ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1266 อาวุธล้างแค้น

บทที่ 1266 อาวุธล้างแค้น

ที่ชายหาดน้ำตื้นของอ่าวไทจิ โลมาราวสี่สิบกว่าตัวกำลังว่ายน้ำอย่างเงอะงะ

ใช่ ว่ายแบบเงอะๆ งะๆ

ตามที่ฉินสือโอวรู้มา ท่ามกลางสัตว์ทะเลมากมายหลากชนิด ที่ว่ายน้ำนานที่สุดก็คือปลาทูน่าครีบน้ำเงิน พวกมันว่ายน้ำทั้งชีวิต ว่ายได้รวดเร็ว และอึดมาก ปลาที่ว่ายน้ำไวที่สุดคือปลากระโทงสีน้ำเงิน เจ้าพวกนี้ถ้าเกิดว่ายไวขึ้นมาก็กลายเป็นฟอร์มูลาวันแห่งท้องทะเลได้เลย

แต่ถ้าจะบอกว่าใครคือราชาแห่งการว่ายน้ำในท้องทะเล งั้นก็ต้องโลมา

โลมาไม่ได้ว่ายน้ำไวที่สุด ความอึดก็ไม่ที่สุด แต่พวกมันได้พัฒนารูปร่างทำให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ท่าว่ายน้ำสวยที่สุด มีจิตวิญญาณที่ปลาชนิดอื่นไม่มี ชาวนอร์เวย์เปรียบโลมาเป็นเอลฟ์แห่งท้องทะเลก็ด้วยเหตุผลนี้

แต่โลมาที่อยู่ต่อหน้าฉินสือโอวตอนนี้ ท่าว่ายน้ำกลับไม่น่าดูเลย พวกมันส่ายหางเงอะงะว่ายไปในน้ำช้าๆ บางครั้งก็ไม่สามารถรักษาสมดุลได้ ได้แต่อยู่กับที่

ปลาดาบเงินแหวกว่ายอยู่ข้างตัวพวกมันตามใจชอบ ทุกครั้งที่ร่างสีขาวหิมะบิดสะบัดพวกมันก็จะพุ่งไปไกลในน้ำอย่างอิสระ โลมาที่นี่เทียบกับปลาดาบเงินแล้วดูเงอะงะอย่างกับโคนมเจอแมวป่า

ภาพนี้ทำให้คนรู้สึกหดหู่ ทั้งสองตัวควรสลับกันสิถึงจะถูก อีกอย่างโดยปกติแล้วปลาดาบเงินต้องไม่กล้าโผล่มาต่อหน้าโลมาถึงจะถูก เพราะพวกมันเป็นอาหารของโลมา

เหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะครีบหางของโลมาพวกนี้แหว่งหายไป ส่วนบนของหางพวกมันหายไป ถ้าเป็นแค่ตัวเดียวก็อาจเพราะสู้กับฉลามจนโดนกัดขาด แต่ที่นี่กลับมีหลายสิบตัวที่เป็นแบบนี้

นอกนั้นปากแผลบนครีบหางโลมาก็เรียบร้อยมาก ถ้าจะบอกว่านี่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ ฉินสือโอวยินดีโชว์ก้นในรายการดังโตเกียวเลย!

ปลาดาบเงินปรากฏตัวเรื่อยๆ พวกโลมามองดูอาหารที่แต่ก่อนขยี้ได้ง่ายๆ ตาปริบๆ ใจอยากจะเข้าไปจับ แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย พวกมันไล่ปลาดาบเงินที่ว่องไวไม่ทันแล้ว

โลมาบางตัวลองไล่ตามปลาดาบเงิน แล้วก็ต้องถูกแกล้งกลับมา

ปลาดาบเงินหยุดอยู่กับที่ในบางครั้ง รอจนโลมาเข้ามาใกล้ก็จะว่ายห่างออกไปทันทีหรือไม่ก็ว่ายวนรอบโลมา ตั้งแต่หัวจนถึงหาง แกล้งโลมาเล่นราวกับหมาวิ่งวนงับหางตัวเอง

มังกรเกยตื้นโดนกุ้งรังแกคืออะไร? ก็คือแบบนี้ไง!

ที่น่าสลดกว่านั้นคือพวกโลมาไม่ได้ใส่ใจเลย พวกเขาไม่มีนิสัยใจคอของเอลฟ์แห่งท้องทะเล แววตาทั้งสองดูตายซาก พยายามส่ายครีบท้องกับหางที่ขาดแหว่งเพียงแค่รักษาสมดุลไม่ให้ตัวเองจมลงก้นทะเล แม้แต่แรงจูงใจจะหาอาหารก็ไม่มี

บางครั้งก็จะมีอาหารถูกโปรยลงมาในทะเล ในตอนนั้นโลมาก็จะอ้าปากรับอาหารราวกับขอทานพิการข้างถนน

พอเห็นภาพแบบนั้น ฉินสือโอวก็โกรธเลือดขึ้นหน้าทันใด!

ชั่วขณะนั้นเขาก็เดาได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะช่วงก่อนเทศกาลล่าโลมาปีที่แล้วเขาเอาวาฬและโลมาจำนวนมากไปจากอ่าวโตเกียว คนญี่ปุ่นไม่มีโลมาให้ฆ่า สุดท้ายเทศกาลเลยต้องยกเลิกไป

ตอนนั้นเรื่องนี้ยังพาดหัวข่าวไปทั่ว นักชีววิทยาทางทะเลญี่ปุ่นวิเคราะห์ปัญหานี้จากมุมของลมตามฤดูกาล การบลูมของน้ำ มลภาวะทางน้ำ และบอกว่าโตเกียวไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยของโลมาแล้วจึงมีโลมาน้อย

เห็นได้ชัดว่าปีนี้สำนักงานประมงของญี่ปุ่นพบปัญหา ไม่ใช่ไม่มีโลมามา แต่พอโลมามาแล้วพักหนึ่งก็จะจากไป

เรื่องหลังจากนั้นฉินสือโอวใช้ก้นคิดก็คิดออก คนญี่ปุ่นที่ทำอะไรก็ทำให้สุดก็เลยจัดการตัดหางไปส่วนหนึ่งเวลาเจอโลมาเสียเลย แบบนี้ต่อให้โลมาอยากว่ายหนีก็หนีไปไหนไม่ได้

สำหรับปัญหาเรื่องหาอาหารของโลมา? ก็มีคนขับเครื่องบินมาโปรยอาหารในอ่าวเป็นช่วงๆ นี่?

พอทำความเข้าใจถึงข้อนี้ได้ ฉินสือโอวก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาถ่ายพลังโพไซดอนให้กับโลมาพวกนี้ หลังจากที่ได้พลังโพไซดอนพวกโลมาก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นเยอะ น่าเสียดายที่พลังโพไซดอนสามารถเพิ่มพลังชีวิตให้พวกมันได้ แต่กลับไม่สามารถทำให้หางที่ขาดไปงอกกลับขึ้นมาได้

ก่อนหน้านี้เวลาที่ฉินสือโอวเจอว่าคราเคนมีหนวดที่ขาด พอถ่ายพลังโพไซดอนให้คราเคนก็จะงอกหนวดกลับมาใหม่อย่างรวดเร็ว

แต่นั่นก็เพราะยีนของหมึกยักษ์ทำให้พวกมันมีความสามารถในการงอกอวัยวะที่ขาดกลับมาใหม่ โลมากลับไม่มี พวกมันครีบขาดก็คือขาด ไม่สามารถงอกกลับมาได้อีก อย่างน้อยพลังโพไซดอนก็ไม่มีพลังมหัศจรรย์นี้

พอรู้สึกได้ถึงพลังที่หัวใจโพไซดอนปล่อยออกมา โลมาที่สิ้นหวังก็พยายามขยับใกล้เข้ามา

แต่ตำแหน่งของพวกมันกระจายมาก อย่างมากหัวใจโพไซดอนก็ควบคุมเขตทะเลได้แค่ประมาณสิบกว่าลูกบาศก์กิโลเมตร ยังมีโลมาที่อยู่ไกลออกไปที่ได้แต่กระเสือกกระสนที่จะเข้ามาใกล้ ไม่สามารถครอบคลุมได้ในคราวเดียว

ฉินสือโอวลุกขึ้นนั่งในห้องนอนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง วินนี่หันกลับมาก็ต้องตกใจ เธอยื่นมือไปอังหน้าผากเขาแล้วพูดอย่างประหลาดใจ “พระเจ้า สีหน้าคุณแย่มาก เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”

ฉินสือโอวฝืนยิ้มแล้วพูดขึ้น “เมื่อครู่จู่ๆ ก็รู้สึกว่าเหนื่อยขึ้นมา ไม่มีอะไรที่รัก คุณเล่นเป็นเพื่อนลูกไปเถอะ”

วินนี่กลับนึกไปเรื่องอื่น เธอให้ฉินสือโอวพลิกตัวแล้วนวดบริเวณหลังเอวให้เขา จากนั้นก็พูดอายๆ ว่า “ต่อไปอย่าเล่นกันหนักอย่างนี้เลย พวกเราก็แต่งงานกันนานแล้ว”

ฉินสือโอว “…”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะถือโอกาสใช้คำพูดนี้แซวเธอ แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จริงๆ ความคิดเขากลับไปอยู่ที่อ่าวไทจิอีกครั้ง และพาโลมาว่ายออกไปอย่างเงอะงะ

ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะพาโลมาพวกนี้ออกไป

นอกจากนี้ เขาจะลงโทษวายร้ายพวกนั้น!

โลมาพวกนี้พิการไปแล้ว ไม่มีครีบหางก็เท่ากับว่าพวกมันเสียความสามารถที่จะว่ายน้ำได้อย่างอิสระและหาอาหารได้ตามใจชอบ แบบนี้ถ้ากลับทะเลก็อาจหิวตายได้ การอยู่ที่นี่มีคนคอยโปรยอาหารให้ เวลาที่จะมีชีวิตอยู่ก็อาจจะยาวสักหน่อย

แต่ฉินสือโอวยอมให้เฮยป้าหวังพาฝูงฉลามขาวไปฆ่าพวกมันให้ตาย แต่ไม่ยอมให้พวกมันอยู่ที่นั่นรอจนถึงเทศกาลล่าโลมาแล้วตายอย่างอนาถ!

ใช้จิตสำนึกโพไซดอนสองสายพาโลมาออกจากที่นั่น ส่วนจิตสำนึกโพไซดอนอีกสองสายไปที่อ่าวเพื่อหาวิธีแก้แค้น

เดิมทีเขาอยากจะถ่ายพลังโพไซดอนให้สาหร่ายสีแดง สาหร่ายสีน้ำตาลในอ่าวให้พวกมันโตขยายพันธุ์เป็นบ้าเป็นหลังและเกิดเป็นปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่งมาแก้แค้น

แต่เขาตระเวนไปรอบหนึ่งก็พบว่า อาจเป็นเพราะลมในฤดูร้อนแรงเกินไป หรือเพราะคนญี่ปุ่นมีฝีมือในด้านการจัดการมลภาวะสิ่งแวดล้อม สาหร่ายนอกอ่าวที่เคยทำให้อ่าวโตเกียวเกิดปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่งจึงไม่ค่อยมีแล้ว ถ้าจะให้พวกมันเพิ่มจำนวนมากภายในเวลาสั้นๆ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้

เรื่องนี้ทำให้เขาเซ็งก็เลยใช้พลังโพไซดอนสร้างคลื่นลูกใหญ่ซัดไปที่ท่าเรือ

เสาของท่าเรือเล็กนี้เป็นไม้โอ๊ก ตามหลักการแล้วมั่นคงมาก แต่พอคลื่นลูกโตซัดเข้าไป เสียง ‘แกร๊ก’ ชวนเสียวฟันก็ดังขึ้นแล้วเสาก็หักลง

ฉินสือโอวตกใจ ทำไมคลื่นที่เขาสร้างถึงมีอานุภาพขนาดนี้?

เสาไม้โอ๊กหักร่วงลงในน้ำ พอเข้าไปดูถึงได้เข้าใจ ตัวเองคิดผิดไปแล้ว ที่ไม้ท่อนนั้นหักง่ายขนาดนี้ จริงๆ แล้วเป็นเพราะตัวมันเอง ดูจากด้านนอกมันไม่มีปัญหา แต่ข้างในที่จริงผุจนพังไปหมดแล้ว

ด้านในของไม้มีรอยผุกลวงเป็นสาย บางอย่างที่ดูเหมือนหนอนแมลงสีขาวโผล่ออกมา เห็นได้ชัดว่าการผุของไม้เหล่านี้ก็คือฝีมือเจ้าพวกนี้

ฉินสือโอวกำลังจะไป แต่จู่ๆ ก็คิดอะไรออก หนอนแมลงน่าเกลียดพวกนี้เป็นเครื่องมือแก้แค้นอย่างดีเลย

……………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน