ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1267 ลูกมือแก้แค้น

บทที่ 1267 ลูกมือแก้แค้น

ฉินสือโอวพิจารณาดูเจ้าแมลงตัวอ้วนลับๆ ล่อๆ พวกนี้อย่างละเอียด ตอนแรกเขานึกไม่ออก แต่จู่ๆ ก็นึกได้ว่า เจ้าพวกนี้คือหนอนเรือ

อย่านึกว่าชื่อหนอนฟังดูน่าขยะแขยง ที่จริงพวกมันไม่ใช่แมลง แต่เป็นหอยชนิดหนึ่ง เป็นญาติใกล้ๆ กับหอยตลับที่ท่านชายฉินชื่นชอบ และเป็นญาติห่างๆ ของเพรียงตีนเต่าที่เขารักมากกว่า

ดูจากภายนอกแล้ว พวกมันไม่ต่างจากหนอนพยาธิบางประเภท ถ้าใช้แว่นขยายมาส่องก็จะเห็นว่าที่จริงบนหัวของพวกมันมีเปลือกสีขาวที่ละเอียดมากๆ ค่อนข้างแข็ง พวกมันใช้เปลือกนี้ และขยับเคลื่อนตัวเปลี่ยนตัวเองเป็นสว่านจิ๋ว สุดท้ายก็มุดเข้าไปในไม้

หนอนเรือกินไม้เป็นอาหาร ตั้งแต่พวกมันเกิดก็จะเลือกไม้ท่อนหนึ่ง จากนั้นก็มุดเข้าไปกัดกินและย่อยสลายไม้จึงจะมีชีวิตต่อไปได้

บนบกมีสัตว์ที่กินไม้เป็นอาหารมากมาย แต่ในทะเลกลับมีน้อยมาก จนถึงวันนี้หนอนเรือก็ถูกพบว่าเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวที่กินไม้ แต่ก็เพราะเจ้าสิ่งเล็กๆ นี้ ความเสียหายในการขนส่งทางทะเลของโลกทุกปีจึงเกินหมื่นล้าน!

อย่างเช่นเมื่อตอนฤดูร้อนปี 2000 ท่าเรือสองสามที่ในรัฐเมนของอเมริกาเกิดถล่มขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เสาไม้โอ๊กที่ค้ำท่าเรือพวกนี้ยาว 9 เมตรกว่า หนา 25 เซนติเมตรกว่าๆ ดูจากภายนอกแล้วดูแข็งแกร่งมั่นคง แต่ข้างในโดนหนอนเรือกินจนพรุนไปหมดแล้ว

เรื่องที่คล้ายๆ กันนี้ก็เคยเกิดขึ้นที่แคนาดา ปี 1997 จู่ๆ ฐานหนึ่งของท่าเรือทางตะวันตกเฉียงใต้ก็ถล่มลงมา คนหกคนตกลงไปในน้ำ หลังจากเรื่องนั้นทางตำรวจก็ตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ และพบว่าเป็นฝีมือของพวกหนอนเรือ

แบบนี้ฉินสือโอวก็ได้ไอเดีย ทำไมไม่เพาะเลี้ยงสุดยอดหนอนเรือมาให้พวกญี่ปุ่นแขยงกันสักหน่อยล่ะ?

เขามีความรู้เกี่ยวกับหนอนเรือไม่มาก แต่เคยเห็นโดยบังเอิญตอนที่กำลังพลิกหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ทะเล จึงรู้ว่านี่คือหนอนพยาธิที่ดุดันศัตรูของการประมง

ที่เขาว่าศัตรูของศัตรูคือเพื่อน คนขายเนื้อโลมาแถวอ่าวโตเกียวเป็นศัตรูของเขา หนอนเรือก็เป็นศัตรูของคนขายเนื้อโลมา แบบนี้พวกเขาก็เป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอ?

ฉินสือโอวสาบาน หนอนเรือเป็นเพื่อนที่น่าแขยงที่สุดในชีวิตนี้ แต่ก็เป็นเพื่อนที่ช่วยเขาได้มากที่สุดในตอนนี้

เพียงแต่สำหรับเพื่อนใหม่คนนี้ เขาก็ยังคงแปลกหน้าอยู่ จึงลุกขึ้นมาหาข้อมูล คิดวิธีจัดการคนขายเนื้อจากอ่าวพวกนี้ได้แล้ว ท่านชายฉินก็ตื่นเต้นไม่มีอะไรเทียบจนอดหัวเราะหึๆ ออกมาไม่ได้

วินนี่ตีเขาทีหนึ่งแล้วพูดอย่างเขินอายปนเคือง “ทำไมยังไม่นอนนิ่งๆ อีก? นอนลงไปดีๆ เพิ่งจะเริ่มนวดเองนะ…”

ฉินสือโอวยื่นมือไปเชยคางวินนี่ด้วยสีหน้าเย้าหยอก แล้วพูดแซว “สาวน้อย ลงไม้ลงมือทำไมกัน พี่อยากฟังดนตรี เป่าขลุ่ยให้ฟังหน่อยสิ!”

“ลูกอยู่นะ น่าเกลียด!” วินนี่คว้าบางอย่างแล้วโยนไปที่ฉินสือโอว เฟอเรทผู้พี่ที่ลอยอยู่กลางอากาศน้ำตารื้นขึ้นมา ทำไมต้องเป็นฉันที่เจ็บตัวทุกที

ฉินสือโอวเปิดคอมพิวเตอร์หาข้อมูลดูก็พบว่าเพื่อนที่ดูเหมือนจะน่าขยะแขยงนี้ น่าขยะแขยงมากจริงๆ! อีกอย่างใช้พวกมันมาแก้แค้นช่างเหมาะสมเสียนี่กระไร พวกมันนี้เรียกได้ว่าเป็นมือดีในการแก้แค้น!

หนอนเรือกินไม้เป็นอาหาร หรือพูดได้ว่า พวกมันกินเซลลูโลสที่เป็นส่วนประกอบหลักของไม้เป็นอาหาร เซลลูโลสเป็นโพลิเมอร์โมเลกุลน้ำตาล อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย แต่สัตว์ทะเลอื่นไม่สามารถย่อยไม้ได้ เพราะร่างกายของพวกมันขาดสารอย่างหนึ่งก็คือ เซลลูเลส

เอนไซม์ชนิดนี้แกะโมเลกุลน้ำตาลที่ล็อกกันแน่น นี่คือเงื่อนไขพื้นฐานที่ทำให้สัตว์บกสามารถย่อยสารอาหารในไม้ได้ ในหมู่สัตว์ทะเลมีเพียงแบคทีเรียบนตัวของหนอนเรือที่หลั่งสารเซลลูเลสได้ เพราะพวกมันมีความสามารถทางร่างกายที่ย่อยไม้ได้

แบบนี้ไม้ในสายตาของพวกมันก็กลายเป็นเค้ก กรุบๆๆๆ เรือไม้ลำหนึ่งก็จมแล้ว กรุบๆๆๆ อีก กรุบๆๆๆ เสาท่าเรือก็หักแล้ว กรุบๆๆๆ ต่อไป กรุบๆๆๆ ท่าเรือก็ถล่มแล้ว!

นอกจากนี้หนอนเรือเป็นผู้แก้แค้นที่เหมาะสมมาก พวกมันมีชีวิตได้เพียงแค่ในไม้ เมื่อก่อนสามารถล่องเรือไม้ไปทั่วโลก ตอนนี้มีเรือไม้ที่ไหน มีแต่เหล็กทั้งนั้น แบบนี้ต่อให้ฉินสือโอวสร้างหนอนเรือที่แกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่มีโอกาสได้ใช้

นอกจากใครจะเอาไม้ที่มีหนอนเรือไปที่ท่าเรืออื่นหรือว่าพลังโพไซดอนเปลี่ยนให้หนอนเรือสามารถกินเหล็กได้ ไม่อย่างนั้นพวกมันก็ไม่สามารถไปจากอ่าวโตเกียวได้

คิดจะทำก็ทำเลย หลังจากที่ฉินสือโอวส่งพวกโลมาออกไปจากอ่าวโตเกียวแล้ว เขาก็รวมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งสี่เข้าด้วยกัน แล้วพุ่งออกไปทั้งสี่ทิศเพื่อหาไม้แถวริมฝั่ง ในไม้พวกนั้นล้วนมีหนอนเรืออยู่

เพราะชนิดของไม้ไม่เหมือนกัน ชนิดของหนอนไม้ที่อยู่ข้างในและขนาดก็ต่างกัน ตัวเล็กยาวสองเซนติเมตรถึงสามเซนติเมตร ส่วนตัวใหญ่ยาวได้ถึงหนึ่งเมตร ตัวอ้วนได้ประมาณขนาดแขนของเด็กทารก อย่างกับงู!

ไม่ว่าจะชนิดไหน พอฉินสือโอวหาหนอนเรือเจอก็จะถ่ายพลังโพไซดอนเข้าไป คราวนี้เขาลงทุนมาก ไม่นึกถึงต้นทุนที่ต้องลงเลย ถ่ายได้เท่าไรก็ถ่ายออกไปหมด

จุดประสงค์ของเขาก็แค่ให้หนอนเรือพวกนี้โตไวๆ จากนั้นก็รีบขยายพันธุ์ให้ไวที่สุด ขอแค่พวกหนอนเรือสุดแกร่งขยายพันธุ์ งั้นต่อไปอ่าวโตเกียวจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นอ่าวโตเกียวเหล็กแล้ว

ตามข้อมูลที่ฉินสือโอวหามา ความสามารถในการขยายพันธุ์ของหนอนเรือเดิมทีก็แกร่งมากอยู่แล้ว พวกมันวางไข่เก่งมาก ทุกปีจะสามารถวางไข่ได้ประมาณห้าล้านฟอง

หลังจากที่ตัวอ่อนหนอนเรือฟักออกมา ตอนแรกจะเล็กมาก ใช้ตาเปล่ามองไม่เห็นจึงไม่มีทางรู้ได้ว่ามีพวกมันอยู่ จนตอนที่รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ตัวอ่อนหนอนเรือก็มักจะกระจายไปทั่วแล้ว

หลังจากที่ตัวอ่อนว่ายในน้ำไปช่วงหนึ่ง พอเจอไม้ก็จะเข้าไปเกาะ ชีวิตพวกมันมีความสุขมาก ไม้สามารถเป็นทั้งอาหารและที่อยู่ จัดการทั้งสองอย่างได้ในคราวเดียว

ส่วนตัวอ่อนขอแค่เริ่มกินเซลลูโลสก็จะโตค่อนข้างไว ตามสถิติตัวอ่อนหนอนเรือในตอนนี้จะโตร้อยเท่าใน 16 วัน 36 วันโตได้พันเท่า โตไปประมาณเดือนหนึ่งก็จะถึงวัยเจริญพันธุ์ จากนั้นก็เริ่มวางไข่…

ยิ่งทำความเข้าใจ ฉินสือโอวยิ่งรู้สึกว่าเจ้านี้น่ากลัว

พวกเอเลี่ยน ไดโนเสาร์ ปรสิต เจอเจ้านี่เป็นต้องชิดซ้าย ขอแค่ขนาดร่างกายหนอนเรือขยายได้สิบเท่า ขอแค่พวกมันเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ วันสิ้นโลกก็ใกล้มาถึงแล้ว!

อีกอย่างต่อให้ต่อไปคนญี่ปุ่นพบหนอนเรือ พวกเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ เจ้านี่จัดการยาก

ก่อนอื่นพวกมันแฝงอยู่ในไม้ ถ้าอยากจะทำลายพวกมันให้สิ้นซากก็ต้องทำลายไม้รอบข้างนี้ให้หมด แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ?

ที่จริงแล้ว ตัวอ่อนหนอนเรืออึดมาก วิธีทั่วไปไม่สามารถฆ่าพวกมันให้ตายได้ ใช้ไฟเผา? ไม่ได้ หนอนเรืออยู่ในไม้ ถ้าจุดไฟไม้ก็ไปด้วย แช่แข็ง? ได้ แต่จะแช่แข็งท่าเรือไม้ด้วยอุณหภูมิต่ำได้อย่างไรล่ะ?

ต่อให้ใช้เคมีมารับมือก็ยาก ไม้กลายเป็นเกราะปกป้องพวกมัน ถ้าอยากจะทำอะไรหนอนเรือข้างในก็ยากมาก

ตอนนี้วิธีที่ใช้ทั่วไปก็คือการใช้ความดันสูงเพื่ออัดสารเคมีเข้าไปในไม้ ในน้ำทะเล สารเคมีพวกนี้จะค่อยๆ กระจายออกไปแล้วฆ่าหนอนเรือ

แต่แค่ดูก็รู้ว่าการจะใช้วิธีนี้มารับมือหนอนเรือแพงขนาดไหน!

และวิธีการทางเคมีในการกำจัดหนอนเรือยังไม่ใช่ต้นทุนหลัก!

…………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน