Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1100 : ล้างแค้นซือกงถูกับลูกชาย!

บทที่ 1100 : ล้างแค้นซือกงถูกับลูกชาย!

“หลิววิญญาณงั้นรึ”หลิงหยุนพึมพำออกมา..
“ใช่แล้ว..ข้าเคยพบเห็นในคัมภีร์เต๋า และจดจำรายละเอียดของมันได้อย่างแม่นยำ และหลิวของเจ้าก็เหมือนกับในคัมภีร์ทุกประการ..”
โม่วู๋เตาตอบหลิงหยุนกลับไปและเล่าต่อทันทีว่า..
“ตามตำนานเล่าขานกันว่า..มีต้นหลิวขนาดใหญ่ยักษ์ต้นหนึ่ง เติบโตอยู่ในบึงขนาดใหญ่ในดินแดนที่ไร้ขอบเขต มันเติบใหญ่ด้วยการดูดซับพลังปราณเสวียนหวงเข้าไป..”
“เมื่อครู่ที่เจ้าบอกว่าหลิวต้นนี้สะเทือนฟ้าสะเทือนดินนั้นก็ไม่ผิดนัก! เพราะต้นไม้ชนิดนี้ไม่เพียงแค่ภูติผีวิญญาณจะหวาดกลัว แต่เทพยังหวั่นเกรง..”
“ว่ากันว่า..อาวุธใดที่ทำจากไม้ชนิดนี้ ทั้งภูติผีและเหล่าเทพต่างก็ยำเกรง!”
โม่วู๋เตานิ่งไปเล็กน้อยจึงพูดต่อว่า“หลังจากที่อ่านเรื่องหลิวต้นนี้จบ ข้าก็รีบวิ่งไปถามท่านอาจารย์ทันที เจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านอาจารย์ของข้าต้อบเช่นใด”
หลิงหยุนที่กลังนิ่งฟังโม่วู๋เตาด้วยความตื่นเต้นจึงได้แต่ดุไปว่า.. “ เจ้าอย่ามัวแต่โยกโย้ รีบๆเล่ามาเร็วเข้า!”
รอยยิ้มของโม่วู๋เตาดูลึกลับพร้อมกับพูดขึ้นว่า“เจ้ารู้จักเจียงจื่อหยาหรือไม่ ท่านอาจารย์เล่าให้ข้าฟังว่าอาวุธในมือของเขาก็ทำจากไม้ชนิดนี้เช่นกัน!”
“ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไรว่ามันเป็นเรื่องจริง”หลิงหยุนจ้องมองหลิวเทวะพร้อมกับร้องถามออกมาอย่างคลางแคลงใจ
โม่วู๋เตายิ้มออกมาพร้อมกับร้องบอกว่า“หากเจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูด พรุ่งนี้ตรงกับวันที่สิบสี่พอดี และเป็นวันที่พลังหยุนจะรุนแรงที่สุดในรอบปี คืนพรุ่งนี้ให้เจ้านำหลิวต้นนี้ออกมาอีกครั้ง! ข้าจะทดสอบให้เจ้าดูเอง..”
“ได้..งั้นก็ลองดู!”   หลิงหยุนเองก็ต้องการรู้ว่าหลิวเทวะต้นนี้จะเป็นหลิวเทวะวิญญาณอย่างที่โม่วู๋เตาบอกหรือไม่เพราะหากเป็นดังเช่นโม่วู๋เตาพูดจริง ก็จะเป็นประโยชน์กับหลิงหยุนอย่างมากมายมหาศาล!
จากนั้นหลิงหยุนก็เตรียมที่จะเก็บหลิวเทวะเข้าไปในแหวนพื้นที่แต่โม่วู๋เตากลับไม่ยอม “ขอข้าดูอีกหน่อยไม่ได้หรือไงกัน ข้าไม่ยึดไว้หรอกน่า..”
หลิงหยุนไม่ได้กลัวว่าโม่วู๋เตาจะขโมยมันหนีไปเขาจึงถามยิ้มๆ “เจ้าไม่หิวข้าวแล้วรึ”
โม่วู๋เตาตอบกลับไปยิ้มๆ“ข้าได้พบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ยังจะหิวอะไรอีกเล่า”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ศึกษามันไปก็แล้วกันข้าไม่มีเวลาอยู่กับเจ้าหรอก!”
พูดจบ..หลิงหยุนก็ออกจากห้องโม่วู๋เตา และกระโดดออกนอกกำแพงบ้านเข้าไปในป่า และเรียกโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาถังเมิ่ง..
เสียงเรียกเข้ายังดังไม่ถึงหนึ่งครั้งดีปลายสายก็รีบกดรับทันที และเสียงร้องโหยหวนก็ดังขึ้น “พี่หยุน.. รู้จักโทรหาฉันแล้วเหรอ ฉันคิดถึงพี่จะตายอยู่แล้ว..”
หลิงหยุนตอบกลับไปยิ้มๆ“ฉันมาปักกิ่งแค่สามวัน นายก็คิดถึงฉันขนาดนี้แล้วเหรอ”
ถังเมิ่งยังคงคร่ำครวญ“จิงฉูมีงานยุ่งทุกวัน พอพี่ไม่อยู่ฉันก็เหงามากเลย..”
หลิงหยุนเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของถังเมิ่งดีจึงได้แต่พูดอออกไปว่า “นายมีหน้าที่บริหารบริษัทเทียนตี้ ก็ต้องทำไป..”
“ถังเมิ่ง.. นายบอกอาปิงให้ส่งหลี่ยี่กับเจียวเฟย และมือสไนเปอร์ทั้งสามมาปักกิ่งด่วน อย่างช้าที่สุดพรุ่งนี้ต้องถึง!”
ตระกูลหลิงจะมีการกราบไหว้บรรพบุรุษในอีกไม่กี่วันและวันนั้นเป็นวันที่เขาจะจัดการกับหลิงห่าว!
หลิงหยุนตั้งใจไว้ว่า..ในวันนั้นเขาจะให้เหล่านักฆ่าที่หลิงห่าวเคยส่งไปสังหารตนเอง มาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนในตระกูลหลิง!
หลี่ยี่เจียวเฟย มือสไนเปอร์ทั้งสาม เสี่ยวเม่ยเม่ย เฉินเซิน ไห่ซาน และวีดีโอจากกล้องวงจรปิดทีไ่ด้มาจากร้านอินเทอร์เนตคาเฟ่ของซูปิงหยาน รวมทั้งเช็คที่หลิงห่าวมอบให้เฉินเซินนั้น หลักฐานทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้หลิงห่าวปฏิเสธไม่ได้อีก..
“หลิงห่าว..บัญชีของเราสองพี่น้องใกล้จะจบลงแล้ว!”
และนี่คือแผนจัดการกับหลิงห่าวของหลิงหยุน..

หลังจากนั้น..หลิงหยุนก็ไปปรากฏตัวอยู่ที่คุกใต้ดินภายในคฤหาสน์ตระกูลหลิง
ภายในคุกใต้ดินตอนนี้มีคนหกคนถูกขังไว้ด้านในซึ่งก็คือซือกงถูกับลูกชายของเขาสองคน เฉินเซิน ไห่ซาน และนักบวชเลี่ยยื่อ..
เวลานี้เพียร์ซกับจอยซ์ที่กลับคืนสู่ร่างมนุษย์และด้วยร่างที่สูงใหญ่ของมัน ทำให้ห้องที่จะเปิดไปสู่คุกใต้ดินนั้นเล็กลงไปถนัดตา
“เจ้านาย..”   ทันทีที่หลิงหยุนก้าวเท้าเข้าไปแวมไพร์ทั้งสองก็ลุกขึ้นยืน และทำความเคารพหลิงหยุนในแบบตะวันตกทันที
“ไม่มีผู้ใดเข้ามาที่นี่ใช่หรือไม่”
หลิงหยุนร้องถามแวมไพร์ทั้งสองตนและทั้งคู่ก็พยักหน้าตามมาด้วยเสียงของเพียร์ซ “เจ้านาย.. นอกจากพวกเราแวมไพร์แล้ว ก็มีเพียงแค่เหล่ากุ่ยเท่านั้นที่เข้ามาที่นี่!”
“พวกเจ้าทำงานได้ดีมาก!”
หลิงหยุนเอ่ยชื่นชมแวมไพร์ทั้งสองตนจากนั้นจึงเดินตรงไปในห้องลับ และเปิดประตูเดินลงไปยังคุกใต้ดินเพียงคนเดียว..
ทันทีที่หลิงหยุนก้าวเท้าผ่านประตูไปประตูคุกใต้ดินก็ปิดอัตโนมัติลงทันที หลิงหยุนขยับร่างเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง เขาก็ไปปรากฏตัวที่บันไดขั้นที่สี่ และค่อยๆเดินลงไปยังคุกใต้ดินที่อยู่ชั้นล่างสุดทันที..
และภายในชั้นล่างสุดนั้นก็มีแสงสว่างเพียงแค่ริบหรี่เท่านั้น!   หลิงหยุนเปิดจิตหยั่งรู้สำรวจดูภายในและพบว่า.. ภายในคุกใต้ดินนี้มีทางลับอยู่ด้วย อีกทั้งยังเป็นห้องที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุที่แข็งแกร่งคงทน สามารถป้องกันภัยอันตรายได้เป็นอย่างดี จนทำให้หลิงหยุนถึงกับอึ้งไป..
‘ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้เชียวรึ!’หลิงหยุนได้แต่นึกชื่นชมเหล่าตระกูลใหญ่อยู่ในใจ
แม้แต่ตระกูลหลิงยังมีห้องลับและทางลับที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ตระกูลใหญ่อื่นๆ ก็คงไม่ต่างกัน พวกเขาจำเป็นต้องมีทางลับเพื่อหนีเอาตัวรอดในยามเกิดสถานการณ์คับขัน..
หลิงหยุนถอนจิตหยั่งรู้กลับมาและเดินตรงไปยังคุกใต้ดินที่อยู่ด้านล่างต่อไป..
“เจ้านายที่เคารพ..”
เอ็ดเวิร์ดกับพอลได้ยินเสียงฝีเท้าของหลิงหยุนทั้งคู่จึงรีบเดินออกมาทักทายทันที..
หลิงหยุนพยักหน้าให้และเดินตรงเข้าไปหาเอ็ดเวิร์ด พร้อมกับสั่งว่า “เอ็ดเวิร์ด.. คืนนี้เจ้าไปสถานที่ที่เราบุกไปเมื่อคืนนี้ ไปคอยเฝ้าของบางอย่างกับเจสเตอร์..”
ในเมื่อหลิงหยุนกลับมาแล้วตระกูลหลิงก็ไม่จำเป็นต้องให้มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดอารักขาดูแลอีก ศูนย์บัญชาการใหญ่ขององค์กรนักฆ่าสาขาปักกิ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามาก หากปล่อยเจสเตอร์ไว้เพียงคนเดียว หลิงหยุนก็รู้สึกไม่สบายใจนัก!
“ครับเจ้านาย..”
มาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดตอบรับอย่างสุภาพและโค้งคำนับให้หลิงหยุนก่อนจะเดินออกจากคุกใต้ดินไป..
หลิงหยุนกับพอลเดินตรงไปที่ห้องขังของซือกงถูกับลูกๆของมันทั้งสองคน..
เวลานี้..ซือกงถูกับซือกงวู่เปิ่นถูกหลิงหยุนสกัดจุดสำคัญไว้ ส่วนซือกงวู่จี๋ก็ได้กลายเป็นชายพิการไร้แขนขา และกำลังนอนกองอยู่กับพื้นในสภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก!
“น่าเสียดายที่ซือกงวู่ฉิงหนีไปได้ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าสี่คนพ่อลูกคงได้มีคนเล่นไพ่นกกระจอกครบขา..”   หลิงหยุนเดินเข้าไปในห้องขังและได้เห็นสภาพที่น่าเวทนาของสามคนพ่อลูก แต่เขากลับไม่รู้สึกรู้สม หนำซ้ำยังแสยะยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยันพร้อมกับพูดจาประชดประชัน..
“หลิงหยุนเจ้าเด็กเมื่อวานซืน!นี่เจ้ากล้าทำกับลูกชายของข้าถึงเพียงนี้เชียวรึ ข้าจะต้องให้เจ้าได้ตายเช้าตายเย็นแน่!”
ทันทีที่เห็นหลิงหยุนเดินเข้ามาซือกงถูก็ร้องตะโกนออกไปอย่างโกรธแค้น!
หลิงหยุนขมวดคิ้วและพูดออกไปอย่างเย้ยหยัน “ซือกงถู.. เจ้าไม่ดูสภาพของตัวเองเลย สินะ! เจ้าอยู่ในสภาพน่าสังเวชเช่นนี้ ยังจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้อีกงั้นรึ”
หลิงหยุนรู้ดีว่าซือกงวู่ฉิงไม่มีปัญญาย้อนกลับมาตระกูลหลิงเพื่อช่วยซือกงถูพ่อของมันอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้น.. ซือกงวู่ฉิงก็คงจะไม่ทิ้งน้องชายและพ่อของตนเอง แล้วหนีไปคนเดียวเช่นนั้น!
ซือกงถูเองก็ยอมอ่อนข้อให้และพูดจาเย้ยหยันหลิงหยุนเช่นกัน “หึ.. ลูกชายของข้าหนีไปได้เช่นนั้น เขาจะต้องกลับไปรายงานพรรคมารอย่างแน่นอน และพรรคมารก็จะต้องส่งคนมาช่วยข้าออกไป!”
หลิงหยุนเดินตรงเข้าไปหาซือกงถูพร้อมกับคุกเข่าลงตรงหน้าของมันเขาจ้องใบหน้าถมึงทึงของซือกงถูพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น..
“หากเป็นเช่นนั้นก็ดีสิ..ข้าจะได้สังหารพวกมันให้ตายไปพร้อมๆกัน!”
“แต่เจ้าอย่าได้ฝันไปเลย..คนของพรรคมารไม่มีทางส่งคนมาช่วยเจ้าแน่ แล้วก็อย่าได้แม้แต่จะคิดคลายจุดที่ข้าสกัดไว้ด้วย!”
จากนั้น..หลิงหยุนก็แนบฝ่ามือของตนเองลงไปที่จุดตันเถียนของซือกงถู และเริ่มใช้วิชาดูดลมปราณ จัดการดูดพลังปราณในร่างของซือกงถูทั้งหมดเข้าไปในร่างของตนเองเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป..
จากนั้นก็ทำเช่นเดียวกับซือกงวู่เปิ่นหลิงหยุนดูดพลังปราณเข้าไปเพื่อเสริมสร้างลมปราณในร่างกายของตนเองที่สูญเสียไป  ผ่านไปเพียงแค่สองนาที..พลังปราณที่สองพ่อลูกเฝ้าฝึกฝนอย่างหนักมาทั้งชีวิต ก็ได้ถูกหลิงหยุนดูดเข้าไปจนพลังปราณของเขาฟื้นคืนกลับมาถึงเจ็ดสิบส่วน!
เวลานี้ใบหน้าของซือกงถูแลซือกงวู่เปิ่นได้เปลี่ยนเป็นสีเทาทั้งคู่กัดฟันกดข่มความเจ็บปวด และพยายามที่จะต่อต้าน แต่ในที่สุดพลังปราณที่แข็งแกร่งของพวกมันทั้งสองคน ก็ตกไปเป็นของหลิงหยุนในชั่วพริบตา..
“หลิงหยนุ..นี่เจ้า!!”
ซือกงถูโกรธจนหน้าดำหน้าแดงและได้แต่ร้องตะโกนเรียกชื่อหลิงหยุนอกมาด้วยความคั่งแค้นใจ..
หลิงหยุนยิ้มและตอบกลับไปทันที“เจ้าตกอยู่ในเงื้อมือของข้าแล้ว หากยังคิดว่าจะสามารถหนีออกไปได้ ก็นับว่าเจ้าก็โง่มากทีเดียว!”
พูดจบ..หลิงหยุนก็ใช้วิชาหมัดปีศาจเถียนกังที่ทรงพลัง ชกเข้าไปที่จุดตันเถียนของซือกงถูอย่างแรง!   และแล้วจุดตันเถียนของซือกงถูก็ถูกหลิงหยุนทำลายจนเสียหายเรียกได้ว่าหากคิดที่จะใช้พลังเหนือธรรมชาติอีกครั้ง ก็อย่าได้หวังเลย..
จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปทางซือกงวู่เปิ่นและพูดขึ้นว่า “ซือกงวู่เปิ่น.. ข้ากับเจ้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อนด้วย แต่ข้าก็จำเป็นต้องสังหารเจ้า! ใครให้เจ้าเกิดมาแซ่ซือกง และให้ข้าเกิดมาแซ่หลิงเล่า แต่ข้ารับปากจะให้เจ้าได้ตายอย่างสบาย..”
“เจ้าลงมือได้เลย!”
ซือกงวู่เปิ่นเห็นหลิงหยุนพูดเช่นนั้นก็รู้ว่าตนเองหมดหนทางที่จะหนี และมีชีวิตรอดต่อไปได้ มันจึงหลับตาลง และรอคอยให้หลิงหยุนลงมืออย่างชายชาตรี..
ดวงตาของหลิงหยุนปรากฏแววชื่นชมขึ้นมาวูบหนึ่งแต่แล้วก็ดับลงอย่างรวดเร็ว และจู่ๆ กระบี่โลหิตแดนใต้ก็ปรากฏขึ้นในมือของหลิงหยุน ใบมีดสีดำคมกริบนั้นฟันเข้าที่ลำคอของซือกงวู่เปิ่นอย่างรวดเร็ว..   แล้วร่างของซือกงวู่เปิ่นก็สิ้นใจตายอยู่ตรงนั้น..
“อย่าได้โกรธแค้นข้าเลยนะ!”
ร่างของซือกงถูสั่นเทิ้มอย่างรุนแรงด้วยความโกรธพร้อมกับร้องตะโกนออกมา “หลิงหยุน.. เจ้าต้องไม่ตายดีแน่!”
รอยยิ้มของหลิงหยุนเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเดิมและเวลานี้ในมือของเขาก็เปลี่ยนจากกระบี่โลหิตแดนใต้มาเป็นเข็มเงินจำนวนมากมาย จากนั้นเข็มเงินราวกับห่าฝนก็พุ่งเข้าใส่จุดฝังเข็มทั่วร่างกายของซือกงถู..
และนี่คือวิชาเก้าเข็มปลุกชีพที่สามารถฝังเข็มในหลายๆจุดได้ทีเดียวพร้อมกัน!
วิชาเก้าเข็มปลุกชีพนั้นเป็นวิชาที่ใช้เพื่อช่วยชีวิตผู้คนแต่ครั้งนี้หลิงหยุนกลับใช้มันไปในทางตรงกันข้าม และน่าหวาดผวายิ่งกว่านั้น เขาใช้มันเพื่อทำให้คนผู้หนึ่งต้องมีชีวิตอยู่ราวกับตายทั้งเป็น แม้อยากจะตายก็ไม่สามารถตายได้..
เข็มเงินมากมายพุ่งเข้าใส่ร่างของซือกงถูใบหน้าของมันเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้ม และเริ่มที่จะกระอักออกมาเป็นเลือด และปากของมันก็กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด พร้อมกับร่างที่ดิ้นเร่าๆ และเลื้อยไปมากับพื้น เห็นได้ชัดว่าความเจ็บปวดที่ซือกงถูได้รับนั้น ยากยิ่งนักที่จะมันจะสามารถทานทนได้!
“ซือกงถู..ข้าจะตายดีหรือไม่นั้น ไม่ใช่โกงการอะไรของเจ้า แต่เจ้านั้นไม่สามารถตายได้แน่!”
หลิงหยุนจ้องมองสีหน้าที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสของซืกงถูแววตาของเขาทั้งเย็นชา และไร้ความรู้สึกในขณะที่พูดออกไปว่า
“ความจริงแล้ว..เจ้าควรจะสำนึกบุญคุณของข้าจึงจะถูก ที่ช่วยทำให้ลูกชายของเจ้าตายอย่างไม่ต้องทรมาน!”
เวลานี้ซือกงถูเจ็บปวดอย่างที่สุดจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เขาเจ็บราวกับกำลังถูกตัดซี่โครงออกมาเป็นชิ้นๆ จึงได้แต่นอนเกลือกลิ้งไปมาอยู่ที่พื้นเช่นนั้น!
“อ๊าก..อ๊าก..”   ในที่สุดซือกงถูก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของมันนั้น ดังขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า..
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองเพดานคุกใต้ดินพร้อมกับพูดขึ้นว่า“เจ้าไม่ต้องทนกัดฟันไว้ก็ได้ เชิญกรีดร้องออกมาตามสบาย เพราะที่นี่คือคุกใต้ดินที่อยู่ลึกมาก ไม่ว่าเจ้าจะร้องตะโกนอย่างไร ก็ไม่มีผู้ใดได้ยิน..” Aileen-novel
ระหว่างที่พูดนั้นหลิงหยุนก็ยกมือขึ้นบีบคางของซือกงถู และเพียงแค่พริบตาเดียว เขาก็จัดการกระตุกกรามของซือกงถูหลุด เพื่อป้องกันไม่ให้ซือกงถูกัดลิ้นตัวเองตาย..
การใช้วิชาเก้าเข็มปลุกชี้เข้าสกัดจุดต่างๆตามร่างกายของซือกงถูนั้น ทำให้มันเจ็บปวดทรมานอย่างไรน่ะหรือ
หากจะอธิบายให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนก็คือการที่มีใครสักคนเอามีดไปกรีดเนื้อของซือกงถูในเวลานี้ ยังนับว่าสบายกว่าสิ่งที่มันกำลังเผชิญมากยิ่งนัก!
เวลานี้..ความเจ็บปวดที่ซือกงถูได้รับนั้น นับว่าทุกข์ทรมานแสนสาหัสยิ่งกว่าที่ซือกงถูทรมานหลิงเสี่ยวนับสิบเท่า!
หลิงหยุนจ้องมองร่างที่ดิ้นทุรนทุกรายด้วยความเจ็บปวดของซือกงถูและค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
“ข้าสังหารผู้คนมามากมายนับไม่ถ้วนแต่ข้าไม่เคยชื่นชอบการเข่นฆ่าเลย แต่กับเจ้า – ซือกงถู ข้ากลับไม่รู้สึกเช่นนั้นเลย!”
“เจ้าฟังไว้ให้ดี..นับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะถึงเวลาที่ข้าลงมือสังหารเจ้า ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดในแบบที่เจ้าไม่คาดคิดมาก่อนเลยทีเดียว!”
เมื่อหลิงหยุนได้พบเห็นสภาพที่หลิงเสี่ยวถูกซือกงถูทรมานอย่างน่าเวทนานั้นหลิงหยุนได้ตั้งปณิธานไว้ว่าเขาจะต้องล้างแค้น และจะไม่ยอมปราณีซือกงถูโดยเด็ดขาด!
ทั้งตระกูลหลิงพ่อแม่ของเขา จินเหยียว และตัวหลิงหยุนเอง ล้วนมีความแค้นล้ำลึกกับซือกงถู เวลานี้มันอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว มีหรือที่หลิงหยุนจะไม่ล้างแค้นให้กับทุกคน!   “วิชาฝังเข็มของข้าครั้งนี้จะทำให้เจ้าต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสทุกๆครึ่งชั่วโมงและเจ้าจะมีเวลาได้พักเพียงแค่สิบนาที และจะกลับมาเจ็บปวดใหม่อีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้ทั้งวันทั้งคืน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องการจะบอกเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะเจ็บปวดมากเพียงใด แต่เจ้าจะยังคงมีสติที่แจ่มชัด สามารถรับรู้ความเจ็บปวดได้อย่างชัดเจน ถึงตอนนี้แล้ว.. ก็อย่าได้นึกเสียใจในการกระทำของตัวเองล่ะ!”
หลิงหยุนยืนชื่นชมความทุกข์และความเวทนาของซือกงถู พร้อมกับอธิบายให้กับมันฟังถึงสิ่งที่ต้องเผชิญอย่างละเอียด..
โดยปกติแล้ว..หากคนเราเจ็บปวดมากจนถึงที่สุดก็จะเกิดอาการชาตามมา แต่การฝังเข็มของหลิงหยุนนั้น ทำให้อาการปวดเกิดแล้วก็หายเช่นนี้ อาการชาจึงไม่เกิด และซือกงถูจะต้องเจ็บปวดเจียนตายเหมือนเดิมในทุกๆครั้ง..
“หลิงหยุน..ได้โปรดเถิด.. ข้าขอร้อง ได้โปรดให้ข้าตายเถิด!”
ซือกงวู่จี๋ที่ไร้แขนขาเห็นสภาพของซือกงถูก็ถึงกับร้องตะโกนอ้อนวอนหลิงหยุนด้วยแววตาท้อแท้สิ้นหวัง..
เวลานี้ซือกงวู่จี๋ไม่เพียงถูกหลิงหยุนตัดแขนตัดขาทิ้งหนำซ้ำยังถูกเขาดูดลมปราณในร่างกายไปด้วย เวลานี้ซือกงวู่จี๋จึงอ่อนล้าหมดเรี่ยวหมดแรง อย่าว่าแต่จะหนีเลย เพียงแค่ขยับร่างกายก็ยังลำบาก มันจึงได้แต่อ้อนวอนขอให้หลิงหยุนฆ่าตนเอง..
หลิงหยุนส่ายหน้าพร้อมกับตอบไปว่า“เจ้าแตกต่างจากซือกงวู่เปิ่น.. เจ้ากับข้ามีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน เจ้าต้องการจะได้ตัวผู้หญิงของข้าไป ต้องการกระบี่วิเศษของข้า และต้องการทุกอย่างที่เป็นของข้า คนเช่นเจ้า.. ข้าไม่มีทางให้ได้ตายสบายอย่างแน่นอน!”
“พวกเจ้าสองคนพ่อลูกจะต้องถูกข้าทรมานให้ตายอย่างช้าๆจึงจะสาสม!”
ทันทีที่พูดจบ..หลิงหยุนก็เดินออกจากห้องขังไปทันที และเดินตรงไปยังห้องขังของเฉินเซินกับไห่ซาน
“เฉินเซิน..เจ้ารู้หรือไม่เหตุใดข้าจึงนำตัวเจ้ามาปักกิ่งด้วย”
เฉินเซินที่นั่งอยู่กับพื้นรีบพยักหน้าทันที“ข้ารู้.. ข้ารู้.. คุณชายหลิง.. ท่านต้องการให้ข้ามาเป็นพยานเรื่องหลิงห่าว!”
หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า“ดีมาก! เมื่อถึงเวลาข้าจะให้คนมานำตัวเจ้าออกไป หลังจากที่ทุกอย่างกระจ่างแล้ว ข้าก็จะปล่อยตัวเจ้าไป!”
เฉินเซินตาโตและดีอกดีใจอย่างมาก “คุณชายหลิง.. รับรองว่าข้าจะบอกเล่าเรื่องของหลิงห่าวอย่างละเอียด!”
หลิงหยุนมองเฉินเซินและได้แต่นึกเย้ยหยันอยู่ในใจ เขาจ้องมองเฉินเซินราวกับกำลังมองคนหน้าโง่คนหนึ่ง!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท