เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 709 ประโยชน์ของเต็นท์เดี่ยว

บทที่ 709 ประโยชน์ของเต็นท์เดี่ยว

บทที่ 709 ประโยชน์ของเต็นท์เดี่ยว

ตลอดทางเห็นคนจำนวนไม่น้อยที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ บางคนกำลังเล่นหมากรุก บางคนกำลังพูดคุยกัน หนึ่งในนั้นจำนวนไม่น้อยที่เป็นใบหน้าที่เคยเห็นมาก่อน ล้วนแต่เป็นคนเก่าแก่ของตระกูลเวินทั้งสิ้น

เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินจอดรถเอาไว้ตรงด้านหน้าคฤหาสน์หลังที่คุณนายหล่อนและเวินหงหยู้พักอยู่ และเพิ่งจะลงมาจากรถ ก็มีโกลเดินรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ตัวหนึ่งวิ่งออกมาต้อนรับ

ยังไม่รอให้พวกเขาได้เข้าไปนั้น คุณนายหล่อนที่ได้ยินเสียงเห่าของสุนัขจึงเดินออกมา

เห็นพวกเขาแล้ว ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา

“มาได้เวลาพอดีเลย”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นใบหน้าของเธอแดงๆ ดูสดชื่น ดูแล้วสถานการณ์ไม่เลวเลย จึงรู้สึกวางใจขึ้นมา

ดูแล้วให้ทั้งสองคนมารักษาตัวอยู่ที่นี่ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีจริงๆ หลังจากที่มาถึงที่นี่แล้ว อาการหลอดเลือดหัวใจตีบตันของคุณนายหล่อนก็ไม่ได้กำเริบขึ้นมาอีกเช่นกัน

เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงการตัดสินใจก่อนหน้านี้ของตัวเอง แล้วตัดสินใจ

แต่รอจนจะเอ่ยปากออกมานั้น คำพูดที่พอมาถึงแล้วก็กลับต้องเลี้ยวกลับไป

“…….คุณนายหล่อน”

และที่เพิ่งจะเอ่ยพูดออกมานั้น เธอก็มารู้สึกเสียทีหลัง

ทั้งๆที่ตัดสินใจจะเรียกคำเรียกนั้นแล้ว แต่กลับมักจะพังลงทุกที

คุณนายหล่อนไม่ทันได้สังเกต จึงพาเธอเดินเข้าไปยังด้านใน

บริเวณรอบๆคฤหาสน์นั้นปลูกดอกไม้เอาไว้เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นช่วงฤดูหนาว แต่ก็มีบางส่วนที่ผลิบานอยู่ อีกทั้งทางด้านนึงของพุ่มไม้ ยังมีปลูกผักบางอย่างเอาไว้ สีเขียวชอุ่มดูแล้วช่างดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก

สังเกตเห็นถึงสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว คุณนายหล่อนจึงเอ่ยพูดขึ้นอย่างอายๆ : “พวกนั้นฉันกับหงหยู้ปลูกกันตอนว่างๆน่ะ ตอนนี้ทานได้พอดี เดี๋ยวตอนเย็นจะเอามาทำให้พวกเธอนะ”

ได้ยินว่าเธอจะเข้าครัว เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยิ่งรู้สึกสงสัย

คุณนายหล่อนไม่ถนัดในเรื่องการทำอาหาร

ตั้งแต่เล็กจนโต ในฐานะที่เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลหล่อน คุณนายหล่อนสามารถบริหารดูแลทั้งบริษัทได้อย่างชำนาญ และสามารถนำพาพนักงานที่อยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายให้ปลอดภัยขึ้นมาได้ แต่เมื่อเข้าครัวเพียงเท่านั้น ก็จะดูทำอะไรไม่ถูกไปอยู่บ้าง

ราวกับว่ามองออกถึงความสงสัยที่อยู่ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ คุณนายหล่อนจึงรู้สึกเขินอายขึ้นมา

“ตอนนี้พักอยู่ที่นี่ ก็ทำได้เพียงต้องทำอะไรเอง ถึงแม้ว่าจะทำไม่ได้อร่อยมาก แต่ก็ยังดีที่หงหยู้ไว้หน้ากันบ้าง ไม่ค่อยเลือกเท่าไรน่ะ”

ว่าแล้ว เธอก็หันกลับไปมองเวินหงหยู้แวบหนึ่ง

ทั้งสองคนสบตากันแล้วยิ้ม บรรยากาศรอบๆนั้นเต็มไปด้วยความหวานชื่นอบอวลไปหมด

เฟอร์นิเจอร์ภายในคฤหาสน์ส่วนมากก็ทำมาจากไม้ คุณนายหล่อนบอกว่า คนเก่าแก่ที่บ้านพักบนภูเขาแห่งนี้ชอบงานไม้ เฟอร์นิเจอร์จำนวนมากที่พวกเขาช่วยทำขึ้นมา

หลังจากที่มาถึงคฤหาสน์ส่วนตัวแห่งนี้แล้วถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่ชอบการที่ต่างฝ่ายต่างพยายามหลอกลวงซึ่งกันและกันในวงการธุรกิจ อยู่ที่นี่เป็นการคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ใช้ชีวิตกันอยู่ในสวนในทุ่ง

จี้จิ่งเชินเอาของที่นำมาด้วยนั้นเข้าไปยังด้านใน เป็นของขวัญที่พ่อบ้านและแม่ครัวตั้งใจจัดเตรียมเอาไว้ให้จำนวนไม่น้อย

ทั้งสองคนราวกับเห็นการมาพบกันในครั้งนี้เป็นการพบปะพ่อแม่ของจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นครั้งแรกอย่างไรอย่างนั้น จึงเตรียมของเอามาให้จนเกือบจะเต็มคันรถ และตอนที่ออกมานั้นยังดูกระสับกระส่ายกันอยู่ด้วย

กลัวว่าครั้งนี้จี้จิ่งเชินจะแสดงออกมาได้ไม่ดี แล้วจะถูกไล่ออกมาเสียก่อน

วางของเสร็จแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงมองไปรอบๆ แล้วเห็นผักที่คุณนายหล่อนปลูกเอาไว้ จึงอดที่จะไปช่วยรดน้ำให้ไม่ได้

จี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ข้างๆมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยน ส่วนหนึ่งภายในใจนั้นก็อ่อนยวบลง

“รอให้พวกเราแก่กันแล้ว ก็มาใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาแบบนี้ดีไหมครับ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า

ทุกอย่างที่นี่น่าดึงดูดเสียจริงๆ หลังจากที่ได้มาสัมผัสแล้ว มีเพียงแค่ความธรรมดาเรียบง่ายเพียงเท่านั้นที่ทำให้คนเราจะมีความสุขและมั่นคงได้

อาหารเย็นนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนและคุณนายหล่อนช่วยกันทำ วัตถุดิบที่ใช้นั้นเป็นผักที่ปลูกอยู่ตรงลานกว้างนั้น และยังมีของที่พวกจี้จิ่งเชินเอามาอีกด้วย

ผักที่ตัวเองปลูก ได้ลิ้มลองแล้วให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากที่ซื้อมาตามซุปเปอร์มาร์เก็ตยิ่งนัก ทำให้รู้สึกเจริญอาหารขึ้นมา

ทานอาหารเสร็จแล้วนั้น คุณนายหล่อนก็พาทั้งสองคนออกมาเดินเล่นทางด้านนอก

ตลอดทางนั้นก็จะพบกับผู้สูงอายุที่พากันออกมาเดินเล่นหลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว แต่ละคนดูแล้วสบายอกสบายใจยิ่งนัก และยังมีเอาผักที่บ้านของตัวเองปลูกมาแบ่งให้กับคนอื่นๆอีกด้วย

มองไม่ออกถึงท่าทางที่มีอำนาจควบคุมคนอื่นเหมือนตอนอยู่ในวงการธุรกิจในตอนนั้นเลย

ได้ยินว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินจะมาพักอยู่ที่นี่สองสามวัน ต่างก็พากันต้อนรับเป็นอย่างดี

เดินตามทางของทะเลสาบไปรอบหนึ่ง จนกระทั่งท้องฟ้าเริ่มมืดลง พวกเขาถึงได้กลับไป

“พรุ่งนี้อยากออกไปตั้งแคมป์ไหมครับ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนที่เพิ่งจะล้มตัวลงนอน ก็ได้ยินจี้จิ่งเชินเอ่ยพูดออกมาเช่นนี้

เธอดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาในทันที แล้วหันกลับมามอง

“ที่นี่หรือคะ?”

จี้จิ่งเชินพยักหน้า

“เมื่อกี้นี้ผมเห็นว่าข้างๆฝั่งของทะเลสาบมีสถานที่ที่สามารถตั้งแคมป์ได้ ตอนกลางคืนที่นี่อุณหภูมิไม่ต่ำมาก เหมาะมากเลยนะครับ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็รู้สึกอยากขึ้นมา

“ฉันยังไม่เคยไปตั้งแคมป์เลยค่ะ”

“ผมพาคุณไปไงครับ” จี้จิ่งเชินยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “แล้วอีกอย่างได้ยินมาว่าที่นั่นยังมีเรื่องเซอร์ไพรส์อื่นๆอีกด้วยนะ”

“เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรหรือคะ?”เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดขึ้นด้วยความสงสัย

“ถึงที่นั่นแล้วเดี๋ยวคุณก็รู้เอง”

จี้จิ่งเชินไม่ยอมพูดอะไรออกมาให้มากกว่าเดิม แล้วเอ่ยบอกกับเธอ : “พักผ่อนก่อนนะครับ พรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆเราค่อยออกเดินทาง”

เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบตกลง แต่พอนึกถึงว่าวันพรุ่งนี้จะได้ไปตั้งแคมป์นั้น เธอก็ตื่นเต้นเสียจนนอนไม่หลับ

มือของจี้จิ่งเชินวางลงบนเอวของเธอเบาๆ : “ถ้านอนไม่หลับ ให้ผมช่วยคุณไหม?”

ว่าแล้วมือที่โอบอยู่ตรงเอวของเธอนั้นก็กระชับแน่นขึ้น

เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที รู้สึกถึงความใกล้ชิดของร่างกายของตัวเองและจี้จิ่งเชิน กลัวว่าเขาจะกล้าลงมือจริงๆ จึงรีบส่ายหน้า

การกระทำเช่นนี้ เธอคงจะไม่เคยชินไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว

“ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง ฉันแค่พักผ่อนแป๊บเดียว เดี๋ยวก็หลับแล้ว”

ว่าแล้ว เพื่อทำให้จี้จิ่งเชินเชื่อ เธอจึงหลับตาลง แล้วเริ่มสะกดจิตตัวเองเอาไว้

จี้จิ่งเชินเห็นว่าขนตาของเธอยังคงสั่นไหวอยู่เช่นนั้น จึงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่กลับไม่ได้เปิดเผยอะไร มือของเขาจึงวางลงอยู่บนผ้าห่มของเธอเบาๆเพื่อเป็นการกล่อมเธอ

เป็นอย่างที่คิด สักพักหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกง่วง และผล็อยหลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นขึ้นมานั้น จี้จิ่งเชินก็ได้เริ่มเตรียมของที่จะไปตั้งแคมป์ในคืนนี้แล้ว

คุณนายหล่อนกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่นั้น ได้ยินว่าพวกเขาจะไปตั้งแคมป์ จึงแสดงความสนับสนุนออกมาด้วยความยินดี

“ในคฤหาสน์ยังมีของที่พวกเขาส่งมาให้ พวกเธอเอาไปด้วยก็ได้นะ”

“ฉันพาเธอไปเอาแล้วกัน” เวลานี้ เวินหงหยู้ยืนขึ้นมา แล้วพาจี้จิ่งเชินเดินขึ้นไปยังด้านบน

เมื่อเปิดประตูห้องเก็บของออกแล้วนั้น ด้านในมีเต้นและอุปกรณ์ต่างๆในการตั้งแคมป์อยู่เป็นจำนวนมาก

“มีของที่ยังไม่เคยได้ใช้อีกเยอะเลย เอาไปใช้กันได้นะ”

ว่าแล้วเขาก็ชี้ไปยังของที่อยู่บนชั้นเหล่านั้นพลางเอ่ย : “พวกนั้นเป็นเต้นท์คู่ พื้นที่ใหญ่ เหมาะกับการตั้งแคมป์”

จี้จิ่งเชินพยักหน้า แต่กลับไม่ขยับ แล้วชี้ไปยังอีกทางด้านหนึ่งที่มีของวางอยู่ตรงมุมนั้นแทน

“แล้วของพวกนั้นล่ะครับ?”

เวินหงหยู้มองแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“พวกนั้นเป็นเต้นท์เดี่ยว แต่ฉันแนะนำให้พวกเธอใช้เต้นคู่ที่นอนได้สองคนดีกว่านะ”

จี้จิ่งเชินไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา แต่กลับเดินไปยังมุมนั้น แล้วหยิบเต้นท์เดี่ยวมาหนึ่งหลังแล้วเตรียมตัวจะเดินออกมายังด้านนอก

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน