เรือกำปั่นทะเลตะวันออกและเรือกำปั่นทะเลใต้ก็เหมือนกับมีดที่แหลมคมสองด้าม มันแทรกเข้าไปอยู่กลางกองเรือของฝ่ายตรงข้ามในทันที และล้อมเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ไว้ทั้งสองด้าน
ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายใกล้เข้ามาในฉับพลัน เรือกำปั่นทะเลเป็นเรือยอชต์ความเร็วสูง ความเร็วจึงเร็วมาก
ฉินสือโอวเดินจากหน้าเรือไปด้านหลัง ในตอนนี้นีลเซ็นที่อยู่ในห้องผู้โดยสารพูดกับเขาว่า “บอสครับ ฝั่งตรงข้ามขอพูดสายด้วยครับ!”
“ไม่ต้องไปสนใจ พุ่งไปข้างหน้า!” ฉินสือโอวพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็น
นีลเซ้นดันคันโยกเร่งความเร็วไปข้างหน้าสุดแรง เรือกำปั่นทะเลตะวันออกราวกับม้าป่าที่หลุดจากขลุมขี่ม้า ที่พุ่งตัวเร็วขึ้นในทันที ระยะห่างของทั้งสองฝั่งใกล้เข้ามาในทันที แล้วเข้าไปสู่ระยะเสี่ยง
ตอนกลางคืนลมทะเลแรงมาก ระยะห่างแบบนี้อันตรายมาก สีหน้าลูกเรือของฉันคือผู้ละเมิดสิทธิ์ได้เปลี่ยนไป กัปตันที่หน้าตาเคร่งขรึมได้ถามด้วยเสียงร้อนรนว่า “ฟัค เจ้าพวกบ้าพวกนี้! พวกมันคิดจะทำอะไร? พวกมันอยากชนเรือเหรอ? ไปติดต่อพวกมันให้ฉัน ฉันต้องการจะคุยด้วยหน่อย!”
รองกัปตันพูดอย่างเลือกไม่ได้ว่า “โรบิน อีกฝ่ายไม่รับสาย ฉันส่งคำขอสนทนาไปหลายครั้งแล้ว”
รอจนกระทั่งระยะห่างอยู่ที่สองร้อยเมตรแล้ว ฉินสือโอวจึงค่อยรับวิทยุไร้สาย แล้วพูดเสียงแข็งว่า “พวกแกอยากพูดอะไร?”
ในที่สุดก็สามารถคุยกันผ่านวิทยุไร้สาย โรบินกัปตันของฝ่ายนั้นแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว ตอนนี้เรือกำปั่นทะเลตะวันออกแทบจะมาถึงด้านหน้าของพวกเขาแล้ว โรบินสาบานได้ จากแสงอาทิตย์ที่เหลือน้อยนิดนั้น เขาสามารถเห็นหน้าตาของผู้บังคับเรือลำนั้นได้เลย
อดกลั้นความโกรธไว้ โรบินตะคอกออกไปว่า “เพื่อน นายบ้าไปแล้วเหรอ? นายไม่รู้สึกว่าพวกเราอยู่ใกล้กันเกินไปเหรอ? ไอ้ฉันก็ไม่ใช่พวกรักร่วมเพศที่น่าเกลียดนะ นอกจากพวกพ้องของฉันแล้ว ฉันไม่อยากจะอยู่ใกล้กับผู้ชายคนอื่นมากเกินไป…”
เรือกำปั่นทะเลตะวันออกหนักแค่สี่ร้อยตัน เทียบกับเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ที่หนักว่าสองพันตันแล้ว ขนาดของทั้งสองฝ่ายต่างกันมากเกินไป เหมือนกับเด็กเล็กมาอยู่ตรงหน้าผู้ใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
แต่ว่า เพราะเรือกำปั่นทะเลตะวันออกเร็วมาก หากว่าได้ชนกันจริงๆ แล้ว งั้นเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ไม่ได้เปรียบหรอก แน่นอนว่าเรือกำปั่นทะเลตะวันออกก็ต้องเรือล่มคนล้มตายด้วย แต่เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ก็จะถูกผ่ากลางไปด้วย!
โรบินตะคอกว่า “พวกนายไม่สามารถเข้ามาใกล้กว่านี้แล้วนะ ถอยกลับไป จากนั้น…”
“จากนั้นนายไปตายซะ!” ฉินสือโอวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “โจมตีไปเลย! จัดการพวกมันให้ราบคาบเลย!”
แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่คิดที่จะพูดประนีประนอมอยู่แล้ว จะคุยอะไร? สามารถลงมือได้ก็อย่าพูดถ่วงเวลาบลาๆ เลย กฎบนทะเลก็คือคนเก่งถึงจะรอดชีวิตได้ ดังนั้นลูกเรือและชาวประมงถึงได้ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของชายชาตรี
ในเมื่อเขาได้จัดการเรือล่าปลาสี่ลำก่อนหน้านี้ไปแล้ว แถมยังจัดการได้ราบคาบเสียด้วย ดังนั้นถ้าไม่ใช่เขาเป็นฝ่ายไปขอโทษ ก็คือเขาต้องจัดการกองเรือนี้ ไม่มีบทสรุปอย่างอื่น
แน่นอนว่าตัวเลือกของฉินสือโอวไม่ใช่การขอโทษแน่นอน งั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีก ลงมือก่อนได้เปรียบลงมือทีหลังเสียเปรียบ เริ่มการสู้เถอะ!
ปืนน้ำได้ถูกปรับองศาไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อระยะห่างอยู่ที่หนึ่งกิโลเมตร เรือกำปั่นทะเลตะวันออกก็เริ่มลดความเร็วลง พอดีกับที่อยู่ในระยะยิงได้แล้ว ตอนนี้เครื่องยนต์มิก-23S ได้เดินเครื่องเต็มที่ น้ำทะเลถูกดูดเข้าไป จากนั้นก็ถูกพ่นออกมาภายใต้แรงดันสูง!
“ตู้ม!”
เสียงตู้มดังขึ้นทีหนึ่ง ก็มีห้วงน้ำสองห้วงยิงไปที่ด้านซ้ายขวาของเรือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายก็คือห้องบังคับการของเรือลำนี้
มีลูกเรือส่วนหนึ่งที่ตอนแรกอยู่ที่ด้านหน้าเรือ บนเรือของพวกเขาก็มีปืนน้ำด้วยเหมือนกัน อย่างไรเสียก็เป็นเรือขนาดใหญ่ และน่าจะต้องแล่นไปนอกชายฝั่งทะเลด้วย มีปืนน้ำด้วยน่าจะปลอดภัยกว่า ในการปะทะกันบนท้องทะเลล้วนพึ่งแต่เจ้านี่กันทั้งนั้น
แต่ไม่ใช่ว่าระยะการยิงของปืนน้ำทุกอันจะยิงได้ไกลถึงหนึ่งร้อยห้าสิบเมตรได้ ระยะการยิงแบบนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นปืนน้ำกระสุนติดตามได้แล้ว ปืนน้ำทั่วไปสามารถยิงได้แค่สี่ถึงห้าสิบเมตรเท่านั้น ปืนน้ำรุ่นดีที่ประชาชนใช้กันยิงได้แค่หนึ่งร้อยเมตร ที่ยิงได้หนึ่งร้อยห้าสิบเมตรจะต้องใช้เครื่องยนต์เครื่องบินมาดัดแปลงเท่านั้น ราคาสูง มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ใช้กัน
ลำกล้องปืนน้ำของเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ไม่เล็กเหมือนกัน ดูท่าแล้วน่าจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อยหนึ่งเมตรได้ แต่ว่าระยะการยิงของพวกเขาใกล้ ยังไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อถูกเรือกำปั่นทะเลสองลำล้อมไว้ตรงกลางแล้ว ปืนน้ำของพวกเขาก็กลายเป็นของประดับไปในทันที และไม่มีคนใช้งานด้วย เพราะทุกคนล้วนถูกโจมตีจนวิ่งหนีไปหมดแล้ว
เมื่อถูกเรือสองลำล้อมไว้แล้วโจมตีพร้อมกัน โรบินไม่ยอมรับไม่ได้ว่าตัวเขาได้ดูถูกฝ่ายตรงข้ามมากเกินไป ตอนแรกเขาได้ยินเพื่อนที่มาขอความช่วยเหลือบอกว่าอีกฝ่ายมีปืนน้ำ แต่เรือของฝ่ายตรงข้ามเป็นเรือเล็กที่หนักแค่สี่ร้อยตันเท่านั้น ก็เลยนึกว่าเป็นปืนน้ำเล็ก
แต่สุดท้าย เรืออีกฝ่ายเป็นเรือเล็กจริง แต่ไม่ใช่ปืนน้ำเล็ก นี่น่ะถือว่าเป็นปืนใหญ่ยิงระยะไกลได้เลยนะ!
ภายในเวลาแค่หนึ่งนาที น้ำทะเลสิบกว่าตันได้ถูกส่งไปที่เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือก็คือเรือลำนี้ขนาดใหญ่ใช้ได้ ทำให้สามารถยืนหยัดอยู่ได้ หากว่าเป็นเรือเล็กขนาดหลายร้อยตันแล้วล่ะก็ แค่นี้ก็ทำให้ถูกกระแสน้ำโจมตีจนเรือล่มได้แล้ว!
ประตูของห้องบังคับการเรือเปิดอยู่ ในที่สุดก็มีห้วงน้ำยิงเข้าไป ทำเอาโรบินที่อยู่ข้างใน รองกัปตันและคนขับเรือถูกน้ำพุ่งใส่จนตัวหงายกันไปหมด คนหลายคนพากันกลิ้งไปมาในห้องบังคับการเรือ โรบินพยายามคลานขึ้นมา คว้าวิทยุไร้สายแล้วตะคอกว่า “ฟัค! จัดการพวกมันให้ฉันซะ! จัดการพวกนี้…ชิท!”
ระยะห่างของเรือล่าปลาห่างกันค่อนข้างไกล ขนาดเรือและหลักตันของเรือพวกนี้ใหญ่กว่า ทำให้ยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้ เมื่อเป็นแบบนี้ถึงจะเห็นว่าเรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ถูกโจมตี แต่การที่พวกเขาจะเข้ามาช่วยได้ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน
เรือสี่ลำล็อตแรกที่มาถึงเป็นเรือที่อยู่ใกล้เรือฉันคือผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ที่สุด เรือลำหนึ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากคลังเรือ ตัวเรือที่ทำจากแผ่นเหล็กได้กลายเป็นรอยบุ๋มขึ้นมา
เบิร์ดพูดอย่างระมัดระวังว่า “เป็นปืนไรเฟิลลำกล้องใหญ่อีกแล้ว ระวัง!”
ในตอนนี้ฉินสือโอวได้เห็นชัดแล้วว่าปืนที่ยิงออกมาอย่างกะทันหันนี้มาจากเรือลำไหน เรือที่ใกล้กับพวกเขาที่สุดก็คือเรืออัศวินออร์แลนโด ห่างกันประมาณสองกิโลเมตร แน่นอนว่าปืนถูกยิงมาจากผู้คนบนเรือนี้
เรืออื่นๆ อีกสามลำ ห่างกันอยู่ที่สามสี่กิโลเมตรขึ้นไป แม้ว่าจะเป็นปืนไรเฟิลซุ่มยิงต่อต้านสิ่งอุปกรณ์ก็ไม่มีระยะยิงที่ไกลขนาดนี้ได้!
ฉินสือโอวให้นีลเซ็นขับเรือไปใกล้กับเรืออัศวินออร์แลนโด เขากัดฟันแล้วพูดว่า “ไอ้พวกลูกโสเภณีพวกนี้ถึงขั้นอยากเอาชีวิตฉันเลยเหรอ? ดีมาก ไปติดเครื่องยนต์ให้ฉัน แล้วเปลี่ยนทิศทางน้ำหมุนเวียนซะ!”
เมื่อได้ฟังคำสั่งนี้ นีลเซ็นกับเบิร์ดตกใจเล็กน้อย นีลเซ็นถามด้วยเสียงประหลาดใจว่า “บอส เอาจริงเหรอครับ?”
ความร้อนของเครื่องยนต์เรือบรรทุกนั้นน่ากลัวมาก นี่น่ะน่ากลัวกว่าของรถยนต์เยอะเลย ดีที่เรือแล่นอยู่บนน้ำ สามารถใช้น้ำเย็นลดอุณหภูมิได้ไม่จำกัด แต่ว่าการที่เป็นแบบนี้ น้ำหมุนเวียนที่ใช้ลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์จึงถูกทำให้ร้อนเป็นธรรมดา ในสถานการณ์ปกติคือปล่อยน้ำพวกนี้ลงไปในทะเล แต่เมื่อเรือกำปั่นทะเลทำการเปลี่ยนทิศทางน้ำหมุนเวียนพวกนี้แล้ว จะสามารถเชื่อมไปที่ปืนน้ำได้
เรือกำปั่นทะเลตะวันออกขับไปทางเรืออัศวินออร์แลนโด ปืนน้ำได้ทำการหยุดยิงในชั่วคราว นีลเซ็นและเบิร์ดทำการควบคุมแผงควบคุมของน้ำหมุนเวียนในห้องบังคับการ น้ำร้อนเดือดปุดๆ ได้เข้าไปสู่ท่อน้ำของปืนน้ำ
ฉินสือโอวหัวเราะเหอๆ ดึงคันโยกปล่อยยิงลง ห้วงน้ำหนึ่งสายได้เริ่มพ่นออกไปอีกครั้ง…
การยิงห้วงน้ำออกไปครั้งนี้ได้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะแล้ว น้ำทะเลที่ใสสะอาดได้เกิดเป็นเส้นสะพานโค้งสีสันสดใสขึ้นมา กลางคืนลมหนาวเย็น ไอน้ำที่หนานั้นได้แยกออกจากห้วงน้ำ ภายใต้แสงอาทิตย์ตกดิน แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหมอกพวกนี้ ทำให้มีสีสายรุ้งส่องประกายออกมา
“ทำไมถึงมีหมอกได้ล่ะ?” ผู้คนบนเรือหลายลำรอบๆ ที่เห็นฉากนี้แล้วก็พากันสงสัยขึ้นมา
จากนั้น ผู้คนบนเรืออัศวินออร์แลนโดก็ร้องโอดครวญขึ้นมา พลางร้องไปด้วยพลางวิ่งออกมาจากที่ซ่อนตัว แล้วก็กระโดดไปมาตรงนั้น!
……………………………