ตื่นขึ้นมาในเช้าวันที่สอง ลี่จุนถิงลืมตาขึ้นเห็นว่าตัวเองกลับมายังห้องพักในโรงแรมแล้ว แต่ว่าเขาจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลย
เขากำลังเตรียมจะลุกขึ้น ก็รู้สึกว่าหัวของเขาปวดจนได้ยินเสียงอะไรแตก จากนั้น ครัวของเขาก็ยิ่งปวดกว่าเดิม เขาจับตรงหัวของเขา แล้วหลับตาแน่น
และในขณะนี้ ซูซานก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา ในมือถือชาที่ช่วยแก้เมาได้ เธอเห็นลี่จุนถิงหลับตาแน่น นึกว่าเขายังไม่ตื่น เดินก้าวใหญ่ไปยังข้างเตียงของลี่จุนถิง
เขาเพิ่งไปยืนที่ข้างเตียง ลี่จุนถิงก็ลืมตาขึ้น สายตาที่ดุร้ายทำให้ซูซานถึงขั้นขนลุก
“จุนถิง ที่แท้แล้วนายตื่นแล้วนี่เอง นี่คือชาแก้เมาที่ฉันให้ทางโรงแรมชงให้ นายรีบลุกมาดื่มเถอะ”
ถึงแม้ว่าจะตกใจ แต่เธอก็ยังคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้าแล้วพูดกับลี่จุนถิง แต่ว่า ลี่จุนถิงไม่ได้สนใจเธอ ลืมตาดูเธอสักพัก แล้วก็หลับตาลง
ซูซานเห็นว่าลี่จุนถิงเฉยชากับเธอขนาดนี้ ในแววตาของเธอก็ใช้แววความโหดร้าย แล้วกลับมาเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึก
“จุนถิง งั้นฉันวางชาแก้เมามาไว้ที่นี่นะ เดี๋ยวนายตื่นขึ้นมาแล้วดื่มด้วยล่ะ ในเมื่อนายไม่สบาย งั้นฉันก็ออกไปก่อนแล้ว ใช่สิ อาหารเช้าฉันก็วางไว้ให้ในที่ด้านนอกแล้ว นายอย่าลืมทานล่ะ เดี๋ยวถ้าเย็นแล้วจะไม่ดีต่อกระเพาะ”
ลี่จุนถิงพยักหน้า แสดงว่าให้เห็นว่าเขาโทรมาแล้ว
ถึงแม้ว่าซูซานอยากจะอยู่ตรงนี้ต่อ แต่เห็นสีหน้าและท่าทางที่ไม่สนใจใครของลี่จุนถิง ก็กัดฟัน ออกไปยังไม่เต็มใจ
ทางด้านเจียงหยุนเอ๋อ แอดมินที่โรงพยาบาลไป 1 คืน ตื่นมาตอนเช้าอยากให้พยาบาลช่วยติดต่อทางโรงพยาบาลเพื่อทำการออกจากโรงพยาบาล หลันเยว่เฉินอยากจะร้องเธอไว้ก็รั้งไม่ได้ ก็เลยโทรหาลี่จุนซินเจียงหยุนเอ๋อออกจากโรงพยาบาล ไปบริษัทแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อเพิ่งถึงบริษัท ลี่จุนซินก็มาแล้ว
“บอกให้เธอพักผ่อนดีๆไง? ทำไมถึงรีบออกจากโรงพยาบาลเร็วขนาดนี้!”
เขียงหยุนเอ๋อได้ยินลี่จุนซินกล่าวโทษเธอแบบนี้ เธอก็ยิ้ม แล้วก็ไปควงแขนของลี่จุนอย่างสนิทสนม
“พี่คะ ฉันรู้ว่าพี่เป็นห่วงฉัน แต่พี่ก็รู้สถานการณ์ของบริษัทในตอนนี้ ฉันก็แค่อยากจะกลับมาช่วยพี่ อีกอย่างร่างกายของฉันก็ฟื้นฟูแล้ว”
ลี่จุนซินเห็นเจียงหยุนเอ๋อทำท่าทางที่สนิทสนมกับตัวเองขณะนี้ ก็รู้สึกว่าไม่คุ้นชิน แต่ความรู้สึกแบบนี้เธอก็ชอบ
ถึงแม้ว่าลี่จุนซินจะไม่ใช่คนที่เย็นชามากๆ แต่ก็ไม่ใช่คนที่เข้ากับคนง่าย แต่ว่าเธอก็ยอมรับความสนิทสนมที่เจียงหยุนเอ๋อทำต่อเธอ
เธอก็เลยแต่ตรงจมูกของเจียงหยุนเอ๋อย่างเอ็นดู จากนั้น เธอก็คิดอะไรได้ขึ้นมา
“ใช่สิ หยุนเอ๋อ คนที่ทำร้ายเธอเมื่อคืนลี่หุยถูกส่งให้ตำรวจจัดการแล้ว ต้องเป็นลี่หยูนห่วนสั่งเขาแน่นอน ถึงแม้ว่าเขาจะถูกจับแล้ว แต่เราก็จะประมาณไม่ได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอก็กลับไปอยู่กับพี่ที่คฤหาสน์ใหญ่เถอะ”
ในเมื่อลี่จุนซินพูดแบบนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นห่วงโม่เสี่ยวฮุ่ยแม่สามีของเธอ แต่ว่ามันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของลูกในท้องของเธอ ก็เลยตอบตกลง
“ได้ค่ะ งั้นคืนนี้หลังจากเลิกงานแล้ว ฉันกลับไปเอาของจำเป็นที่ทั้งนั้นแล้วกลับคฤหาสน์ใหญ่กับพี่”
“โอเค งั้นพี่ไปทำงานก่อนล่ะ” พอลี่จุนซินพูดเสร็จก็กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
ในวินาทีที่ลี่หุยถูกจับ ลี่หยูนห่วนก็รู้แล้ว ก็ด่าเสียงเบาคำหนึ่ง
“ไอ้ลี่หุยนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ ตั้งแต่เช้าถึงเย็นก็รู้จักแค่สร้างปัญหาให้ฉัน”
ที่สถานีตำรวจ หลังจากที่ถูกจับเข้าไป ลี่หุยก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ ตำรวจเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง
“ลี่หุย มีคนต้องการเจอนาย” ลี่หุยรีบเงยหน้าขึ้น เห็นลี่หยูนห่วนและอีกหนึ่งคนยืนอยู่ข้างหลังของผู้คุม แววตาของเขาก็สว่างขึ้นมาเลย
หลังจากที่ผู้คุมเปิดประตู ก็แกล้งทำเป็นพูดกำชับเสียงดัง: “รีบพูดล่ะ ไม่ต้องทำท่าทางสื่อสารอะไรกัน” จากนั้น ก็ไขกุญแจมือของลี่หุยแล้วก็ออกไป จริงๆแล้วผู้คุมคนนี้ถูกลี่หยูนห่วนซื้อตัวแล้ว
“เร็วเข้า รีบเปลี่ยนเสื้อกับเขา มีอะไรจะถามรอออกไปแล้วฉันจะอธิบายกับนายเอง” ลี่หยู่หว่นพูดเร่งเขาเสียงเบา
หลังจากที่ลี่หุยฟังเสร็จ ก็รีบลี่หยูนห่วนพามา ฟันกรามข้างหลังลี่หยูนห่วนแล้วออกจากประตูสถานีตำรวจ
ลี่หยูหว่นพาลี่หุยไปที่วิลล่าที่เขาไม่ค่อยอยู่ หลังจากที่เข้าไปแล้ว ก็ตบหน้าลี่หุย ตะโกนด่าเสียงดัง
“ไอ้โง่เอ๊ย! นายดูซิว่านายทำเรื่องอะไรลงไป! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรนายก็ไม่เคยทำได้ดี ยังให้ฉันมาจัดการให้อีก ไอ้คนไร้ประโยชน์!”
ถึงแม้ว่าลี่หุยเองก็โมโหมาก แต่ด้วยความที่กลัวลี่หยูนห่วน ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเขา เขาก็เลยเอาความแค้นครั้งนี้ฝากไว้กับลี่จุนถิงและเจียงหยุนเอ๋อ
ลี่หยูนห่วนระบายกับลี่หุย ทั้งสองก็นั่งลงบนโซฟาสักพัก ต่างก็ใจเย็นลง
ลี่หยูนห่วนดื่มน้ำไปหนึ่งคำ เพื่อให้คอหายแห้ง จากนั้นก็พูดกับลี่หุย
“ได้ยินว่า ลูกลูกเลี้ยงของลี่จุนถิง ช่วง 2-3 วันนี้ไปแข่งขันที่เมืองHที่อยู่ข้างๆ ฉันไม่เชื่อว่าพวกมันอยู่เมืองนอก เจียงหยุนเอ๋อยังจ๊ะสามารถปกป้องพวกมันได้”
“หึ รอไว้เถอะเจียงหยุนเอ๋อ! จะมีของขวัญชิ้นโตที่ 1 ให้เธอ!”
ทั้งสองคนมองตากัน เครื่องสื่อถึงแผนการที่วางขึ้นใหม่
ตอนกลางคืนเจียงหยุนเอ๋อกลับไปที่คฤหาสน์ใหญ่กับลี่จุนซิน เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับโม่เสี่ยวฮุ่ย
โม่เสี่ยวฮุ่ยโมโหมาก ตะโกนด่าออกมา
“ฉันว่าแล้วไอ้ลูกเมียน้อยนี่มันไม่ใช่คนดีแน่นอน เพื่อหุ้นของบริษัทริเวอร์วิธีอะไรก็ทักมาได้!”
พอโม่เสี่ยวฮุ่ยด่าเสร็จ ก็นึกถึงลูกในท้องของเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมา รีบถามเจียงหยุนเอ๋อว่าลูกในท้องเป็นอะไรหรือเปล่า
เจียงหยุนเอ๋อมองโม่เสี่ยวฮุ่ยที่มองเธอด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง ในใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่น ก็ยิ้มให้กับโม่เสี่ยวฮุ่ย
“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก หนูกับลูกไม่ได้เป็นอะไร”
โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นเจียงหยุนเอ๋อยิ้มแล้วมองตัวเอง ก็รู้ตัวฉันที
ทำหน้าบึ้ง แล้วไอ้ครั้งหนึ่ง แล้วพูดว่า: “ หึ ฉันเป็นห่วงแค่หลานรักของฉันเท่านั้น” พอพูดเสร็จ ก็หันหัวไปแล้วเดินขึ้นบนตึกไปเลย
ลี่จุนซินยิ้มให้เจียงหยุนเอ๋ออย่างขอโทษ พูดกับเจียงหยุนเอ๋อว่า: “ เธอเองก็รู้ดี ว่าแม่ก็นิสัยแบบนี้ได้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ ฉันรู้ดี แม่กำลังเป็นห่วงฉัน”
“โอเค เธอรู้ก็ดีแล้ว ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เธอก็รีบขึ้นไปพักผ่อนเถอะ”
“ได้ค่ะพี่เองก็รีบพักผ่อนนะคะ ฉันขึ้นไปก่อนล่ะ ฝันดีค่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อพูดจบ ก็จับนมที่โม่เสี่ยวฮุ่ยให้คนใช้เตรียมให้เธอ ค่อยๆลุกขึ้นแล้วกลับไปที่ห้อง
เธอเพิ่งกลับไปถึงห้อง ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น ในใจคิดว่าต้องเป็นถวนจื่อโทรวิดีโอคอลล์มาตามปกติแน่ๆเลย เจียงหยุนเอ๋อก็รีบวางนมลง เพื่อไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมา
“ฮาย! แม่ครับ วันนี้พวกผมชนะอีกแล้ว ผมเก่งมากๆเลยใช่ไหมครับ!” ถวนจื่อในวิดีโอที่กระโดดโลดเต้นเพื่อโอ้อวด
เจียงหยุนเอ๋อเห็นถวนจื่อดีใจขนาดนี้ เธอเองก็รู้สึกมีความสุขมาก
คุยไปสักพัก ก็ถึงเวลานอนของถวนจื่อแล้ว จากนั้นทั้ง 3 คนก็วางสาย แต่สิ่งที่เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ก็คือ พึ่งวางสายไป ทางด้านถวนจื่อก็เกิดเรื่องขึ้น