เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่1106 ฉันเจอความลับของสมบัติล้ำค่าแล้ว

บทที่1106 ฉันเจอความลับของสมบัติล้ำค่าแล้ว

คนๆนั้นรีบเอ่ยขึ้น : “คนนั้นถูกพวกเราจัดการไปเรียบร้อยแล้วครับ ลูกพี่ไม่ต้องกังวลนะครับ”

แต่ตอนนี้ข่าวได้แพร่ออกไปแล้ว พวกเขาก็เพียงแค่มีความคิดว่าจะฟลุ๊คโชคดี หวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่เอาข้อมูลมาเชื่อมโยงกันระหว่างเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวกับสมบัติอันล้ำค่านั่น

“ไม่ได้กลัวเรื่องที่แน่นอน แต่กลัวเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมากกว่า นั่นเป็นสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์หมิงเชียวนะ! ในนั้นมีสิ่งของซ่อนเอาไว้ตั้งเท่าไหร่ พวกเราใช้กี่ชาติก็ไม่หมด ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม จะต้องแย่งมาก่อนให้ได้!”

เพิ่งจะพูดจบนั้น จู่ๆสองสามคนนั้นก็หันไปมองทางเวินเที๋ยนเที๋ยน

“เธอเป็นใคร? ทำอะไรตรงนั้น?”

เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ข้างๆ ฟังบทสนทนาของพวกเขาอย่างระวัง แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกพวกเขาจับได้

เธอหันหลังจะเดินออกไป แต่เมื่อหันไปแล้ว ก็เห็นว่าภายในห้องโถงนั้นยังมีคนของพวกเขาอยู่อีกไม่น้อย จึงต้องชักเท้ากลับมา แล้วก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาพวกเขา

“ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานทูต ครอบครัวของคุณจางเชียงหนิงโทรมา สอบถามสถานการณ์ของคุณจาง ฉันเลยมาดู”

เห็นทางฝ่ายนั้นไม่ได้พูดอะไร จึงเสริมขึ้นมาอีก : “เพราะว่าทางฝ่ายนั้นโทรมาติดต่อกันหลายครั้งแล้ว ฉันก็เลยคิดว่าจะมาดูเสียหน่อย”

“ไม่ต้องดูแล้ว เธอกลับไปเถอะ” คนนั้นตอบกลับ

安心เอ่ยขึ้นอย่างลังเล : “แต่ครอบครัวของคุณจางเชียงหนิงบอกว่า หวังว่าฉันจะสามารถเช็คความปลอดภัยของเขาได้”

“ยุ่งยากจริงๆ!”

คนๆนั้นบ่นออกมา แล้วเรียกอีกคนหนึ่งมา “พาเขาไปดู!”

ว่าแล้วก็หันไปพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยน : “เธอระวังหน่อยก็แล้วกัน อะไรที่ไม่ควรพูดก็ไม่ต้องพูด”

“รู้แล้วค่ะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพยักหน้าลง ปรากฏท่าทางแห่งความตื่นตระหนก แล้วถึงได้ออกไปตามคนๆนั้น เพื่อเดินไปทางด้านหน้า

ผ่านห้องอยู่สองสามห้อง ในที่สุดก็มาถึงด้านนอกของห้องปฏิบัติการ

หน้าประตูนั้นมีชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่สองคน พอเปิดประตูออก ก็มีนักวิจัยสองสามคนที่กำลังทำงานอยู่ด้านใน

เวินเที๋ยนเที๋ยนกวาดตามองไป แล้วก็พบจางเชียงหนิงอยู่ในนั้น

สีหน้าของอีกฝ่ายนั้นหากเทียบกับครั้งที่แล้วยิ่งดูซีดเซียวมากขึ้นกว่าเดิม ดูแห้งเหี่ยว ผอมโกรก เสื้อคลุมตัวใหญ่สีขาวอยู่บนร่างของเขากวัดแกว่งไปมา

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้น แววตาแสดงสีหน้าท่าทางที่ดูเป็นกังวลออกมา

คนที่พาเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามานั้นเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา : “ผลวิจัยออกมาแล้วหรือยัง?”

ทางเจ้าหน้าที่ทุกคนนั้นเม้มปาก ไม่มีใครพูดออกมา

ผ่านไปซักพักหนึ่ง ถึงได้มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้ามา

“ยังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกการวิจัยถึงจะเสร็จสิ้น”

คนนั้นบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ : “เร็วๆหน่อย ลูกพี่รอต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นถึงเวลาที่จะต้องลงมือเล่นงานพวกแกแล้ว”

ว่าแล้ว ก็ผลักเวินเที๋ยนเที๋ยนไป

“ไม่ใช่เธอบอกว่าพ่อแม่ของจางเชียงหนิงโทรมาหรอกหรือ? เข้าไปสิ”

ได้ยินเสียงแล้ว จางเชียงหนิงก็หันหน้ามา แววตาปรากฏความสงสัยขึ้น

“พวกเขาจะทำอะไรอีก?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปข้างหน้าสองก้าว พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ : “พวกเขาเป็นกังวลความปลอดภัยของคุณค่ะ ก็เลยให้ฉันมาดู”

จางเชียงหนิงหัวเราะเยาะออกมา

“ต่อให้เป็นกังวลแล้วจะทำอะไรได้? ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร ข่าวที่ถูกส่งไปถึงทางนั้น ก็ล้วนแต่เป็นว่าฉันปลอดภัยดี ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย พลางเอ่ยขึ้นอย่างมุ่งมั่น : “จริงๆไม่ใช่ว่าจะไม่มีความหมายอะไรเลยหรอกนะคะ มีคนที่เป็นห่วงคุณเหมือนกัน”

จางเชียงหนิงหัวเราะเยาะ และกำลังจะเอ่ยพูดนั้น จู่ๆก็เห็นลักษณะท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยน จึงอึ้งไปพักหนึ่ง แววตาปรากฏความประหลาดใจ

เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสัญญาณเป็นการบอกใบ้กับเขา

จางเชียงหนิงถึงได้เอ่ยพูดต่อ : “ในเมื่อพวกเขาเป็นห่วงฉันขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นเธอก็บอกกับพวกเขาแทนฉันที ถ้าหากว่าคิดถึงฉัน ก็ดูรูปฉันไปก่อน รูปฉันอยู่ใต้ตู้ชาม พลิกมาก็จะเห็น”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วในใจก็ยิ่งรู้สึกสงสัย

หมายความว่าอะไรกัน? ทำไมฟังแล้วดูจับต้นชนปลายไม่ได้เลย?

แต่จางเชียงหนิงกลับไม่ได้อธิบายอีก และหันหลังกลับไปยังตำแหน่งของตัวเอง พลายเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา : “เอาล่ะ ต่อไปก็ไม่ต้องมารบกวนฉันอีกแล้วนะ ฉันจะทำวิจัยต่อ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง แล้วคนที่พาเธอมานั้นก็เร่งรัดเธอ : “เสร็จแล้วหรือยัง? รีบไปเร็วๆ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองทางจางเชียงหนิงอีกครั้ง แล้วถึงได้กลับออกไป

เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย ในหัวนั้นมีคำพูดเมื่อครู่นี้ของจางเชียงหนิงลอยขึ้นมา ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร

กลับออกมาจากสถาบันวิจัย และกำลังเตรียมจะเดินออกไปทางด้านนอก แต่กลับไม่ทันระวังชนเข้ากับใครคนหนึ่ง

เธอรีบดึงสติกลับมา ไม่กล้าที่จะไม่มีสมาธิอีก แล้วรีบเอ่ยขอโทษ

หันหลังให้จะเดินไป แต่เพิ่งจะเดินไปได้เพียงก้าวเดียว จู่ๆก็ถูกคนนั้นจับแขนเอาไว้

เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ แล้วรู้สึกตกใจขึ้นมาในทันที คิดไม่ถึงว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้จะเป็นคนที่เคยเจอหน้าเธอในงานรื่นเริงครั้งที่แล้ว

ทางฝ่ายนั้นเห็นสีหน้าท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ก็มีอาการเปลี่ยนไปในทันที

เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบก้มหน้าลง แล้วดิ้น

แต่อีกฝ่ายนั้นจำเธอได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จับมือเธอเอาไว้แน่น

“ไม่ผิดแน่ เธอนี่เอง! เธอก็คือผู้หญิงคนนั้น! ถ้วยเครื่องเคลือบลายครามล่ะ? เธอเอาไปไว้ที่ไหนแล้ว?”

ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นยิ่งรู้สึกตื่นกลัว รีบดิ้นรนขึ้นมา

แต่อีกฝ่ายนั้นแรงเยอะมาก จับมือเธอเอาไว้แน่นเหมือนกับคีมหนีบ

ไม่นาน คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบๆที่ได้ยินเสียงนี้ก็พากันพุ่งเข้ามา

“ที่แท้เธอก็คือคนที่เอาเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวไปเอง!”

“จับตัวเธอไว้! อย่าให้หนีไปได้! เร็วเข้า!”

เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแน่น แล้วก้มลงกัดไปที่มือของผู้ชายคนนั้น

ฝ่ายนั้นรู้สึกเจ็บจึงปล่อยมือ เธอจึงรีบวิ่งไปทางด้านนอก โดยไม่หันกลับมา แล้วพุ่งตัวออกไปจากสถาบันวิจัยเลย

ถึงแม้จะออกมาจากสถาบันวิจัยแล้ว คนพวกนั้นก็ยังคงไม่ยอมปล่อย ยังวิ่งตามเวินเที๋ยนเที๋ยนมาอย่างต่อเนื่อง

เพิ่งจะออกจากประตูใหญ่มา ทันใดนั้นเองคนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากบนถนน แล้วขวางเวินเที๋ยนเที๋ยนกับคนที่อยู่ทางด้านหลังเอาไว้

เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับมามอง คนเหล่านั้นดูเป็นเหมือนกับคณะทัวร์กลุ่มหนึ่ง

เธอรีบวิ่งไปข้างหน้า เลี้ยวไปแล้วหายไปจากสายตาของทุกคน

“สมควรตาย! รีบหลบไปเดี๋ยวนี้เลย!”

สองสามคนนั้นถูกติดอยู่ในคณะทัวร์นั่น บ่นออกมาไม่หยุด

เวลานี้เอง จู่ๆสถาบันวิจัยจากทางด้านหลังก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นมา!

ไม่นาน มีคนวิ่งออกมา แล้วเอ่ยขึ้นอย่างตื่นตระหนก : “กลับมาเร็ว! ศาสตราจารย์พวกนั้นทำการทดลอง ดูเหมือนว่าจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ในห้องทดลองระเบิดขึ้นทั้งห้องแล้ว!”

สองสามคนนั้นมองไปทิศทางที่เวินเที๋ยนเที๋ยนวิ่งไป เห็นว่าตามไปไม่ทันแล้วนั้น จึงทำได้เพียงต้องหันกลับไป

รอจนหลังจากที่พวกเขาไปแล้ว คณะทัวร์ที่หยุดอยู่ตรงหน้าสถาบันวิจัยและสถานทูตนั้นถึงได้ทยอยแยกย้ายกันไป ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เหมือนกับคณะทัวร์ที่มาใหม่เลยแม้แต่นิดเดียว

เวินเที๋ยนเที๋ยนวิ่งไปทางด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง วิ่งไปพักหนึ่งแล้ว เมื่อแน่ใจว่าทางด้านหลังไม่มีคนแล้ว ถึงได้รู้สึกผ่อนคลายลง

“คุณแม่! คุณแม่!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมอง เห็นจี้หยู๋ชิงกำลังหลบอยู่ทางด้านข้าง และกำลังโบกมือให้เธอ

เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเดินเข้าไป

จี้หยู๋ชิงมองพิจารณาร่างของเธอรอบหนึ่ง

“คุณแม่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพาเขารีบเดินกลับไป

“เรากลับกันก่อนดีกว่านะลูก เหมือนกับว่าแม่จะเจอความลับของสมบัติล้ำค่านั่นแล้ว”

จี้หยู๋ชิงมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความสงสัย “ความลับอะไรครับ?”

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน