บทที่ 663 ฉันคือแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว
ทุกคนที่เปิดวิดีโอ ต่างก็กลั้นหายใจ และจับจ้องไปที่หน้าจอ โดยไม่แม่แต่จะละสายตาไปสักวินาที
ในภาพ หมินอันเกอรับบทเป็นนายน้อยที่ไร้เดียงสา แต่ยังมีรูปลักษณ์ของชายหนุ่มอันแข็งแกร่ง และสลับตัดขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง
เพลงประกอบอันแสนกระแทกใจผู้คนเปิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน ทุกวินาทีล้วนกระทบใจผู้คน!
และเมื่อเพลงและภาพถึงจุดสูงสุด วิดีโอทั้งหมดก็หยุดลงทันที!
จู่ๆ ทันใด ทุกอย่างก็เป็นความมืด!
ตอนนี้ทุกคนยังคงจมอยู่กับภาพเมื่อครู่ ในตอนนั้นวิดีโอก็เกิดเสียงขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่มีเพลงประกอบใดๆ มีเพียงเสียงที่ทั้งทุ้มต่ำและหนักแน่นของหมินอันเกอ
“จากนี้ไปหากไม่มีแสงสว่าง ข้าก็คือแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว”
เสียงนั้นหยุดลงอย่างช้าๆ พร้อมกับวิดีโอที่จบลงในเวลาเดียวกัน แต่ความตื่นตะลึงในใจของผู้คนกลับยังคงสะท้านอยู่ในอกไม่อาจหยุดลงได้
คนแรกที่เปิดวิดีโอ กำลังนั่งเหม่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
ผ่านไปเนิ่นนาน เขาถึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมา และแสดงความรู้สึกออกมาในที่สุด
“นี่มัน…..สมบูรณ์แบบ!”
ใครกัน ที่บอกว่าหมินอันเกอไม่มีทักษะการแสดง?
บอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่น่าดู?
นั่นแทบเป็นเรื่องไร้สาระ!
เขารีบกดปุ่มแสดงความคิดเห็นอย่างเร่งรีบ คิดจะใส่ความรู้สึกของตัวเองลงไป
แต่เมื่อมองดู ความคิดเห็นทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องคว่ำบาตรและวิพากษ์วิจารณ์
แต่เมื่อกวาดตาดู เขาก็ขมวดคิ้ว
นี่มันอะไรกัน?
เห็นชัดๆ ว่าตอนที่วิดีโอเปิดตัว เขาเป็นคนเปิดมันคนแรก วิดีโอตัวอย่างกินเวลาห้านาที แต่คนด้านล่างเหล่านั้นกลับไม่ได้ดูตัวอย่างเลยสักนิด แล้วก็ปฏิเสธหนังเรื่องนี้โดยทันที
ดูก็ยังไม่ได้ดู แต่กลับบอกว่าการแสดงของถ้าคุณไม่ได้เห็นเธอบอกว่าฝีมือการแสดงของหล่อนเจียนีไม่ดี?
บอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่คุ้มค่าแก่การดู?
เขาว่า คนพวกนั้นต่างหากที่ตาบอดแล้วจริงๆ!
คนๆนั้นเลื่อนดูความคิดเห็นของชาวเน็ตด้วยท่าทางตื่นเต้นและเริ่มตอบกลับทันที
“คนที่ไม่ได้ดูตัวอย่างก็อย่าได้ใส่ร้ายคนอื่นมั่วซั่ว ฉันเป็นคนแรกที่เปิดดู เนื้อหาของตัวอย่างทำให้ฉันตื่นตะลึงอย่างมาก”
“ถ้าไม่ได้ดู ก็คงไม่รู้ว่าทักษะการแสดงของหมินอันเกอนั้นยอดเยี่ยมมากขนาดนี้ ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าพวกคุณจะพูดอะไร ฉันจะไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้แน่นอน! ”
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ชาวเน็ตที่กำลังหุนหันพลันแล่นก็ค่อยๆ สงบลง
มีคนเห็นความคิดเห็นนี้ และเกิดความอยากรู้ขึ้นมาในใจ
ID ของบุคคลคนนี้คุ้นตาอย่างมาก ไม่ใช่ชาวเน็ตที่ไม่กี่วันก่อนยังไม่พอใจกับหมินอันเกอหรอกหรือ?
ทำไมเมื่อเขาดูตัวอย่างแล้ว ทัศนคติของเขาถึงได้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนั้น?
หลายคนเปิดวิดีโออย่างน่าสงสัย
ทันทีที่เปิดดู ก็เห็นภาพของหมินอันเกอที่กำลังยืนอยู่ในสวน เมื่อได้เห็นภาพที่กระทบใจของผู้คน พวกเขาก็ไม่สามารถสงบลงได้เป็นเวลานาน
จนกระทั่งตัวอย่างจบลง ถึงค่อยเข้าใจอารมณ์ของชาวเน็ต
แม้กระทั่งพวกเขาที่เคยส่งเสียงโห่ร้อง ให้หมินอันเกอออกจากวงการบันเทิงไป หลังจากได้เห็นการแสดงนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสรรเสริญมัน
เมื่อก่อนทำไมพวกเขาถึงไม่รู้ว่าหมินอันเกอมีฝีมือการแสดงดีขนาดนี้มาก่อน?
ในอดีตเขาเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ดีที่สุดในจีน ทุกคนเห็นเพียงรูปลักษณ์ที่งดงามของเขา แต่ความสามารถของเขากลับถูกเพิกเฉย
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนเองได้พูดออกไปเหล่านั้น ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น
หลายๆ คนค่อยทยอยลบความคิดเห็นก่อนหน้านี้และทิ้งข้อความไว้ใต้วิดีโอใหม่อีกครั้ง
“ที่ฉันบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เข้าไปดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ แต่ตอนนี้ฉันเสียใจขึ้นมาแล้ว ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ฉันจะลบความคิดเห็นที่ไม่ดีทั้งหมดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้! ”
“หลังจากดูตัวอย่าง ฉันก็เข้าใจอย่างสุดซึ้งแล้วว่า ทำไมพวกเขาถึงเลือกหมินอันเกอมาเป็นพระเอก นั่นเพราะหนังเรื่องนี้จะต้องเป็นเขาเท่านั้น ไม่มีใครเข้าใจบทนี้ได้ดีกว่าหมินอันเกออีก”
“ฉันสาบานได้เลย ว่านี่คือหนังที่ฉันรอคอยมากที่สุดในช่วงหลายปีนี้! ถ้าตัวหนังนั้นดีพอๆ กับตัวอย่าง มันจะเป็นหนังที่ดีที่สุดที่ฉันเคยดูในช่วงหลายปีที่ผ่านมา!”
หลังจากนั้น ผู้คนก็ค่อยๆ เข้ามาทีละคน เมื่อพวกเขาเห็นความคิดเห็นชื่นชมขึ้นท่ามกลางคำด่า คำพูดนั้นจริงใจ เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย มีคนไม่น้อยที่เห็นแล้วก็เปิดวิดีโอด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่เปิดวิดีโอ หลังจากได้ดูแล้วก็ล้วนถูกฝีมือการแสดงของหมินอันเกอดึงดูดและถูกการย้อนกลับมามองของเขาทำให้ต้องตื่นตะลึง
ความคิดเห็นที่ไม่ดีถูกลบไปอีกครั้ง ฝูงชนตื่นเต้นขึ้นมา และใช้คำพูดชื่นชมทั้งหมดที่พวกเขารู้จักมาตอบกลับถึงความคิดเห็นต่อภาพยนตร์เรื่องนี้
“ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า การแสดงของเขาจะเก่งขนาดนี้!”
“สายตาที่เขามองมาที่กล้องนั่น! ทุกคนเห็นไหม! ราวกับเขามองทะลุไปในหัวใจฉัน!”
“หมินอันเกอของฉัน ฉันรู้มานานแล้วว่าเขาไม่เหมือนกับที่พวกคุณพูด เขาแต่งงานแล้วทำไม? ต่อให้กลายเป็นพ่อคน เขาก็ยังคงเป็นเทพบุตรในใจของฉัน!”
“ฉันจะไล่ตามจีบดาราชายแบบนี้เท่านั้น ใครก็อย่าได้มาขวางฉัน! ”
“ตอนก่อนหน้าที่ทุกคนเอาแต่ด่าว่า ฉันไม่มีอะไรจะพูด แต่ตอนนี้หลังจากดูคลิปนี้ ฉันกล้าพูดได้เลยว่าฝีมือการแสดงของหมินอันเกออยู่ในสิบอันดับแรกของวงการบันเทิง”
“ทุกคนมองแค่รูปร่างหน้าตาภายนอกของเขา แต่กลับไม่มองจุดแข็งของเขา ในที่สุดตอนนี้เขาก็ได้แก้ตัวแล้ว! ”
“หลังจากดูวิดีโอนี้ ฉันก็ตกหลุมรักหมินอันเกอแล้ว! ”
เพียงช่วงเวลาหนึ่ง ก็มีคนดูตัวอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงความคิดเห็นอันหุนหันของชาวเน็ตเหล่านั้นก็ค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ
หลังจากดูตัวอย่าง พวกเขาก็ชื่นชมอย่างสมบูรณ์ และกลับมาลบข้อความเหล่านั้นทิ้ง
ทุกคนเปลี่ยนจากการคว่ำบาตรและการต่อต้านกลายเป็นความคาดหวังขึ้นมา
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทิศทางลมบนอินเทอร์เน็ตก็เปลี่ยนไปทันที แม้กระทั่งบางคนก็เริ่มถามเกี่ยวกับเวลาในการเปิดตัวของหมินอันเกอขึ้นมาอย่างไม่หยุด เนื่องจากพวกเขาจะพาเพื่อนและครอบครัวไปดูหนัง
หลังจากการตรวจสอบ พวกเขาถึงค่อยรู้ว่า การถ่ายทำในครั้งนี้ทีมงานต้องผ่านความยากลำบากมามากมายขนาดไหน
ภายใต้ความกดดันของกรรมการ เขาสามารถถ่ายทำได้สำเร็จในที่สุด อีกทั้งก่อนหน้านี้พวกเขายังเคยถูกขับไล่จากเมืองถ่ายภาพยนตร์หลายแห่งอีกด้วย
แต่สุดท้ายแล้ว การถ่ายทำก็สำเร็จราบรื่น
จากนั้น หลายคนก็สังเกตเห็นถึงภาพเขตชานเมืองของปักกิ่งที่ปรากฏขึ้นมากมายในการถ่ายทำและดูแลการผลิต มันช่างทรงพลังอย่างยิ่ง!
เพียงชั่วครู่ ทุกคนก็ตื่นตะลึง
หลังจากปล่อยการโปรโมชั่นไม่ถึงห้าชั่วโมงก็เกิดเป็นกระแสคลั่งไคล้บนอินเทอร์เน็ต!
ทุกคนล้วนคลั่งไคล้การแสดงของหมินอันเกอในหนังเรื่องนี้!
วิดีโอได้รับการแชร์อย่างไม่หยุด อีกทั้งยังฉากที่หมินอันเกอหันมามองที่ถูกเอาไปทำเป็นภาพเคลื่อนไหวและถูกส่งต่อแพร่ไปอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาไม่ถึงวัน แทบทุกคนล้วนรู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้
ในขณะเดียวกัน ทีมงานหลายคนในกองประชาสัมพันธ์หลังจากเผยแพร่วิดีโอโปรโมตออกไป ก็รีบปิดคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถืออย่างรวดเร็วทันที เนื่องจากไม่กล้าที่จะดูบนอินเทอร์เน็ต เพราะกลัวว่าจะถูกด่าและถูกสร้างอับอายจากความคิดเห็นมากมายบนนั้น
จนกระทั่งไม่กี่ชั่วโมงต่อมา จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากบรรณาธิการบริหารของเว็บไซต์
ทันทีที่รับสาย อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้น “พวกคุณสามารถถอนคืนเว๋ยป๋อหัวข้อนั้นกลับคืนไปก่อนได้หรือไม่?”