เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 521-522

ตอนที่ 521-522

บทที่ 521 ขอพบสมาชิกหลัก

เนื่องจากโรงพยาบาลลั่วไห่เซินยืมอาคารสํานักงานของบริษัทนั้น นั่นย่อมหมายความว่า โรงพยาบาลลั่วไห่เซินมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นอย่างแน่นอน

การทดสอบของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินนั้นยากมากเหลือเกิน เห็นได้ชัดว่าการสอบแบ่งออกเป็นหลายรอบต่างกันออกไป

เฉพาะผู้ที่ผ่านการสอบเท่านั้นที่จะได้รับโอกาสในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย

โม่ชืออวิ้นรออยู่ที่ทางเข้าค่อนข้างนาน เธอรอให้ฉินชวนมาถึง

จากนั้นทั้งสองก็เข้าไปในสถานที่รับสมัคร

มีจุดตรวจรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณทางเข้าสถานที่รับสมัคร เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลลั่วไห่เซินยืนอยู่ข้างประตู

พวกเขาควบคุมจํานวนคนที่เข้าและออกจากสถานที่อย่างเคร่งครัด

พวกเขาอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่กําลังสอบอยู่เข้าสถานที่เท่านั้น คนอื่นไม่ให้เข้า

เนื่องจากโม่ชืออวิ้นมีบัตรวีไอพีอยู่ในมือ เธอจึงสามารถเข้าไปในสถานที่ได้อย่างง่ายดาย เธอบอกเจ้าหน้าที่ว่าเธอมีเรื่องสําคัญที่จะพูดคุยกับสมาชิกหลักของโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน

ทุกคนถูกหยุดอยู่ที่ประตู พวกเขาทําได้แค่มองโม่ชื่ออขึ้นด้วยความประหลาดใจและอิจฉา

ผู้หญิงคนนั้นมีบัตรวีไอพีของโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน

เธอเป็นใครกัน?

“รอสักครู่ เธอมีบัตรวีไอพีโรงพยาบาลลั่วไห่เซินงั้นเหรอ”

“ใช่ เธอมี บัตรใบนั้นแพงเหลือเกิน ดูเหมือนว่ามีคนเสนอเงินถึง 100 ล้านเหรียญเพื่อซื้อมัน”

“เดี๋ยว ฉันคิดว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อหรือขายบัตร”

“เอ้อ คงไม่เป็นไรถ้าโรงพยาบาลลั่วไห่เซินไม่รู้เรื่องการโอนเงินใช่ไหม? ก็แค่บอกว่ามันเป็นของขวัญ”

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน? บัตรใบนั้นเป็นสัญลักษณ์ของสถานะ เธอคงจะรวยหรือไม่ก็มีความสามารถมากจริงๆ”

“ฉันไม่รู้ เธอสวมหมวกและแว่นกันแดด ฉันไม่เห็นหน้าเธอ อย่างไรก็ตาม เธอจะต้องสุดยอดอย่างแน่นอน”

โม่ชืออวิ้นและฉินชวนเพิกเฉยต่อความอิจฉาริษยาจากฝูงชน พวกเขายังคงพูดคุยกันขณะที่เดินผ่านไป

ฉันชวนพบว่าเขามีหลายอย่างที่เหมือนกันกับโม่ชืออวิ้น

ทั้งสองคนมีประสบการณ์ชีวิตและความเจ็บปวดที่คล้ายคลึงกัน เป็นผลให้พวกเขาสามารถเห็นอกเห็นใจในประสบการณ์ของอีกฝ่าย

เมื่อทั้งสองเข้าไปในลิฟต์ โม่ชืออวิ้นก็เห็นร่างหนึ่งที่เธอไม่สนิทสนม คนนั้นก็เข้าคิวเพื่อเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นเช่นเดียวกัน

นั่นคือเจี่ยนอีหลิง

เธอก็มาในวันรับสมัครของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินด้วย

ทําไมเธอถึงมาที่นี่?

โม่ชืออวิ้นรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นนักศึกษาแพทย์ ดังนั้นเธอจึงสันนิษฐานว่าเจี่ยนอีหลิงมาเพื่อทดสอบเข้าโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน

ก่อนมา โม่ชืออวิ้นได้ถามไปทั่ว เธอค้นพบว่าศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และนักศึกษาแพทย์หลายคนจะมาร่วมงานวันรับสมัคร

หลายคนก็เพียงแค่ลองดู พวกเขาไม่มีความหวังมากที่จะได้รับการยอมรับ ไม่ว่าอย่างไร โรงพยาบาลลั่วไห่เซินรับเฉพาะหัวกระทิเท่านั้น

แม้ว่าโม่ชืออวิ้นจะรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงมาเพื่อทดสอบ แต่เธอก็ยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้างเมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิง

ทุกครั้งที่เธอพบกับเจี่ยนอีหลิง สิ่งเลวร้ายก็จะเกิดขึ้น

โม่ชืออวิ้นเหลือบมองไปที่ฉินชวน ดูเหมือนว่าฉินชวนจะยังไม่ทันสังเกตเห็นเจี่ยนอีหลิง และด้วยเหตุนี้โม่ชืออวิ้นจึงแสร้งทําเป็นไม่เห็นเธอด้วยเช่นเดียวกัน

เธอไม่ต้องการให้ฉันชวนถูกเจี่ยนอีหลิงดึงความสนใจไป

ในเวลาเดียวกัน โม่ชืออวิ้นก็พยายามโน้มน้าวใจตัวเองไม่ให้ไปสนใจเจี่ยนอีหลิง เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้น

วันนี้เธอมาเพื่อช่วยฉินชวน ในเมื่อเธออยู่ที่นี่แล้ว โม่ชืออวิ้นก็ต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่าโรงพยาบาลลั่วไห่เซินดําเนินการอย่างไร

สถานที่รับสมัครจัดขึ้นที่ชั้น 7 ของอาคารสํานักงานแห่งนี้ เนื่องจากการประเมินสองรอบแรกเป็นการสอบข้อเขียนอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นหลี่จั๋วเจียจึงมีเวลาพบกับทั้งสองคน

เมื่อได้ยินว่ามีคนถือบัตรวีไอพี หลี่จั๋วเจียจึงออกไปทักทายพวกเขา

ดูเหมือนว่าบัตรวีไอพี มีความหมายต่อโรงพยาบาลลั่วไห่เซินมากกว่าตระกูลฉิน

ฉินชวนทักทายหลี่จั๋วเจีย จากนั้นเขาก็อธิบายจุดประสงค์ของการมาเยี่ยมอย่างสุภาพ

เขาบอกว่าเขาหวังว่าจะได้พบกับสมาชิกหลักของโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน

หลี่จั๋วเจียยิ้มเมื่อได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็บอกทั้งสองคนว่าพวกเขาอาจต้องรอสักครู่

บทที่ 522 บัตรวีไอพีหาย

ดังนั้น ฉินชวนและโม่ชืออวิ้นจึงต้องรอ

ระหว่างที่รอ ทั้งสองก็เดินไปรอบๆอาคารสํานักงาน จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปเจอเจี่ยนอีหลิงอีก เจี่ยนอีหลิงเป็นหนึ่งในบุคคลที่อยู่ในกลุ่มผู้สมัครเข้าโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน

ตอนนี้ แต่ละคนกําลังย้ายจากห้องประชุมหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง ห้องประชุมเป็นสถานที่ที่ใช้จัดสอบ

เมื่อฉินชวนพบกับเจี่ยนอีหลิงในฝูงชน ดวงตาเขาก็เป็นประกาย ใบหน้าเขาแสดงออกถึงความยินดีเมื่อเขาเดินตรงไปยังเจี่ยนอีหลิง

“เจี่ยนอีหลิงเธอมาทําไมที่นี่” ฉินชวนถาม คําพูดและสีหน้าเขาแสดงให้เห็นความตื่นเต้นและ ความสุขที่ได้เห็นเจี่ยนอีหลิง

“มาทําอะไรบางอย่าง” เจี่ยนอีหลิงอธิบาย

เธอไม่ได้มาเพื่อสอบกับผู้สมัครคนอื่น แต่เธอมาที่นี่เพื่อควบคุมการสอบ

“โอ แล้วเธอจะออกไปเมื่อไหร่? ต้องการให้ฉันรับเธอกลับบ้านไหม” ฉินชวนถาม

“ไม่จําเป็น” เจี่ยนอีหลิงตอบ เธอปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาดและแน่วแน่

ตอนนี้ฉินชวนอยู่กับโม่ชืออวิ้น เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสองคนนี้

“โอ ไม่เป็นไร ฉันสามารถอยู่เป็นเพื่อนเธอได้สักพัก มีเวลาก่อนการสอบครั้งต่อไปจะเริ่ม”

ฉินชวนพูดขณะเหลือบมองนาฬิกา ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนการสอบครั้งที่สองจะเริ่มขึ้น ขณะที่เขากําลังรอคน เขาตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อนกับเจี่ยนอีหลิงในตอนนี้

“ไม่จําเป็นต้องทําอย่างนั้น” เจี่ยนอีหลิงตอบอีกครั้ง

เธอไม่ต้องการไปเกาะเกี่ยวอยู่กับโม่ชืออวิ้นและฉินชวน

อย่างไรก็ตาม ฉินชวนก็ยืนกรานอย่างผิดปกติ

โม่ชืออวิ้นยืนอยู่ข้างๆ ขณะที่เธอดูพวกเขาคุยกัน เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเข็มได้ที่มแทงหัวใจเธอ โดยที่หัวใจเธอมีเลือดไหลออกอย่างเงียบๆ

ฉินชวนบอกเธอว่าเขาไม่มีความรู้สึกรักใคร่กับเจี่ยนอีหลิง อย่างไรก็ตาม การกระทําในปัจจุบันของเขาดูเหมือนจะเป็นอย่างอื่น

เขาไม่สนใจเจียนอีหลิงเลยงั้นเหรอ

สิ่งนี้ทําให้โม่ชืออวิ้นสงสัยในถ้อยคําของฉินชวน

เมื่อกี้นี้โม่ชืออวิ้นคิดว่าเธอมีโอกาสกับฉินชวนแล้ว

บทสนทนาของพวกเขาเป็นไปด้วยดี

แต่ว่า เหตุใดเจี่ยนอีหลิงจึงต้องปรากฏตัว ทําไมผู้หญิงคนนั้นต้องทําลายช่วงเวลาที่สวยงามของเธอด้วย?

เนื่องจากฉินชวนยืนยันที่จะอยู่เป็นเพื่อนกับเจี่ยนอีหลิง เขาจึงอยู่กับเจี่ยนอีหลิงนอกห้องประชุมเกือบครึ่งชั่วโมง

โม่ชืออวิ้นทําได้เพียงยืนข้างฉินชวนอย่างเงียบๆ

โม่ชืออวิ้นไม่มีอะไรจะพูดกับเจี่ยนอีหลิง

ไม่นานก็ถึงเวลาที่ผู้สมัครงานจะเข้าห้องสอบ

ทันใดนั้นโม่ชื่ออวิ้นก็ร้องออกมาว่า “เดี๋ยวนะ ทําไมบัตรวีไอพี ของฉันถึงหายไป”

“เกิดอะไรขึ้น?” ฉินชวนถาม

โม่ชื่ออวิ้นมีสีหน้าตื่นตระหนกขณะที่เธอตอบว่า “ในเมื่อเรากําลังจะไปหาคนนั้น ฉันต้องหาบัตรวีไอพีของฉันก่อน”

เดิมที่ผู้สมัครงานเพียงแค่เหลือบมองไปที่โม่ชืออวิ้นพวกเขาไม่ได้สนใจเธอมากนัก

อย่างไรก็ตาม โม่ชืออวิ้นได้บอกกับสตาฟว่าเธอทําบัตรวีไอพีของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินหาย

ทุกคนตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้

บัตรวีไอพีของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินได้รับการกล่าวขานว่าหายากเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่หยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจช่วยโม่ชืออวิ้นค้นหาบัตร

พวกเขาหันกลับมาถามโม่ชืออวิ้น “เธอจําครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นบัตรได้หรือไม่”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง โม่ชืออวิ้นก็ตอบเบาๆว่า “ฉันแสดงบัตรที่ทางเข้าให้พวกเขาดูจากนั้นฉันก็วางบัตรลงในกระเป๋า แต่เมื่อมองหาบัตรอีกครั้ง มันก็หายไป”

เนื่องจากโม่ชืออวิ้นเป็นผู้ถือบัตร นั่นหมายความว่าเธอเป็นวีไอพีของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินเป็นผลให้เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ตรวจสอบสถานการณ์

ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงถามประชาชนในที่เกิดเหตุว่าขออนุญาตตรวจสอบกระเป๋าได้หรือไม่

ผู้สมัครงานไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้

เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ขโมยบัตร พวกเขาจึงไม่มีอะไรต้องกังวล

วันนี้พวกเขามาทําข้อสอบ ไม่มีอะไรที่น่าละอายอยู่ในกระเป๋าของพวกเขา

ดังนั้น กระเป๋าของทุกคนจึงถูกตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม บัตรวีไอพีไม่ได้อยู่ในกระเป๋าของผู้สมัครงาน

หลังจากการค้นหา พนักงานก็กําลังจะไปค้นหาบัตรวีไอพีที่ทางเดินในอาคาร

“เดี๋ยวนะ คุณยังไม่ได้เช็คกระเป๋าคนนี้เลย”

ทันใดนั้นก็มีคนแสดงความคิดเห็น พวกเขาชี้นิ้วไปทางเจี่ยนอีหลิง

แย่แล้วเจี่ยนอีหลิงของเราตกอยู่ในสภาพลําบากแล้ว

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing

เดิมที เจี่ยนอีหลิง (简一凌) เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน

ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

“อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว”

“อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ”

“อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ”

คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ

นายท่านเชิ่ง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป”

คนอื่นๆ “นายท่านเชิ่ง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท