เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 739 ขอความกรุณาจากคุณ ได้โปรดช่วยฉันด้วย

บทที่ 739 ขอความกรุณาจากคุณ ได้โปรดช่วยฉันด้วย

บทที่ 739 ขอความกรุณาจากคุณ ได้โปรดช่วยฉันด้วย

เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปหาพนักงานโดยตรง แล้วสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของหลวนจื่อ พอรู้ว่าเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กำลังเตรียมการรออยู่ด้านหลัง เธอถึงพาจี้จิ่งเชินไปนั่งลงมาพร้อมกัน

“วันนี้หมินอันเกอไม่มาเหรอ?” จี้จิ่งเชินมองดูรอบๆข้างและถาม

เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะนึกออก ตนยังไม่ได้บอกจี้จิ่งเชินเรื่องนี้ รีบดึงตัวเขาและพูดเบาๆ

“หลวนจื่อไม่ได้บอกหมินอันเกอ สองสามวันนี้หมินอันเกไปถ่ายละครนอกพื้นที่ หลวนจื่อกลัวว่าเขารู้แล้วจะไม่เห็นด้วย ให้ฉันช่วยปิดความลับนี้ไว้ให้เธอก่อน”

ส่วนทางด้านทีมงานจัดงานแฟชั่น เคอเหยียนรุ่ยก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลว่าหลวนจื่อจะมาร่วมงานด้วย

จี้จิ่งเชินได้ยินแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เดินแบบเสร็จแล้ว หมินอันเกอก็ต้องรู้แน่นอน”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า

“แต่ว่าหลวนจื่อบอกว่า เธอมีวิธีทำให้หมินอันเกอหายโกรธ น่าจะทำได้นะ?”

จี้จิ่งเชินกลับพูดขึ้นมาว่า: “หมินอันเกอตอนนี้เซ็นสัญญากับบริษัทหวนฉิวหรือเปล่า? บริษัทที่อยู่ภายใต้ชื่อคุณทำไมไม่รู้ตารางงานเลย?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ

จี้จิ่งเชินพูดอธิบาย: “ผมได้ข่าวมาว่า ละครที่หมินอันเกอถ่ายทำอยู่ปิดกล้องล่วงหน้า วันนี้ก็น่าจะกลับมาแล้ว ถ้ารู้ข่าวแล้ว เป็นไปได้ว่าตอนที่หลวนจื่อเดินแบบ เขาต้องมาที่นี่”

“อะไรนะ? ไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนลืมตาโต เธอไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด

จี้จิ่งเชินพูดปลอบใจว่า: “คุณไม่ต้องห่วงหรอก หลวนจื่อเดินโชว์แค่พิธีเปิดงาน ตอนที่เขามาถึง น่าจะจบแล้วแน่นอน”

“ก็ใช่”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แต่ในใจก็ยังรู้สึกกังวล

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้กำลังเปิดม่านและเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

บนเวทีเต็มไปด้วยหมอกสีขาวลอยขึ้นมา ภายใต้ฉากที่มีต้นไม้วิวธรรมชาติที่เขียวขจี ราวกับสวรรค์

ขณะนี้ มีเงาของคนสูงๆคนหนึ่งเดินออกมาจากหมอกเมฆนั้น

ทุกคนอดใจไม่ไหวจนยื่นคอออกมาดูอย่างละเอียด

พอเห็นหน้าตาของนางแบบแล้ว ต่างก็พากันหายใจลึกๆ

“นี่คือหลวนจื่อ!” มีคนพูดด้วยเสียงเบาๆ

จากนั้น ที่นั่งของแขกรับเชิญทั้งหลายมีเสียงซุบซิบคุยกันดันขึ้น

ถึงแม้ก่อนหน้านั้นเคอเหยียนรุ่ยเคยพูดไว้ ว่าจะมีแขกรับเชิญพิเศษมาร่วมงาน แต่พวกเค้าไม่รู้ ว่าแขกรับเชิญที่ว่านั้นคือหลวนจื่อนั่นเอง

ในเวลานี้พอเห็นหลวนจื่อปรากฏตัว บนใบหน้าของทุกคนต่างมีสีหน้าที่ดูสับสน

แต่ไม่นาน ทุกคนก็สังเกตเห็นเสื้อผ้าบนตัวของเธอ

กระโปรงยาวถึงพื้นสีเขียวอ่อนๆ มีริบบิ้นสีขาวห้อยอยู่บนมือ เวลาเดินแล้วปลิวไปตามสายลม เหมือนดั่งนางฟ้าที่เหาะลงมาสู่พื้นดิน

ผมหยักเป็นลอนๆม้วนเข้าหากัน ตรงจอนเหลือเส้นผมไว้สองสามลอนที่ย้อมเป็นสีเขียว บนหัวใส่มงกุฎที่ทำด้วยใบไม้และดอกไม้

เดินออกมาอย่างมั่นใจ มีพลังอย่างลึกลับ เหมือนเทพธิดาแห่งป่าเขาเดินมาอยู่ตรงหน้าพวกเขา

หลังจากที่เคอเหยียนรุ่ยออกแบบแก้ไขอย่างสุดฝีมือ กระโปรงปิดท้องที่ยืดออกมาของหลวนจื่อได้อย่างสวยงาม มองดูแล้วไม่ชัดเจนมากเท่าไหร่

เธอเดินออกมาด้วยเท้าเปล่า ท่าทางกระฉับกระเฉง เหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากอากาศที่หนาวเย็นเลยสักนิด

ดูถึงตรงนี้แล้ว เสียงที่ซุบซิบกันของแขกรับเชิญทั้งหลายค่อยๆหยุดลง จากนั้นไม่มีใครพูดกันอีกเลย นั่งดูหลวนจื่อที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบๆ

บนตัวเธอมีออร่าที่คนอื่นๆไม่สามารถเทียบได้ เธอเป็นดั่งเจ้าหญิง อีกทั้งยังเป็นเอลฟ์ ที่ผู้คนได้แค่มองดูอยู่ไกลๆ แต่ไม่กล้าหยอกล้อ

เธอเดินมาถึงด้านหน้าสุดของแคตวอล์ก แล้วหยุดสักพักตรงหน้ากล้อง จากนั้นหันตัวเดินกลับไป

แค่เวลาสั้นๆไม่กี่วินาที ทุกคนก็หลงใหลจมอยู่ในบรรยากาศ

จนถึงนางแบบคนที่สองใกล้จะลงจากเวที พวกเขาถึงจะดึงสติตื่นมาจากโชว์บนเวทีและอุทานด้วยความชื่นชม

ไม่พูดไม่ได้ว่า ความสามารถของหลวนจื่อนั้นโดดเด่นกว่าคนอื่นมาก

ถึงแม้จะเทียบกับซุปเปอร์โมเดลชาวยุโรปอเมริกาแล้ว ก็ยังไม่ด้อยกว่าแม้แต่นิดเดียว

สายตาผู้คนในงานเปล่งประกายวาววับเล็กน้อย ในสมองยังปรากฏภาพหน้าตาของหลวนจื่อเมื่อสักครู่นี้

สวยงามอย่างน่าทึ่ง! ตะลึง!

ไม่มีอะไรที่จะเอาชนะใจทุกคนได้มากไปกว่าความสามารถ

ในเวลานี้วินาทีนี้ ไม่มีใครแปลกใจเลยว่าทำไมหลวนจื่อถึงปรากฏตัวที่นี่ในตอนนี้ ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ของเธอและหมินอันเกอ

ก่อนหน้านั้น พวกเขารู้สึกว่าหลวนจื่อบังอาจเอื้อมหมินอันเกอมาตลอด รู้สึกไม่คู่ควรกับหมินอันเกอ

แต่ตอนนี้ พวกเขาเพิ่งจะสังเกตได้ว่า ความสามารถของหลวนจื่อเก่งมากกว่าที่พวกเค้าคิดไว้

แม้ว่าจะไม่พูดถึงสถานะเบื้องหลังของตัวเธอ สถานะของหลวนจื่อในวงการบันเทิงเวลานี้ ก็คู่ควรสมฐานะแล้ว ไม่บังอาจเอื้อมดังที่เคยมีคนว่า

เคอเหยียนรุ่ยที่ยืนกำกับนางแบบท่านอื่นๆอยู่ด้านข้างและเห็นภาพเหตุการณ์ในเวลานี้แล้ว รู้สึกดีใจอย่างมาก

เขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าบนโลกใบนี้ มีแต่หลวนจื่อเท่านั้นที่จะสามารถทำให้ผู้ชมทุกท่านรู้สึกทึ่งกับการออกแบบชุดนี้ของเขา

เห็นคนเหล่านั้นหยิบกล้องถ่ายรูปออกมาถ่ายภาพที่อยู่ตรงหน้า เขาดีใจจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา

หลังจากที่ได้รับรางวัลครั้งแรก ผลงานที่ออกแบบโดยเคอเหยียนรุ่ยไม่ค่อยจะมีชื่อเสียงมากนัก

ยังมีคนเคยพูดว่า การออกแบบของเขาเป็นผลงานที่สุดจะเก่าแก่ ได้รับคำนินทาแบบนี้มาไม่น้อย

ครั้งนี้ เขาถึงกับตัดสินใจว่า ถ้าไม่สำเร็จ ก็จะยอมลาออกจากวงการนี้

แต่เห็นสภาพเช่นนี้แล้ว ตอนที่เห็นหลวนจื่อเดินออกมา เขารู้เลยว่า ตนเองทำสำเร็จแล้ว

รอมานานสิบกว่าปี ธุรกิจนี้ของเขาอาจจะได้รับความนิยมถึงขั้นสูงสุดอีกครั้ง!

แต่ในเวลานี้พอดี ผู้ช่วยผู้จัดการกลับรีบร้อนวิ่งเข้ามาจากด้านหลังเวที สีหน้าร้อนใจ

“ครูคะ แย่แล้ว!”

พอหลวนจื่อจบการเดินโชว์แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินก็เดินไปด้านหลังเวทีพร้อมกัน

ในตอนนี้หลวนจื่อยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า บนใบหน้ายิ้มด้วยความตื่นเต้น ไม่เหมือนกับสีหน้าท่าทางที่เคร่งขรึมและดูสูงศักดิ์อยู่บนเวทีเมื่อสักครู่นี้เลย ตอนนี้รู้สึกเป็นกันเองมาก

เธอมองไปด้านหน้าเวทีอย่างระมัดระวัง สังเกตดูกิริยาอาการบนใบหน้าของผู้ชมทั้งหลาย

เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินมา ก็รีบดึงตัวเธออย่างตื่นตาตื่นใจ

“เที๋ยนเที๋ยน ตอนฝึกซ้อมกับเดินแบบอย่างเป็นทางการไม่เหมือนกันจริงๆนะ เมื่อกี้เธอเห็นรึยัง? ฉันไม่มีความรู้สึกแบบนี้มานานมาก รู้สึกว่าตนเองฟื้นคืนชีพเลยอย่างนั้น”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า เห็นเธอหน้าตามีดีใจและความสุขขนาดนี้ เธอก็รู้สึกดีใจไปด้วย แต่ในใจก็ยังนำแต่คำพูดของจี้จิ่งเชินเมื่อสักครู่นี้

จากนั้นรีบเร่งพูด: “รีบๆเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ หนาวไหม?”

หลวนจื่อส่ายหัว

“ฉันจะหนาวได้ยังไง? ตอนนี้ดีใจยังไม่พอเลย”

เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะและพูด: “เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ เมื่อกี้จี้จิ่งเชินบอกฉัน ทางกองถ่ายของหมินอันเกออาจจะ……”

“หลวนจื่อ!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเสียงหนึ่งขัดขวางซะงั้น

หันหน้าและมองไป เห็นเคอเหยียนรุ่ยวิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจและตะโกนเรียก: “หลวนจื่อ คุณยังไม่ไปใช่ไหม? คุณช่วยฉันอีกอย่างหนึ่งได้ไหม?”

หลวนจื่อมองเขาอย่างแปลกใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“อะไรล่ะ? คุณพูดมาได้เลย ขอแค่ฉันทำได้ ฉันต้องช่วยคุณแน่นอน”

เคอเหยียนรุ่ยขมวดคิ้วและพูดอย่างกังวลใจว่า: “แขกรับเชิญพิเศษที่จองไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะให้มาทำการปิดงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ มีธุระสำคัญกะทันหัน ไม่มาแล้ว คุณช่วยทำแทนเธอได้ไหม ช่วยฉันเดินแบบปิดงานรอบสุดท้าย”

“ต้องขอโทษด้วยนะ ฉันรู้ว่าตอนแรกคุยกับคุณไว้ว่าจะเดินโชว์แค่พิธีเปิดงาน แต่ตอนนี้เกิดเรื่องกะทันหัน ช่วยฉันอีกสักรอบได้ไหม?”

เขากลัวว่าหลวนจื่อไม่รับปาก จึงขอร้องหลายรอบ

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท