หลังจากที่ลี่จุนถิงและเวียร์เซ็นสัญญากันเสร็จแล้ว ก็นัดหมายกันว่าจะแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ เพื่อประกาศว่าได้ร่วมมือกับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว
เมื่อลี่จุนถิงร่ำลากับเวียร์แล้วก็กลับไปบ้าน
ตอนที่ลี่จุนถิงมาถึงบ้าน เจียงหยุนเอ๋อกำลังเล่นต่อเลโก้กับถวนจื่ออยู่ เจียงหยุนเอ๋อนั่งอยู่บนโซฟา มองดูถวนจื่อที่กำลังนั่งต่อเลโก้อยู่บนพรมด้วยความรักและเอ็นดู
ลี่จุนถิงเห็นฉากที่อบอุ่นใจอย่างนี้ ก็ยิ้มออกมาด้วยความปลาบปลื้มใจ แต่ว่า ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อหันหน้ามา เขาได้ปรับสีหน้านิ่งเฉยเป็นปกติแล้ว
ดังนั้น ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อหันมา แล้วเห็นลี่จุนถิงเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเฉยพอดี
เจียงหยุนเอ๋อเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา
เจียงหยุนเอ๋อทำท่าจะลุกขึ้น ก็เห็นลี่จุนถิงส่งสายตาบอกให้เธอหยุด เลยทำให้เธอไม่กล้าขยับตัว
ลี่จุนถิงเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ เจียงหยุนเอ๋อ แล้วเอนหัวไปซบไหล่เจียงหยุนเอ๋อเบา ๆ จากนั้นก็ถอนหายใจออกมา แล้วแกล้งพูดตัดพ้อว่า :
“หยุนเอ๋อ คราวนี้บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปของพวกเราหมดหวังแล้วล่ะ”
“อะไรนะ? จุนถิง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? สองวันก่อนพวกนายเจรจากันไปได้ดีไม่ใช่เหรอ?
เจียงหยุนเอ๋อถามอย่างร้อนใจ อยากเอาหัวของลี่จุนถิงออกไปจากไหล่ของตัวเอง แต่ลี่จุนถิงใช้สองมือคล้องแขนของเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้
เจียงหยุนเอ๋อมองไม่เห็นสีหน้าของลี่จุนถิง ก็ยิ่งร้อนใจมากขึ้นไปอีก
“หยุนเอ๋อ ฉันเหนื่อยจังเลย ให้ฉันพิงสักแป๊บนะ ได้ไหม?”
เจียงหยุนเอ๋อไม่กล้าพูดอะไรมาก เลยเอามือวางลงบนมือของลี่จุนถิง แล้วจับมือเขาไว้แน่น
ลี่จุนถิงพิงไหล่เจียงหยุนเอ๋อแล้วแอบหัวเราะออกมา จากนั้นก็กะพริบตาให้ถวนจื่อที่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ ถวนจื่อเห็นแด๊ดดี้ส่งซิกให้ ก็หันหน้าไปเล่นเลโก้ของเขาต่อ
เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนถิงท่าทางหดหู่อย่างนี้ ก็ปลอบใจเขา
ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อเสียใจแทนเขา ก็ตัดสินใจจะไม่หยอกล้อเธออีกแล้ว เลยเอ่ยพูดว่า :
“หยุนเอ๋อ พวกเราเซ็นสัญญากันแล้วล่ะ”
“ไม่เป็นไร เซ็นสัญญาแล้วก็รอ……อะไรนะ เซ็นสัญญาแล้วงั้นเหรอ”
เจียงหยุนเอ๋อพูดเสียงสูงขึ้นมา
ลี่จุนถิงยกหัวออกจากไหล่ของเจียงหยุนเอ๋อ แล้วหัวเราะอิอิให้เจียงหยุนเอ๋อ ยื่นมือออกไปลูบหน้าของเธอ
“ไอหยา ที่รัก ทำไมเธอถึงได้น่ารักขนาดนี้เนี่ย!”
“อา~ทำไมนายทำแบบนี้เนี่ย กล้าหลอกฉันเหรอ ฉันอุตส่าห์เป็นห่วงนายนะ”
เจียงหยุนเอ๋อยื่นมือไปตีลี่จุนถิงเบา ๆ เธอแรงน้อยมาก ตีไปบนตัวลี่จุนถิง ก็เหมือนแมวน้อยข่วนเขาเบา ๆ แค่นั้นเอง ทำให้เขารู้สึกจั๊กจี้หัวใจ
ลี่จุนถิงมองถวนจื่อแวบหนึ่ง แล้วรีบพุ่งเข้าไปจูบเธออย่างรวดเร็ว
“ไอหยา นายทำอะไรเนี่ย ถวนจื่อยังอยู่ตรงนี้นะ”
เจียงหยุนเอ๋อรีบหันไปมองถวนจื่อ แล้วเห็นว่าถวนจื่อไม่ได้สังเกตเห็นพวกเขา เลยโล่งใจ
จากนั้น ก็หันมาพูดกับลี่จุนถิงว่า :
“จุนถิง เพื่อฉลองความสำเร็จของนาย คืนนี้ฉันจะเข้าครัวทำกับข้าวให้ทานนะ นายไม่ได้ทานกับข้าวฝีมือฉันมานานแล้ว”
“เธอท้องโตขนาดนี้ ไม่สะดวกหรอก ไว้รอคลอดลูกก่อนแล้วค่อยทำก็ได้”
ลี่จุนถิงนึกขึ้นได้ก็ปฏิเสธเจียงหยุนเอ๋อ
“ไอหยา ไม่เป็นไร ฉันทำได้ อีกอย่างมีนายคอยเป็นลูกมืออยู่ข้าง ๆ ก็ไม่มีปัญหาแล้ว”
“ให้ฉันเป็นลูกมือของเธอ?”
“ใช่ไง นายอย่าคิดว่านายไม่ต้องทำอะไร นายเป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่งของฉันนะ”
เจียงหยุนเอ๋อพูดกับลี่จุนถิงอย่างทะเล้น
ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อดีใจขนาดนี้ เลยตอบตกลง
เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนถิงตอบตกลงแล้ว ก็รีบวางท่าเป็นแม่ครัวใหญ่ ชี้นิ้วสั่งให้ลี่จุนถิงไปทำงาน
“นาย ตอนนี้ไปหยิบเอาเนื้อและผักที่อยู่ในตู้เย็นออกมา”
จากนั้นก็เรียกถวนจื่อ
“ส่วนนาย เด็กที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ตรงนั้นน่ะ เอาผักที่แด๊ดดี้ของนายหยิบออกมาไปล้างซะ”
ถวนจื่อได้ยินเจียงหยุนเอ๋อเรียกเขามา ก็วิ่งมาด้วยความดีใจ ช่วยแด๊ดดี้กับหม่ามี้ด้วยความเต็มใจ ปกติแด๊ดดี้กับหม่ามี้ไม่มีเวลาอยู่กับเขา เขาจึงไม่ยอมปล่อยโอกาสอย่างนี้ไปแน่นอน
มีลี่จุนถิงและถวนจื่อคอยช่วยเหลือ เจียงหยุนเอ๋อจึงทำกับข้าวเสร็จอย่างรวดเร็ว
ทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร มองกับข้าวบนโต๊ะที่ช่วยกันทำ ก็รู้สึกมีความสุขกันมาก ครอบครัวสุขสันต์กันมากเลยทีเดียว
หลังจากทานข้าวเสร็จ ทั้งสามคนก็ออกไปเดินเล่น จากนั้นกลับมาเล่นเป็นเพื่อนถวนจื่ออีกสักครู่ แล้วก็ให้ถวนจื่อเข้านอน
เมื่อเจียงหยุนเอ๋อเห็นถวนจื่อหลับไปแล้ว ก็เตรียมตัวไปล้างหน้าแปรงฟันเข้านอน แต่ถูกลี่จุนถิงบังคับให้เปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างให้ความอบอุ่น แล้วพาเธอออกไปข้างนอก
“จุนถิง จะทำอะไรน่ะ? นายจะพาฉันไปไหนเหรอ?”
ลี่จุนถิงยิ้มให้เจียงหยุนเอ๋ออย่างมีเลศนัย แต่ไม่ได้เอ่ยพูดอะไร
ขับรถไปสักพัก ก็จอดรถ เจียงหยุนเอ๋อมองออกว่าที่นี่คือทะเล แต่ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก
“จุนถิง ดึกดื่นขนาดนี้นายพาฉันมาทะเลทำไม?”
เจียงหยุนเอ๋อปลดเข็มขัดนิรภัยออก แล้วเตรียมลงจากรถ ลี่จุนถิงกดตัวเธอเอาไว้ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า : “อย่ารีบสิ ฉันพยุงเธอเอง”
พูดจบลี่จุนถิงก็ลงจากรถ แล้วไปเปิดประตูให้เจียงหยุนเอ๋อ จากนั้นก็ให้เจียงหยุนเอ๋อเกาะแขนของตัวเอง คอยประคองเธอออกมาอย่างระมัดระวัง
“มา เดินไปกับฉัน”
เจียงหยุนเอ๋อเดินตามลี่จุนถิงจนมาหยุดอยู่ตรงที่แห่งหนึ่ง ลี่จุนถิงดีดนิ้ว รอบ ๆ ก็สว่างขึ้นมา
แสงไฟที่สว่างจ้าขึ้นมาอย่างฉับพลันสาดส่องโดนดวงตา เจียงหยุนเอ๋อจึงหรี่ตาลง ขณะที่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
ตรงหน้าของเธอมีเก้าอี้แขวนอยู่ตัวหนึ่ง ด้านบนเก้าอี้แขวนนั้นมีดอกไม้สดประดับอยู่ สวยงามมาก ข้างเก้าอี้แขวนทั้งสองด้านมีไฟหลากสีสันสาดส่องไปจนถึงในทะเล
ด้านข้างเก้าอี้แขวนยังมีโต๊ะสี่เหลี่ยมอยู่หนึ่งตัว บนโต๊ะสี่เหลี่ยมนั้นปูด้วยผ้าสีขาวสะอาด บนนั้นมีเทียนที่ไม่รู้ว่าถูกจุดไว้เมื่อไหร่วางอยู่ และยังมีไวน์อีกสองแก้วด้วย
ข้างโต๊ะอาหารมีนักไวโอลินอยู่คนหนึ่ง
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าฉากในตอนนี้สวยงามจนไม่อาจบรรยายได้เลย
“คุณผู้หญิงคนสวยครับ ให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงได้ไหมครับ?” ลี่จุนถิงเอามือข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง ส่วนมืออีกข้างก็ยื่นออกมา เอ่ยพูดอย่างสุภาพบุรุษมาก
เจียงหยุนเอ๋อเอามือข้างหนึ่งปิดปากตัวเอง ส่วนมืออีกข้างก็ยื่นไปหาลี่จุนถิง
ลี่จุนถิงเอามือโอบเอวเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ เพื่อให้เธอแนบชิดกับตัวเองมากขึ้น ท้องของเจียงหยุนเอ๋อแตะโดนลี่จุนถิง ทำให้ลี่จุนถิงมีความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูก ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมาก
ลี่จุนถิงพยักหน้า นักไวโอลินก็เริ่มบรรเลงเพลง ดนตรีบรรเลงเพลงสบาย ๆ ไพเราะท่ามกลางหาดทราย
เมื่อดนตรีจบลง ลี่จุนถิงก็งอแขนตัวเอง เพื่อดึงเจียงหยุนเอ๋อเข้ามาในอ้อมกอด แล้วก้มหน้าไปจูบปากแดงระเรื่อของเจียงหยุนเอ๋อ
หลังจากที่จูบเจียงหยุนเอ๋อแล้ว ลี่จุนถิงก็เอาหน้าผากของตัวเองก้มแตะไปที่หน้าผากของเจียงหยุนเอ๋อ แล้วพูดกับเจียงหยุนเอ๋อด้วยเสียงที่อ่อนนุ่มว่า :
“ในตอนนี้ ฉันพอใจมากแล้วจริง ๆ สิ่งเดียวที่เสียดายก็คือตอนนี้ฉันยังนึกอะไรไม่ออกเลย”
“ฉันไม่แคร์เลย จุนถิง ขอแค่มีนายอยู่เคียงข้างฉันก็พอแล้ว เรื่องแบบนี้รีบร้อนไม่ได้หรอก”
“ครับ ตอนนี้อากาศเย็นแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนถิงกลับถึงบ้าน ก็ล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าสักครู่ แล้วก็กอดกันจนหลับไป