เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่897 เขาเป็นคนขี้ขลาดคนหนึ่ง

บทที่897 เขาเป็นคนขี้ขลาดคนหนึ่ง

บทที่897 เขาเป็นคนขี้ขลาดคนหนึ่ง

เวินเที๋ยนเที๋ยนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้าลง

ผ่านไปพักหนึ่งนั้น จู่ๆเขากลับเอ่ยขึ้นมา : “ฉันคงบอกกับเธอได้เพียงว่า สำหรับฉันแล้ว ลูกเป็นหน้าที่ของฉัน ส่วนภรรยาเป็นความรักของฉัน”

“ถึงแม้ว่าสำหรับลูกของฉันแล้ว คำพูดนี้ดูจะโหดร้ายอยู่บ้าง แต่ก็เป็นแบบนี้จริงๆ”

เขามองไปยังหลังมือที่เต็มไปด้วยรอยย่นบนหลังมือตัวเอง ราวกับนึงถึงเรื่องราวเมื่อก่อน อาการที่แสดงออกมานั้นอ่อนโยนลงมาก

“ฉันทุ่มเทกับการเลี้ยงดูเขา เพียงเพราะหวังจะให้ภรรยาของฉันหลับไปอย่างสบายใจ หลังจากนั้นอีกร้อยปีจะได้อธิบายกับเธอได้”

ลูกคือหน้าที่ ภรรยาคือความรัก……

เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกว่าเสียงของตัวเองหายไปแล้ว พูดอะไรไม่ออก

จู่ๆเธอก็เข้าใจความคิดของจี้จิ่งเชินแล้ว

เพราะรักเธอ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเลือกอะไร เขาก็จะสนับสนุน

และก็เป็นเพราะรักเธอ เขาก็จะดูแลลูกของพวกเธอให้ดี

แต่ถ้าหากเธอตายไปแล้ว ความรักของจี้จิ่งเชินก็จะตายไปด้วยเช่นกัน

นั่นก็ไม่น้อยไปกว่าภัยพิบัติที่ทำให้ต้องสูญเสียชีวิตเลย

มีชีวิตอยู่ ก็ไม่ได้สบายกว่าตายไปแล้วเลย

เวินเที๋ยนเที๋ยนตกอยู่ในอาการครุ่นคิด รอให้เธอดึงสติกลับมาแล้ว ชายสูงวัยก็จากไปแล้ว มีเพียงแต่สายตาที่เป็นกังวลของแม่บ้านเพียงเท่านั้น

“คุณนายคะ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เธอเอ่ยถามด้วยความกังวล

เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า “ฉันรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย เรากลับกันเถอะค่ะ”

แม่ครัวคล้อยตามแล้วประคองเธอให้นั่งลงบนวีลแชร์

พวกเธอค่อยๆจากเดินจากไป ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ก็คือ ชายสูงวัยคนนั้นมาถึงห้องพักของเวินเที๋ยนเที๋ยนก่อนพวกเธอแล้ว

จะพูดให้ถูกก็คือ ห้องพักผู้ป่วยข้างๆห้องเธอนั่นเอง

“คุณจี้ ฉันทำตามที่คุณบอกแล้ว ส่งต่อคำพูดเหล่านั้นให้กับภรรยาของคุณ”

จี้จิ่งเชินพยักหน้าลงเล็กน้อย

“เกี่ยวกับค่าตอบแทนของคุณ……”

“ไม่ต้องหรอก”

ชายสูงวัยส่ายหน้า แล้วถอนหายใจออกมา “หวังว่าคุณจะไม่เป็นแบบพวกเราก็แล้วกัน”

ว่าแล้ว เขาก็หันกลับเดินออกไป

จี้จิ่งเชินได้ยินแล้วนั้น ดวงตายิ่งมืดมนลง เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงข้างๆหน้าต่าง แววตาที่ลึกซึ้งนั้นมองไปในสวนด้านล่าง ร่างนั้นกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์

เที๋ยนเที๋ยน……

รอยย่นตรงคิ้วของเขาขมวดขึ้นอย่างเจ็บปวด

“ผมไม่ยอม….ไม่ยอมปล่อยคุณไปเด็ดขาด!”

ดวงตาของเขาฉายความเจ็บปวดออกมา

มือที่ค้ำอยู่ตรงขอบหน้าต่างนั้นกำแน่น ปลายนิ้วกลายเป็นสีขาวเนื่องจากออกแรงมากเกินไป

ทั้งหมดนี้เป็นการตัดสินใจสุดท้ายของเขา

เขาไม่มีความกล้าพอที่จะเดิมพันด้วยอัตราการรอดชีวิตเพียง40% ไม่กล้าพอที่จะยอมรับกับความเกลียดแค้นหลังจากที่ปิดบังเรื่องเอาลูกของเวินเที๋ยนเที๋ยนออก

เขาเป็นคนขี้ขลาดมากจริงๆ!

แต่เขาก็ยอมเป็นคนขี้ขลาด แล้วก็จะไม่ยอมให้เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องมาได้รับความเจ็บปวดแม้แต่นิดเดียวด้วยเช่นกัน

เขาต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่กลายเป็นสุสานที่เยือกเย็น

ถึงแม้จะต้องใช้การข่มขู่ของตัวเอง วิธีการที่ต่ำทราม ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องเลือกระหว่างตัวเองกับลูก

………..

หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมายังห้องพักผู้ป่วยแล้วนั้น ก็เงียบเป็นผิดปกติ

แม่บ้านที่อยู่ข้างๆนั้นรู้สึกเป็นกังวลเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจอย่างไรดี

แผนการนี้ของคุณจี้ เธอนั้นรู้

ถึงแม้ว่าจะทำใจเรื่องคุณชายน้อยหรือคุณหนูไม่ได้ แต่เธอยิ่งไม่ยอมที่จะเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเกิดเรื่องขึ้นมากกว่า

ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะร่วมมือกับจี้จิ่งเชินอย่างไม่ต้องสงสัย

“คุณนายคะ คุณมีเรื่องอะไรในใจ บอกฉันได้นะคะ ฉันเองอาจจะช่วยอะไรคุณไม่ได้ แต่เก็บเอาไว้ในใจมีแต่จะยิ่งเป็นทุกข์เสียเปล่าๆ”

แม่ครัวรู้สึกขาดความมั่นใจและละอายใจอยู่บ้าง แต่ความห่วงใจที่เธอมีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นล้วนแต่เป็นความจริงใจทั้งสิ้น

เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมามองแม่ครัว แล้วค่อยๆพยักหน้าลง

เธอต้องการคนที่จะยอมมารับฟังความลังเลของเธอจริงๆ

“ชายสูงวัยเมื่อครู่นี้ แม่ครัวเองก็ได้ยินที่เขาพูดแล้ว แม่ครัวรู้สึกว่า หน้าที่กับความรักสิ่งไหนสำคัญกว่าคะ?”

นี่ดูเหมือนจะเป็นคำถามที่แก้โจทย์ได้ยากมากข้อหนึ่ง

แม่ครัวรู้ดีว่าหน้าที่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดถึงนั้น ก็คือเด็กทารกที่อยู่ในครรภ์ของเธอนั่นเอง

นั่นเป็นชีวิตเล็กๆชีวิตหนึ่งที่คุณผู้ชายกับคุณนายเป็นคนสร้างเขาขึ้นมา แล้วก็ต้องมีหน้าที่ที่จะคลอดเขาออกมา และเลี้ยงดูเขาให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่

“แต่ชีวิตไม่ได้มีแค่หน้าที่กับความรักนะคะ”

คำพูดของแม่ครัวทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนสั่นไปทั้งร่างกาย

เธอฟังแม่ครัวพูดต่อ : “ที่คุณนายเลือกไม่ได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าในใจของคุณนาย หน้าที่กับความรักนั้นสำคัญเท่าๆกัน”

“แต่คุณเคยคิดไหมคะ ว่าชีวิตของคนเรายังมีมิตรภาพ ครอบครัวอีกด้วย”

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเธออย่างเลื่อนลอย

แม่ครัวพูดถูก เธอยังมีครอบครัว มีเพื่อน

เวินหงหยู้ หล่อนหลี หลวนจื่อ และหมินอันเกอ

แม้กระทั่งพ่อบ้านและแม่ครัว ก็ล้วนแต่เป็นบุคคลที่สนิทที่สุดที่คอยอยู่ข้างกายเธอ

พวกเขาเองก็เหมือนกับจี้จิ่งเชิน ที่คาดหวังให้เธอเอาชนะความเจ็บป่วยเหล่านี้และมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

ชีวิตของคนเราไม่ได้มีเพียงแค่ความรักกับหน้าที่

สิ่งที่แม่ครัวบอกนั้น ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกกระจ่างขึ้นมา

เธอก้มหน้าลง แล้วลูบท้องของตัวเอง “แต่เขาควรจะทำอย่างไรคะ? ฉัน ฉันใจร้ายแบบนี้ไม่ได้”

“คุณนายคะ ไม่ว่าคุณจะเลือกอย่างไร พวกเราต่างก็ล้วนเคารพการตัดสินใจของคุณนะคะ”

แม่ครัวปลอบใจเธอ “เพียงแค่ฉันรู้สึกว่า ขอให้คุณยังมีชีวิตอยู่ คุณกับคุณผู้ชายยังจะต้องมีลูกคนที่สองอีก แล้วอีกอย่างลูกในท้องของคุณ ก็จะไม่โทษคุณเพราะเรื่องนี้ด้วย”

“แต่………”

แม่ครัวกัดฟันพลางเอ่ย : “คุณไม่กังวลว่าหลังจากที่คุณไปแล้ว คุณผู้ชายจะกลายเป็นแบบชายสูงวัยคนนั้นหรอกหรือคะ?”

ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกลังเล

“ฉันรู้แล้วค่ะ”

แล้วพักหนึ่ง เธอก็กัดฟัน พลางเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำ

เธอพยายามแล้ว เธอทำดีที่สุดแล้วที่จะรักษาเด็กคนนี้เอาไว้ แต่นี่กลับเป็นการทำร้ายทุกคนที่เป็นห่วงเธอ

แม่ของเธอ อาการกล้ามเนื้อหัวใจเกือบจะกำเริบเพราะต้องดูแลเธอ ทำให้ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านพักบนภูเขา

ตอนที่หล่อนหลีกับเวินหงหยู้จะไปนั้นก็มีแววตาที่อาลัยอาวรณ์ยิ่งนัก

และยังคงวนเวียนอยู่ในความฝันของเธอบ้างเป็นครั้งเป็นคราวไป

ส่วนหลวนจื่อกับหมินอันเกอก็เป็นเพราะอาการป่วยของเธอ จึงตัดสินใจเลื่อนงานแต่งงานออกไปหลังเธอคลอดลูก

รู้ว่าพวกเขารอวันนี้ รอมาเป็นเวลานานเกินไปแล้ว

อีกทั้งพวกเขาเคยคิดบ้างหรือเปล่า ถ้าหากเธอโชคร้ายจากไป งานแต่งงานของพวกเขาก็จะถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมน จะเปลี่ยนไปอย่างไม่สมบูรณ์แบบ

แม้กระทั่งอาจจะเป็นเพราะงานศพของเธอ จะต้องเลื่อนจัดงานแต่งงานออกไปอีก

เธอรู้สึกผิดกับพวกเขา และยิ่งรู้สึกผิดกับจี้จิ่งเชินมากขึ้นด้วย

เขารักเธอขนาดนั้น เธอจะทำร้ายเขาลงได้อย่างไรกัน?

ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นตำหนิโทษตัวเอง ราวกับแทบจะเอ่อล้นออกมา

“คุณนาย คุณ…….”

“ให้ฉันพักผ่อนเสียหน่อยนะคะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนตัดบทแม่ครัวไป แล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

แม่ครัวจึงทำได้เพียงต้องออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์

เธอรู้สึกว่าอารมณ์ของเธอไม่ค่อยดีเท่าไรนัก จึงรีบบอกเรื่องนี้กับจี้จิ่งเชิน

“ฉันไม่ดีเอง” ดวงตาของจี้จิ่งเชินนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว “ตอนนี้ เธอจะต้องเสียใจมากอย่างแน่นอน”

แม่ครัวถอนหายใจออกมายาวๆ “แต่ก็ขอให้คุณนายคิดได้เร็วๆนะคะ เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว”

คิดได้เร็วๆอย่างนั้นหรือ?

จี้จิ่งเชินเม้มปาก รู้สึกนี่เป็นอีกวิธีหนึ่งแล้วจริงๆ

ความเจ็บปวดทั้งหมดของเวินเที๋ยนเที๋ยน เป็นเพราะความลังเลของเธอ ถ้าหากสามารถให้เธอคิดได้เร็วหน่อย บางทีอาจจะไม่ต้องรู้สึกแย่ขนาดนี้

แต่เขาควรจะทำอย่างไร ถึงจะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด?

แม่ครัวมองจี้จิ่งเชินอย่างรอคอย แต่กลับเห็นคุณจี้เองก็เป็นทุกข์อยู่เหมือนกัน จึงอดที่จะรู้สึกหดหู่ไม่ได้ “คุณจี้เองก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้เลยหรือคะ?”

จี้จิ่งเชินส่ายหน้าออกมาอย่างช้าๆ “เดี๋ยวฉันไปดูเธอหน่อยแล้วกัน”

เขาไม่วางใจให้เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องมาจริงจังเกินเหตุอยู่ในห้องคนเดียวแบบนี้

แม่ครัวได้ยินจี้จิ่งเชินพูดแบบนี้แล้ว จึงค่อยๆวางใจขึ้นมา

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน