เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 541-542

ตอนที่ 541-542

บทที่ 541 ผมเป็นคนโชคดี

นั่นเป็นสิ่งที่น่าฟังและหายากเหลือเกิน

แม้แต่ย่าเงี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมฉินชวน

“ขอบคุณนายน้อยฉิน หลานสาวของฉันโชคดีมากเหลือเกินที่มีเธอเป็นติวเตอร์ให้”

“ไม่ นั่นไม่เป็นความจริงเลย ผมต่างหากที่เป็นคนโชคดี” ฉินชวนตอบอย่างจริงจัง

ฟังดูเหมือนเป็นคำพูดที่สุภาพต่อผู้ฟัง

อันที่จริง ดูเหมือนว่านายน้อยฉินจะสุภาพเกินไป

สุดท้ายแล้ว สถานะทางสังคมของฉันชวนในปัจจุบันก็สูงกว่าเจียนอีหลิงมาก

เวินรั่วและแม่ของเธอยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ พวกเธอไม่กล้าขัดจังหวะการสนทนา

เวินรั่วไม่ได้จ้องไปที่ฉันชวนโดยตรง แต่เธอพยายามปฏิบัติต่อเขาเหมือนคนปกติ

หลังจากที่ฉันชวนออกไปแล้ว เวินรั่วก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

แต่ยังไงก็ตาม เป็นนวนไม่ได้คิดมากนักกับสถานการณ์ กลับกันเธอถามไช่ชิงเยว่และเวินรั่วว่าพวกเธอพบสร้อยข้อมือหรือไม่

เมื่อถูกถามเรื่องนี้ เป็นรั่วก็รีบบอกไปว่าเธอเข้าใจผิด อาจเป็นไปได้ว่าเธอทิ้งสร้อยข้อมือไว้ที่อื่น

เนื่องจากเป็นนวนกังวลเกี่ยวกับย่าเงี่ยนและลูกสาว เธอจึงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับการกระทำและความตั้งใจของไช่ชิงเยว่และเวินรั่ว

ดังนั้นเป็นนวนจึงไม่ตั้งข้อสงสัยในการกระทำของพวกเธอ แต่เธอพาพวกเธอไปที่ลิฟต์อีกครั้ง

ระหว่างทาง ไช่ซิงเยว่และเวินรั่วได้ถามคำถามเพิ่มเติมสองสามข้อเกี่ยวกับฉินชวน

เนื่องจากเป็นนวนไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับฉินชวนมากนัก เธอจึงไม่มีคำตอบสำหรับคำถามของพวกเธอเท่าไหร่

จากนั้น เวินน่วนก็บอกลาพี่สะใภ้และหลานสาว

หลังจากออกจากโรงพยาบาล ไช่ชิงเยว่อดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ “อาา ลูกพี่ลูกน้องของลูกโชคดีมากเหลือเกิน ตอนแรกแม่ก็คิดว่าเธอเป็นเพียงลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวยจากเมืองเล็กๆ ดังนั้นแม่จึงไม่คิดว่าเธอจะเกี่ยวข้องกับตระกูลฉิน”

การมีเส้นสายกับตระกูลฉินเป็นสิ่งที่หลายๆคนหวังว่าจะได้รับ

ตระกูลฉินเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเปยจิง การมีสายสัมพันธ์กับตระกูลฉินก็หมายความว่าหลายสิ่งหลายอย่างจะสามารถทำได้ง่ายกว่าเดิมมากในเปยจิง

และสิ่งที่เหลืออยู่ก็สามารถทำได้โดยการหาเส้นสายกับตระกูลจำย

“อืม หนูไม่คิดว่ามันสำคัญขนาดนั้น” เป็นชั่วพูดอย่างเฉยเมย “ฉินชวนไม่ใช่ลูกชายของภรรยาคนแรก เขาเป็นลูกชายนอกสมรส นอกจากนี้ เขายังเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนเช่นเดียวกัน ดังนั้น มารยาทและการศึกษาเขาจึงเทียบไม่ได้”

“ถูกของลูก แม่เดาว่านายท่านเชิงเท่านั้นที่จะถือว่าดีที่สุด แต่ยังไงก็ตาม น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีคนเห็นเขาด้วยตัวเอง เห็นได้ชัดว่า เขาเป็นคู่ปรับเทียบได้กับฉินชวน แต่ยังไงก็ตาม แม่ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน”

จากนั้นใช่ชิงเยว่ก็นึกเรื่องอื่นขึ้นได้ เธอจึงกระตุ้นเตือนลูกสาวเธอ “ตอนนี้เมื่อเจียนอีหลิงอยู่ในเป่ยจิง ลูกก็ควรไปเที่ยวกับเธอเป็นครั้งคราว แต่ว่า อย่าได้ทำตามตัวอย่างเธอ”

เจียนอีหลิงเป็นที่รู้จักว่าโง่เขลาและไร้ความสามารถ

แต่ดูเหมือนว่าเมื่อสองปีก่อน เธอเล่นวิดีโอเกมได้ยอดเยี่ยมมากเหลือเกิน

ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่โดดเด่นในหมู่คนวงการเกม แต่ในความเห็นของไช่ชิงเยว่ นี่เป็นการเสียเวลาเปล่า

“ฉันจะไม่ทำแบบนั้น” เป็นรั่วตอบ เธอไม่ชอบเล่นวิดีโอเกมตั้งแต่แรก

เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเงี่ยนอีหลิง จำยหวินเพิ่งจึงรีบเร่งทำงานให้เสร็จล่วงหน้า เขาตั้งใจจะกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ก่อนเวลาเล็กน้อย

แต่ยังไงก็ตาม ก่อนออกจากบริษัท เขาก็ได้รับรายงานจากคนของเขา

“นายท่านเชิง องค์กรระหว่างประเทศที่ลักพาตัวคุณหนูอีหลิงเมื่อ 3 ปีที่แล้ว กลับมาปรากฏตัวที่เป่ยจิงอีกครั้ง”

เมื่อได้ยินดังนั้น จำยหวินเชิงก็หน้าเครียดขึ้น

ยังกล้ามาอีกเหรอ?

“บอดี้การ์ดของเธออยู่ที่ไหน” จำยหวินเชิงถาม จำยหวินเพิ่งได้จัดให้มีคนติดตามเงี่ยนอีหลิงแต่เขาขอให้พวกเขาปกป้องเธออย่างลับๆ

จำยหวินเชิงสันนิษฐานว่าเจียนอีหลิงคงจะไม่ชอบความรู้สึกที่มีใครสักคนตามเธอตลอดเวลา

เขาเองก็ไม่ชอบความรู้สึกนั้น แล้วทำไมเขาถึงจะทำให้เจี้ยนอีหลิงเจอสิ่งที่เขาไม่ชอบล่ะ?

บทที่ 542 เงี่ยนอีหลิงถูกลักพาตัว?

นั่นเป็นชีวิตเธอ ดังนั้นเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งในสิ่งที่เธอทำ

แต่ยังไงก็

เนื่องจากเธออาจเป็นเป้าหมายของคนอื่นได้ การอยู่เคียงข้างเขาอาจสร้างปัญหาที่เธอไม่ต้องการได้

“ผมจะลองติดต่อพวกเขาเดี๋ยวนี้”

จากนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาของจำยหวินเชิงก็พยายามติดต่อบอดี้การ์ดเหล่านั้น

แต่ทว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของจำยหวินเซิ่งก็ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าบอดี้การ์ดเหล่านั้นสูญเสียการติดตามเงี่ยนอีหลิง

แต่ยังไงก็ตาม พวกเขาไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับจำยหวินเชิงทันที เขาไม่ต้องการให้จ๋ายหวินเซึ่งเป็นกังวล

เนื่องจากเมื่อสามปีที่แล้ว ท่านรองแห่งตระกูลจำยขอให้พวกเขาจัดการกับเรื่องนี้ก่อน ถ้าแก้ไม่ได้ก็ให้บอกปัญหาแก่เขา ท่านรองแห่งตระกูลจำยต้องการให้จำยหวินเซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่รู้

แต่ทว่าเมื่อจำยหวินเงได้สอบถามผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อทำความเข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาจึงต้องบอกความจริง

“ขออภัยนายท่านเชิง ฝ่ายตรงข้ามได้จัดการคนของเรา”

เธอถูกลักพาตัวไปเหรอ?

บอดี้การ์ดของจำยหวินเฉิ่งดีที่สุดในโลก

นั่นไม่ง่ายเลยที่จะกันพวกเขาออกไป

“หนึ่งในคนของเราเข้าไปเจอเข้ากับพวกนั้น คนของเราจบลงด้วยความพ่ายแพ้…”

พวกเขาแลกหมัดกันในช่วงสั้นๆ แต่ว่า

นี่เป็นสัญญาณที่อันตรายมาก นี่หมายความว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดา

องค์กรเมื่อสามปีที่แล้วกลับมาจริงงั้นเหรอ?

“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” จำยหวินเชิงถาม ใบหน้าเขาเครียดยิ่งกว่าเดิมและดวงตาเขาเริ่มเย็นเยียบ

เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง?

พวกนั้นกล้าดียังไง

บทเรียนจากครั้งที่แล้วยังไม่เพียงพออีกเหรอ?

เมื่อบอดี้การ์ดฟื้นคืนสติ เขาเห็นเพียงเจียนอีหลิงเข้าไปในรถที่ไม่คุ้นเคย เขาไม่รู้ว่าเธอถูกแบล็กเมล์หรือไม่ นอกจากนี้ เขาก็ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะนั้นอีกด้วย

เรื่องนี้ทำได้อย่างหมดจด พวกนั้นพัฒนาขึ้นจากเมื่อสามปีที่แล้ว

เจียนอีหลิงขึ้นรถด้วยตัวเอง

รถถูกดัดแปลงอย่างมืออาชีพ

ตอนนี้มันถูกขับเคลื่อนโดยชายวัยสามสิบต้นๆ ชายคนนั้นมีร่างกายที่แข็งแรงและมีหนวดสั้นอยู่บนใบหน้าเขา

ในตอนนี้ชายคนนั้นก็กำลังพูดกับใครบางคนผ่านทางอินเตอร์คอม

หลังจากนั้นไม่นาน ชายคนนั้นก็พูดกับเจียนอีหลิง เจี้ยนอีหลิงนั่งอยู่ที่เบาะหลัง

“เมื่อกี้ เราพบว่ามีคนติดตามเธออยู่ คนเหล่านั้นได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพและระมัดระวังอย่างมาก แต่ยังไงก็ตาม เราได้กำจัดพวกเขาแล้ว ต้องใช้เวลาและความพยายามนิดหน่อย แต่สุดท้ายเราก็จัดการได้ ในอีกสักพัก ฉันจะดูว่าใครกำลังติดตามเธออยู่ และพวกเขากำลังพยายามทำอะไร”

“อือ”

จากนั้นชายคนนั้นก็พูดกับเจี้ยนอีหลิงว่า “เนื่องจากเราไม่สามารถย้ายร่างกายได้ในครั้งนี้เราต้องรบกวนเธอให้มากับเรา”

“ไม่มีปัญหา”

“ว่าแต่ทำไมเธอถึงอาศัยอยู่ที่นั่นล่ะ? ไม่ใช่ว่าเธอบอกฉันว่าเธออาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใกล้มหาวิทยาลัยเป่ยจิงเหรอ”

“ฉันต้องดูแลคนไข้”

“โอ้? เธอกำลังทำงานฟูลไทม์ให้กับผู้ป่วยรายนั้นเลยเหรอ” ชายคนนั้นถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

“อือ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นน่าสนใจจัง ฉันอยากรู้ว่าใครที่เป็นคนโชคดีมากที่มีเธอดูแลเขาโดยเฉพาะ

การให้ Dr.FS ผ่าตัดให้นั้นมีค่าจ้างแพงเหลือเกิน มีคนมากมายที่ต้องการให้เธอเป็นหมอของพวกเขา

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่เธอเป็นแพทย์ดูแลส่วนตัว

นี่เป็นการรักษาพิเศษ

“เขาดูแลฉันมากกว่า” เงี่ยนอีหลิงตอบ

“โอ้? นี่ยิ่งน่าแปลกใจมากยิ่งกว่าเดิม เธอกำลังทำให้ฉันอยากรู้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับผู้ป่วยราย

ชายคนนั้นพูดพร้อมกับยิ้ม

คนที่มารับเจียนอีหลิงนี้เป็นหัวหน้าแผนกสืบสวนคดีอาญาพิเศษ ชายคนนี้เป็นที่รู้จักในทีมของเขาในนามหัวหน้าทีมหร่วน

เขามารับเจี้ยนอีหลิงในเคสที่เขาต้องการความช่วยเหลือจากความเชี่ยวชาญของเธอ

เจียนอีหลิงมีความสัมพันธ์ระยะยาวกับแผนกของพวกเขา

เธอรับผิดชอบหลักในการชันสูตรพลิกศพในเคสที่ยาก นอกจากนี้ เธอก็ยังได้ทำการทดสอ บพิษวิทยาและพยาธิวิทยาอีกด้วย

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing

เดิมที เจี่ยนอีหลิง (简一凌) เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน

ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

“อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว”

“อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ”

“อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ”

คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ

นายท่านเชิ่ง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป”

คนอื่นๆ “นายท่านเชิ่ง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท