เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 550 ห้ามอยู่ด้วยกัน

บทที่ 550 ห้ามอยู่ด้วยกัน

บทที่ 550 ห้ามอยู่ด้วยกัน

ผ่านไปหลายวัน หลวนจื่อก็เจอกับหมินอันเกออีกครั้ง ความทรงจำที่เดิมทีโดนฝุ่นจับไปหมดแล้ว ก็ได้ปรากฏขึ้นมาในหัวอีกครั้ง

“ นายมาได้ยังไง? ”

พอเผชิญหน้ากับหมินอันเกอ เธอก็รู้สึกว่าในสายตาของฝ่ายนั้นเต็มไปด้วยความดูถูก

หลวนจื่อจึงก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว เคอเหยียนรุ่ยเดินขึ้นมาด้านหน้าพอดี หลังจากนั้นเขาก็นำเธอไปหลบอยู่ด้านหลัง

“ คุณหมินครับ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า? ”

สายตาของหมินอันเกอถูก เคอเหยียนรุ่ยขวางไว้ หมินอันเกอมองเขาที่กำลังยืนด้วยท่าทางปกป้องอยู่ด้านหน้าหลวนจื่อ หลังจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วนิดหน่อย

“ ผมมาดูคุณ หลวนจื่อ คุณเป็นยังไงบ้าง? ”

เขาตั้งใจมองข้าม เคอเหยียนรุ่ยที่ยืนอยู่ด้านหน้า สายตานั้น เหมือนต้องการมองทะลุ เคอเหยียนรุ่ยไปหาหลวนจื่อโดยตรง

แต่สายตานั้นกลับทำให้หลวนจื่อลำบากใจมากกว่าเดิม

“ ฉันสบายดี นายไม่ต้องเป็นห่วง ”

หลวนจื่อตั้งใจหลบเขา เห็นหมินอันเกอในตอนนี้อีกครั้ง มีแต่จะทำให้เธอนึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป

เธอรีบพูดให้จบ เพื่อต้องการให้หมินอันเกอกลับไป

แต่หมินอันเกอกลับมองไปรอบๆ คล้ายกับกลัวว่าตัวเองจะถูกคนเจอเข้า หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ ผมมีเรื่องต้องการคุยกับคุณนิดหน่อย เข้าไปพูดด้านในเถอะ ”

หลวนจื่อไม่ได้ขยับ เคอเหยียนรุ่ยจึงพูดขึ้นยิ้มๆ: “ ผมไปเปิดประตูให้ ถ้าถูกใครเจอเข้าคงไม่ดีแน่ ”

พูดเสร็จ เขาก็เดินไปเปิดประตู

หลวนจื่อเดินช้าลงนิดหน่อย พอเธอเงยหน้าขึ้น ก็เจอกับสายตาของหมินอันเกอ

สายตาของเขาลึกเกินไป จนทำให้เธอไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

พอเข้ามาในบ้าน สายตาของหมินอันเกอยังคงจับจ้องอยู่ที่หลวนจื่อ จึงทำให้หลวนจื่อรู้สึกนั่งไม่ติดสักเท่าไหร่

เคอเหยียนรุ่ยมองทั้งสองคนนิดหน่อย หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น: “ พวกคุณคุยกันไปก่อน ผมเอาของไปวางสักครู่ ”

หมินอันเกอหรี่ตาลงนิดหน่อย หลังจากนั้นก็มองเขาเดินเข้าไปในห้องครัว และถึงค่อยพูดขึ้น: “ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ”

เคอเหยียนรุ่ยเป็นดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าสองสามปีมานี้เขาจะไม่ได้รังสรรค์ผลงานออกมา แต่ถ้าพูดถึง คนส่วนมากก็มักจะรู้จักเขา

แต่หลวนจื่อรู้จักกับเคอเหยียนรุ่ยได้ยังไง?

อีกทั้งยังดูสนิทสนมกันขนาดนั้น

หลวนจื่อทอดสายตาลงนิดหน่อย

“ นี่คือบ้านของเขา เขาก็ต้องอยู่ที่นี่สิ ”

“ บ้านเขา? ” หมินอันเกอหันกลับมาอย่างตะลึง หลังจากนั้นก็มองไปรอบๆห้อง “ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ มันไม่เหมาะสม แล้วบ้านที่คุณเคยซื้อไว้เมื่อก่อนล่ะ? ”

“ ที่นั่นมีนักข่าวเฝ้าอยู่ยี่สิบสี่ชั่วโมง ฉันกลับไปไม่ได้ ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร จึงสามารถหลีกเลี่ยงนักข่าวได้อยู่ ”

แต่หมินอันเกอกลับรู้สึกไม่พอใจ เขาหันไปมองเคอเหยียนรุ่ยที่อยู่ในห้องครัวนิดหน่อย

ถึงแม้ว่า เคอเหยียนรุ่ยจะอายุสี่สิบปี แต่ดูจากรูปร่าง เขายังคงหน้าตาดี และถึงตอนนี้ก็ยังไม่แต่งงาน ในวงการบันเทิง ยังมีหลายคนที่เปรียบเขาเป็นคู่แต่งงานในอุดมคติ

ตอนนี้ ทำไมหลวนจื่อถึงพักอาศัยอยู่ใต้ชายคาบ้านเดียวกันกับเขาได้ล่ะ?

“ วิธีหลีกเลี่ยงนักข่าวมีตั้งเยอะ ” หมินอันเกอคิดอยู่สักครู่ หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น: “ ผมก็มีคฤหาสน์อยู่ที่ชานเมืองเหมือนกัน คุณสามารถ…… ”

“ ฉันเข้าไปอยู่ นายไม่กลัวว่าจะถูกนักข่าวเก็บภาพไว้ได้หรอ? ”

หมินอันเกอยังพูดไม่จบ หลวนจื่อก็พูดขัดจังหวะเขาเสียก่อน

ในที่สุดเธอก็เงยหน้าขึ้นมา และสบตากับหมินอันเกอโดยตรง

ตอนนี้หมินอันเกอหลบหน้าเธอตลอด จะให้เธอไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง?

ถ้าถูกนักข่าวเก็บภาพไว้ได้ ก็คงจะไม่ดีแน่

หมินอันเกอถูกเธอพูดขัดจังหวะ จึงทำให้หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นกว่าเดิม

“ คุณแน่ใจนะว่าจะอยู่ที่นี่? เคอเหยียนรุ่ยคนนี้ คุณรู้จักเขาดีแล้วหรอ? ”

“ ฉันเชื่อใจเขา ”

น้ำเสียงมั่นใจของหลวนจื่อทำให้หมินอันเกอรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย

เขาอ้าปากกำลังจะพูด แต่เห็น เคอเหยียนรุ่ยเดินออกมาจากห้องครัวพอดี เขาจึงไม่พูด

ตอนนี้นักข่าวกำลังจับตามองเขากับหลวนจื่ออยู่ แค่โผล่หน้าออกไป ก็คงจะถูกสะกดรอยตามได้เลย

วันนี้ที่เขามาที่นี่ ก็ได้สลัดหลุดไปหลายคนแล้ว อีกทั้งยังต้องใช้ความคิดไม่น้อยกว่าจะหาที่นี่เจอ

สถานการณ์ตอนนี้ หลวนจื่อไม่เหมาะที่จะอยู่ที่คฤหาสน์ของเคอเหยียนรุ่ยจริงๆ

ตามหลักแล้ว หลวนจื่อตัดสินใจแบ่งเส้นเขตแดนกับเขา และปิดบังเรื่องทั้งหมดต่อโลกภายนอก อีกทั้งยังมีเคอเหยียนรุ่ยคอยดูแล เขาต้องรู้สึกวางใจสิถึงจะถูก

เห็นหลวนจื่อพักอาศัยอยู่ในบ้านของคนอื่น ดื่มน้ำผลไม้ที่คนอื่นเอามาให้ กลับทำให้ในใจของเขาเหมือนมีหินก้อนใหญ่อุดไว้อยู่ในนั้น

หมินอันเกอขมวดคิ้วนิดหน่อย เขาถือเอาความรู้สึกนี้เป็นการตำหนิตัวเอง

เขาคิดอยู่สักครู่ หลังจากนั้นก็ได้พูดเตือนเคอเหยียนรุ่ย: “ หลวนจื่อชอบดื่มกาแฟกับไวน์ ช่วงนี้ก็อย่าให้เธอแตะต้องของพวกนั้นก่อนก็แล้วกัน ”

“ ชอบดื่มไวน์ ”

เคอเหยียนรุ่ยหันกลับไปมองหลวนจื่อด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง และพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ: “ ไม่ใช่ว่าคุณเกลียดการดื่มแอลกอฮอล์หรอกหรอ? อีกทั้งยังไม่แตะต้องรสชาติขมฝาดแม้แต่นิดเดียวนี่นา ”

เขานึกถึงตอนที่ตัวเองทำซุปมะระตุ๋นเมื่อครั้งก่อน แต่หลวนจื่อกลับไม่แตะมันแม้แต่นิดเดียว พูดแล้วก็ขำ

หมินอันเกอชะงักไปนิดหน่อย เขายิ่งไม่เข้าใจมากกว่าเดิม

เกือบทุกครั้งตอนที่เขากับหลวนจื่อออกไปข้างนอก หลวนจื่อมักจะดื่มกาแฟ

หมินอันเกอชอบดื่มไวน์ ในบ้านก็มีเก็บสะสมไว้ตั้งมากมาย หลวนจื่อก็มักจะเข้าไปดื่มกับเขาด้วย ท่าทีแบบนั้นคือชอบดื่มไวน์เป็นชีวิตจิตใจชัดๆ

ทำไมจะไม่ชอบล่ะ?

หลวนจื่อเห็นสายตาของทั้งสองคน หลังจากนั้นเธอก็หัวเราะขึ้นมาอย่างฝืนๆ

“ อือ ถ้าเทียบกับไวน์และกาแฟ ฉันชอบน้ำผลไม้กับนมมากกว่า ”

เห็นสายตาตกใจของหมินอันเกอ ในใจของหลวนจื่อก็ยิ่งเจ็บปวด

เธอไม่ชอบกาแฟที่มีรสขมฝาด แต่เพื่อทำให้ตัวเองดูเป็นผู้ใหญ่ และอยากบอกหมินอันเกอว่าตัวเองโตแล้ว เธอจึงสั่งมันทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

เธอก็ไม่ชอบไวน์ด้วยเช่นเดียวกัน เพียงแต่หมินอันเกอชอบก็เท่านั้น

เพราะหมินอันเกอ เธอจึงพยายามศึกษาความรู้เกี่ยวกับไวน์อย่างสุดความสามารถ ถึงขั้นไปสอบใบคุณวุฒินักชิมไวน์ เพื่อจะได้มีโอกาสอยู่กับหมินอันเกอมากขึ้น และเพื่อต้องการใกล้ชิดเขาอีกหน่อย

เธอเกลียดกาแฟกับไวน์ แต่กลับชอบน้ำผลไม้กับนมสดแบบเด็กๆ

และสิ่งเหล่านี้หมินอันเกอไม่เคยรู้มาก่อน

แต่เวลาเพียงสองวันสั้นๆ เคอเหยียนรุ่ยกลับค้นพบความชอบทั้งหมดของเธอแล้ว ต่อให้เธอฝืนดื่มซุปมะระถ้วยนั้นจมหมด กลับยังคงถูกเขาดูออกอยู่ดี

น่าขำ คนที่รู้จักกันมาตั้งหลายปียังไม่รู้จักเธอดีเท่าคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน

รอยยิ้มบนหน้าของหลวนจื่อยิ่งขมขื่นมากกว่าเดิม

หมินอันเกอรู้สึกหนักใจ เขาเพิ่งรู้ตอนนี้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหลวนจื่อเลยสักนิดเดียว

หลวนจื่อพูดต่อ: “ นายไม่ต้องเป็นห่วง ฉันอยู่ที่นี่มีความสุขดี นายรีบกลับไปเถอะ ถ้าถูกนักข่าวเห็นเข้าคงไม่ดีแน่ ”

หมินอันเกอยังไม่อยากกลับ แต่ไม่รู้จะอยู่พูดอะไรต่อ

เห็นหลวนจื่อเข้ากับเคอเหยียนรุ่ยได้ดี หมินอันเกอกจึงไม่รู้จะพูดอะไรดี

ผ่านไปสักพัก เขาถึงค่อยลุกขึ้นยืนช้าๆ

“ ผมทราบแล้ว ”

พูดเสร็จ การกระทำของเขาก็หยุดลงนิดหน่อย ไม่เห็นหลวนจื่อรั้งให้อยู่ต่อ เขาจึงเดินไปทางด้านนอก

“ อีกสองสามวันผมค่อยมาดูคุณใหม่ ”

“ ไม่ต้องแล้วล่ะ ” หลวนจื่อพูดขึ้นที่ด้านหลังของเขา: “ อีกสองสามวัน ฉันอาจจะกลับบ้านตระกูลหลวนแล้ว ”

การกระทำของหมินอันเกอหยุดลงอย่างตะลึง แต่เขาไม่ได้หันกลับมา

“ อือ ”

เขาตอบรับนิดหน่อย หลังจากนั้นก็เดินออกไป

รอจนประตูปิดลงอีกครั้ง หลวนจื่อถึงค่อยโล่งใจขึ้นนิดหน่อย

“ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ”

หลวนจื่อส่ายหน้า และวางน้ำผลไม้ที่ยังไม่ได้ดื่มลง

“ ฉันขอตัวขึ้นไปพักสักหน่อย ”

เคอเหยียนรุ่ยลุกขึ้นตามเธอ “ ถึงเวลาทานข้าว ผมค่อยไปเรียกคุณ ”

จนกระทั่งหลวนจื่อขึ้นไปข้างบนแล้ว เขาถึงค่อยเดินไปที่ห้องครัว

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท