เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 733 ใครเป็นคนทำแตก

บทที่ 733 ใครเป็นคนทำแตก

บทที่ 733 ใครเป็นคนทำแตก

หล่อนเจียนีคิดไปด้วย มุมปากยิ้มขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม แววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย

เธอก้มลงมองของที่อยู่ในมือ จากนั้นปล่อยทั้งสองมือออก

เพล้ง!

กระเบื้องลายครามทั้งสองชิ้นตกแตกเป็นชิ้นๆ ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ หล่อนเจียนีก็ยังไม่ยอมหยุด เธอยังเดินหน้าเข้าไปเหยียบกระเบื้องที่แตกเป็นชิ้นๆอีกหลายครั้ง

เหยียบจนชิ้นส่วนเหล่านั้นแตกยับเยิน ถึงจะยอมหยุดในที่สุด

ทำจนเสร็จทั้งหมดแล้ว กลัวว่าพ่อบ้านจะเห็น จึงรีบๆออกไปและปิดประตูให้ดี เหลือไว้เพียงเครื่องเคลือบลายครามที่แตกกระเจิงเต็มพื้น

พ่อบ้านเพิ่งจะถูกชนเมื่อสักครู่นี้ รู้สึกไม่ค่อยสบาย นอนพักผ่อนอยู่ในห้องนอนตลอด ไม่สังเกตเห็นเลยว่าในกุญแจมือของตนเองไม่อยู่แล้ว

วันที่สอง เวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากคฤหาสน์ไปที่บริษัทโดยตรง จนถึงเย็นถึงจะกลับไปบ้านตระกูลหล่อน แล้วเปิดประตูห้องทำงาน คิดจะทำงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จ

พอเข้าไปปุ๊บ ก็เห็นกระเบื้องที่แตกกระเจิงเต็มพื้นกะทันหัน ลืมตาโตๆขึ้นมาทันที ยืนนิ่งอยู่กับที่

นี่มันอะไรกันเนี่ย?

เธอรีบๆเดินเข้าไป มองดูดีๆ กระเบื้องลายครามที่สวยงามแตกกระเจิงอยู่บนพื้น บางชิ้นยังแตกเป็นผง

ตอนที่ทำการเตรียมงานไว้เมื่อวาน ยังดีๆอยู่เลย ตอนนี้ทำไมกลายเป็นแบบนี้?

เวินเที๋ยนเที๋ยนกัดฟันแน่นๆ ในสมองนึกถึงชื่อคนๆหนึ่งขึ้นมาทันที

หล่อนเจียนี?

ถึงว่าตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากบ้านเมื่อวาน หล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลันมองดูท่าทางเงียบๆ ที่แท้คิดวางแผนการกับเครื่องเคลือบลายครามนี้……

มองดูชิ้นส่วนที่แตกกระเจิงบนพื้น เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งโมโหมาก

ตอนแรกความเสียหายยังถือว่าอยู่ในระดับกลาง แต่ตอนนี้แตกจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและยังเป็นผงอีก ความเป็นไปได้ที่จะซ่อมแซมยิ่งลดน้อยลงมาก

เธอยืนถอนหายใจยาวๆอยู่กับที่ ในที่สุดถึงจะควบคุมไฟที่โมโหในใจ

จากนั้นรีบเรียกพ่อบ้านฉวีผิงขึ้นมา

พอฉวีผิงเดินเข้ามาในห้องทำงาน เห็นภาพที่อยู่บนพื้นแล้วตกใจมาก

“คุณหนู เกินอะไรขึ้นครับ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดตรงไปตรงมา: “ในวันที่ฉันไม่อยู่บ้าน มีใครเข้ามาห้องนี้บ้าง?”

พ่อบ้านส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

“ประตูห้องทำงานล็อคไว้ตลอด ส่วนกุญแจก็อยู่กับตัวผม……”

ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น มือลูบไปจับตรงเอว ลืมตาโตๆทันที

“หายไปแล้ว!” เขารีบพูด: “กุญแจของผมหายไปแล้ว!”

เพิ่งจะพูดจบ ในสมองนึกถึงภาพที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทันที หล่อนเจียนีชนเขาอย่างกะทันหัน……

หรือว่ากุญแจจะถูกเอาไปตอนนั้น?

แย่จริงๆ!

ถ้าเขาระมัดระวังหน่อย ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้น ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“คุณไม่ต้องโทษตัวเอง ไปเรียกคนอื่นในคฤหาสน์ออกมาก่อน ฉันมีเรื่องจะถามพวกเขา”

ฉวีผิงมองดูเศษเครื่องเคลือบลายครามที่แตกกระเจิงอยู่บนพื้น ในใจยิ่งรู้สึกผิดอย่างมาก สุดท้ายถึงหันหลังเดินออกไป

เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่พูดอะไรอีก แต่ดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆเศษซากเหล่านั้น

ผ่านไปสักพัก ทุกคนในคฤหาสน์ถูกเรียกมาในห้องทำงานทั้งหมดแล้ว

เห็นเศษซากบนพื้น ต่างก็รู้สึกตกตะลึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนสีหน้าเคร่งเครียดในเวลานี้ บวกกับเศษชิ้นส่วนที่แตกกระเจิงเต็มพื้น ก็พอจะเดาได้บ้างแล้ว ไม่มีใครกล้าพูดจา

ตั้งนานเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังไม่เอ่ยปากพูด จนหล่อนเจียนีและหลิวเหม่ยหลันเดินมาอย่างช้าๆ

ทั้งสองคนหาวเดินเข้ามาด้วย บ่นไปด้วย

“ตกลงมันเรื่องอะไรกัน? เรียกเรามาในเวลานี้ เตรียมจะนอนพักผ่อนแล้วเนี่ย พวกเรางานยุ่งจะตาย”

ทุกคนได้ยินเสียงนั้นแล้ว ต่างก็หันไปมองโดยไม่ได้นัดหมาย

ในเวลานี้ ในใจทุกคนต่างรู้สึกว่า เศษซากทั้งหมดที่แตกอยู่บนพื้นน่าจะเกี่ยวข้องกับทั้งสองแม่ลูกนี้

หลังจากที่ก่อนหน้านั้นหล่อนเจียนีได้ยินว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาแล้ว เธอก็รออยู่ในห้องนอนตลอดเวลา

ตอนที่ได้ยินว่าพ่อบ้านให้พวกเขาออกไปรวมตัว เธอก็รู้แล้วว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องเห็นเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นแล้ว แกล้งทำเป็นรอสักพัก ค่อยออกมากับหลิวเหม่ยหลันพร้อมกัน

นึกถึงภาพสีหน้าบนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนในขณะนี้ต้องดีเลิศเป็นอย่างมากแน่ๆ

เห็นเศษซากที่แตกเต็มพื้นแล้ว ยังแกล้งพูดว่า: “ไอยา นี่มันเกิดอะไรขึ้น? มีของตกแตกเหรอ พวกเธอทำไมไม่รีบเก็บกวาดล่ะ?”

“เลี้ยงพวกแกไว้ทำอะไรกัน? เดี๋ยวไม่ระวังทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนบาดเจ็บ ดูซิว่าพวกแกยังจะทำงานที่นี่ต่อไปได้อีกไหม!”

ทุกคนไม่กล้าเอ่ยปากพูด มีแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูด: “ฉันเป็นคนสั่งพวกเค้าไม่ต้องเก็บกวาดเอง”

แววตาของหล่อนเจียนีหันไปปุ๊บ เห็นบนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่มีกิริยาอาการใดๆ จึงเดาไม่ออกจริงๆว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไร

“แล้วคุณเรียกพวกเรามาที่นี่ มีธุระอะไรเหรอ? ถ้าไม่มีอะไรฉันกลับไปนอนพักผ่อนก่อนนะ”

น้ำเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนนิ่งมาก ฟังไม่ออกเลยว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง

“ฉันนึกว่า คุณเห็นพวกนี้แล้วก็น่าจะรู้แล้ว”

หล่อนเจียนีรู้สึกในใจตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ก็ยังยิ้มอยู่

พูดอย่างไม่พอใจว่า:“ฉันไม่ใช่พยาธิตัวกลมในท้องของคุณ รู้ได้อย่างไรว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน เสียงนั้นดังขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับแรงผลักดัน

“คุณกล้าพูดว่าพวกนี้ไม่เกี่ยวกับคุณเหรอ?”

หล่อนเจียนีได้ยินดังนั้น กัดฟันพูด: “เวินเที๋ยนเที๋ยน คุณเห็นฉันเข้ามาที่นี่เมื่อไหร่? ไม่มีหลักฐานอย่าพูดมั่ว!”

น้ำเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนสูงขึ้นมาทันที

“คุณกล้าพูดว่าพวกนี้ไม่ใช่ฝีมือคุณเหรอ?”

“ไม่ใช่แน่นอน!”

หล่อนเจียนีตอบโต้กลับ: “เข้าห้องนี้ต้องใช้กุญแจไม่ใช่เหรอ? กุญแจอยู่กับพ่อบ้านตลอด ใครจะเข้ามาได้?”

“ในเมื่อคุณไม่อยากเข้ามา ทำไมรู้ว่าที่นี่มีกุญแจ?”

หล่อนเจียนีได้ยินดังนั้น ลูกตาหมุนไปหมุนมา พูดอย่างกระวนกระวาย: “ฉันก็แค่สงสัยว่าตกลงมีอะไรอยู่ในนี้? แล้วไปถามพ่อบ้าน ทำไม? ไม่ได้เหรอ? อีกอย่าง หลังจากนั้นพ่อบ้านก็ไม่ให้ฉันไม่ใช่เหรอ? ฉันเคยเข้ามาเมื่อไหร่? พวกคุณจะใส่ร้ายกันแบบนี้ไม่ได้นะ”

พ่อบ้านเห็นเธอไม่ยอมรับผิด ทนไม่ไหวจึงรีบพูดออกมา: “ตอนที่คุณอยู่ห้องรับแขกเมื่อคืนนี้ แกล้งมาชนผม หลังจากนั้นกุญแจของผมก็หายไป ต้องถูกคุณเอาไปแน่ๆ!”

หล่อนเจียนีโต้ตอบ: “ฉันไม่เคยเห็นกุญแจอะไรนั่นเลย ตอนนี้ตรงนี้คนเยอะแยะขนาดนี้ ใครก็อาจจะเป็นคนเอากุญแจไป ทำไมพวกคุณต้องหาว่าฉันเป็นคนเอาไป? กุญแจไม่ได้อยู่บนตัวฉันสักหน่อย!”

พูดแล้ว ยังหันไปมองหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน

ฉวีผิงโมโหจนเดินหน้าเข้าไปจะทะเลาะกับเธอ

เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบยกมือห้ามเขาไว้

มองดูท่าทางที่ได้ใจของหล่อนเจียนี คิดก็รู้ ว่าเธอต้องทำลายหลักฐานทั้งหมดตั้งนานแล้ว

ถึงแม้พวกเขาจะค้นทั่วทั้งคฤหาสน์ ก็คงหากุญแจดอกนั้นไม่เจอ

ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ลุกขึ้นมา ก้มตัวลงไปเก็บเศษเครื่องเคลือบลายครามนั้นขึ้นมา

“นี่ก็เป็นเครื่องเคลือบลายครามที่ฉันรับมาจากมือของท่านเปิง ตอนแรกตอบตกลงไว้ว่าซ่อมเสร็จก็จะนำไปคืนให้เจ้าของเดิม เมื่อวานฉันเพิ่งจะเริ่มซ่อมแซม ก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว ดูจากความเสียหายของเครื่องเคลือบลายครามนี้แล้ว ยากที่จะซ่อมแซมให้เหมือนเดิมแล้ว”

พูดแล้ว เธอจ้องมองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้า แล้วพูดต่อว่า: “เครื่องเคลือบชิ้นนี้เป็นสมบัติที่สืบทอดมาจากเตาเผาของราชสำนักในสมัยราชวงศ์ถัง เท่าที่ฉันทราบ ในงานประมูลสามเดือนก่อน โถลายครามสีฟ้าและสีขาวที่ออกมาจากเตาเผาเดียวกันประมูลในราคาที่สูงมากถึงห้าสิบล้าน เครื่องเคลือบลายครามชิ้นนี้ผ่านการรับรองจากท่านเปิงและนักโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ยืนยันว่าน่าจะมีมูลค่าสูงกว่าโถลายครามสีฟ้าและสีขาวชิ้นนั้น ถ้าสามารถซ่อมแซมให้งดงามเหมือนเดิมได้ ราคาขายน่าจะไม่ต่ำกว่าหกสิบล้าน”

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท