เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… – ตอนที่ 824

ตอนที่ 824

บทที่824 ความรู้สึกพิเศษ

คำถามนี้…

เย่โม่เซินหรี่ตามองพิจารณาผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง

คำถามนี้ฟังดูแล้วเหมือนกำลังหยอกล้อเขา แต่สีหน้าจริงจังและเคร่งเครียดของเธอ ไม่เหมือนกำลังหยอกล้อเขาอยู่เลย

เพราะอะไรกัน

สุดท้ายเย่โม่เซินก็มองหน้าเธอด้วยแววตาแปลกใจ “รู้สึกยังไงเหรอ”

เสียงของเขาทุ้มต่ำ แล้วเขาก็ประคองท้ายทอยของเธอแล้วถาม

หานมู่จื่อไม่ทันได้สังเกตเห็นแววตากรุ้มกริ่มของเขา คิดแต่เรื่องกระตุ้นความทรงจําของเขา เธอจึงถามอย่างดื้อดึง “คุณยังจะถามอีก หรือว่าคุณมีความรู้สึกพิเศษหรือเปล่าคุณเองก็ไม่รู้ตัว”

ความรู้สึกพิเศษอย่างนั้นเหรอ

เย่โม่เซินนิ่งคิดสักพัก ตอนที่จูบเธอครั้งแรก ตอนนั้นในสมองของเขาเหมือนมีภาพเหตุการณ์บางอย่างผุดขึ้นมา

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเห็นละเอียด ภาพเหตุการณ์พวกนั้นก็หายไปแล้ว มันเร็วจนเขาเห็นอะไรไม่ชัดเจน

แต่ว่า มีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอีกเลย

พอคิดได้แบบนั้น เย่โม่เซินก็ยกยิ้ม “ถ้าหากนั่นถือเป็นความรู้สึกพิเศษ งั้นก็มีครับ”

แน่นอนว่ามีคำพูดบางคำเขาไม่ได้พูดออกไป เพราะกลัวว่าจะทำให้ผู้หญิงที่มองเขาอย่างจริงจังตกใจจนหนีเขาไป

ที่จริงแล้วตอนที่จูบกับเขา ความรู้สึกของเขารุนแรงมาก… อยากจะได้เพิ่ม อยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว

“รู้สึกพิเศษยังไงคะ”

หานมู่จื่อดวงตาเป็นประกาย เธอคว้าชายเสื้อของเย่โม่เซินไว้แน่น “บอกมาเร็วๆสิคะ รีบบอกสิคะ”

พอเห็นท่าทางตื่นเต้นของเธอ สีหน้าของเย่โม่เซินก็เคร่งขรึม ก่อนจะก้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูของเธอ

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของหานมู่จื่อ พอได้ยินคำพูดของเย่โม่เซินแล้ว รอยยิ้มของเธอก็แข็งเกร็ง ก่อนจะหน้าแดงขึ้นมา แล้วมองหน้าเขาอย่างมึนงง

“ฉัน… ฉันไม่ได้จะให้คุณพูดถึงเรื่องนี่…”

เย่โม่เซินพูดเสียงแหบพร่า “แล้วพูดเรื่องไหน”

หานมู่จื่อ “…”

พอจ้องหน้าเขาได้สักพัก หานมู่จื่อก็ต้องยอมแพ้ ไม่ถามต่อ ถ้าหากเขารู้สึกจริงๆล่ะก็ เขาควรจะเป็นคนถามเธอ ไม่ใช่รอให้เธอถามเขาเอง

แต่เธอโมโหจริงๆนะ เธอทำถึงขนาดนี้แล้วยังกระตุ้นเขาไม่ได้ แล้วเธอจะกระตุ้นความทรงจําของเขายังไงล่ะ หานมู่จื่อกำลังครุ่นคิด คนที่เย่โม่เซินให้ความสำคัญ ดูเหมือนจะมีแค่แม่ของเขา ส้งอานและเธอกับลูก

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ โทรศัพท์ของเย่โม่เซินก็มีสายเรียกเข้า

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโหมดปิดเสียง

หานมู่จื่อเม้มปาก “ทางบ้านของคุณโทรมาเรียกคุณกลับบ้านแล้วใช่ไหมคะ งั้นคุณรีบกลับเถอะค่ะ”

เย่โม่เซินเก็บโทรศัพท์ แล้วมองมาทางเธอด้วยแววตาลุ่มลึก

“ไม่ให้ผมอยู่ต่อเหรอ”

หานมู่จื่อก้มหน้าลง “อยู่ต่อยังไงล่ะ ก็ทางบ้านคุณ…”

“ขอแค่คุณอยากให้ผมอยู่ต่อ คืนนี้ผมก็จะอยู่กับคุณ”

ไม่ เธอไม่อยาก

แค่เขาอยู่กับเธอเดี๋ยวเดียวทางบ้านของเขาก็โทรตามถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าหากเขาอยู่กับเธอทั้งคืนจริงๆ ทางตระกูลยู่ฉือคงจะอาละวาดจนบ้านแตก

ถึงเวลานั้นแล้วเธอยังติดต่อส้งอานไม่ได้ คุณท่านยู่ฉือคงจะมาอาละวาดเธอถึงที่นี่แน่นอน

พอคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็รีบพูดเกลี้ยกล่อม “คุณกลับไปเถอะค่ะ พวกเราเพิ่งคบกันได้ไม่นาน ต้องค่อยเป็นค่อยไป คุณ… อย่าเพิ่งบอกเรื่องของเราให้คนอื่นรู้นะคะ”

ไม่ใช่ว่าเขาดูไม่ออกว่าเธอกำลังหลบหนี แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นถึงขนาดนี้ สุดท้ายเขาจึงเคารพการตัดสินใจของเธอ “โอเค”

ไม่ต้องรอให้ทางนั้นโทรมาเร่งอีก หานมู่จื่อก็มายืนส่งเย่โม่เซินที่ประตู แล้วยืนมองเขาขับรถออกไป

เธอยืนมองจนรถเคลื่อนตัวไปไกลสุดตา ก่อนจะได้ยินเสียงผู้หญิงดังมาจากข้างหลัง

“คนที่ขับรถออกไปเมื่อตะกี้ เป็นแฟนของคุณเหรอคะ”

หานมู่จื่อหันกลับมา จึงพบว่าเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ห้องข้างๆเดินออกมา แล้วทักทายเธอ

หานมู่จื่อนิ่งงันไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้ารับ

“แฟนของคุณหล่อมากเลยค่ะ แล้วยังมีรถที่เขาขับ ดูไปแล้วคงจะรวยมากเลย” พอพูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็เอียงคอ แล้วมองมาที่เธอด้วยสีหน้าแปลกใจ “เขารวยถึงขนาดนี้ ทำไมคุณถึงมาเช่าห้องที่นี่อยู่ ขอให้เขาซื้อบ้านให้คุณอยู่ไม่ดีกว่าเหรอคะ”

หานมู่จื่อ “ฉันคิดว่าที่นี่ดีแล้วค่ะ อีกอย่างฉันคบกับเขา ไม่จำเป็นต้องให้เขาซื้อบ้านให้หรอกค่ะ”

ผู้ชายที่อยู่ช่วงที่คบกันก็ซื้อของมีราคาให้ แสดงว่าเขายอมเสียสละทุกอย่างให้คุณได้ แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นภาระที่หนักหน่วงเหมือนกัน เขาให้ทุกอย่างกับคุณ แล้วคุณจะตอบกลับเขายังไงล่ะ

พอได้ยินแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็ทำสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะพูดขึ้นมา “คุณนี่แปลกจริงๆเลย คบกับเขาอยู่ จะขอให้เขาซื้อบ้านให้แปลกตรงไหน ในทางกลับกัน ถ้าเขารวย แต่กลับไม่ยอมเสียเงินเพื่อคุณ ฉันรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนคุณจริงๆ…”

หานมู่จื่อพูดขัดขึ้นมา “คุณกับแฟนพักอยู่ด้วยกัน เลิกงานดึกทุกคืน คุณรู้สึกน้อยใจไหมคะ”

ผู้หญิงคนนั้นชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะทำสีหน้าเอียงอาย แล้วตอบ “ไม่… ไม่น้อยใจค่ะ”

แต่กลับกัน เธอกลับรู้สึกมีความสุขมาก

เพราเธอรักเขา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นยังไงเธอก็จะคอยอยู่ข้างๆเขา

หานมู่จื่อยกยิ้มบาง “นั่นไงคะ คุณเองยังไม่รู้สึกน้อยใจเลย แล้วทำไมถึงได้รู้สึกไม่เป็นธรรมแทนฉันล่ะคะ”

ผู้หญิงคนนั้นแลบลิ้น “ขอโทษนะคะ ฉันแค่ไปเรื่อย คุณอย่าเก็บเอาไปคิดมาก”

หานมู่จื่อพยักหน้าเข้าใจ ไม่พูดอะไรอีก สักพักผู้ชายที่อยู่ในห้องก็เรียกชื่อของผู้หญิงคนนี้ เธอโบกมือให้หานมู่จื่อ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง

หานมู่จื่อกลับเข้ามาในห้อง ตรงกับเวลาที่เสี่ยวเหยียนโทรมาหาเธอพอดี

“ฮัลโหล”

“มู่จื่อ มู่จื่อ คิดถึงจังเลย”

เสียงของเสี่ยวเหยียนแหลมมาก หานมู่จื่อเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูของตัวเอง หลังจากเห็นว่าเสียงเบาลงแล้ว ถึงได้เอากลับมาแนบหูเหมือนเดิม

“ใจร้าย นี่เธอเอาโทรศัพท์ออกห่างไม่ยอมฟังเสียงของฉันใช่ไหม ใจร้ายจริงๆ

เลย”

หานมู่จื่อ “… เสี่ยวเหยียน เก็บอาการหน่อยดีไหม”

เสี่ยวเหยียนส่งเสียงฮึดฮัด ก่อนจะกลับมาพูดเหมือนเดิม “ที่เธอขอให้เลขาซูติดต่อคุณน้าส้งอานติดต่อได้แล้วนะ อยากจะรู้ไหม”

“เร็วถึงขนาดนี้เลยเหรอ”หานมู่จื่อตกใจ

ซูจิ่วทำงานได้ประสิทธิภาพมากกว่าที่เธอคิดไว้เยอะเลย เธออดที่จะถามไม่ได้ “บอกมาเร็วเข้า คุณน้าส้งบอกว่ายังไงบ้าง”

“เธอบอกให้เลขาซูเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคุณชายเย่ให้คุณน้าส้งได้รู้ไม่ใช่เหรอ หลังจากที่คุณน้าส้งรู้เรื่อง เธอบอกว่าเธอต้องการเวลาทำใจสักพัก แล้วจะให้คำตอบพวกเราทีหลัง”

ต้องการเวลาทำใจอย่างนั้นเหรอ

ตรงจุดนี้หานมู่จื่อไม่รู้สึกตกใจเลย เพราะในสมัยนั้นส้งอานกับส้งซินออกจากตระกูลยู่ฉือ จนผ่านมาหลายปีพวกเธอก็ไม่เคยกลับไป จะต้องมีสาเหตุแน่ๆ

พอเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง เธอถึงได้ต้องการเวลาในการปรับตัว แล้วจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง

“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”

“เธอเข้าใจอะไรเหรอ ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว ทำไมถึงขั้นต้องเชิญคุณน้าของเขามาช่วยแล้ว มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”

เสี่ยวเหยียนไม่รู้สถานการณ์ในด้านนี้เลย หานมู่จื่อกลัวว่าเธอจะเป็นห่วง จึงไม่บอกเธอเรื่องที่งานแต่งงานของตนเองกับเย่โม่เซินถูกลบข่าวไปทั้งหมด

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

Status: Ongoing

ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอํานาจ ใหญ่ “ฉันเปโม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมที่คิดว่า งานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไป ด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเปโม่เซิน ด้วยฝ่ามือเล็กๆ “พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร ?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท