เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 617 ของขวัญชิ้นหนึ่ง

บทที่ 617 ของขวัญชิ้นหนึ่ง

บทที่ 617 ของขวัญชิ้นหนึ่ง

จนกระทั่งผ่านไปได้สักพัก สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ค่อยๆ ดูจางลงและกลับมาเป็นปกติ

แต่จากนั้นไม่นาน ก็พบว่ารถไม่ได้ขับไปที่ทางกลับปราสาท แต่มุ่งหน้าไปยังใจกลางเมือง

เธอมองไปรอบๆ แล้วอดที่จะรู้สึกแปลกใจไม่ได้

“พวกเราจะไปที่ไหนเหรอ?”

“ไปสถานที่หนึ่งที่เธอคุ้นเคยมาก” จี้จิ่งเชินไม่ยอมเปิดเผยมันออกมา

แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังไม่เข้าใจ เพราะสถานที่ในใจกลางเมืองที่เธอคุ้นเคยมีน้อยมาก

ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น รถก็ค่อยๆ จอดที่ข้างทางอย่างช้าๆ

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ แล้วก็จำได้อย่างรวดเร็ว

สถานที่นี้อยู่ใกล้กับชิงช้าสวรรค์ที่เธอเคยสร้างขึ้นเมื่อก่อนนี้ไม่ใช่เหรอ?

“นายจะพาฉันมาดูชิงช้าสวรรค์เหรอ?” เธอถาม

ที่ตรงนี้อยู่ใกล้กับชิงช้าสวรรค์มาก แค่ทะลุผ่านทะเลสาบนั้นไปก็ถึงแล้ว

เพียงแต่ตอนนี้มันเป็นเพราะมุม เลยเห็นแค่มุมส่วนหนึ่งของชิงช้าสวรรค์อยู่รางๆ

“เดี๋ยวพอถึงที่นั่นก็รู้เอง”

จี้จิ่งเชินก็ยังไม่ยอมเปิดเผยมันอยู่ดี แล้วลงจากรถไปและดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนให้เดินไปทางนั้น

แต่พอเดินไปได้ครึ่งทางก็หยุดเดินอย่างกะทันหัน

“รอเดี๋ยว”

พอสิ้นเสียง เขาก็เดินอ้อมเวินเที๋ยนเที๋ยนไปหยิบผ้าพันคอผ้าออกมาหนึ่งผืน แล้วใช้มันปิดตาเธอไว้

ยิ่งทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากรู้ยิ่งไปอีก

“นายจะทำอะไรกันแน่?”

ถ้าแค่ไปนั่งชิงช้าสวรรค์ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำแบบนี้เลย

ในใจของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ยอมอธิบายสักทีและลากเธอเดินไปข้างหน้าต่อเรื่อยๆ

ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นมืดสนิท ทำได้เพียงมอบความไว้ใจของเธอให้จี้จิ่งเชินและขยับตัวเดินไปข้างหน้าตามการเคลื่อนไหวของเขา

เมื่อเดินไปได้สักพัก จนในที่สุดจี้จิ่งเชินก็หยุดเดิน

“ถึงแล้ว”

เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่กับที่ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองถูกพามาที่ไหน

“นายพาฉันมาดูอะไรกันแน่?”

จี้จิ่งเชินยังคงยืนอยู่ข้างหลังของเธอและใช้สองมือกุมไหล่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้

แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง ได้ยินแค่เสียงของเขาจากทางด้านหลังและเขยิบเข้ามาที่ข้างหู

“ไม่ต้องรีบ อีกเดี๋ยวเธอก็จะได้เห็นแล้ว”

พอพูดจบ เขาก็ยกมือขึ้นปลดผ้าพันคอที่ปิดตาเวินเที๋ยนเที๋ยนออก

ในขณะที่ผ้าพันคอถูกปลดออก จู่ๆ ก็มีแสงสว่างอยู่ตรงหน้า

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วและกระพริบตา เพราะยังปรับตัวให้เข้ากับแสงสว่างไม่ได้

ผ่านไปสักพัก จนในที่สุดสายตาก็ค่อยๆ มองเห็นชัดขึ้นแล้ว

ในเวลาเดียวกันนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าก็ปรากฏสู่สายตาของเธอ!

เวินเที๋ยนเที๋ยนในเวลานี้เบิกตากว้างไปแล้ว เธอมองภาพวิวทิวทัศน์สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจใจนี้ด้วยความตกตะลึง!

ที่นี่ก็คือสถานที่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนสร้างชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่มหึมา แต่ทว่าตอนนี้มันได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปหมดแล้ว

ไม่รู้ว่าทะเลสาบขนาดใหญ่นี้ถูกถมให้เป็นที่ราบตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะนอกจากชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่แล้ว ยังมีเครื่องเล่นสวนในสนุกจำนวนไม่น้อยตั้งอยู่บริเวณโดยรอบ

ทั้งม้าหมุน รถบั้ม รถไฟเหาะและเรือไวกิ้ง…

มีทั้งโครงการใหญ่และเล็กครบหมดทุกอย่าง โดยกระจายอยู่รอบๆ ชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง

เดิมทีเป็นเพียงแค่สวนดอกไม้ชิงช้าสวรรค์ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าตอนนี้จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ไปแล้ว!

ที่ในตอนนี้เปิดไฟสวยอย่างสวยงามส่องสว่างระยิบระยับตา การตกแต่งอย่างสวยงามนี้ดูคล้ายกับภาพลวงตา

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูอย่างตกตะลึงจนลืมแม้กระทั่งกระพริบตา

ทำไมเธอถึงไม่เคยได้ยินเรื่องโครงการก่อสร้างที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน?

หลังจากที่ผ่านไปนาน ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็หาเสียงของตัวเองเจอแล้วถอนหายใจทีหนึ่ง

และอุทานอย่างตื่นตะลึงออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“ที่นี่สร้างขึ้นเมื่อไหร่เหรอ?”

จี้จิ่งเชินยืนอยู่ข้างหลังเวินเที๋ยนเที๋ยนและมองดูสีหน้าที่ตื่นตะลึงของเธอ แล้วยิ้มบางๆ

“ฉันสั่งกำชับเป็นพิเศษว่าไม่ให้พวกเขาบอกเธอ แล้วตอนนั้นเธอก็ยุ่งอยู่กับเรื่องประชุมธุรกิจเอเชียแปซิฟิก เลยไม่ทันสังเกตแน่นอนว่าต้องไม่รู้อยู่แล้ว แต่ยังดีที่ตอนนี้เพิ่งจะทำเสร็จอย่างเป็นทางการ”

เขาไม่มีทางบอกว่าได้ทุ่มเทให้กับการสร้างสวนสนุกนี้ไปเท่าไหร่ แค่เพียงได้เห็นสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนตอนนี้ก็พอใจมากแล้ว

เครื่องเล่นในสวนสนุกที่วางให้เห็นเรียงรายเต็มไปหมดนี้ ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไร้การตอบสนองอยู่เป็นเวลานาน

แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เข้าใจ

“ทำไมถึงมอบสิ่งนี้ให้ฉัน?”

สายตาของจี้จิ่งเชินแสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยนและรักใคร่ แล้วก้าวขึ้นไปโอบกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนจากด้านหลัง

แขนสองข้างของเงาร่างสูงใหญ่ เพียงพอที่จะให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตนเอง

“ยังจำเรื่องที่เรานั่งชิงช้าสวรรค์ด้วยกันครั้งแรกได้ไหม? เธอเคยบอกว่า ชีวิตที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าต้องประหยัดมาก เลยทำให้เธอไม่เคยได้ไปสวนสนุกหรือแม้กระทั่งชิงช้าสวรรค์ก็เพิ่งจะเคยนั่งครั้งแรก”

“ในตอนนั้นฉันอยากจะสร้างสวนสนุกที่เป็นของเธอเอง เรื่องที่เธอไม่เคยทำในอดีต เรื่องที่เคยพลาดไป ฉันอยากจะช่วยเติมเต็มให้เธอและหวังว่ามันคงจะไม่สายไปนะ”

เสียงของเขาเบามากและฟังดูสบายๆ เหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร

แต่กลับทำให้ใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนสั่นไหว

สิ่งที่จี้จิ่งเชินพูดมานั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่เขาขอเวินเที๋ยนเที๋ยนแต่งงานก่อนหน้านี้และในเวลานั้นก็อยู่บนชิงช้าสวรรค์พอดี

คิดไม่ถึงเลยว่าแค่คำพูดลอยๆ ของตนเองประโยคเดียว จะทำให้จี้จิ่งเชินจดจำไว้ในใจแล้วแอบสร้างสวนสนุกขนาดใหญ่นี้ให้เธอ

เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเศร้าใจ แต่จากนั้นก็ค่อยๆ รู้สึกเหมือนมีอะไรที่หอมหวานเหมือนน้ำผึ้งเข้ามาเติมเต็ม

ใบหน้าของเธอดูราวกับเด็กน้อยที่มองไปรอบๆ แล้วเริ่มมีรู้สึกคึกคักอยากลองขึ้นมา

จี้จิ่งเชินมองเธอด้วยความรักใคร่ แล้วหัวเราะออกมา

“อยากลองดูไหม? พวกเราไปกันเถอะ”

“ได้”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างตื่นเต้นแล้วรีบเดินไปข้างหน้า

แต่พอเดินลงมา เวินเที๋ยนเที๋ยนกับพบว่าทั่วทั้งสวนสนุกมีแค่พวกเขาสองคน เลยอดถามขึ้นมาไม่ได้

“ไม่มีคนอื่นเลยเหรอ?”

จี้จิ่งเชินยิ้มบางๆ แล้วตอบ:“คืนนี้ สวนสนุกทั้งหมดเป็นของเธอคนเดียว”

เวินเที๋ยนเที๋ยนดวงตาเป็นประกายแวววาว

เมื่อก่อนตอนที่อยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เวลาที่เห็นชิงช้าสวรรค์ในทีวีเธอก็อดมองอย่างอิจฉาไม่ได้ แต่เพราะค่าใช้จ่ายที่จำกัดของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเลยทำให้ไม่เลยมีโอกาสได้เล่น

ต่อมาทุกครั้งที่ผ่านสวนสนุกและได้เห็นเด็กคนอื่นๆ เล่นในสวนสนุกพร้อมกับพ่อแม่ เธอก็ทำได้แค่หยุดเดินแล้วจากไปด้วยความเสียใจ

สิ่งนี้ได้เกิดเป็นความเสียใจข้างในใจเธอ

คิดไม่ถึงเลยว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้วมันจะกลายเป็นจริงขึ้นมาได้

จี้จิ่งเชินคอยเล่นเครื่องเล่นชนิดนั้นชนิดนี้เป็นเพื่อนเธออย่างสนุกสนานไม่รู้จักเบื่อหน่ายในสวนสนุกใหญ่ที่เขาสร้างขึ้นเพื่อเธอ

เวินเที๋ยนเที๋ยนเล่นเครื่องในสวนสนุกที่ตัวเองเคยอยากเล่นในอดีตทุกชิ้นหนึ่งรอบ โดยไม่รู้สึกตัวจนเลยว่าดึกแล้ว

ถัดจากชิงช้าสวรรค์ ก็ตามด้วยม้าหมุนที่เคลื่อนไหวไปตามเสียงดนตรี

เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวใจเต้นแรงและดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย

ม้าหน้ายิ้มที่มีสีสันสวยงามกำลังขยับขึ้นลงไปตามท่วงทำนองของเสียงเพลงอย่างช้าๆ

เวินเที๋ยนเที๋ยนวิ่งเข้าไปอย่างตื่นเต้น แต่พอเดินไปได้สองก้าวกลับพบว่าจี้จิ่งเชินไม่ได้ตามเธอมาจึงหันไปมองเขา

จี้จิ่งเชินยืนเอามือล่วงกระเป๋าและไม่มีวี่แววว่าจะตามไป แล้วดูเหมือนเขาจะรู้ความคิดที่อยู่ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน

“เธอไปเถอะ ฉันนั่งดูเธออยู่ตรงนี้ก็พอ”

ถึงแม้ว่าตนเองจะทำตัวปกติ แต่สายตาที่จ้องมองม้าหมุนพวกนั้นกลับเผยเห็นถึงความคิดในใจของเขา

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท