เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… – ตอนที่ 726

ตอนที่ 726

บทที่ 726 หานมู่จื่อ คุณมากเกินไปแล้ว

หานมู่จื่อรู้ดีว่า เขาเป็นลูกในไส้ของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่อยากให้เขาต้องมาลำบากกับตัวเอง

ถ้าเป็นไปได้ เธออยากจะรับเสี่ยวหมี่โต้วมาอยู่ข้างกายยิ่งนัก ตอนนี้เธอเหงาโดดเดี่ยวมาก ต้องการความอบอุ่น

แต่ว่า……หลังจากที่รับเสี่ยวหมี่โต้วมาแล้วล่ะ?

ให้เขาดูตัวเองในสภาพที่อารมณ์พังทลายลงทุกวันหรือ?

ถ้าเป็นเช่นนี้ มันคงเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็หลับตาลง แล้วส่ายหัว

“เสี่ยวเหยียน ปิดวิดีโอคอลทิ้ง อย่าให้เขาโทรมาอีก”

“มู่จื่อ!”

“ปิดทิ้ง!” เสียงของหานมู่จื่อดังขึ้น เธอเงยหน้าขึ้น สายตามองตรงไปที่เสี่ยวหมี่โต้วในวิดีโอคอล พูดกัดฟันว่า “เสี่ยวหมี่โต้ว ฟังไว้นะ หม่ามี๊ ไม่อนุญาตให้หนูโทรมาอีก หนูต้องตั้งใจเรียนหนังสือ หลังจากที่หม่ามี๊หาแดดดี้หนูเจอ ถึงเวลานั้น จะไปรับหนู”

เสี่ยวหมี่โต้วยังคงมองเธอด้วยน้ำตาเต็มเบ้า

“หนูไม่เอา หม่ามี๊ไม่เอาแบบนี้ ได้ไหม? เสี่ยวหมี่โต้วอยากไปหาหม่ามี๊ ตอนนี้เลย เสี่ยวหมี่โต้วไม่เอาแดดดี้แล้ว เสี่ยวหมี่โต้วต้องการแค่หม่ามี๊ เท่านั้น”

เสี่ยวเหยียนยังคงถือโทรศัพท์ไว้ เสียงร้องไห้ของเด็ก ยังคงหมุนวนอยู่รอบตัวเธอ

หานมู่จื่อสีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แล้วยื่นมือออกไป ปิดวิดีโอคอลทิ้ง จากนั้นก็ถือโอกาสเอาโทรศัพท์มือถือของเสี่ยวเหยียน ยัดเข้าไปที่ใต้หมอนของตัวเอง

“มู่จื่อ? มู่จื่อคุณมากเกินไปแล้ว! เขาเป็นลูกชายแท้ๆของคุณเลยนะ!”

“ดังนั้น นี่ก็เป็นเหตุผลที่คุณให้เขาโทรหาฉันเหรอ? เสี่ยวเหยียน สถานการณ์ของฉันในตอนนี้ คุณก็รู้ดี คุณอยากให้ฉันพูดอะไรเขาเหรอ?”

แววตาของหานมู่จื่อ จ้องมองเสี่ยวเหยียนอย่างว่างเปล่า เสี่ยวเหยียนหายใจสะดุด “ฉันก็ไม่ได้อยากให้คุณพูดอะไรกับเขา แต่เขารู้เรื่องนี้แล้ว เสี่ยวหมี่โต้วเสียใจมาก คุณเป็นแม่ของเขานะ? เขาอยากเจอคุณ อยากคุยกับคุณ คิดถึงคุณแล้ว มีปัญหาอะไรไหม?”

“เดิมทีก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้สภาพฉันไม่ดีเลย ฉันไม่อยากเจอใครทั้งนั้น”

เธอไม่ต้องการนำพลังด้านลบทั้งหมดในตัว มาให้เสี่ยวหมี่โต้วด้วย แม้ว่าสำหรับเสี่ยวหมี่โต้วแล้ว ตัวเองไม่พูดกับเขา เป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก แต่เธอพูดกับเขา แล้วสามารถพูดอะไรได้บ้าง? ถ้าเสี่ยวหมี่โต้วรู้เรื่องนั้น เด็กก็จะต้องสืบสาวราวเรื่องจนถึงที่สุด ถึงเวลานั้น จะให้เธออธิบายกับเขาอย่างไร?

“ถ้าเย่โม่เซินไม่กลับมา คุณคิดจะเป็นแบบนี้ตลอดไปหรือ? เสี่ยวหมี่โต้วเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่ได้เข้าใจคุณเหมือนกับผู้ใหญ่ คุณเข้าใจไหม?”

หานมู่จื่อไม่อยากพูดกับเธออีกแล้ว หันหน้าหนีด้วยความรำคาญ พูดอย่างเย็นชา “ฉันเข้าใจแล้ว คุณออกไปเถอะ”

“มู่จื่อ……” เสี่ยวเหยียนยังคงไม่ยอมแพ้ เรียกชื่อของมู่จื่อ นั่งอยู่บนขอบเตียง ไม่อยากถอยออกไป

“เอาล่ะ ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ”

เมื่อเห็นว่าเสี่ยวเหยียนยังคงนั่งอยู่ข้างเตียง ไม่ยอมออกไป หานมู่จื่อไม่มีวิธีอื่นจริงๆ ทำได้เพียงนอนลง แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ ไม่ไปสนใจเสี่ยวเหยียนอีก

เสี่ยวเหยียนจึงต้องเก็บข้าวของ แล้วลุกออกจากห้องผู้ป่วย

หลังจากที่ออกไป ก็เจอกับซูจิ่วที่ยืนอยู่ข้างนอกพอดี ซูจิ่ว มองเธอด้วยความตะลึง “เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้ฉันเหมือนว่าจะได้ยินพวกคุณทะเลาะกัน”

“อย่าพูดถึงเลย พูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็โมโห”

ซูจิ่วรู้สึกสงสัย “ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ คุณโกรธอะไร? ฉันอยากรู้มากนัก”

คุณว่าเสี่ยวหมี่โต้วเป็นแค่เด็กอายุห้าหกขวบเท่านั้น คิดถึงแม่ของตัวเอง อยากจะพูดกับแม่ของตัวเองสักสองสามคำ เป็นเรื่องปกติมากใช่ไหม? แต่หานมู่จื่อล่ะ เธอกลับบอกให้เสี่ยวหมี่โต้ว อย่าโทรหาเธออีก ฉันแค่เห็นยังรู้สึกทุกข์ใจแทบตาย เสี่ยวหมี่โต้วร้องไห้อย่างสงสารขนาดนั้น เธอกลับไม่แยแสอะไรเลย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูจิ่วก็เข้าใจแล้วว่าเสี่ยวเหยียนโกรธอะไร เธอยิ้มอย่างจนใจ ก้าวไปข้างหน้าตบไหล่ของเสี่ยวเหยียนเบาๆ พร้อมอธิบายเสียงต่ำ “คุณอ่ะ ยังไม่เคยเป็นแม่คนมาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้ความรู้สึกและความขมขื่นของการเป็นแม่”

“ฉันรู้ว่าหัวใจของมู่จื่อขมขื่นนัก แต่ยังไงเสี่ยวหมี่โต้ว ยังคงเด็กเกินไปจริงๆ แกล้งทำเป็นพูดไม่กี่คำก็พอแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นคุณเคยคิดบ้างไหม ว่ามู่จื่ออาจจะไม่อยากหลอกเขา? ถ้ามู่จื่อไม่สามารถโกหกลูกของตัวเองได้ แล้วตอนที่พวกเขาคุยกัน คุณคิดว่าพวกเขาจะคุยถึงเรื่องอะไร? เสี่ยวหมี่โต้วจะถามถึงเรื่องอะไร?”

เมื่อได้ยินเข้า เสี่ยวเหยียนนิ่งอึ้ง เรื่องนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยคิดมาก่อน

“คุณไม่เคยคิดปัญหานี้มาก่อนเลยใช่ไหม?” ซูจิ่วยิ้มเบาๆ สีหน้าเรียบเฉย แล้วพูดต่อ “คุณยังเด็กเกินไป เรื่องมากมายที่ยังไม่สามารถไปคำนึงถึงทั้งสองด้าน ฉันรู้แน่นอนว่า เสี่ยวหมี่โต้วในเวลานี้ อยากจะเจอแม่ของเขา นี่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิดอะไร แต่คุณลองคิดดู เรื่องราวที่มู่จื่อประสบมาในช่วงนี้ กระทบกระเทือนจิตใจของเธอมากแค่ไหน ต่อให้เธอจะลุกขึ้นยืนหยัดสู้ต่อไป ฟื้นตัวเหมือนเมื่อก่อน ก็ต้องใช้เวลาอยู่ดี เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแค่ไหนกัน คุณจะให้เธอไปบอกเสี่ยวหมี่โต้วโดยตรงได้อย่างไร ว่าพ่อของเขาอาจจะประสบอุบัติเหตุ คำพูดหลายอย่างที่พูดออกมา ก็เหมือนเป็นการโรยเกลือลงบนบาดแผลของตัวเอง คุณสามารถข้าใจความหมายของฉันไหม?”

คำพูดเหล่านี้ทำให้เสี่ยวเหยียนชะงักได้สำเร็จ ครุ่นคิดอยู่นาน ก็ไม่สามารถคิดคำพูดที่จะตอบกลับได้ เธอขยับริมฝีปากเล็กน้อย จ้องมองซูจิ่วอย่างสับสน

สักพักเธอเหมือนคิดเข้าใจแล้ว “แล้วจะทำยังไงดี? เมื่อกี้ฉันได้เอาวิดีโอคอลให้เธอดูแล้ว ฉันยังคิดว่ามู่จื่อไม่อยากสนใจลูกชาย ยังได้ใส่อารมณ์กับเธอด้วย ยังบอกว่าเธอทำมากเกินไป”

“ไม่เป็นไรหรอก พวกคุณเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ? เรื่องนี้ในใจของมู่จื่อก็รู้ดี แค่ในเวลานี้ เธอไม่มีอารมณ์ที่จะมาปลอบคุณ หรืออธิบายปัญหานี้กับคุณโดยละเอียด รอจนกว่าความเจ็บปวดนี้ผ่านไป เมื่อพูดถึงเรื่องนี้อีก พวกคุณก็จะปล่อยวางให้อภัยซึ่งกันและกัน”

เสี่ยวเหยียนจ้องมองซูจิ่วตรงหน้าอย่างนิ่งเงียบ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ มีเสน่ห์มาก ได้ยินมาว่า เมื่อก่อนเธอก็เคยชอบ หานชิง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หัวใจของหานชิง จากนั้นก็เลยแต่งงานกับคนอื่น ในตอนนี้ก็แต่งงานมีลูกแล้ว มีชีวิตที่อบอุ่นมีความสุข

ต่อหน้าหานชิง ซูจิ่วเหมือนไม่รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด ราวกับว่าเมื่อก่อนไม่เคยชอบคนคนนี้มาก่อนเลย

ผู้หญิงที่ดีเลิศเลอเช่นนี้ ยังไม่สามารถอยู่ในสายตาของหานชิงได้ แล้วเสี่ยวเหยียนจะมีสิทธิอะไร ที่ทำให้หานชิงชอบตัวเอง?

“มีอะไรเหรอ? ดูสีหน้าของคุณเหมือนยังสับสนไม่เข้าใกล้?”

เสี่ยวเหยียนกำลังลังเล ว่าจะถามอารมณ์ในเวลานั้นของซูจิ่วดีไหม ยังมี ขั้นตอน เธอเคยสารภาพรักกับหานชิงไหม?”

แต่ตอนนี้เธอได้แต่งงานมีลูกไปแล้ว แล้วตอนนี้เธอยังมาถามคำถามแบบนี้ ก็ไม่มีมารยาทจริงๆสินะ?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เสี่ยวเหยียนส่ายหัว “ไม่มีอะไร”

สาวน้อยซ่อนอารมณ์ของตัวเองไม่เป็น ทุกอย่างปรากฏอยู่ที่หน้า แม้ว่าตัวเธอเองจะไม่พูดอะไร แต่สีหน้านั้น แค่ดูก็รู้ว่ามีปัญหา

ซูจิ่วมีอายุมากกว่าเสี่ยวเหยียนไม่น้อย เห็นเสี่ยวเหยียนเหมือนเป็นน้องสาวของตัวเอง ดังนั้นในตอนนี้ จึงยิ้มอย่างจนใจ ดึงเสี่ยวเหยียนไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ

“คุณนะ มีเรื่องอะไรก็พูดออกมา อยากเก็บไว้กลุ้มใจตัวเอง ถ้าให้ตัวเองกลัดกลุ้มจนไม่สบาย นั้นจะไม่คุ้มค่าขนาดไหน? ฉันอายุมากกว่าคุณ หลายๆเรื่องฉันล้วนเคยประสบมาแล้ว ถ้าคุณสงสัย ก็สามารถพูดออกมา ถามฉันได้ แม้ว่าฉัน จะไม่สามารถให้คำตอบที่แน่แท้กับคุณ แต่ช่วยคุณชี้แจงหน่อย ก็ไม่มีปัญหาอะไร”

เธอเป็นเหมือนพี่สาวที่รู้ใจ น้ำเสียงอบอุ่นและชัดเจน ทำให้เสี่ยวเหยียน รู้สึกเหมือนสนิทใกล้ชิดมาก

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

Status: Ongoing

ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอํานาจ ใหญ่ “ฉันเปโม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมที่คิดว่า งานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไป ด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเปโม่เซิน ด้วยฝ่ามือเล็กๆ “พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร ?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท