สำหรับไอคิวของโลมานั้น วงการวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยังไม่มีการประกาศออกมาในทิศทางเดียวกันนัก คนที่มองโลกในแง่ดีบอกว่าพวกมันเป็นรองแค่มนุษย์ แต่ก็มีนักวิจัยบางคนที่บอกว่านี่เป็นการพูดเกินจริง โลมาไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น แต่มีไอคิวเทียบเท่ากับไก่เท่านั้น…
ตอนนี้ฉินสือโอวคือคนที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุด เขาสามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเหล่าสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ทำให้สามารถแบ่งแยกไอคิวสูงต่ำของพวกมันได้
ก่อนอื่น โลมาฉลาดมาก เรื่องนี้แสดงออกมาทางความสามารถในการปรับตัวและเรียนรู้ ซึ่งเป็นความสามารถที่แข็งแกร่งมาก ความสามารถที่เก่งกาจเป็นพิเศษอีกเรื่องก็คือความสามารถในการเข้าใจ ในบรรดาสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ฉินสือโอวเคยเจอมาในตอนนี้ ตัวที่มีความสามารถเข้าใจมากที่สุดก็คือบีน
แต่ว่าปัญญาของพวกมันนั้นไม่ได้สูงมาก คำว่า “ปัญญา” ส่วนมากจะประกอบไปด้วย 3 ความหมาย หนึ่งก็คือความสามารถในการปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน สองก็คือความสามารถในการเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้รับ สามก็คือความสามารถในการใช้ภาษาหรือสัญลักษณ์ในการมาคิดแบบนามธรรม
โลมาไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง พวกมันสามารถดีใจ เสียใจ ไม่พอใจได้ แต่ว่าไม่สามารถคิดอะไรด้วยตัวเองได้ หรือก็คือไม่มีความสามารถในการคิดแบบนามธรรมนั่นเอง
ส่วนบอลหิมะและไอซ์สเกตน่ะเหรอ? เจ้าสองตัวนี้ยิ่งไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเลย บีนกับบอลหิมะก็เหมือนกับสัตว์จำพวกสุนัขที่ค่อนข้างฉลาด พวกมันสามารถเข้าใจคำสั่งซับซ้อนที่ฉินสือโอวสั่งได้ แต่ว่าไม่สามารถคิดวิเคราะห์ถึงปัญหาหรือมีจิตสำนึกในการพูดโต้ตอบกับฉินสือโอวได้
เรื่องนี้ทำให้ฉินสือโอวรู้สึกเสียดายมาก เขาหวังเป็นอย่างมากว่าจะสามารถหาเพื่อนในมหาสมุทรที่สามารถคุยโต้ตอบกับเขาได้
แต่ว่าเจ้าตัวเล็กสามตัวล้วนมีไอคิวที่ค่อนข้างสูง เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญญาต่ำเลย พวกมันสามารถถ่ายทอดความรู้สึกออกมาภายนอกได้ อย่างเช่นตอนที่ฉินสือโอวลูบพวกมัน พวกมันก็สามารถรู้สึกได้ถึงดีใจและสบายใจได้
ดังนั้นคำพูดที่ว่าโลมากับไก่มีไอคิวเท่ากันนั้น ท่านชายฉินจึงทำได้แต่บอกว่าไร้สาระทั้งเพ
ฉินสือโอวว่ายทะลุผ่านเจ้าตัวน้อยสามตัว และตบไปที่หัวเบาๆ ลูบเขี้ยวของไอซ์สเกต ดึงหางของบีนเป็นระยะ เจ้าตัวเล็กสามตัวก็ว่ายน้ำเล่นอยู่กับเขาอย่างดีอกดีใจ ทำเอาวินนี่ที่มองอยู่ข้างๆ ประทับใจกับภาพที่เห็นเป็นอย่างมาก
หลังจากเล่นกับเจ้าตัวเล็กสามตัวสักพัก เขาก็ลากวินนี่มา ให้เธอขี่ไปบนหลังของบอลหิมะ จากนั้นเขาก็ขึ้นไปนั่งด้วย เขาโอบเอวบางของวินนี่อยู่ข้างหลัง ขาทั้งสองหนีบแนบไว้ บอลหิมะสะบัดหางพร้อมผ่อนลมหายใจแล้วว่ายออกไปอย่างช้าๆ
ฉินสือโอวกอดวินนี่ไว้แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า บอลหิมะว่ายออกไปอย่างช้าๆ แบบนี้แม้ว่าผิวของพวกมันจะลื่นมาก แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้คนสองคนบนหลังพลัดตกลงมาได้
ไอซ์สเกตและบีนตามมาด้วยซ้ายตัวขวาตัว หลังจากเข้าใกล้ผิวน้ำแล้ว บีนกระโดดออกไปบนผิวน้ำ ราวกับลูกธนูแหลมคมที่พุ่งออกไป เกิดเป็นท่าปลาคาร์ฟข้ามประตูมังกรที่สวยงามออกมา
บอลหิมะว่ายไปจนถึงผิวน้ำ วินนี่ถอดท่อออกซิเจนในปากออก จากนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องที่บ้าคลั่งออกมาว่า “พระเจ้าาาาาาา!”
ฉินสือโอวที่กอดเธออยู่ข้างหลังยิ้ม ทุกสิ่งที่ได้เห็นวันนี้ คงทำให้วินนี่รู้สึกถึงความน่าตกใจอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
หลังจากกรีดร้องแล้ว วินนี่ก็หันหลังกลับไปฉับพลันพร้อมกับดึงหูของฉินสือโอวลง
ฉินสือโอวถูกเธอตีอย่างไม่ทันตั้งตัว จึงร้องออกมาว่า “โอ๊ยยย! เจ็บนะ! คุณทำอะไร?!”
“ฉันอยากรู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่า!” วินนี่ใช้เสียงที่ดังกว่าเดิมตะโกนออกมาว่า “นี่มันบ้าสุดๆ ไปเลย! บ้าจริงๆ! พระเจ้า นี่มันบ้าที่สุด!”
ฉินสือโอวลูบติ่งหูไปมาพร้อมทำหน้าเจ็บปวด วินนี่มองดูวาฬสีขาวตัวน้อยด้านล่าง ความจริงแล้วในตอนนี้วาฬขาวตัวนี้ไม่ถือว่าเล็กแล้ว น่าจะมีความยาวราวสามเมตรได้ เป็นร่างกายที่กำลังเข้าสู่วาฬที่โตเต็มตัวแล้ว
แน่นอนว่า เพราะพลังโพไซดอนเป็นเหตุ อีกหน่อยขนาดตัวของบอลหิมะจะต้องใหญ่กว่าวาฬขาวทั่วไปอย่างแน่นอน ในปัจจุบันสถิติโลกของวาฬขาวที่บันทึกไว้คือยาว 5 เมตร ฉินสือโอวรู้สึกว่าต่อไปบอลหิมะจะโตไปจนถึงแปดเมตรหรือสิบเมตรได้ไม่มีปัญหาเลย
มองดูวาฬขาวที่กำลังขี่อยู่ วินนี่พูดออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาว่า “ตอนนี้พวกเราขี่อยู่บนตัวของบอลหิมะใช่ไหมคะ? นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ! ที่แท้มนุษย์สามารถขี่วาฬได้จริงๆ เหรอคะ? “
“คุณไม่เพียงแต่ขี่บอลหิมะนะ เมื่อกี้ยังได้ขี่เต่ามะเฟืองด้วย” ฉินสือโอวนวดหูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเป็นมิตร
วินนี่พูดออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “ใช่ๆๆ ฉันยังได้ขี่เต่ามะเฟืองด้วย แล้วฉันก็ได้เห็นวังใต้ท้องทะเลอีก อย่าบอกนะว่า ที่รัก ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริงเหรอคะ?”
ฉินสือโอวโอบเอวบางของเธอไว้แล้วพูดว่า “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริงสิ นั่นน่ะเป็นวังคริสทัลที่ผมตั้งใจเตรียมไว้ให้คุณเลย แต่ว่า การขนส่งในน้ำยากเกินไป ผมจึงทำได้แค่หาคนเอาพวกมันมากองไว้ตรงนั้น ไม่สามารถสร้างเป็นวังจริงๆ ได้”
วินนี่หันหลังไปใช้มือโอบรัดคอเขาไว้แล้วจูบอย่างดูดดื่ม ท่านชายฉินรีบจูบกลับทันที อื้ม ริมฝีปากนุ่มนิ่ม ยังคงรู้สึกดีเหมือนเดิม แต่ว่ารสชาติค่อนข้างขมนี่มันเกิดอะไรขึ้น?
วินนี่ทำไมคุณถึงพ่นน้ำทะเลออกมาล่ะ? คุณเป็นปลาเสือพ่นน้ำเหรอ? หลังจากท่านชายฉินคิดได้แล้วก็รู้สึกปวดใจจนหาคำมาบรรยายไม่ได้
จูบร้อนแรงอยู่นาน วินนี่หายใจหอบแล้วก็ผละออกมา เธอพูดว่า “ที่รัก เซอร์ไพรส์ที่คุณให้ฉันในวันนี้มันยิ่งใหญ่มากจริงๆ ฉันอยากรับคำขอแต่งงานจากคุณในวังคริสทัลค่ะ ฉันหมายถึงว่า ให้คนอื่นๆ ได้เห็นฉากนี้ด้วย “
ฉินสือโอวกล่าว “ไม่ วังคริสทัลหลังนี้เป็นของขวัญพิเศษที่ผมมอบให้กับคุณ มอบให้คุณคนเดียวเท่านั้น แม้แต่ลูกสาวผมก็จะไม่ให้เธอรู้ด้วย”
เมื่อได้ฟังคำพูดเขาแล้ว ดวงตาที่สว่างสดใสของวินนี่ก็ได้หม่นลงอย่างช้าๆ เขาดึงไหล่ฉินสือโอวไว้แล้วค่อยๆ หันตัวกลับมา พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ที่รัก พวกเรามาทำสงครามในน้ำกันเถอะ…”
“ฟัค!”
ฉินสือโอวขับเรือยอชต์กลับไป พวกของชาร์คก็กลับมาแล้วเช่นกัน เมื่อเห็นชุดดำน้ำสองชุดถูกโยนไว้บนเรือยอชต์ พวกชาวประมงก็พากันทักทายขึ้นมา
“เฮ้ นายหญิง ไปดำน้ำมาเหรอครับ? เป็นอย่างไรบ้าง สุดยอดมากเลยใช่ไหมครับ?”
“ผมแนะนำให้คุณไปที่แนวปะการังนะครับ ชิท ที่นั่นน่ะสวยมากจริงๆ!”
“นายหญิง ความรู้สึกของการได้ดำน้ำเป็นอย่างไรบ้างครับ? ดูสิสีหน้าคุณดีมากเลย การดำน้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายนะครับ เป็นการฝึกการทำงานของหัวใจและปอดด้วย”
“บอส สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีนะครับ? เหมือนว่าจะเหนื่อยมากเลย เป็นอะไรไปครับ? เหนื่อยเกินไปเหรอครับ?”
ฉินสือโอวทำท่าไล่พวกชาวประมงเหมือนกับไล่แมลงวัน “ไปๆๆ! รีบไปทำงาน! ถ้าไม่มีงานก็ไปช่วยฉันเก็บกวาดฟาร์มปลา จะต้องเก็บกวาดให้สะอาดเลยนะ!”
พวกชาวประมงพากันหัวเราะร่าแล้วขับเรือจากไป วินนี่หยิบกระจกใบเล็กมาส่องหน้าของตัวเองอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วแกล้งทำทีไม่พอใจว่า “ครั้งหน้าฉันจะต้องทากันแดดหน่อยแล้ว ดูสิ ฉันใกล้จะกลายเป็นป้าหน้าเหลืองแล้ว”
“จริงด้วย เหลืองเกินไปแล้ว” ฉินสือโอวพูดพร้อมถอนหายใจ
วินนี่เคืองขึ้นมาทันที “อะไรนะคะ?”
“ทั้งเหลืองทั้งโหดร้าย!” ฉินสือโอวพูดด้วยสีหน้าเป็นทุกข์ “ครั้งหน้าก่อนจะออกทะเลคุณทาครีมกันแดด ส่วนผมก็ต้องกินจู๋กวาง”
วินนี่มองไปรอบทิศอย่างร้อนรน พอเห็นว่าพวกชาวประมงไปไกลแล้ว สายตาเธอก็เป็นประกาย เต็มไปด้วยความสุข แล้วพูดว่า “ต่อไปจะต้องดำน้ำทุกวัน ฉันอยากจะเห็นวังคริสทัล ฉันอยากขี่เต่ามะเฟือง แล้วก็อยากขี่วาฬขาวตัวน้อยด้วย!”
ฉินสือโอวยิ้มขืนๆ แล้วพูดว่า “คุณจะขี่จนเลี่ยนได้นะ?”
วินนี่เข้ามากอดเขาแล้ว แล้วถามเสียงเบาว่า “แล้วคุณล่ะขี่ฉันจนเลี่ยนแล้วหรือยัง?”
ฉินสือโอวไม่มีคำจะพูดต่อ ผู้หญิงเป็นสิ่งที่น่ากลัวเกินไปจริงๆ สามารถเป็นผู้หญิงสายหวานได้ และก็เป็นสายหื่นได้
ปลายเดือนกันยายน งานวันแต่งใกล้เข้ามา เหมาเหว่ยหลงถึงกลับรีบจัดการหญ้าในฟาร์มแล้วรีบมาหา เพราะเขาต้องมาช่วยฉินสือโอวคุมงานด้วย
เริ่มจากพี่ๆ น้องๆ จากประเทศจีน เหมาเหว่ยหลงกะว่าจะพาพวกเขามา ฉินสือโอวส่ายมือแล้วพูดว่า “นายจะไปพามาอย่างไร? ฉันเช่าเครื่องบินสักลำ ถึงตอนนั้นก็ไปรับพวกเขามาเลยก็ได้แล้ว”
………………………………………………….