เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 608 เธอเคยคิดที่จะทำธุรกิจไหม

บทที่ 608 เธอเคยคิดที่จะทำธุรกิจไหม

บทที่ 608 เธอเคยคิดที่จะทำธุรกิจไหม

พูดได้ครึ่งนึง นายพลสวี่ก็หยุดลง ทุกคนก็ถอนหายใจตามการกระทำของเขาด้วยเช่นกัน

ไตร่ตรองสักครู่ เขาถึงจะพูดต่อ: “ แน่นอนว่าถ้าทำตามกฎการแข่งประมูลเดิม ที่จริงก็ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนกฎแล้ว ก็อาจจะมีคนคิดว่าผมกำลังปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ”

“ ตอนนี้ ผมขอรับประกันด้วยเกียรติของผมว่าการตัดสินใจที่ผมทำอยู่ตอนนี้นั้นยุติธรรมอย่างแน่นอน และไม่มีอารมณ์ส่วนตัวมาปะปนแม้แต่นิดเดียว ”

เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้หมายถึงพลโทที่แก้ไขกฎการแข่งประมูลไปเมื่อสักครู่

ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็หันไปมองที่เขาพร้อมกัน

รู้สึกได้ว่าสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ตัวเองพลโทจึงขมวดคิ้วนิดหน่อย แต่ไม่ได้พูดอะไร

นายพลสวี่หัวเราะนิ่งๆ หลังจากนั้นก็พูดต่อ: “ งั้นผมขอลงคะแนนเลยก็แล้วกัน จากที่ผมได้ฟังคำบรรยาย แผนงาน และเงินทุนการประมูลแล้ว ทุกคนทำได้ดีมาก แต่ผมคิดว่าบริษัทเอ็มไอกรุ้ปเหมาะกับโครงการนี้อย่างชัดเจน ”

เขาเพิ่งพูดเสร็จ เวินหงไห่กับพลโทที่ยืนอยู่บนเวทีก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวทันที ดูแล้วตลกเป็นอย่างมาก

แต่ตรงกันข้าม พอฝ่ายจัดงานได้ฟังข้อมูลนี้ เขากลับแสดงท่าทีโล่งใจออกมา

แม้แต่คนที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ยังยิ้มอย่างพอใจเช่นเดียวกัน

สองต่อหนึ่ง!

ถึงแม้ว่าในการแข่งประมูลครั้งนี้จะเกิดปัญหาขึ้นมากมาย แต่โชคดีที่สุดท้ายผลที่ออกมาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

ใครๆก็มองออกว่าแผนงานของใครดีกว่า? ก็ต้องเป็นบริษัทจี้ซือ ที่อยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว

โครงการแบบนี้เป็นกิจกรรมระดับโลก มันเกี่ยวโยงกับตำแหน่งของประเทศในระดับนานาชาติ ถึงแม้ว่าปรกติจะเป็นกลุ่มทรายที่แตกกระจาย แต่ตอนนี้ ทรายที่แตกกระจายก็สามารถมารวมตัวกันได้เช่นกัน

จึงสะเพร่าไม่ได้ และถ้าทำได้ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี

โชคดีที่นายพลสวี่มาที่นี่ ไม่อย่างนั้นกิจกรรมนี้ก็คงจะตกอยู่ในกำมือของตระกูลเวินไปแล้วจริงๆ

ตั้งแต่เมื่อสักครู่ที่นายพลสวี่เริ่มพูด เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้กลั้นหายใจมาตลอด

ตอนนี้ พอได้ยินผลคะแนนนี้ ใจที่ตึงเครียดมาตลอดก็ได้ผ่อนคลายลงสักที

ก้อนหินที่กดทับอยู่ในใจก็ได้เคลื่อนออกไปด้วยเช่นกัน ในที่สุดเธอก็เผยรอยยิ้มขึ้น

พอหันกลับมา ก็เห็นว่าจี้จิ่งเชินมองมาทางนี้เหมือนกัน เขายิ้มให้เธอนิดหน่อย

นอกจากพลโทกับเวินหงไห่ที่มีสีหน้าดูไม่ได้แล้ว คนอื่นๆล้วนรู้สึกพอใจต่อผลคะแนนนี้

ฝ่ายจัดงานถือโอกาสเดินขึ้นมา หลังจากนั้นก็หยิบสิทธิ์ในการควบคุมการประมูลกลับมา

ต้องรีบลงมือทำ เพราะเขากลัวว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีก

เขาเพิ่มความเร็วขึ้น หลังจากนั้นก็ยืนยันและประกาศผลการแข่งประมูลครั้งนี้

ในระหว่างที่พูด เวินหงไห่ที่นั่งอยู่ด้านล่างก็มีสีหน้าดูไม่ได้ถึงขีดสุด สีหน้าของเขาดำทมิฬจนแทบจะมีน้ำหยดลงมาอยู่แล้ว

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองจี้จิ่งเชินที่อยู่บนเวที ที่กำลังรับใบอนุญาตมาจากในมือของฝ่ายจัดงาน เธอถึงจะรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย

“ เป็นยังไงบ้าง? คุณเวิน ช่วงนี้สบายดีไหม? ”

เธอกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย อยู่ๆก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง

เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับไป เธอไม่รู้ว่านายพลสวี่มาถึงข้างตัวของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอจึงรีบยืนขึ้น และพยักหน้าให้เขาด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความเคารพนิดหน่อย

นายพลสวี่เห็นเธอมีท่าทีจริงจัง เขาจึงโบกมือเล็กน้อย

“ ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้ ตอนนี้ผมก็คือคนแก่ที่ไม่มีงานทำคนนึง ” เขาพูดอย่างสบายใจ

เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มนิดหน่อย เธอรู้ว่านายพลสวี่ไม่ใช่คนที่ให้ความสำคัญกับรูปแบบ เธอจึงค่อยๆรู้สึกผ่อนคลายลง

หลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้นอย่างสงสัย: “ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินว่าท่านไปเที่ยวที่ต่างประเทศ ทำไมถึงกลับมาแล้วล่ะคะ? ”

นายพลสวี่ยิ้มนิ่งๆ หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองในห้องประชุม

และพูดไปด้วย: “ เป็นคุณนายหล่อนที่ให้ผมกลับมาน่ะ ”

คุณนายหล่อน?

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างตกใจ

นายพลสวี่พยักหน้าเป็นการยืนยัน

“ คุณนายหล่อนมีความรู้สึกว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้นในการแข่งประมูลครั้งนี้ ก็เลยให้ผมมาดู เดิมที ก็แค่เป็นห่วงนิดหน่อย แต่ไม่คิดว่าคนพวกนี้จะกล้าหาญถึงขนาดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อหน้าคนตั้งมากมายได้แบบนี้ ผมจึงต้องออกหน้าเองแต่ยังดีที่ไม่ได้ทำให้เกิดความผิดพลาดใหญ่โตอะไร ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองตามสายตาของเขา ก็เห็นคุณนายหล่อนยืนอยู่กับเวินหงหยู้

ฝ่ายนั้นก็กำลังมองมาทางนี้เหมือนกัน

ทันใดนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกปั่นป่วนในใจทันที

“ อยากไปก็ไปสิ ” ตอนนี้ นายพลสวี่ก็ได้พูดขึ้น

เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่สักครู่ ถึงจะบอกลากับนายพลสวี่ หลังจากนั้นก็ก้าวเท้าไปทางนั้น

เธอมองทั้งสองคนตรงหน้า เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะพูดขึ้น

แต่สุดท้ายเธอกลับพูดเพียง: “ คุณนายหล่อน คุณเวิน ”

ฟังดูเหมือนเป็นคำเรียกที่ห่างเหิน แต่สำหรับเวินเที๋ยนเที๋ยน นี่เป็นคำเรียกที่สนิทสนมที่สุดแล้ว

แต่ตอนที่กำลังจะพูด เธอกลับผิดหวังในตัวเองเป็นอย่างมาก

ต่อให้เธอทำใจมาก่อนแล้วก็ตาม แต่คำเรียกนั้น เธอก็ยังพูดมันออกมาไม่ได้อยู่ดี

ทั้งสองคนไม่รู้ถึงความอุตลุดในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน บนใบหน้าของพวกเขามีรอยยิ้มจางๆ

“ ยังดีที่เราไม่ได้มาสาย ” คุณนายหล่อนพูดขึ้นยิ้มๆ

“ ขอบคุณค่ะ ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร เธอคิดอยู่สักครู่ แต่ก็ยังคงพูดความสงสัยที่อยู่ในใจออกมาอยู่ดี

“ คุณนายหล่อนคะ พวกคุณรู้ได้ยังไงว่าตระกูลเวินจะลงมือปฏิบัติการ? ”

คุณนายหล่อนเบาเสียงลงนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็หันไปสบตา และยิ้มกับเวินหงหยู้

“ ถึงแม้ว่าตระกูลหล่อนจะห่างหายจากกองทหารมานานแล้ว แต่ก็ยังมีอิทธิพลที่เป็นของตัวเองอยู่ จึงสามารถเดาการกระทำของตระกูลเวินได้บ้างนิดหน่อย

ตอนนี้ในกองทหาร คนที่สามารถต่อต้านตระกูลเวินได้ก็มีแค่นายพลสวี่คนเดียว และโชคดีที่เธอรู้จักกับเขามาก่อน ถ้าเป็นคนอื่นแล้วต้องขอให้เขาช่วย ก็คงจะทำได้ยาก ”

ได้ยินดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หันไปมองนายพลสวี่ที่อยู่ไม่ไกลออกไปทันที

คล้ายกับฝ่ายนั้นสังเกตได้ถึงสายตาของเธอ นายพลสวี่จึงทำแค่ยิ้มนิดหน่อย หลังจากนั้นเขาก็ถอดหมวกเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เธอ และหมุนตัวเดินจากไปในที่สุด

ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนก็นึกเรื่องที่เหยียนเจิ้งไปขอให้เขาช่วยออก

ตระกูลหล่อนมีคนในกองทหารที่สามารถรู้การกระทำของตระกูลเวินได้ล่วงหน้า และไม่รู้ว่าจะมีหลักฐานที่เวินฉี่ปฏิบัติโดยมิชอบหรือเปล่า……

เธอคิดอยู่สักครู่ หลังจากนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็พูดคำถามที่อยู่ในใจออกมา

พอคุณนายหล่อนได้ฟัง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็หันไปมองรอบๆ และมีสีหน้าเคร่งขรึมทันที

“ ถึงแม้ว่าในกองทหาร เราจะมีคนที่ยินยอมที่จะช่วยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้อิทธิพลของเวินฉี่ในกองทหารมีมาก ต่อให้มีหลักฐานที่เขาปฏิบัติโดยมิชอบจริงๆ แต่คนอื่นๆก็ไม่กล้าพูดออกมาอยู่ดี ความสัมพันธ์ในวงการทหารซับซ้อนมาก เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองจึงไม่มีใครกล้าที่จะพูดมันออกมา ”

นี่เป็นสาเหตุที่ตระกูลเวินอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้

ตระกูลหล่อนต่อสู้กับตระกูลเวินมาหลายปี สำหรับเรื่องที่ตระกูลเวินได้ทำไว้ เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลหล่อนจะไม่รู้อะไรเลย

ถ้าจะดึงตระกูลเวินลงมานั้นทำได้ง่าย แต่ห่วงโซ่ความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ที่มีความเกี่ยวพันกับเบื้องหลัง ก็จะพังทลายลงมาด้วยเช่นกัน และอาจจะทำให้วงการการเมืองเกิดการสั่นคลอนครั้งใหญ่ จึงลงมืออย่างง่ายๆไม่ได้

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้านิดหน่อย คนที่อยู่ใจกลางอำนาจก็ต้องคิดจะปกป้องตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก แต่ไม่ใช่คิดจะไปต่อต้านกับตระกูลเวิน

แล้วเหยียนเจิ้งล่ะ?

เขาอยู่ฝั่งไหนกันนะ?

เธอกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย อีกฝั่ง จี้จิ่งเชินที่ยอมให้สัมภาษณ์เสร็จแล้วเห็นทั้งสามคน เขาก็เดินเข้ามาหาเช่นกัน

“ คุณนายหล่อน คุณเวิน ”

เขามายืนอยู่ข้างเวินเที๋ยนเที๋ยน หลังจากนั้นก็พยักหน้าให้พวกเขานิดหน่อย

พอเห็นจี้จิ่งเชินเดินมา สายตาของคุณนายหล่อนก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

เธอพูดเสียงเบาอย่างระมัดระวัง: “ ฉันรู้ว่าช่วงนี้พวกเธอกำลังหาหลักฐานที่เกี่ยวกับตระกูลเวินอยู่ พวกเธอต้องระวังตัวไว้หน่อย โดยเฉพาะเวินเที๋ยนเที๋ยน…… ”

เธอพูดได้ครึ่งนึงก็หยุดลง หลังจากนั้นก็ครุ่นคิดสักครู่ ถึงจะพูดต่อ: “ เที๋ยนเที๋ยน เธอเคยคิดที่จะทำธุรกิจไหม? ”

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน