Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1411 : หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (4)

บทที่ 1411 : หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (4)

บทที่ 1411 : หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (4)

  แม้หลิงหยุนจะตกอยู่ในกับดักและวงล้อมของยอดฝีมือเหล่านี้แต่เขาก็มิได้แสดงความอ่อนแอหรือหวาดกลัวออกมาต่อหน้าศัตรูที่แข็งแกร่งเลยแม้แต่น้อย สีหน้าท่าทางของเขายังคงบ่งบอกถึงความมั่นใจว่า จะสามารถปกป้องคุ้มครองฉินจิวยื่อให้ปลอดภัยภัยได้!

  เหนือท้องนภาภายใต้การจู่โจมของหอกมังกรทองเวลานี้ยอดฝีมือที่ต้องการจะเข้าใกล้ค่ายกลวราหกของหลิงหยุนนั้น เวลานี้เหลืออยู่เพียงแค่หกคนเท่านั้น

  และสี่ในหกก็คือคนของคุนหลุนซึ่งอยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานอีกสองคนคือยอดฝีมืออาวุโสแห่งสำนักกระบี่เทียนซาน ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดขั้นจิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-9)

  เจ้าสำนักกระบี่เทียนซานตี๋เฮ่อหมิงซึ่งอยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานนั้นไม่ทันได้สนใจอะไรหลิงหยุนมากนัก เพราะมัวแต่วุ่นอยู่กับการรักษาตี๋เสี่ยวเจินซึ่งเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของตนเอง

  หลิงหยุนสามารถใช้เพียงหมัดเดียวทำร้ายตี๋เสี่ยวเจินซึ่งอยู่ในขั้นปาเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-8) จนได้รับบาดเจ็บ และสามารถสังหารยอดฝีมือในขั้นเดียวกันของสำนักกระบี่เทียนซานตายได้อย่างง่ายดาย ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่บ่งบอกถึงพลังการจู่โจมที่แข็งแกร่งยิ่งของเขา ด้วยเหตุนี้คนของคุนหลุนทั้งสี่จึงไม่กล้าผลีผลามบุกเข้าไปภายในกลุ่มหมอกสีขาว

  เวลานั้นต่างฝ่ายต่างก็เฝ้าดูเชิงของฝ่ายตรงข้ามอยู่..

   ศิษย์พี่จ้าวคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะเป็นเพียงแค่เต่าหัวหดตัวหนึ่ง ที่เอาแต่หดหัวอยู่ในกระดองเช่นนี้ ในเมื่อมันเอาแต่หลบซ่อนตัวอยู่ในค่ายกล พวกเราควรทำเช่นใดดี 

  ยอดฝีมือที่ต้องการใช้ขวานด้ามยักษ์ทำลายค่ายกลวราหกของหลิงหยุนเป็นฝ่ายร้องโกนออกมาเขาจงใจที่จะไม่ใช้การสื่อสารผ่านกระแสจิต เพราะต้องการให้หลิงหยุนได้ยินคำพูดเย้ยหยันของตน

   หุบปากของเจ้าซะ! 

  ยังไม่ทันที่ศิษย์พี่จ้าวจะได้ตอบสิ่งใดกลับมาเสียงของหลิงหยุนก็ดังก้องไปทั่วทั้งแผ่นฟ้า  เศษสวะเพียงไม่กี่ตัว บังอาจกล่าวหาข้าไม่กล้าออกจากกระดองเชียวรึ รอให้ท่านแม่ของข้ากินอาหารให้อิ่มหนำเสียก่อน แล้วพวกเจ้าจะได้เห็นว่าข้าจะออกไปจัดการกับพวกเจ้าเช่นใด? 

   ห๊ะ..กิน.. กินอาหาร! 

  ศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานที่ได้ยินต่างก็หันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง ในสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ แต่หลิงหยุนกลับต้องรอให้แม่ของตนรับประทานอาหารให้อิ่มหนำสำราญเสียก่อน เขาจึงจะลงมือได้..

  ยอดฝีมือทั้งหกซึ่งเหาะอยู่กลางอากาศนั้นถึงกับโมโหอย่างที่สุด การที่หลิงหยุนทำเช่นนี้บ่งบอกชัดเจนว่า เขาไม่เห็นพวกตนทั้งหกอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย!   โดยเฉพาะอย่างยิ่งจ้าวหมิงถังเขาเป็นผู้เสนอตัวต่อบรรดาเหล่าศิษย์ของคุนหลุนว่า จะอาสาเป็นผู้จับตัวหลิงหยุนกลับไปที่คุนหลุนเอง

  จ้าวหมิงถังผู้นี้อยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานและมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ได้สำเร็จลุล่วงด้วยดี แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เวลานี้เขาได้พบตัวหลิงหยุนแล้ว ไม่เพียงเขายังไม่สามารถลงมือกับหลิงหยุนได้ แต่กลับถูกหลิงหยุนกล่าววาจาไม่ไว้หน้า และไม่เห็นคุนหลุนอยู่ในสายตาเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกเดือดดาลเป็นยิ่งนัก!

   หึ!ฝีมือเพียงแค่นี้แต่กลับกล้าพูดจาโอ้อวด ไร้ยางอายสิ้นดี เจ้าคอยดูว่าข้าจะทำลายค่ายกลของเจ้าได้อย่างไร 

  หลังจากที่จ้าวหมิงถังกล่าวจบวัตถุวิเศษชิ้นหนึ่งก็พุ่งออกจากกลางหว่างคิ้วของเขา เมื่อออกมาด้านนอก็ขยายใหญ่ทันที มันคือธงสีเขียวครามขนาดใหญ่ผืนหนึ่ง!

  จ้าวหมิงถังจับด้ามธงขนาดใหญ่กว่าหกเมตรนี้ไว้ด้วยมือทั้งสองข้างและเริ่มโบกสะบัดธงเข้าใส่กลุ่มหมอกสีขาวที่อยู่เบื้องล่างทันที

  เสียงลมกรรโชกพลันดังขึ้น..

  หลังจากที่ธงใหญ่ถูกโบกสะบัดไปมานั้นก็ได้เกิดพายุลูกใหญ่พัดกระหน่ำเข้าใส่กลุ่มหมอกที่เกิดจากค่ายกลวราหกทันที!

  เสียงกรรโชกของลมพายุคำรามดังไม่หยุดและเริ่มพัดกระหน่ำรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว กลุ่มหมอกหนาสีขาวทั้งหมด ก็ถูกพายุรุนแรงพัดปลิวหายไปเกือบจะพร้อมกัน!

   ห๊ะ..นั่นมันธงวายุนี่! ธงผืนนี้สะบัดเมื่อใด ย่อมเกิดพายุรุนแรงขึ้นทันที 

  หลิงหยุนยืนอยู่ภายในค่ายกลวราหกจ้องมองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นด้านนอก เขารู้จักของวิเศษชิ้นนี้ดีว่ามันคือธงวายุ

  เวลานี้ลูกเหล็กขนาดใหญ่ที่หลิงหยุนใช้ในการสร้างค่ายกลนั้นกำลังถูกพายุลูกใหญ่พัดกระหน่ำเข้าใส่ จนค่อยๆลอยขึ้นไปกลางอากาศ และเกือบจะถูกพายุพัดหอบไป!

  สาเหตุที่คนเหล่านี้ไม่สามารถทำลายกลุ่มหมอกสีขาวที่ปกคลุมได้นั้นก็เพราะว่าหลิงหยุนใช้ลูกเหล็กขนาดใหญ่ในการสร้างค่ายกล ค่ายกลของเขาจึงค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่หากลูกเหล็กทั้งหมดถูกลมพัดหอบไปเช่นนี้ ไม่นานค่ายกลวราหกก็คงต้องถูกทำลายเป็นแน่..

  หลิงหยุนตระหนักได้ทันทีว่าครั้งนี้ตนเองได้พบเจอยอดฝีมือบ่มเพาะตนที่แข็งแกร่งมากจริงๆเข้าแล้ว เขาจึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป และรีบเผาเสินหยวนสามพันหกร้อยหยดทันที พร้อมกับร้องตะโกนออกไปว่า

   กลับคืนตำแหน่งเดิม! 

  ปัง!

  ภายใต้พลังจิตที่แข็งแกร่งหลังการเผาเสินหยวนของหลิงหยุนลูกเหล็กขนาดใหญ่ทั้งสามสิบหกลูกก็ร่วงลงอย่างพร้อมเพรียงกัน และฝังแน่นอยู่บนผืนดินราวกับมีรากหยั่งยึดไว้ แม้พายุที่รุนแรงจากธงวายุที่โบกสะบัด ยังมิอาจทำให้มันขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย!

  และในเวลาเดียวกันนั้นหลิงหยุนก็ได้สร้างโล่ลมปราณขึ้นมาครอบร่างของตนเองกับฉินจิวยื่อไว้ สายลมรุนแรงจากธงวายะจึงมิได้มีผลต่อพวกเขาทั้งสองคน..

  มิเช่นนั้นแล้วหากจ้าวหมิงถังโบกสะบัดธงวายุเช่นนี้ ฉินจิวยื่อคงต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่างของนางคงจะปลิวออกไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้วเป็นแน่

   เร็วเข้า..พวกมันอยู่ที่นั่น ศิษย์น้องทั้งสาม พวกเจ้าไปจัดการกับมันได้เลย! 

  จ้าวหมิงถังคิดไม่ถึงว่าแม้ตนจะนำธงวายุออกมาใช้ แต่หลิงหยุนกลับยังสามารถต้านทานไว้ได้ ทำให้เขายิ่งเดือดดาลใจมากขึ้น และร้องตะโกนสั่งศิษย์น้องทั้งสามให้เข้ามาช่วย

  ถึงแม้ว่าจ้าวหมิงถังจะไม่สามารถทำลายค่ายกลวราหกของหลิงหยุนได้แต่เขาก็ได้ใช้ธงวายุโบกพัดกลุ่มหมอกสีขาวออกไปได้เกือบจะทั้งหมด ศิษย์คุนหลุนทั้งสี่ต่างก็อยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานแล้วทั้งสิ้น ภาพภายในค่ายกลวราหกเวลานี้ จึงมิอาจรอดพ้นจิตหยั่งรู้ของพวกเขาทั้งสี่คนไปได้

   สังหารมันเร็วเข้า! 

  สิ้นคำสั่งของจ้าวหมิงถังศิษย์คุนหลุนทั้งสามก็ตรงเข้าสังหารหลิงหยุนในทันที กระบี่เหิน สองเล่มและขวานยักษ์หนึ่งด้าม ต่างก็พุ่งลงจากท้องนภา ตรงเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนที่อยู่ด้านล่างทันที!

   หลิงหยุนพวกเขาเป็นศิษย์คุนหลุนทั้งสิ้น เจ้าระมัดระวังตัวด้วย! 

  ในเวลาเช่นนี้ฉินจิวยื่อยังคงนั่งรับประทานอาหารได้อย่างสงบ แต่เมื่อเห็นจ้าวหมิงถังลงมือ จึงรู้ได้ว่าหลิงหยุนต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างมาก จึงได้แต่ร้องเตือนออกมา

   อะไรนะ!คุนหลุนงั้นรึ?! 

  หลิงหยุนร้องอุทานออกมาเมื่อได้ยินคำเตือนของฉินจิวยื่อภายในใจรู้สึกเดือดดาลและไฟโทสะก็ระอุขึ้นทันที

  เย่ชิงซินเคยพูดไว้ว่าคุนหลุนห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในยุทธภพมิใช่รึ พวกเจ้ากล้าฝ่าฝืนกฏยุทธภพ และลงมือทำร้ายข้าด้วยตัวเองเชียวรึ?!

   ท่านแม่ท่านทานอาหารต่อไปเถิด อย่าได้เป็นกังวล ข้าย่อมสามารถรับมือพวกมันได้แน่! 

  หลิงหยุนร้องบอกฉินจิวยื่อในขณะเดียวกับหอกมังกรทอง ตราหยกจักรพรรดิ และกระบี่กังฉีก็พุ่งออกจากร่างของเขา ตรงเข้าปะทะกับอาวุธทั้งสามที่พุ่งลงมาจากท้องนภาทันที!

  ปัง..ตูม..

  เสียงอาวุธทั้งหกปะทะกันจนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณการต่อสู้เริ่มที่จะรุนแรงและดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ และหลิงหยุนเพียงลำพัง แต่ต้องรับมือกับยอดฝีมือที่แข็งแกร่งถึงสี่คนในคราวเดียว!   ทันทีที่อาวุธทั้งหกปะทะกันศรีษะของหลิงหยุนก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ร่างที่ยืนอยู่นั้นถึงกับกระเด็นถอยหลังไปหนึ่งก้าว และจุดตันเถียนของเขาก็เริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว

  หลิงหยุนเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมากเวลานี้เขาอยู่เพียงแค่ระดับสูงสุดขั้นอู่เฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-5) เท่านั้น แต่ต้องมารับมือกับศัตรูที่อยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐาน ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียวแต่มีถึงสี่คน เช่นนี้แล้วอีกฝ่ายย่อมได้เปรียบเขาอย่างแน่นอน

  ฉินจิวยื่อร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ หลิงหยุน! 

  และในวินาทีนั้นเองยอดฝีมืออาวุโสแห่งสำนักกระบี่เทียนซานเห็นหลิงหยุนเซถลาเช่นนั้น จึงรีบเหาะลงมา และพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของฉินจิวยื่อในทันที!

   เจ้าคงจะสะกดคำว่าตายไม่เป็นสินะ! 

  หลิงหยุนร้องคำรามเย้ยหยันออกมาเสียงดังในขณะที่กระบี่โลหิตเทวะในมือของเขา ก็สะบัดเข้าใส่ร่างของยอดฝีมืออาวุโสผู้นั้นด้วยเพลงกระบี่นวสังหารอย่างรวดเร็วว่องไว

  ชัวะ!

  กระบี่โลหิตเทวะในมือของหลิงหยุนอาบไปด้วยเลือดสีแดงสดหลังจากฟันเข้าที่หน้าอกของยอดฝีมืออาวุโสแห่งสำนักกระบี่เทียนซาน

  แทบไม่ต้องสงสัย..ร่างของยอดฝีมืออาวุโสผู้นั้น ถูกกระบี่โลหิตเทวะของหลิงหยุนฟันเข้าจนร่างขาดแยกออกจากกันเป็นสองซีก แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีโลหิตไหลหยดลงเปื้อนพื้นพสุธาเลยแม้แต่หยดเดียว เพราะกระบี่โลหิตเทวะได้ดูดเลือดของเขาเข้าไปจนหมดแล้ว!

  นี่คือยอดฝีมืออาวุโสขั้นจิ่วเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-9) แต่กลับถูกหลิงหยุนสังหารตายอย่างง่ายดาย!

   ห๊ะ!     แย่แล้ว! 

   นี่มันอะไรกัน 

  หากจะพูดไปแล้วกระบี่ในมือของหลิงหยุนเล่มนี้ ดูเหมือนจะสามารถสร้างความตื่นตระหนก และหวาดผวาให้กับยอดฝีมือที่เหลือ ได้มากกว่าหอกมังกรทองอย่างมากมายทีเดียว!

  และภาพอันน่าสยดสยองนี้ก็ได้ทำให้ศิษย์ทั้งสี่ของคุนหลุนหยุดชะงัดไปทันทีทั้งหมดถึงกับหยุดจู่โจมหลิงหยุนชั่วคราว..

   พวกเจ้าคนใดไม่กลัวตายเหมือนคนผู้นี้ก็บุกเข้ามาได้เลย ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ผู้ใดที่คิดจะข่มเหงท่านแม่ของข้า มันผู้นั้นย่อมมีจุดจบเช่นเดียวกันนี้! 

  หลิงหยุนสะบัดข้อมือใช้ปลายกระบี่สีแดงเสียบร่างไร้วิญญาณครึ่งท่อนแล้วยกขึ้นมาอวดทุกคน พร้อมกับตะโกนขู่

  จ้าวหมิงถังเหลือบมองศิษย์น้องทั้งสามของตน..   แม้จ้าวหมิงถังจะมิใช่ศิษย์ของคุนหลุนที่ทุกคนเกรงกลัวอย่างที่ตี๋เสี่ยวเจินอวดอ้างแต่เขาก็เป็นศิษย์ภายในคุนหลุนที่หลายคนให้ความเคารพ จึงนับว่าต้องมีปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าคนทั่วไป

  จ้าวหมิงถังและศิษย์น้องทั้งสามนั้นคนหนึ่งอยู่ในด่านสุดท้ายขั้นก่อสร้างรากฐาน สองคนอยู่ในด่านกลาง ส่วนอีกหนึ่งคนอยู่ในด่านเริ่มต้น ทั้งสี่จู่โจมหลิงหยุนพร้อมกันในคราวเดียวเช่นนี้ แต่กลับทำให้หลิงเพียงแค่กระเด็นถอยหลังไปก้าวเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำหลิงหยุนยังหลงเหลือพลังที่สามารถใช้สังหารยอดฝีมือขั้นจิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-9) ตายได้อย่างง่ายดาย

  และความแข็งแกร่งของหลิงหยุนในครั้งนี้ก็ได้สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับจ้าวหมิงถังยิ่งนัก!

  แม้เขาจะมิอาจมองเห็นขั้นพลังของหลิงหยุนได้แต่เขาก็มั่นใจอย่างยิ่งว่า หลิงหยุนยังมิได้เข้าสู่ขั้นก่อสร้างรากฐานเป็นแน่ อีกทั้งยังห่างไกลขั้นนี้มากนัก!

   ศิษย์น้องทั้งสามจากที่จางคุนหลุนและหลี่คุนหลุนแจ้งข้าวมานั้น พลังที่แท้จริงของหลิงหยุนนั้น แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าเจ้าหรือข้าเลย! 

  คิ้วของจ้าวหมิงถังขมวดเข้าหากันแน่นพร้อมกับบอกศิษย์น้องผ่านทางกระแสจิตว่า

  –ดูเหมือนว่าคืนนี้พวกเราจะต้องเผชิญกับความลำบากแล้วแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาให้ลุล่วงจงได้!-

 

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน