ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1260 งัดไม้แข็ง

บทที่ 1260 งัดไม้แข็ง

ดูท่าวินนี่จะหัวเสียกับเรื่องนี้อยู่พอตัว เธอเล่าให้ฉินสือโอวฟังจบก็หยิบเอกสารกองหนึ่งขึ้นมา แล้วนั่งลงก่อนจะเข้าสู่ห้วงความคิด

เห็นท่าทีหงุดหงิดของภรรยา ฉินสือโอวก็ปวดใจ เรื่องพวกนี้เดิมทีวินนี่ไม่จำเป็นต้องยุ่งเลย เป็นเพราะเขา วินนี่ถึงอยากมาเป็นนายกเทศมนตรี เธอถึงได้มีเรื่องกวนใจมากมายแบบนี้

ฉะนั้นฉินสือโอวเลยรู้สึกว่าตัวเขาจำเป็นต้องช่วยวินนี่แก้ปัญหาพวกนี้

ฉินสือโอวหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่านรายงานสถิติเกี่ยวกับโทรคมนาคม จากการวิเคราะห์รายงานจะเห็นได้ว่าเดิมทีพรรคอนุรักษนิยมเปิดตลาดโทรคมนาคมให้บริษัทเล็กๆ เข้าไปเพื่อแก้ปัญหาการผูกขาดตลาดของบริษัทใหญ่

แต่ปรากฏว่าวิธีนี้ไม่เป็นผล จนถึงขณะนี้บริการด้านอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของแคนาดายังคงถูกครองโดยยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม 5 ราย เบล โรเจอร์ ทีลัส ชอว์ และควิเบกคอร์ สัดส่วนรายได้ของพวกเขาสูงถึง 84% ของทั้งอุตสาหกรรม แถมยังสูงกว่าปีที่แล้วหนึ่งเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ!

ในสิบสองเดือนที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายโทรคมนาคมเฉลี่ยรายเดือนของคนแคนาดาสูงถึงห้าพันล้านดอลลาร์แคนาดา…

รายงานนี้ทำเอาฉินสือโอวตะลึงมาก เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจปัญหาเรื่องค่าโทรศัพท์ วินนี่เป็นคนจ่ายบิลและเซ็นชื่อบนบิลทุกสิ้นเดือน เพราะนึกว่ามันไม่เท่าไร ดูท่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสียแล้ว

ก่อนที่จะมาแคนาดา ฉินสือโอวได้ยินมาว่าเวลาคนอเมริกาโทรศัพท์ โทรด้วยเสียงได้ฟรี มีแค่โทรวิดีโอคอลถึงจะเก็บเงิน พอมาอยู่แคนาดาถึงได้รู้ว่านั่นมันเหลวไหลทั้งเพ

ที่จริงอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของอเมริกาและแคนาดาเก็บค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสูงกว่านั้น เพราะแบบนี้ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำจึงต้องล้มเลิกการเล่นอินเทอร์เน็ตไป จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่าครอบครัวที่มีรายได้น้อยใช้อินเทอร์เน็ตไม่ถึง 60% แต่อัตราการใช้อินเทอร์เน็ตของครอบครัวรายได้สูงนั้นสูงถึง 98%

ดังนั้นตอนที่ฉินสือโอวสร้างสถานีฐาน คนทั้งเมืองจึงสนับสนุนอย่างมาก หลังจากสร้างเสร็จทุกคนก็ใช้มาโดยตลอด ประหยัดค่าโทรศัพท์ไปได้มาก ขอแค่ไม่ออกจากเกาะ ทุกคนก็สามารถใช้เครือข่ายไร้สายติดต่อได้กันแบบฟรีๆ

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ท่านชายฉินจึงไม่เข้าใจ ค่าโทรศัพท์ของคนเมืองแฟร์เวลน่าจะน้อยลงแล้ว ทำไมจะต้องไปร่วมการประท้วงด้วย?

เขาเห็นว่าที่โต๊ะของวินนี่มีรายชื่อผู้เข้าร่วมการประท้วง ในนั้นมีชื่อของคนรู้จักด้วยอย่างพี่น้องตระกูลฮิวจ์ และไชด์ มีแม้กระทั่งคู่หูซื่อบื้อโหวจื่อเซวียนกับหวงเฮ่าเจีย เขาโกรธขึ้นมาทันที

หมายความว่าอย่างไรกัน? ใช้สถานีฐานของฉัน พวกแกยังมาหาเรื่องให้แฟนฉันอีก ใจดีแล้วก็ล้ำเส้นใช่ไหม?

ท่านชายฉินเป็นคนอารมณ์ร้อน เขาโบกมือพูดกับวินนี่ว่า “ไป ที่รัก กลับไปกินข้าวนอน เรื่องนี้ผมจัดการให้คุณเอง”

วินนี่มองเขาอย่างประหลาดใจ เขาพยักหน้าอย่างหนักแน่นแล้วพูดว่า “ผมจัดการเอง ผมจะแก้ปัญหาให้คุณแน่นอน!”

วินนี่เปิดปากอยากจะถาม แต่พอสังเกตสีหน้าของฉินสือโอว เธอก็ไม่ได้ออกปากถามอะไรแล้วเลือกที่จะเชื่อผู้ชายของตัวเอง เธอเข้าไปจูบเขาแล้วเก็บของอุ้มลูกสาวกลับบ้าน

ฉินสือโอวเดินตามมาข้างหลังพลางโทรออกหาฮิวจ์คนน้อง เดินไปถามไป “วันนี้ตอนเช้านายไปไหนมา?”

ฮิวจ์พูดหน้าชื่นตาบาน “ฉันไปเซนต์จอห์นร่วมการประท้วง ฉิน นายจะไปไหม? กิจกรรมครั้งนี้น่าสนใจมาก อย่างกับปาร์ตี้แฟนซี…”

ฟังฮิวจ์คนน้องเจื้อยแจ้วเสร็จ ฉินสือโอวจึงถาม “นี่ก็คือสาเหตุที่ไปร่วมการประท้วง? โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอให้สนุก”

พูดจบเขาก็วางสายไป จากนั้นฉินสือโอวก็โทรหาเบิร์ดแล้วพูดว่า “นอกจากบริเวณฟาร์มปลา ตัดสัญญาณสถานีฐานอื่นให้หมด เดี๋ยวนี้ ตอนนี้!”

ชาวเมืองจะไปร่วมการประท้วงเขาก็ไม่สนใจ นี่เป็นสิทธิที่กฎหมายมอบให้แก่พวกเขา และในเมื่อเจอกับความไม่ยุติธรรม ก็ต้องต่อต้าน ชาวแคนาดาไม่มีนิสัยเชื่อฟังว่าง่าย

แต่เงื่อนไขก็คือต้องไม่ทำให้เขาเสียผลประโยชน์ เพราะฉินสือโอวช่วยชาวเมืองในด้านนี้ไปแล้ว เขากล้ารับรองว่าเครือข่ายไร้สายช่วยชาวเมืองประหยัดค่าโทรคมนาคมไปได้มากในทุกเดือน นอกจากโทรทางไกลแล้ว พวกชาวเมืองก็ไม่ต้องใช้เงินในการติดต่อกันเลย

นอกจากนี้ สถานีฐานโมโตโรล่านี้มีประสิทธิภาพสูงมาก หลังจากที่ทำการอัปเกรดระบบ มันไม่ใช่แค่อุปกรณ์สื่อสาร ยังมีความสามารถในการส่งผ่านเครือข่ายไวไฟด้วย ขอแค่ต่อเข้ากับไฟเบอร์ออปติกที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตเพียงพอ ชาวเมืองส่วนใหญ่ก็สามารถใช้งานได้

หมายความว่าในการสื่อสารระยะทางสั้นและการใช้อินเทอร์เน็ตของชาวเมืองแทบจะไม่ต้องออกเองเลย ฉินสือโอวช่วยแบกภาระให้พวกเขา

งั้นคนพวกนี้ทำไมยังต้องไปร่วมประท้วงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีก? เหมือนกับฮิวจ์คนน้อง ไอ้หมอนี่แค่ไปเล่นสนุกเท่านั้น เขาน่ะสนุก แต่วินนี่ต้องมาแบกรับการกระทำของพวกเขา แบบนี้ก็เป็นการทำให้เขาเสียผลประโยชน์

ฉินสือโอวไม่ใช่คนดีขนาดนั้น การที่เขาช่วยเมืองก็หวังผลตอบแทน แน่นอนว่าเขาก็ได้การตอบแทนบางอย่าง อย่างเช่นการที่วินนี่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี

แต่การประท้วงครั้งนี้ไร้แก่นสารมาก ถ้าเกิดเรื่องแรกเขาก็พอจะเข้าใจ แต่เรื่องโทรคมนาคม พวกชาวเมืองก็ได้รับผลประโยชน์ไปแล้ว แล้วยังจะก่อเรื่องทำไม?

หลังจากที่ตัดสัญญาณสถานีฐาน ชาร์คและคนอื่นๆ ก็รีบมาถามว่าทำไม ฉินสือโอวไม่ได้อธิบาย เขาปิดโทรศัพท์ และให้วินนี่ เออร์บักกับคนอื่นๆ ปิดด้วย เรื่องนี้พรุ่งนี้ค่อยจัดการ

ตอนเช้าในขณะที่ฉินสือโอวกำลังวิ่งออกกำลังก็มีคนมาหา ถามว่าทำไมเครือข่ายไร้สายถึงใช้ไม่ได้

ฉินสือโอวทำสีหน้าแปลกใจแล้วตอบไป “ทุกคนยังใช้กันอยู่เหรอ? ฉันนึกว่าไม่มีใครใช้แล้วก็เลยปิดสถานีฐานลง กะว่าเดี๋ยวอีกหน่อยจะปิดถาวร ถ้าไม่มีใครใช้จะเปิดให้เปลืองเงินต่อไปก็ไม่มีความจำเป็น ไม่ใช่เหรอ?”

คนที่มารีบบอกว่าทุกคนยังใช้อยู่ สถานีฐานตอนนี้กลายเป็นของจำเป็นพื้นฐานที่เกาะขาดไม่ได้ ทำไมจะไม่มีใครใช้?

พอเป็นแบบนั้นฉินสือโอวจึงพูดช้าๆ “ดูท่าฉันจะเข้าใจผิดเสียแล้ว เมื่อวานฉันเห็นในข่าว บอกว่าบนเกาะเรามีคนร่วมกิจกรรมประท้วงเกี่ยวกับโทรคมนาคมเยอะ ฉันนึกว่าบริษัทโทรคมนาคมจะลดค่าให้บริการ ทุกคนเลยจะเปลี่ยนไปใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายซะอีก”

ไม่มีใครเป็นคนโง่ ฉินสือโอวพูดจบทุกคนก็เข้าใจ เรื่องที่พวกเขาไปร่วมกิจกรรมประท้วงทำให้นายกเทศมนตรีวินนี่ไม่ชอบใจ

หลังจากนั้นก็มีคนมาอธิบายกับฉินสือโอวเรื่อยๆ บอกว่าที่พวกเขาไปร่วมกิจกรรมประท้วงก็แค่เพราะได้รับคำเชิญจากญาติและเพื่อนฝูง เหมือนไปร่วมงานชุมนุม ฮิวจ์และคนอื่นๆ ก็มาบอกว่าเขาแค่ไปสนุก ไม่ได้มีเจตนาอื่น

ฉินสือโอวไม่ใช่คนใจแคบ เรื่องนี้อธิบายกันจบก็ไม่มีอะไร เขาก็เปิดสถานีฐานอีกครั้ง

แบบนี้งานของวินนี่ก็ง่ายขึ้นเยอะ การปกครองส่วนท้องถิ่นให้พวกเขาเก็บสถิติแพ็กเกจโทรคมนาคมที่ผู้ประท้วงใช้งาน วินนี่เขียน ประโยคตัวใหญ่ๆ ว่า ‘เมืองแฟร์เวลไม่มีคนร่วม’ เรื่องนี้ก็ถือว่าจบไป

ตอนกลางวันเหมาเหว่ยหลงโทรมาคุยกับเขา และในบทสนทนาก็ได้พูดถึงการประท้วงครั้งนี้ เขาก็เข้าร่วมการประท้วงที่แฮมิลตันด้วย แล้วถามฉินสือโอวว่าไปร่วมด้วยหรือเปล่า

ฉินสือโอวแค่นเสียงเย็น แล้วเล่าถึงวิธีจัดการปัญหาและผลที่ออกมา

………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน