ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – บทที่ 3465

บทที่ 3465

 มิได้ มิได้…….  ล่ายชิงหวากล่าวด้วยความนอบน้อมว่า  ผมยังห่างไกลจากความอัศจรรย์ที่คุณชายเย่กล่าวถึง และตามคำทำนายของปากว้านั้นสามารถเปิดเผยได้เพียงแนวโน้มทั่วไปเท่านั้น แต่มันมีข้อมูลอะไรบ้างที่อยู่ในนั้น ยังจำเป็นต้องทำการวิเคราะห์เชิงตรรกะร่วมกับสถานการณ์จริง 

หลังจากนั้น ล่ายชิงหวากล่าวอีกว่า  ตอนอยู่บนภูเขาเย่หลิงซานนั้นผมได้บอกคุณว่า ตอนแรกที่คุณตกระกําลําบากอยู่ที่เมืองจินหลิง นั่นเป็นเพราะมังกรหมดอำนาจ และหลังจากที่คุณได้สูญเสียอำนาจไปแล้ว ตอนนั้นผมแนะนำให้คุณกลับไปที่เย่นจิง เพื่อที่มังกรจะได้ลงสู่ทะเล แต่ก่อนหน้านั้นตอนที่ไหม้เฉิงซินไปที่เมืองจินหลิง จึงทำให้ผมรู้ว่าคุณยังอยู่ในเมืองจินหลิง 

 ใช่  เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม  ผมอาศัยอยู่ที่เมืองจินหลิงมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นผมจึงชินกับชีวิตในเมืองจินหลิง และไม่อยากจะเปลี่ยนง่าย ๆ 

ล่ายชิงหวากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  ตอนนี้โลกภายนอกมีข่าวลือว่าตระกูลเย่นั้นประสบภัยพิบัติ ถ้าตระกูลเย่ตกอับจริง ๆ คำทำนายปากว้าของคุณนั้นจะต้องเป็นเสือลำบาก มังกรหมดอำนาจ และกระทั่งแม้มังกรฟ้ายังตกอับ แต่ทำนายปากว้าของคุณนั้นกลับเป็นภาพมงคลที่มังกรลงสู่ทะเล ดังนั้นผมจึงคาดเดาว่า การที่สำนักว่านหลงบุกไปถึงตระกูลเย่นั้นเป็นโอกาสทองสำหรับคุณ 

หลังจากนั้น ล่ายชิงหวากล่าวอีกว่า  ผมคิดว่าถึงแม้คุณชายเย่จะมีดวงชะตามังกร แต่ถ้าต้องการครอบครองตระกูลเย่โดยปราศจากการแทรกแซงจากภายนอกจริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย! ตามคำกล่าวที่ว่าไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรนั้นมันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น ต้องใช้เวลาสั่งสมบ่มเพาะนาน ธุรกิจของตระกูลเย่ที่สะสมมาหลายปี อำนาจและโครงสร้างการจัดการที่สร้างขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้แต่คนที่มีความสามารถที่แข็งแกร่ง หากต้องการควบคุมอำนาจใหญ่นั้นก็ต้องวางแผนอย่างช้า ๆ และสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณไปถึงจุดสูงสุดในคราวเดียว นั่นก็คือการโจมตีของศัตรูที่ทรงพลัง ดังนั้นจากข้อมูลเหล่านี้ ทำให้ผมเดาว่าตอนนี้คุณได้กลายเป็นผู้นำตระกูลเย่แล้วแน่นอน! 

เย่เฉินกล่าวชื่นชมอย่างจริงใจว่า  ท่านล่าย ไม่เพียงแต่มีทักษะในการทำนายที่ไม่ธรรมดาเท่านั้น แต่ความสามารถในการวิเคราะห์เชิงตรรกะยังน่าชื่นชมยิ่งกว่า! 

ล่ายชิงหวารีบกล่าว  คุณชายเย่ ชมมากเกินไปแล้ว! ผมมีชีวิตอยู่มานานแล้ว และไม่มีความสามารถอะไร เพียงแต่ผมรู้มากกว่าคนอื่นเล็กน้อยเท่านั้น และผมไม่กล้าอวดเก่งต่อหน้าคนเก่งอย่างคุณหรอก! 

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  ท่านล่าย อย่ากล่าวเช่นนั้น อยู่ต่อหน้าคุณแล้ว ผมเป็นแค่รุ่นน้องเท่านั้น….… 

ล่ายชิงหวาหัวเราะ และกล่าวว่า  คุณชายเย่ คุณกับผมไม่จำเป็นต้องเยินยอซึ่งกันและกันแล้ว ผมยังไม่ได้ถามว่าที่วันนี้คุณโทรมาหาผมนั้นมีคำสั่งอะไร? 

เย่เฉินกล่าวว่า  ท่านล่าย มิอาจกล่าวว่าเป็นคำสั่ง ผมเพียงแค่อยากจะขอความช่วยเหลือบางอย่างจากคุณ 

ล่ายชิงหวารีบกล่าว  คุณชายเย่ คุณเป็นผู้ที่มอบอายุขัยสิบปีให้กับผม หากคุณมีสิ่งใดต้องการให้ผมช่วยเหลือ โปรดสั่งมาได้ทันที และผมจะทำมันให้ดีที่สุด! 

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  สิ้นเดือนนี้ผมวางแผนจะจัดประมูลที่เมืองจินหลิง และเมื่อถึงเวลานั้นผมจะนำยาอายุวัฒนะสองเม็ดออกมาประมูลด้วย 

เมื่อล่ายชิงหวาได้ยินคำว่ายาอายุวัฒนะ เขากล่าวด้วยความตกใจว่า  คุณชายเย่…..คุณ…..คุณเพิ่งได้รับสืบทอดธุรกิจของตระกูลเย่ และเป็นไปไม่ได้ที่คุณนั้นจะร้อนเงิน แล้วทำไมคุณถึงนำยาอายุวัฒนะที่ล้ำค่าออกมาประมูลล่ะ?! 

ตอนนั้นเพื่อค้นหาทางรอดของตนเอง ล่ายชิงหวาใช้เวลาสี่ปีสร้างภูเขาเย่หลิงซานให้ตระกูลเย่ ถึงได้รับยาอายุวัฒนะจากเย่เฉิน ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาว่ายาอายุวัฒนะนั้นมีมูลค่าสูงเท่าไร

เมื่อได้ยินว่าเย่เฉินจะนำยาอายุวัฒนะออกมาประมูล ทำให้เขารู้สึกไม่เข้าใจ เย่เฉินไม่ร้อนเงินแน่นอน แล้วทำไมเขาถึงได้นำยาล้ำค่าเช่นนี้ออกมาประมูลล่ะ?

ขณะนี้เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  การประมูลยาอายุวัฒนะนั้นไม่ใช่เป็นเพราะร้อนเงิน แต่ส่วนใหญ่นั้นเป็นเพราะเมืองจินหลิง อย่างที่คุณทราบถึงแม้ว่าเมืองจินหลิง จะเป็นเมืองหลวงเก่ายุคหกราชวงศ์ และมีประวัติที่ยาวนาน แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมาการพัฒนาเศรษฐกิจนั้นยังรั้งท้ายขบวน สถานะในประเทศไม่แข็งแกร่งมากนัก และไม่เป็นที่รู้จักในระดับสากล….. 

 ดังนั้น ผมต้องการใช้การประมูลนี้ เพื่อให้เมืองจินหลิงเป็นที่รู้จักมากขึ้นในต่างประเทศ และยังสามารถดึงดูดเศรษฐีชั้นนำมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองจินหลิงได้อีกด้วย! 

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ เย่เฉินกล่าวอย่างจริงจังว่า  ตอนนี้นิยมแซงรถตรงทางโค้ง ดังนั้นผมอยากให้เมืองจินหลิงแซงทางโค้งสักครั้ง และดูว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร! 

 

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

Status: Ongoing

เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท