็สามารถคิดหาวิธีแก้ไขได้ทุกครั้ง ตอนนี้ ฉันตั้งใจจะบอกนายว่า ฉันไม่อนุญาตให้นายทิ้งฉันไปเดินทางคนเดียวเด็ดขาด ”
“ วันนั้น คำพูดที่นายพูดที่ชิงช้าสวรรค์ ถึงแม้ว่ามันจะถูกเสียงนาฬิกาปกคลุมไว้ แต่ฉันรู้ว่านายพูดอะไร ”
พูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็กระพริบตา และเผยรอยยิ้มขึ้นมา
เธอพูดขึ้นอย่างมุ่งมั่น: “ วันนั้น นายรับปากฉันแล้ว เพราะฉันได้ยินคำตอบของนาย หัวใจของนายบอกแบบนี้ ”
น้ำเสียงของเธอมีความดื้อรั้น และแน่วแน่กับความคิดของตัวเอง
ถึงแม้จะไม่ได้ยิน ถึงแม้ว่าจะถูกเสียงนาฬิกาปกคลุม แต่เพียงแค่เชื่อมั่น
เพราะจี้จิ่งเชินจะไม่ปฏิเสธเธออย่างแน่นอน
ในตาของเธอมีความภาคภูมิใจ คล้ายกับเพราะเป็นครั้งแรกที่พูดต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ แก้มของเธอแดงเป็นเลือดฝาดทันที ถึงแม้ว่าจะตื่นเต้น แต่เธอกลับไม่รู้สึกลังเลใจ
ในตาของจี้จิ่งเชินปรากฏความตกตะลึงขึ้น หลังจากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มบางๆขึ้นมา
ทายถูกแล้ว……
ไม่คิดว่าจะทายถูก
เขาก้มหน้าลง เห็นเพียงริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
จนปัญญา แต่กลับเผยรอยยิ้มเหมือนเด็กขึ้นมา
——
วันที่อยู่ในชิงช้าสวรรค์
เวินเที๋ยนเที๋ยนนำแหวนยัดใส่ในมือจี้จิ่งเชิน และจับมือเขาไว้แน่น
“ นี่คือแหวนที่นายสวมให้ฉันตอนนั้น จี้จิ่งเชิน…… ”
“ นายสวมให้ฉันอีกครั้งได้ไหม? ”
“ ฉันอยากให้นายช่วยสวมแหวนวงนี้ให้ฉันอีกครั้ง ฉันอยากแต่งงานกับนาย ”
เธอตื่นเต้นจนฝ่ามือร้อน ถึงขั้นมีความฮึกเหิม
แต่กลับรวบรวมความกล้าขึ้น
“ จี้จิ่งเชิน นายจะยอมแต่งงานกับฉันไหม? ”
เสียงนาฬิกาดังขึ้นอย่างสนั่น กึกก้องไปทั่วท้องฟ้า
ริมฝีปากบางของจี้จิ่งเชินเปิดขึ้นช้าๆ แต่กลับถูกเสียงนาฬิกาปกคลุมไปจนหมด
เขาพูดว่า: “ ผมยอม และไม่เคยเปลี่ยนไป ”
I love you forever and ever．
——
ในรายการโทรทัศน์ คำพูดทุกคำของเวินเที๋ยนเที๋ยนลอยเข้าหูจี้จิ่งเชิน เข้าไปเติมเต็มในใจ และจะไปเติบโตขึ้นในที่ที่สำคัญที่สุด
ไม่คิดว่าเธอจะกล้าแสดงความรู้สึกผ่านทางรายการแบบนี้ นี่เป็นเรื่องที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตอนเมื่อก่อนจะไม่มีวันทำอย่างแน่นอน
จี้จิ่งเชินถอนหายใจด้วยความรู้สึกจนปัญญากับรู้สึกลุ่มหลง
ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนเป็นกล้าหาญขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
เธอจะทำไปถึงขั้นไหนถึงจะยอมเลิกรา?
ต้องรู้ก่อนว่า หลังจากที่รายการออกอากาศไปแล้ว คำสารภาพรักของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เท่ากับบอกคนบนโลกนี้ให้รับรู้
ความรู้สึกแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนใดคนหนึ่งก็คงจะใจเต้นไปแล้ว
แต่เขาดันเป็นจี้จิ่งเชินนี่สิ
ในห้องรับแขก ในตาของพ่อบ้านกับคนอื่นๆมีแสงสว่างกระพริบอยู่ พวกเขาอยากหันไปมองจี้จิ่งเชิน
เบ้าตาของแม่ครัวแดงขึ้นนิดหน่อย เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกซาบซึ้งกับคำสารภาพรักของเวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อสักครู่
แม้แต่พวกเขายังรู้สึกสะเทือนอารมณ์เลย จี้จิ่งเชินเองก็คงจะมีปฏิกิริยาอะไรบ้างแหละน่า?
อารมณ์บนใบหน้าของจี้จิ่งเชินได้ถูกเก็บลงไปจนหมดก่อนที่พวกเขาจะหันมามองเมื่อหนึ่งวินาทีก่อน
เขาเม้มปากแน่น กลัวว่าตัวเองจะยกมุมปากอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
ภายใต้สายตาคาดหวังของทุกคน จี้จิ่งเชินกลับพูดขึ้น: “ เตรียมอาหารค่ำเสร็จแล้วหรือยัง? ”
แม่ครัวชะงักไปนิดหน่อย แต่ก็ยังพยักหน้า
ต่อมา ก็เห็นจี้จิ่งเชินหมุนตัวไปทางห้องอาหาร คล้ายกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ฟังเมื่อสักครู่นั้น ไม่สามารถทำให้เขาเกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ได้เลย
เพิ่งเดินได้สองก้าว เขากลับเห็นใบหน้าด้านข้างของจี้จิ่งเชิน
เห็นได้ชัดว่าริมฝีปากกำลังยกยิ้มอยู่
การกระทำของพ่อบ้านหยุดลง เห็นใบหน้าด้านข้างของจี้จิ่งเชินประดับไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
คุณผู้ชาย……
ไม่คิดว่าเขากำลังยิ้ม?
เห็นภาพเหตุการณ์นี้ ฝีเท้าของพ่อบ้านก็หยุดลง และเขาก็หันไปมองโทรทัศน์
คนในรายการไม่คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะพูดคำที่คล้ายกับคำสารภาพรักออกมาตอนนี้
ผ่านไปสองสามนาที พวกเขาถึงจะตอบสนองกลับมา และส่งเสียงร้องอย่างตกตะลึงขึ้น
ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างตบมือกันเกรียวกราว
ไม่นาน ในรายการก็เต็มไปด้วยเสียงผิวปากกับเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดง เธอยืนอยู่ตรงกลาง สองมือของเธอยังกำเข้าหากันแน่น
และรายการนี้ก็ค่อยๆจบลงท่ามกลางเสียงพูดสารภาพรักของเวินเที๋ยนเที๋ยน
คำสารภาพรักช่วงสุดท้ายของรายการถูกถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์กับทางคอมพิวเตอร์ไปทั่วทุกมุมโลก เหมือนที่ผู้กำกับคาดการณ์ไว้จริงๆ พอรายการออกอากาศก็ทำให้เกิดเสียงตอบรับที่ดีทันที
ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนสารภาพรักช่วงสุดท้ายได้ถูกตัดออกมา และถูกคนรับชมเป็นจำนวนมาก
มีคนเลื่อมใสความกล้าหาญของเธอ และมีคนจำนวนมากกลับรู้สึกสงสัยว่าตกลงระหว่างพวกเขามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เวลานี้ ที่ตระกูลเวิน
เวินฉี่กับเวินหงไห่ก็กำลังดูรายการนี้อยู่เหมือนกัน
วิดีโอหยุดลงชั่วคราว แต่เสียงสารภาพรักของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงดังสะท้อนอยู่ในห้องหนังสือ
เวินฉี่ทำหน้าขรึมอย่างไม่พอใจ
เวินหงไห่ที่อยู่ข้างๆพูดขึ้น: “ เรื่องนี้บานปลายไปกันใหญ่แล้ว เกือบทุกคนรู้เรื่องนี้แล้ว ตระกูลเวินของเราถ่อมตนมาตลอด เที๋ยนเที๋ยนทำแบบนี้ ไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่ ”
“ อือ ”
เวินฉี่ส่งเสียงฮึ หลังจากนั้นก็พูดถามขึ้น: “ ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนอายุเท่าไหร่แล้ว? ”
“ ผ่านครึ่งปีไปก็ยี่สิบปีแล้ว ”
“ ใกล้ล่ะ ”
เวินฉี่พยักหน้า เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่บนจอโทรทัศน์ และพูดขึ้น: “ งานแต่งงานกับตระกูลเฟิง มาถึงแล้วสินะ
