เมื่อเปิดประตูห้องออก กู้เสียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ในมือถือของกินและเหล้าขาวขวดหนึ่ง
จงเหยียนซีมองเขาขึ้นๆลงๆครู่หนึ่ง “นาย นายเป็นอะไรไป?”
“ดื่มเป็นเพื่อนฉันสักแก้วสิ?” กู้เสียนเอียงตัวเดินผ่านเธอเข้ามา
จงเหยียนซีปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามา มองไปที่เขา ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าเขามีบางอย่างที่ผิดปกติกันนะ?
“กู้เสียนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนายหรือ” เธอถาม
กู้เสียนหยิบอาหารออกมาวางไว้บนโต๊ะ
ตอนนี้เองที่เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโซฟาของจงเหยียนซีดังขึ้น เป็นข้อความที่จวงเจียเหวินส่งมา
กู้เสียนก้มหน้าลงไปดู ถามว่า “คุยกับใครน่ะ?”
จงเหยียนซีเดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วเปิดข้อความอ่าน
[คุณอากวนอยู่ห้องเลขที่ 908 เธอสามารถไปถามด้วยตัวเองได้]
จงเหยียนซี […]
[ความจริงแล้วในใจเธอก็รู้ชัดเจนดีว่ามีคนคอยช่วยเหลือเธออยู่เบื้องหลัง เพียงแค่ไม่ได้เผยหน้าออกมา]
“ใครกัน?” กู้เสียนยื่นหน้าเข้ามาอ่าน
จงเหยียนซีเอาโทรศัพท์มือถือไว้ด้านหลังตามจิตใต้สำนึกอย่างไม่ต้องการให้เขาเห็นเนื้อหาข้างใน
“ความลับอะไรกัน? กระทั่งฉันก็ยังต้องปิดบัง?” กู้เสียนเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ เขานั่งลงบนโซฟา “เดิมก็อารมณ์ไม่ดี คิดอยากจะให้เธอปลอบใจฉัน สุดท้ายก็หาเรื่องเอง”
จงเหยียนซีนั่งลง หันหน้ามามองเขา “ทำไมนายถึงอารมณ์ไม่ดีล่ะ?”
กู้เสียนเปิดกล่องของกิน บิดฝาขวดเหล้า เอ่ยว่า “ดูเหมือนว่าวันนี้ฉันจะได้เจอคนคนนั้นแล้ว”
“ใคร?” จงเหยียนซีอยู่ในสภาพมึนงง ไม่รู้ว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่
กู้เสียนเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “ก็เขาไง”
จงเหยียนซี “…”
เขาคือใคร?
เธอกระพริบตาปริบๆ “ฉันจะดื่มเป็นเพื่อนนาย”
กู้เสียนมองเธอ ผ่อนคลายลงเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ก็คือคนคนนั้น ที่สงสัยว่าจะเป็นคนของพ่อฉัน”
จงเหยียนซีเบิกตากว้าง “นายเจอเขาแล้วหรือ”
กู้เสียนพยักหน้า “เพียงแค่มองดูแล้วรูปร่างหน้าตาคล้าย”
“นายไปเห็นที่ไหน” จงเหยียนซีถามด้วยความระมัดระวัง
“นอกโรงแรม” กู้เสียนเอ่ย
จงเหยียนซีสูดลมหายใจ
ตอนนี้คุณอากวนก็พักอยู่ที่โรงแรมนี้ อีกทั้งอยู่ไม่ไกลจากเธอด้วย
“คือว่า… กู้เสียน” เธอครุ่นคิด “ถ้าหากว่าการปรากฏตัวของนายจะนำพาปัญหามาให้กับครอบครัวเขา นายยังอยากจะพบเขา หรือว่ารู้จักเขาไหม”
“ไม่รู้สิ” เขาไม่คิดเยอะขนาดนั้น
ตลอดมาก็เพียงแค่อยากตามหาเขาให้พบ และก็แค่อยากรู้จักคนคนนี้เท่านั้น
เรื่องอื่นๆที่เป็นรูปธรรม เขายังไม่เคยคิดถึง
อีกทั้งก็ไม่เคยคิดด้วยว่าจะยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างกันไหม
“เธอรู้ไหมว่าความจริงแล้วฉันก็รู้สึกขัดแย้งมาก ในใจฉันอาจจะมีความห่วงใยเขา หรือจะพูดได้ว่า ฉันเกลียดเขาอยู่บ้าง แต่ว่าฉันก็อยากรู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อฉัน”
จงเหยียนซีไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน จึงไม่อาจเข้าอกเข้าใจได้
ไม่สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้อย่างเต็มที่
เธอหยิบเหล้าขึ้นมารินให้ตัวเองแก้วหนึ่ง และรินให้เขาแก้วหนึ่ง หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาชนแก้วกับเขา “ไม่ต้องคิดแล้ว”
กู้เสียนมองเธอ “เธอไม่ปลอบใจฉันหน่อยหรือ”
“ฉันไม่รู้ว่าจะปลอบใจนายยังไง” จงเหยียนซีเอ่ยความจริง “ฉันเติบโตในครอบครัวที่มีความสุขตั้งแต่ยังเล็ก ไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของนายในตอนนี้ได้”
“เธอจะไม่ทำให้ฉันสะเทือนใจได้ไหม” กู้เสียนกลอกตามองบน
จงเหยียนซีแบมือ “ช่วยไม่ได้ ฉันไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของนายได้จริงๆ”
“ฉันจะพูดคุยกับเธออย่างมีความสุขได้ไหมนะ” กู้เสียนดันตัวลุกขึ้นยืนทันที
ในตอนนี้อารมณ์ของเขาไม่ดีเป็นอย่างมาก อย่ามากระตุ้นเขา!
จงเหยียนซีรีบดึงเขาเอาไว้ ถอนหายใจเสียงเบา “ฉันรู้แล้ว ฉันผิดไปแล้ว ฉันจะปลอบใจนาย”
กู้เสียนมองเธอ “จริงหรือ”
“จริงสิ นายจะให้ฉันทำอย่างไรก็ได้”
“กอดกันก็ได้ใช่ไหม”
จงเหยียนซี “…”
“เห็น…เห็นแก่ที่นายน่าสงสาร ฉันจะยอมเสียสละสักหน่อย”
กู้เสียนกระพริบตาปริบๆ “เธอก็รู้สึกว่าฉันน่าสงสารหรือ”
จงเหยียนซีลุกขึ้นมากอดเขาไว้ “แน่นอนว่าเด็กที่ไม่มีพ่อนั้นน่าสงสาร”
“ถ้าฉันเกลียดเขาล่ะ” กู้เสียนเอ่ย
จงเหยียนซี “…”
เธอพบว่าวันนี้เธอพูดอะไรก็ผิดไปหมด
“คือว่า…พวกเราดื่มเหล้ากันเถอะ” จงเหยียนซีดึงเขาให้นั่งลงบนโซฟา
เธอส่งแก้วเหล้าให้กู้เสียน “มาดื่มกัน ดื่มเพื่อให้ลืมเลือนทุกสิ่ง”
กู้เสียนรับแก้วเหล้ามา เงยหน้าดื่มหมดแก้ว
จงเหยียนซีรินเหล้าให้เขาต่อ
อาหารที่ซื้อมากู้เสียนก็ไม่ได้กิน เขาดื่มเหล้าเพียงอย่างเดียว จงเหยียนซีทนรับความเผ็ดร้อนของเหล้าไม่ไหวจึงกินไปเล็กน้อย
เหล้าขาวขวดหนึ่งที่ดื่มลงไปครึ่งขวดนั้นแทบจะเป็นกู้เสียนที่ดื่ม
จงเหยียนซีอยากพูดว่าไม่ต้องดื่มแล้ว แต่เห็นท่าทางของเขาแล้วจึงไม่ได้เอ่ยโน้มน้าวอะไร
ในภายหลังกู้เสียนเมาแล้ว จงเหยียนซีก็ประคองเขาให้เอนตัวนอนลงบนโซฟา มองเขาพลางเอ่ยว่า “ฉันจะช่วยนาย”
เธอลุกขึ้น เก็บกวาดของที่อยู่บนโต๊ะ หลังจากนั้นก็ไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้เขา
กู้เสียนปวดหัวเป็นอย่างมาก เอ่ยอย่างสะลึมสะลือว่า “คืนวันนี้ฉันนอนที่นี่ได้ไหม”
จงเหยียนซีเอ่ยว่าได้
“หิวน้ำไหม” ปกติคนเมา ภายในปากมักจะรู้สึกแห้ง
เขาตอบอืมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
จงเหยียนซีไปรินน้ำมาแก้วหนึ่ง
เธอประคองกู้เสียนให้ลุกขึ้น ส่งน้ำให้เขา
เขารับแก้วน้ำมาดื่มไปอึกใหญ่ น้ำแก้วหนึ่งถูกดื่มหมดอย่างรวดเร็ว
จงเหยียนซีรับแก้วที่เขาดื่มน้ำหมดแล้วมา วางลงบนโต๊ะ
และประคองเขาให้เอนตัวลงอีกครั้ง “นอนหลับสักตื่นก็จะดีเอง”
กู้เสียนไม่ตอบอะไร พลิกตัวและหลับไป
จงเหยียนซีนั่งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขาหลับไปแล้วจริงๆ ก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป
เธอปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา เดินเข้าไปในลิฟต์โดยสารแล้วกดปุ่มชั้น 9
ในไม่ช้าลิฟต์โดยสารก็จอดนิ่ง เธอเดินออกมาจากลิฟต์โดยสารและหาห้องหมายเลข 908 เจออย่างราบรื่น
เธอยืนสูดลมหายใจลึกอยู่ที่หน้าประตูครั้งหนึ่งแล้วค่อยยกมือขึ้นเคาะประตู