เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่995 แก่แดด

บทที่995 แก่แดด

พวกหล่อนได้ยินแบบนี้แล้ว สีหน้าก็ซีดขาว

ถ้าจี้จิ่งเชินทำจริงแล้วละก็ พวกหล่อนคงไม่มีโอกาสได้เข้าสู่วงการบันเทิงแน่

พวกหล่อนตกลงตัวสั่น ไม่กล้าพูดอะไรอีก รีบพยักหน้า และวิ่งหนีออกไป

พอพวกหล่อนไปแล้ว จี้หยู๋ชิงก็ยังคงมองจี้จิ่งเชินอย่างไม่พอใจ

ขมวดคิ้ว แววตาก่นด่าเหมือนกำลังพูดว่า: พ่อที่เอาแต่โปรยเสน่ห์ไปทั่ว! เดี๋ยวรอแม่กลับมาก่อน ผมจะบอกเรื่องนี้กับแม่แน่! พ่อจบแน่!

จี้จิ่งเชินเลิกคิ้ว

“แก่แดด”

จี้หยู๋ชิงเชิดหน้าขึ้น

เหอะๆ

ตอนนี้แม่จ๋าไม่อยู่ เขาก็จะต้องรับหน้าที่จับตาดูจี้จิ่งเชิน จะให้ผู้หญิงอื่นมาจีบไม่ได้แล้ว!

จี้หยู๋ชิงมองรอบด้านอย่างกังวล พอเห็นมีสายตามองมาที่จี้จิ่งเชิน ก็มองค้อนกลับไปทันที

แต่พอคนอื่นเห็นแล้ว ใบหน้ากลมป่องของเขา ดวงตากลมโต ท่าทีที่น่ารักมาก แม้จะมองค้อน ก็สร้างความสุขให้อื่นมากกว่า ไม่มีความกลัวเลย

แต่จี้หยู๋ชิงเองกลับไม่รู้สึกถึงเรื่องนี้ ยังคงปกป้องจี้จิ่งเชินอย่างตั้งใจ แต่กลับไม่รู้ว่าหัวใจทั้งดวงของจี้จิ่งเชินอยู่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยน

สำหรับคนตรงหน้าพวกนี้ เขาไม่อยากมองเลยด้วยซ้ำ

ในขณะเดียวกัน เวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงหลังเวทีแล้ว กำลังตามหาหลวนจื่อ

ในงานการเดินแบบครั้งนี้ แทบจะมีนางแบบระดับต้นๆของโลกรวมตัวกันอยู่

แม้ปกติระหว่างนางแบบจะไม่มีการขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ แต่ถ้าเจอกับงานใหญ่ๆ แขกรับเชิญที่มางานนี้ก็กลายเป็นตำแหน่งที่ทุกคนแย่งกัน

ยิ่งไปกว่านั้น นางแบบในงานใหญ่นี้ ไม่ว่าจะไปแฟชั่นโชว์ที่ไหน ก็เป็นลำดับต้นๆทั้งนั้น

แต่เพราะวันนี้ทุกคนรวมอยู่ด้วยกัน จะเลือกนางแบบชั้นนำนั้น ก็กลายเป็นเรื่องที่ยากมาก

ทุกคนไม่มีใครยอมใคร ไม่ว่าจะเป็นนางแบบใหญ่ที่พึ่งโด่งดัง หรือนางแบบเก่าที่มีประสบการณ์เพียบพร้อม ก็ไม่ยอมเอาตำแหน่งแบบนี้ถอยให้ใครแน่

และแฟชั่นโชว์ระดับประเทศแบบนี้ ใบหน้าทวีปเอเชียก็น้อยจนน่าสงสาร

ในด้านการเดินแบบ แทบจะทุกตำแหน่ง ก็ถูกชาวต่างชาติที่หุ่นรูปร่างเพรียวสูง สัดส่วนได้รูปและสวยกว่าครองที่แล้ว คนภายในประเทศมีน้อยมากที่จะผลประโยชน์กับพวกหล่อนด้วย

และช่วงหลายปีมานี้ คนภายในประเทศไม่น้อยก็เริ่มออกนอกประเทศกัน เริ่มเข้าสู่อาชีพซุปเปอร์โมเดล

ในนั้นก็มีหลวนจื่ออยู่ด้วย

แม้เธอจะเติบโตที่ต่างประเทศ รูปร่างก็สูงเพรียว แต่ใบหน้าชาวตะวันออกก็ยังคงขัดขวางเส้นทางอาชีพของเธออยู่บ้าง

คนมากมายที่พอเห็นเธอแล้ว พอรู้ว่าเธอเป็นชาวตะวันออกก็ดูถูกมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังกดดันทุกทางอีก

หลวนจื่อแม้เบื้องหลังจะมีตระกูลหลวนคอยสนับสนุน แต่ก็ต้องใช้ความพยายามมากที่จะมาถึงที่นี่

ก่อนหน้านี้เพื่อเข้าใกล้หมินอันเกอ เธอจึงยอมทิ้งงานภายในประเทศ

พอกลับมาประเทศ ก็มีโดร์โดร์ และถอยออกจากวงการนางแบบเรื่อยๆ

ตอนนี้กลับมาใหม่ และได้รับงานแฟชั่นโชว์ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ก็ทำให้คนมากมายอิจฉาหนักมาก

แค่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไป พอตอนที่ถามหลายๆคน ก็ถูกมองบนตลอด

เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ต้องเดาก็รู้ว่า หลวนจื่อตอนนี้ไม่เป็นที่ต้อนรับแค่ไหน

แต่หลวนจื่อตอนนี้กลับชินชากับทุกอย่างแล้ว เธอไม่สนใจแววตาไม่พอใจของคนอื่นๆ

ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตามหาเธอ หลวนจื่อแต่งหน้าเสร็จแล้ว เสื้อผ้าก็วางไว้ข้างๆ

นางแบบมากมายรอบข้างก็กำลังเตรียมตัว แต่ไม่มีใครคุยกับเธอเลย

ทุกคนเหมือนไม่ได้นัดหมายกัน พากันแยกตัวออกมา

พอเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา หลวนจื่อก็ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น รีบพูดว่า: “เมื่อกี้ฉันยังคิดเลย ว่าเธอจะมาเมื่อไหร่? กำลังคิดอยู่เลย เธอก็มาหาฉันแล้ว”

เธอมองด้านหลังเวินเที๋ยนเที๋ยน และถามว่า: “จี้จิ่งเชินพวกเขาล่ะ? ไม่มาเหรอ?”

“ฉันให้พวกเขารออยู่ด้านนอก ฉันเข้ามาคนเดียวน่ะ”

หลวนจื่อพยักหน้า พูดอย่างภาคภูมิใจว่า: “ที่นั่งที่ฉันเตรียมให้พวกเธอ บอกได้ว่าเป็นที่นั่งที่ดีที่สุดของทั้งงานเลยล่ะ มีไว้สำหรับพวกเธอเท่านั้น”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็หัวเราะขึ้นมา

“รู้แล้วๆ ตอนที่มาก็เห็นแล้วล่ะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพึ่งพูดจบ อีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น พูดสำเนียงภาษาจีนแปลกๆ

“ฉันก็ว่า ทำไมที่นั่งในงานหายไปเยอะขนาดนี้ ที่แท้ก็ถูกคนเอาไปเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวนี่เอง?”

ไอรีนเดินเข้ามา พูดอย่างไม่พอใจว่า: “นั่นเป็นที่นั่งที่ดีที่สุดของทั้งงาน ราคาก็สูงด้วย เธอขอร้องดีไซเนอร์ยังไงกัน ถึงได้ให้ที่นั่งนี้กับเธอ?”

เสียงนี้ดังขึ้น คนมากมายหันมามองกันใหญ่ แต่กลับไม่มีใครพูด แค่มองเท่านั้น

ทุกวันนี้นางแบบมักเดินทางไปมาหลายประเทศ เข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์หลากหลายแบบ ดังนั้นสามารถพูดได้หลายภาษา ถึงแม้เมื่อกี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกับหลวนจื่อจะใช้ภาษาจีนพูดคุยกัน แต่พวกหล่อนก็ยังฟังออก

คนพวกนี้อิจฉาหลวนจื่อมานานแล้ว อยากจะไล่เธอออกไปซะเดี๋ยวนี้ แต่เพราะมีสาเหตุต่างๆ จึงไม่กล้าเข้าไปพูดตรงๆ

ตอนนี้พอเห็นคนออกตัว ก็มีนางแบบมากมายคอยดูอยู่ห่างๆ

หลวนจื่อได้ยินคำนี้แล้ว ใบหน้ากลับไม่ตกใจเลย แค่เหลือบมองนางแบบคนนั้น

คำพูดแบบนี้ เธอฟังจนชินไปแล้วล่ะ

เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับขมวดคิ้ว

แต่เธอกำลังจะพูดอะไร นางแบบคนนั้นก็พูดต่อว่า: “ฉันคิดไม่ออกจริงๆ ทำไมครั้งนี้หลุยส์ถึงเลือกเธอมาเข้าร่วมงานนี้ด้วย? ฉันว่านะ เธอไม่มีสิทธิเข้าร่วมเลยด้วยซ้ำ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเป็นปม ลุกขึ้นยืน

กำลังจะตอบโต้ แต่กลับถูกหลวนจื่อห้ามไว้ก่อน

หลวนจื่อส่ายหน้าให้เธอเบาๆ สีหน้าบนใบหน้าก็ยังใจเย็นมาก

ถ้าเป็นเธอในเมื่อก่อน คงออกไปทะเลาะแล้วล่ะ

แต่ตอนนี้ เธอดูควบคุมอารมณ์เก่งขึ้น ขี้เกียจคุยกับคนแบบนี้แล้ว แต่เอาความจริงมาพูดดีกว่า

ตอนนี้พอได้ยินคำพูดของไอรีน ก็ไม่ได้โกรธ แต่กลับใจเย็นกว่าเดิม

“ครั้งนี้การคัดเลือกนางแบบเป็นแบบเปิด ทุกคนผ่านการคัดเลือกจากหลุยส์ทั้งหมด ไอรีน ตอนที่พวกเราคัดตัวกัน เธอไม่อยู่เหรอ?”

ไอรีนเห็นหลวนจื่อไม่มีท่าทีโกรธเลย ก็โกรธจนกัดฟันกรอด

เมื่อก่อนเธอก็เคยร่วมงานกับหลวนจื่อมาบ้างแล้ว ตอนนั้น ชื่อเสียงและความโด่งดังของหลวนจื่อดีกว่าเธอมาก หลายๆแบรนด์จะชอบเลือกหลวนจื่อไปเดินแบบมากกว่า

ไอรีนถือว่าหลวนจื่อเป็นคู่แข่งตัวเองมาตลอด

ไม่ง่ายเลยนะ ก่อนหน้านั้นหนึ่งปีหลวนจื่อกลับไปพัฒนาที่ประเทศ ต่อจากนั้นเพราะตั้งท้องเธอเลยต้องบอกลาวงการนางแบบไปสักพัก

ไอรีนก็ใช้โอกาสนี้ แย่งแบรนด์มากมายที่หลวนจื่อเป็นตัวแทนมาเกือบหมด ชนะหลวนจื่อจนได้ กลายเป็นซุปเปอร์โมเดลชั้นนำ

ในตอนที่เธอกำลังได้ใจอยู่นั้น ไม่คิดว่าหลวนจื่อจะกลับมากะทันหัน และใช้เวลาสั้นๆ ก็มาเทียบเคียงตำแหน่งเดียวกับตัวเองแล้ว

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท