จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – บทที่ 1320 โครงกระดูกมหากษัตริย์

บทที่ 1320 โครงกระดูกมหากษัตริย์

แต่ก็ไม่เป็นไร

วัตถุประสงค์สำคัญที่เขาเข้ามาด้านในนี้ก็เพื่อค้นหาสมบัติทั่วฟ้าดินในการหลอมยาทอง

อีกทั้ง เขาเองก็อยากรู้ว่า ทำไมทะเลกวางยักษ์นาน ๆ ครั้ง ถึงได้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้น

และในขณะที่เกิดการสั่นสะเทือนนั้น ก็ยังมีสมบัติทั่วฟ้าดินจำนวนมากและสมบัติล้ำค่าหลากหลายชนิดพุ่งขึ้นมาด้วย

เรื่องนี้น่าจะมีเหตุผลที่ผู้คนไม่ทราบอยู่อย่างแน่นอน

หลังจากที่เกิดเสียงที่แก่ชราและเศร้าสลดดังขึ้นมาจากเบื้องลึกของจิตใจแล้ว เสียงสั่งฆ่าในบริเวณโดยรอบก็เงียบหายไป และเสียงหัวเราะอันน่าสยดสยองนั้นก็สูญสิ้นลงไปด้วย

รวมถึง แม้แต่พวกทหารโครงกระดูกเหล่านั้นก็ไม่ปรากฏขึ้นมาอีกเลย

เรื่องนี้ทำให้หลินหยุนแน่ใจมากยิ่งขึ้นว่า สถานที่แห่งนี้ต้องมียอดฝีมือผู้เก่งกาจดำรงอยู่อย่างแน่นอน

แต่เพียงแค่ไม่รู้ว่าจะอยู่ในสภาพแบบใดเท่านั้นเอง

หลินหยุนโอบอุ้มซินเฟย ก้าวผ่านไปในประตูสวรรค์ทางตะวันออก เพื่อจะเดินต่อไปยังตำแหน่งที่ตั้งของจุดแสงสีแดงนั้น

เขาเข้ามาในทะเลกวางยักษ์ได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว

พิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว บางทีจะต้องไปที่ตำแหน่งจุดศูนย์กลางนั้นเท่านั้น ถึงอาจจะทำให้บางคำถามที่อยู่ในใจของเขา ได้รับคำตอบตามต้องการ

หนึ่งเดือนผ่านไป หลินหยุนได้เดินทางมาถึงตำแหน่งของจุดแสงสีแดงนั้นแล้วโดยปลอดภัย

เขาใช้ดวงจิตสำรวจอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้ ดวงจิตของเขาสามารถที่จะสำรวจได้ในระยะที่ไกลเกินกว่าหนึ่งพันเมตรแล้ว

เวลานี้ เบื้องหน้าของหลินหยุนปรากฏหลุมฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลขึ้น และตำแหน่งที่อยู่ของจุดแสงสีแดงนั้น เหมือนว่าจะอยู่ที่ด้านตรงข้ามของหลุมฟ้า

หลุมลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง ดวงจิตของเขาเองก็ไม่สามารถที่จะสำรวจลงไปถึงก้นบึ้งของหลุมได้เช่นกัน จึงทำให้หลินหยุนรู้สึกไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไรแล้ว

ในขณะนั้นเอง เสียงที่แก่ชราและเศร้าสลดก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง โดยที่ร้องเรียกหลินหยุนอย่างไม่หยุด

เสียงนี้เหมือนกับว่าจะเข้ามาใกล้มากขึ้นแล้ว

หลินหยุนยืนอยู่ที่เบื้องหน้าของหลุมฟ้า โดยคิดว่าจะปลุกซินเฟยให้ตื่นขึ้น แต่ครุ่นคิดชั่วครู่แล้ว ก็ยังไม่เลือกที่จะทำแบบนั้น

หลินหยุนครุ่นคิดอีกสักพักใหญ่ แล้วก็กระโดดลอยตัวขึ้น เพื่อที่จะเหาะข้ามไป

แต่ในขณะที่เขากำลังกระโดดขึ้นนั้น ก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดอันมหาศาลที่ออกมาจากหลุมฟ้า ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้จนถึงกับร่วงตกลงมา

หลินหยุนตกใจอย่างมาก ซึ่งไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้เลย จึงร่วงตกลงไปอย่างรวดเร็ว

เวลาผ่านไปประมาณสักพักใหญ่ ในที่สุดหลินหยุนก็ตกลงมาอยู่ที่ก้นบึ้งของหลุมฟ้านั้น

ก้นบึ้งของหลุมมีลักษณะที่แบนเรียบ ไม่มีแม้แต่ลมพัด เงียบสงบอย่างมาก

แต่พลังแห่งความตายช่างหนาแน่นมากเลยทีเดียว

แม้แต่ชี่ทิพย์ป้องกันกายของเขาก็ยังกรัดกร่อนจนเกิดเสียงกร็อบแกร็บ พลังทิพย์ในร่างกายก็สิ้นเปลืองลงไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะนั้นเอง เสียงร้องเรียกในจิตใจก็ดังขึ้นอีกครั้ง ภายในเสียงที่แก่ชรา ก็แฝงไปด้วยความตื่นเต้นไม่น้อย

หลินหยุนส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา แล้วก็โอบอุ้มซินเฟยและมุ่งหน้าเดินต่อไป

ไม่รู้ว่าผ่านไปอีกนานเท่าไร เบื้องหน้าก็ปรากฏแท่นหินทรงกลมขนาดใหญ่ขึ้น

แท่นหินนี้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณหนึ่งพันเมตร และความสูงประมาณครึ่งเมตร

หลินหยุนมาถึงบริเวณด้านข้างของแท่นหิน และอีกไม่นานนัก

แท่นหินนั้นก็สั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง

ในขณะเดียวกัน แรงสั่นสะเทือนที่ออกมาจากศูนย์กลางของแท่นหินนั้น ก็ทำให้ทั่วทั้งทะเลกวางยักษ์เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้น

หลินหยุนพลันพบว่า ตรงจุดศูนย์กลางของแท่นหินนั้น มีสมบัติทั่วฟ้าดินนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมา โดยเคลื่อนไหวไปตามม่านแสง และลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

หลินหยุนดวงตาเป็นประกายขึ้นทันที โดยที่สายตาของเขานั้นช่างยอดเยี่ยมแหลมคมยิ่งนัก

ภายใต้จิตใจที่สั่นไหว ก็พลันพบเห็นสมบัติทั่วฟ้าดินสามชิ้นที่เขาสามารถนำมาใช้ในการหลอมยาทองระดับเทพได้

หลินหยุนไม่สนต่ออันตรายความเสี่ยงใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยได้รีบกระโดดขึ้นไปในอากาศ พุ่งเข้าไปตรงจุดนั้นทันที และเอื้อมมือคว้าวัตถุทิพย์ชิ้นหนึ่งเอาไว้

เมื่อเขากำลังที่จะไปคว้าอีกสองชิ้นนั้น ร่างกายกลับถูกลำแสงโหมกระหน่ำเข้าใส่ จนถูกห่อหุ้มตัวเอาไว้ อีกทั้งยังถูกพลังที่มองไม่เห็นอันหนักหน่วง ดึงดูดร่างกายมาที่ใจกลางของแท่นหิน

หลินหยุนขับเคลื่อนพลังบำเพ็ญอย่างหนัก เพื่อต้องการต้านทานแรงพลังนี้ แต่ก็ไม่สามารถกระทำสำเร็จได้

โดยที่ไม่รู้ว่าร่วงตกลงมานานเท่าไร ร่างกายของหลินหยุนก็กระแทกอย่างรุนแรงเข้ากับพื้นดินที่แข็งแกร่งราวกับเพชรกล้า ชี่ทิพย์ป้องกันกายแหลกสลายลงในพริบตา

อวัยวะในร่างกายราวกับว่าเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปทั้งหมด มีอาการเลือนลาง แต่ยังดีที่สติปัญญายังคงมีอยู่

หลินหยุนขับเคลื่อนพลังบำเพ็ญอย่างหนักหน่วง แล้วก็ลุกยืนขึ้นในทันที

ในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนนั้น กรงขังขนาดสามเมตร ก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา

ทันใดนั้นแสงเลือดสีแดงเข้มก็ปรากฏขึ้น ส่องแสงให้ภายในกรงขังสว่างขึ้นเล็กน้อย

หลินหยุนเห็นว่า ภายในกรงขังนั้น มีโครงกระดูกร่างหนึ่งอยู่

เมื่อมองดูแล้ว พบว่าเป็นโครงกระดูกของคน

ไม่มีเลือดไม่มีเนื้อ มีแต่เพียงโครงกระดูก

อีกทั้ง ในทุกจุด ก็ได้ถูกตอกด้วยตะปูใหญ่ตรึงไว้กับพื้นอย่างแน่นหนา

 ในที่สุดนายก็มาถึงแล้ว!  

 ฉันรอนายมาเป็นเวลานานแล้ว!  

 ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  

 ช่วยชีวิตฉันออกไป ฉันจะมอบพลังบำเพ็ญที่ไร้เทียมทานให้กับนาย!  

 ช่วยชีวิตฉันออกไป ฉันจะมอบพลังขั้นสุดยอดให้กับนาย!  

 ฉันสามารถทำให้บรรดาเทพทั่วทั้งชั้นฟ้าชั้นดินต้องมายอมจำนนอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาย!  

หลินหยุนหรี่ตาลง โดยสายตาจับจ้องไปที่โครงกระดูกร่างนั้น

ไม่มีดวงจิตอะไรที่เคลื่อนไหว ไม่มีพลังทิพย์อะไรที่เคลื่อนไหว และก็ไม่มีแรงพลังอะไรที่มาแฝงตัวอยู่

มองดูแล้วก็เป็นเพียงแค่โครงกระดูกธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

แต่หลินหยุนแน่ใจอย่างมากว่า โครงกระดูกร่างนี้กำลังพูดคุยกับเขาอยู่

 นายเป็นใคร?  

 ด้วยพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่งของนายระดับนี้ ทำไมถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้?  

 และเป็นใครกัน ที่จับตัวนายมากักขังอยู่ที่นี่?  

ถ้าพูดว่าทะเลกวางยักษ์นี้ถือกำเนิดขึ้นในยุคโบราณกาล ถ้าอย่างนั้นอย่างน้อยก็ต้องมีอายุนับหมื่นนับพันปีแล้ว

ส่วนคนผู้นี้ กลับยังไม่ตาย

ทั่วทั้งร่างกาย ถูกตะปูใหญ่เก้าดอกตอกตรึงไว้อย่างแน่นหนา

เนื้อหนังแหลกสลาย หลงเหลือเพียงโครงกระดูก แต่ก็ยังคงไม่ดับสูญ

แค่เพียงเท่านี้ ต่อให้เป็นหลินหยุนที่มีพลังบำเพ็ญมหากษัตริย์ในชาติที่แล้ว ก็คงไม่สามารถกระทำอย่างนี้ได้

ตะปูใหญ่เก้าดอกนี้ เขามองออกว่า ใช้สำหรับกักขังวิญญาณ

ไม่เพียงแต่กักขังวิญญาณเท่านั้น เมื่อพิจาณาจากกลิ่นอายโบราณที่แผ่กระจายออกมาแล้ว ยังจะสามารถดูดกลืนวิญญาณได้ด้วย

นี่คือสมบัติล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมเป็นที่หนึ่งแห่งยุคอย่างแน่นอน

 ฉันคือใคร…… 

 ฉันคือใครกันแน่…… 

 จดจำไม่ได้แล้ว ยาวนานมากแล้ว ลืมไปหมดแล้ว…… 

 ไอ้หนุ่ม นายมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา เพียงแค่นายสามารถช่วยฉันให้หลุดพ้นออกจากกรงขังนี้ไปได้ ฉันจะทำตามคำสัญญาที่ได้ให้กับนายไว้!  

หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร โดยสังเกตการณ์อย่างเงียบ ๆ และจ้องมองไปที่โครงกระดูกนั้นอย่างไม่เคลื่อนสายตา

ผ่านไปสักพักหนึ่ง เขาก็พูดขึ้นว่า  อย่างนายน่ะเหรอ? ฉันจำเป็นต้องให้นายมามอบพลังให้ด้วยเหรอ ย่ำทลายทั่วทั้งชั้นฟ้าชั้นดิน แค่ตัวฉันเองก็เพียงพอแล้ว!  

 ถ้าหากฉันคาดเดาไม่ผิด นายคงจะเป็นทายาทของเผ่าโลหิตและเผ่าชะตา ใช่หรือไม่?  

เมื่อหลินหยุนพูดจบ ทันใดนั้นพลังอานุภาพทำลายล้างก็ปะทุขึ้นมาจากโครงกระดูก ลำแสงสีแดงก็ได้ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน

แต่เมื่อกลิ่นอายของพลังได้ปลดปล่อยออกมา ตะปูเหล็กเจาะกระดูกเก้าดอกใหญ่นั้นก็เหมือนจะหลุดออกมาจากโครงกระดูกอย่างไรอย่างนั้น

ในขณะเดียวกัน ตะปูเหล็กเก้าดอกใหญ่ก็ปลดปล่อยพลังเยือกเย็นออกมาอย่างรุนแรง สยบกักขังร่างของเขาเอาไว้

ส่วนลำแสงที่โชติช่วง ก็ได้ถูกกรงขังกีดขวางเอาไว้ ท้ายที่สุดทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบเช่นเคย

 นายเป็นใครกัน จึงสามารถรับรู้ถึงประวัติความเป็นมาของฉันได้?  

 เป็นไปไม่ได้!  

 นายมีความสัมพันธ์อะไรกับไอ้แก่จิ่วหลีนั่น?  

 ฉันไม่ได้รับรู้ถึงกลิ่นอายอะไรของจิ่วหลีจากร่างกายของนายเลย นายคงไม่ใช่ทายาทของจิ่วหลี!  

 ตกลงว่านายเป็นใครกันแน่?  

 นายเป็นใคร?  

หลินหยุนกินโอสถเข้าไปจำนวนหนึ่ง พร้อมกับขยับเคลื่อนไหวร่างกายเล็กน้อย

ต่อให้มีตะปูใหญ่เก้าดอก รวมถึงกรงขังนั้น เขาเองก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวใด ๆ

หลินหยุนไม่ได้ตอบคำถามของโครงกระดูกนั่น โดยพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า  ฉันคิดว่า นายคงจะถูกตะปูกักขังวิญญาณนี้ตรึงร่างเอาไว้อย่างน้อยเป็นหมื่นปีแล้ว และยังจะถูกกังขังอยู่ในกรงขังอีกด้วย ซึ่งกรงขังนี้ น่าจะทำขึ้นมาจากไม้กักมังกร 

 

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

Status: Ongoing

มหากษัตริย์ชางฉองหลินหยุนที่ปราบปรามสามโลกไถ่บาปไม่สำเร็จ เกิดใหม่กลับสู่โลกมนุษย์เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ชาติปางก่อน ได้เมียที่สวยเซ็กซี่ดูเป็นผู้ใหญ่กลับครอบครองไม่ได้ ชาตินี้ หลินหยุนจะทำยังไง……ชาติก่อน เขาเป็นคนไร้ความสามารถที่ใครๆต่างดูถูก ชาตินี้ เขาเป็นหมอเทพหลินในวงการแพทย์ ตาทิพย์หลินในวงการของโบราณ อาจารย์หลินในวงการฮวงจุ้ย และหลินชางฉองในวงการบู๊ เมื่อเขากลับมาสู่เทวโลกอีกครั้ง พบว่าเทวโลกมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนที่กำลังไถ่บาปรวมตัวกัน พวกเขาจะทำได้ดั่งใจหวังหรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท