ยอดสตรีฉางอิ๋ง – ตอนที่ 208-1 หลักการของนายผู้หญิง

ตอนที่ 208-1 หลักการของนายผู้หญิง

เว่ยฉางอิ๋งตกตะลึงเล็กน้อยพลันโพล่งถามไปว่า  ท่านพี่บาดเจ็บสาหัสหรือไม่เจ้าคะ?  แม้รู้สึกวิตก แต่เมื่อดูจากอาการสงบนิ่งของแม่สามีแล้ว คาดว่าอาการบาดเจ็บนี้ฮูหยินซูก็คงจะพอรับได้ ฉะนั้นแม้เว่ยฉางอิ๋งจะตกใจแต่ก็ไม่ได้ลนลาน

ฮูหยินซูเห็นนางไม่ได้ลนลานจนเกินไปก็พยักหน้าน้อยๆ คิดในใจว่าที่แท้สะใภ้ก็ต้องได้รับการฝึกฝน …ครั้งสะใภ้สามผู้นี้เพิ่งแต่งเข้าบ้านมาดูเก้ๆ กังๆ นัก ครานั้นได้ยินข่าววงในที่มาจากทางเรือนจินถง ทุกเรื่องล้วนเป็นนางหวง นางเฮ่อจับมือพาทำ ต้องบอกต้องเตือนอย่างละเอียดจึงจะไปทำได้ ยามนี้เมื่อนางดูแลเรื่องในเรือนมาระยะหนึ่ง ก็เห็นว่านางหนักแน่นขึ้นกว่าเก่ามาก สะใภ้เก่งกาจสามารถ วันหน้าบุตรชายของนางก็จะสามารถวางใจได้ นี่เป็นความยินดีที่ฮูหยินซูเห็นความสำเร็จของนาง หาได้รู้สึกว่าการที่สะใภ้ไม่ได้แสดงท่าตื่นตระหนกเกินไปเพราะไม่ห่วงใยบุตรชายของนางมากพอ

นางจึงจงใจจิบชาไปอึกหนึ่ง เมื่อเห็นความกังวลในดวงตาของเว่ยฉางอิ๋งแต่กลับสะกดกั้นไว้ไม่ซักไซ้อีก จึงเอ่ยไปช้าๆ ว่า  ได้ยินคนส่งจดหมายบอกว่าหนักนั้นไม่หนักหรอก แต่จะบอกว่าเบาก็ไม่เบา …ดีชั่ว ยามนี้ก็พักรักษาตัวอยู่ในตัวเมืองซีเหลียง ทว่าคราก่อน แม้เฟิงเอ๋อร์จะไม่สามารถสังหารมู่ซิวเอ่อร์ลงได้ แต่ก็ทำลายลมปราณดังเดิมของมู่ซิวเอ่อร์ไปได้อย่างมาก เวลานี้เกิดความวุ่นวายที่แฝงตัวอยู่ภายในกลุ่มของพวกตี๋เอง มีพี่น้องของมู่ซิวเอ่อร์จำนวนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาหวังช่วงชิงตำแหน่งของเขา …เวลานี้ฐานะของมู่ซิวเอ่อร์กำลังอยู่ในอันตราย 

เว่ยฉางอิ๋งฟังว่าจู่ๆ แม่สามีก็มาอธิบายถึงสภาพการณ์ของพวกชิวตี๋ให้ตนฟัง จึงเกิดความคิด แล้วเอ่ยปากไปว่า  ท่านแม่ต้องการให้สะใภ้….ไปซีเหลียง? 

 มิผิด  ฮูหยินซูหรี่ตาลง แล้วล้วงเอาจดหมายฉบับหนึ่งมาจากในแขนเสื้อให้นาง กล่าวว่า  นี่เป็นจดหมายที่สอดแนบมากับของกำนัลชิ้นหนึ่งที่มอบให้กับข้า ครั้งท่านย่าเจ้าเขียนจดหมายมาหาเจ้าและท่านอาหญิงของเจ้าเมื่อคราวก่อน ความจริงแล้วคนที่บ้านเจ้านอกจากมาส่งของกำนัลแล้ว เป้าหมายสำคัญก็คือส่งจดหมายฉบับนี้มา…  นางจับจ้องมองสะใภ้ ค่อยๆ เอ่ยว่า  ให้ข้าและท่านพ่อของพวกเจ้า! 

เว่ยฉางอิ๋งรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา นางรับจดหมายมาแกะออกดู ก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ คราวหนึ่ง กล่าวว่า  จี้ชวี่ปิ้ง เขา… นี่เขา?! 

จดหมายที่แม่เฒ่าซ่งเขียนมาหาเสิ่นเซวียนสามีภรรยานั้นหนามาก แต่กลับไม่มีคำทักทายปราศรัยตามมารยาท แทบจะพูดเข้าประเด็นตั้งแต่แรกขึ้นมาทันใด…

เรื่องแรกก็คือตั้งแต่สิ้นปีก่อนจี้ชวี่ปิ้งก็ค้นพบวิธีรักษาเว่ยเจิ้งหงได้แล้ว ตลอดหลายปีมานี้แม้ว่าแพทย์เลื่องชื่อในเขตทะเลผู้นี้จะยังโกรธเคืองเล่นแง่ ไม่ยอมไปเฟิ่งโจว ทว่าก็ยังเก็บงำวิธีรักษาเว่ยเจิ้งหงเอาไว้ เพื่อให้ตนเองมีโอกาสไปซีเหลียงได้ ดังนั้นทุกๆ ช่วงเวลาหนึ่ง แม่เฒ่าซ่งก็จะให้หมอในเฟิ่งโจวเขียนรายงานชีพจรของเว่ยเจิ้งหงอย่างละเอียดและไปมอบให้ที่คฤหาสน์จี้เพื่อให้จี้ชวี่ปิ้งใช้ในการวินิจฉัย แต่โดยนามแล้วเป็นการอาศัยบุตรสาวหรือญาติมิตรในเมืองหลวงนำของไปส่งเท่านั้น

ความจริงแล้วนี่ก็เป็นสาเหตุที่ในคฤหาสน์ของจี้ชวี่ปิ้งมีเพียงบ่าวใกล้ชิดไม่กี่คน ไม่เคยรับบ่าวที่ผู้อื่นกำนัลมาให้ และผู้ที่ดูแลรับใช้เขาในเวลานี้ก็ล้วนเป็นบ่าวคนสนิทของแม่เฒ่าซ่งเท่านั้น …ทั้งหมดก็ล้วนเป็นเพราะเป็นห่วงว่าจี้ชวี่ปิ้งจะถูกทำร้ายด้วยเหตุที่เขายังคงค้นคว้าหาทางรักษาเว่ยเจิ้งหงอยู่

ทว่าเมื่อปลายปีก่อน ที่สุดจี้ชวี่ปิ้งก็มีความมั่นใจถึงแปดส่วนว่าตนสามารถรักษาเว่ยเจิ้งหงให้หายได้ เพียงแต่ท่านหมอท่านนี้เคยต้องประสบกับการที่บ้านช่องเกิดการเปลี่ยนแปลงมาแต่เล็ก ต้องซัดเซพเนจรอยู่ข้างนอก เคยตกระกำลำบากมาก่อน ฉะนั้นแม้จะเป็นคนอารมณ์ร้ายและแปรปรวน แต่ก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีชั้นเชิงใดๆ เขารู้จักวิชาแพทย์ของตนเองดี ทั้งยังรู้ถึงความสำคัญที่ตระกูลเว่ยต้องการผูกมิตรกับตน ต่อให้ไปทำโอหังกับผู้มีอิทธิพลต่างๆ ผู้มีอิทธิพลเหล่านั้นก็จะไม่อาจทำอันใดเขาได้

แต่เว่ยเจิ้งหงมีฐานะที่พิเศษนัก แนวโน้มความเป็นไปของรุ่ยอวี่ถังจึงสับสนซับซ้อน … และความร่วงโรยหรือรุ่งโรจน์ของรุ่ยอวี่ถังก็ยังเชื่อมโยงไปถึงราชสำนักด้วย หากผลีผลามประกาศเรื่องนี้ออกไป เกรงว่าคนที่นำจดหมายแจ้งข่าวดีจะยังไปไม่ถึงเฟิ่งโจว เขาก็คงจะตายไปก่อนแล้ว

ฉะนั้นในยาลูกกลอนต่อชีวิตที่จี้ชวี่ปิ้งแอบส่งไปให้เว่ยเจิ้งหงกินทุกๆ ปีนั้น จะมีเม็ดยาเม็ดหนึ่งที่มีลักษณะภายนอกเหมือนกับยาเม็ดอื่นๆ แต่ความจริงแล้วเป็นเม็ดที่ภายในคือจดหมายสั้นๆ ซึ่งใช้ผ้าเคลือบขี้ผึ้งห่อเอาไว้

ยาลูกกลอนชนิดนี้ต้องเอาไปละลายในน้ำก่อนใช้ …ยาที่ภายในเป็นผ้าเคลือบขี้ผึ้งจึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนมาพบความลับที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน

คนที่ดูแลเว่ยเจิ้งหงล้วนเป็นบ่าวคนสนิทที่ยอมตายถวายชีวิตแด่แม่เฒ่าซ่ง …แล้วแม่เฒ่าซ่งจะไม่ได้รับจดหมายสั้นนี้ได้อย่างไร?

ในขณะที่แม่เฒ่าซ่งยินดีปรีดาหนักหนา แน่นอนว่านางย่อมเข้าใจด้วยเช่นกันว่าเหตุใดจี้ชวี่ปิ้งจึงต้องใช้วิธีการปกปิดเช่นนี้แจ้งข่าวให้ตนรู้ แม่เฒ่าซ่งคิดการยาวไกลยิ่งกว่าจี้ชวี่ปิ้งเสียอีกว่าจะอย่างไรจี้ชวี่ปิ้งก็เพียงแค่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง แต่ฮูหยินผู้เฒ่ากลับนึกถึงไปถึงผลลัพธ์เมื่อบุตรชายคนโตของตนหายดี เพราะสำหรับรุ่ยอวี่ถังและทุกคนในบ้านใหญ่ของเว่ยฮ่วนแล้วเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องดี แต่กับผู้อื่นเล่า?

ฉะนั้นเรื่องที่ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยถึงเป็นเรื่องที่สองก็คือไปหารือกับบ้านฝั่งดองว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปแล้วจะทำให้เกิดผลเช่นใด …ตระกูลเสิ่นซึ่งเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลแข็งแกร่งมาแต่ไร ทั้งยังเป็นดองกับรุ่ยอวี่ถัง ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นบ้านฝั่งสามีของหลานสาวที่เป็นที่รักที่สุดในรุ่นนี้ของรุ่ยอวี่ถัง ย่อมต้องได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ด้วย

เว่ยฉางอิ๋งอ่านจดหมายไปพลางคิดไปพลางว่า ไม่แน่ว่าทางบ้านสามีของท่านอารอง ซึ่งก็คือทางฝั่งของคังเล่อโหวซูผิงจ่านก็อาจมีจดหมายที่คล้ายกันอยู่หนึ่งฉบับเช่นกัน?

และยังมีทางท่านลุงที่จวนเสนาบดีตรวจการ…

นางตั้งสติอ่านจดหมายต่อไป แต่กลับเห็นว่าสิ่งที่แม่เฒ่าซ่งเสนอแนะแก่บ้านฝั่งดองนั้นกลับมีทั้งเรื่องลวงและเรื่องจริง

…ก่อนอื่นให้จี้ชวี่ปิ้งแสร้งประกาศออกไปอย่างคล้ายไม่มีแผนการใดว่าตนเองมีวิธีรักษาเว่ยเจิ้งหงให้หายขาดได้

แน่นอนว่าก็เพื่อทำให้ผู้คนพากันคาดเดาดังเช่นที่เว่ยซินหย่งบอกกล่าวกับเว่ยเซิ่งอี๋ ช่วงเวลาที่ประกาศเรื่องนี้ออกไปก็น่าจะทำให้ผู้คนจินตนาการไปต่างๆ นานาได้ ดีที่เว่ยฉางอิ๋งคลอดเสิ่นซูกวงหลานชายของตระกูลเสิ่นแล้ว ตระกูลเว่ยซึ่งเป็นบ้านฝั่งมารดาจึงส่งคนจำนวนมากมาเป็นการพิเศษ เพื่อส่งของกำนัลมากมายที่เมืองหลวงตามธรรมเนียมปฏิบัติ

ในขณะที่คนเหล่านี้ยังไม่ทันกลับไปเฟิ่งโจวก็ ‘พอดี’ มีข่าวเช่นนี่แพร่ออกมา…

ทั้งจี้ชวี่ปิ้งก็พูดออกมาเสียมั่นอกมั่นใจเต็มประดา ข่าวที่ออกมาอย่างปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ นอกจากคนเช่นเว่ยเซิ่งอี๋ที่อยู่ในฐานะเสียเปรียบจะตื่นตระหนกลนลานจนเหลือเพียงความสิ้นหวังแล้ว หลังจากผู้คนนอกนั้นสงบลงได้ ย่อมมองเห็นพิรุธนานาดังที่ว่ามา

แล้วในเวลาเช่นนี้ ตระกูลเสิ่นก็กลับทำการเอิกเกริกด้วยการส่งลูกหลานสามคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็ยังมีบุตรชายคนเล็กที่ฮูหยินซูรักใคร่เป็นที่สุด อาศัยข้ออ้างว่าไปขอร่ำเรียนวิชาเพื่อจะได้คุ้มกันจี้ชวี่ปิ้งลงใต้ไปเฟิ่งโจว! การกระทำเช่นนี้ในสายตาของคนที่เชื่อแล้ว ก็จะคิดว่าเพื่อให้มั่นใจว่าบ้านดองจะได้รับการรักษาจากแพทย์เลื่องชื่อ ทว่าในสายตาของคนที่เคลือบแคลงอยู่ในใจแล้ว นี่กลับเป็นการยิ่งปกปิดยิ่งฉาวโฉ่

กอปรกับเว่ยซินหย่งที่มาถึงเมื่อหลวงก่อนข่าวนี้จะแพร่ออกมาก้าวหนึ่ง …หาก เว่ยเจิ้งหงหายดีขึ้นมาจริงๆ อีกทั้งรุ่ยอวี่ถังก็มีเว่ยฉางเฟิงอยู่คนหนึ่งแล้ว แล้วยังต้องการเว่ยซินหย่งอีกหรือ?

ด้วยเหตุนี้เรื่องราวของรุ่ยอวี่ถังจึงยิ่งถูกกวนจนขุ่นมัวมองเห็นได้ไม่ชัดเจน

นอกจากจี้ชวี่ปิ้งและแม่เฒ่าซ่งแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องความเป็นมาที่แท้จริงของเรื่องนี้ เมื่อเกิดการคาดเดาไปต่างๆ นานาจึงทำให้ทุกคนไม่กล้าลงมือทำการใด

ในเมื่อมีทั้งคนเชื่อและคนสงสัย เช่นนั้นแล้วไม่ว่าจะมาลงมือกับจี้ชวี่ปิ้ง หรือมาข่มรุ่ยอวี่ถัง หรือมีแผนการใดอื่น …ที่สุดแล้ว บ้างก็ต้องรั้งรอเอาไว้ บ้างก็เกิดการโต้เถียงกัน บ้างก็เกิดความหวั่นกลัว คนที่ปรารถนาให้เว่ยเจิ้งหงอย่าได้มีวันหายดีเลย ย่อมไม่มีทางมารวมกันได้

นั่นเพราะรุ่ยอวี่ถังอ่อนแอมานานปี หากทำให้ทุกคนรวมมือกันหันมาต่อต้าน ต่อให้เว่ยเจิ้งหงหายขึ้นมาทันใด ก็จำเป็นต้องใช้เรี่ยวแรงอีกมาก และยิ่งทำให้รุ่ยอวี่ถังฟื้นตัวได้ช้ากว่าเดิม สำหรับฝ่ายที่อ่อนแอแล้ว หากบางคราวสถานการณ์ยุ่งเหยิงวุ่นวายสักหน่อย กลับเป็นการปลอดภัย

นี่เป็นสถานการณ์ของทางฝ่ายรุ่ยอวี่ถัง ส่วนข้างฝ่ายบ้านดอง …ตระกูลซูแห่งชิงโจว ตระกูลซ่งแห่งเจียงหนาน ตระกูลเสิ่นแห่งซีเหลียง เป็นตระกูลเสิ่นที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด เดิมทีก็เป็นที่จับตามากอยู่แล้ว อีกทั่งเว่ยเจิ้งหงก็เป็นบิดาของเว่ยฉางอิ๋ง เมื่อเทียบกับเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆ แล้ว น้องสาวแท้ๆ ซึ่งเป็นท่านน้าของภรรยาย่อมไม่อาจเทียบได้กับบุตรสาวแท้ๆ โดยเฉพาะที่เว่ยเจิ้งหงมีบุตรธิดาเพียงหนึ่งคู่เท่านั้น ต่อให้จี้ชวี่ปิ้งสามารถรักษาโรคของเขาได้ … เว่ยเจิ้งหงก็ค่อนข้างมีอายุแล้ว หากจะมีบุตรธิดาอีกก็ไม่มีทางห่างเหินกับบุตรสาวคนโตที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ดีชั่วตระกูลเสิ่นล้วนเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สามารถยืนกล้าท้าล้ม แต่รุ่ยอวี่ถังในยามนี้ก็ยังคงอ่อนแออยู่! หากจะกลับมารุ่งโรจน์ก็เป็นเรื่องในภายภาคหน้า…ซึ่งตอนนี้ก็มิใช่ว่าจี้อ๋องต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วยแล้วหรือ?

เว่ยฉางอิ๋งวางจดหมายลง กวาดตาขึ้นมาถามแม่สามีว่า  ก่อนหน้านี้ท่านพ่อท่านแม่ให้น้องชายห้า น้องชายหก และน้องชายเจ็ดคุ้มกัน ท่านหมอเทวดาจี้ไปเฟิ่งโจวก็เพราะว่า… 

 นั่นกลับมิใช่  ฮูหยินซูก็ไม่ได้ปิดบังสะใภ้แล้ว นางยิ้มพลางว่า  ท่านพ่อของพวกเจ้าตัดสินใจเช่นนั้นอยู่ก่อนแล้ว แต่เมื่อตั้งสติและลองคิดดูก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ออกจะประจวบเหมาะเกินไป เมื่อคิดไปคิดมา จึงถามข้าว่าในของกำนัลที่บ้านมารดาเจ้าส่งมาให้กวงเอ๋อร์มีของพิเศษใดมาให้พวกเราหรือไม่ จึงไปเปิดดูรายการสิ่งของ ในนั้นมีโสมป่าในน้ำผึ้งกล่องหนึ่ง ซึ่งใช้ขวดดินเผาใส่เอาไว้ในกล่องผ้า ท่านพ่อของพวกเจ้าบอกว่า น้ำผึ้งออกเสียงเหมือนคำว่าความลับ บางทีภายในอาจมีช่องลับอยู่ …ปรากฏว่าพอแกะกล่องออก ก็มีจดหมายฉบับนี้อยู่ข้างใต้ผ้าแพรจริงๆ 

…………………………………

 

ยอดสตรีฉางอิ๋ง

ยอดสตรีฉางอิ๋ง

Status: Ongoing
“ตอนนั้นท่านปู่จัดการหมั้นข้ากับสามีฝ่ายบู๊เพราะชะตาต้องกันเพียงคราเดียว!
ข้าไม่ร้องไห้โฮออกมาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ยังจะให้มีความสุขทั้งสองฝ่าย?
ตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ วันเวลาแสนหวานชื่นในอนาคตที่ข้าคิดว่าจะมีได้
ก็คือตีจนกว่าเขาจะต้องเชื่อฟังข้าไปทั้งชีวิต และไม่ทำให้ข้าต้องโมโห!
มีความสุขทั้งสองฝ่าย…ข้าจะไปชอบสามีเยี่ยมยุทธ์อย่างนั้นได้อย่างไร!
ข้ายังไม่ชอบเขา แล้วการที่เขาจะชอบข้าหรือไม่ ยังจะสำคัญหรือ?
ที่สำคัญก็คือ เขาต้องเชื่อฟังข้า!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน