ก่อนที่จะไป ถังเฉาสั่งเฟิ่งหวงให้ขังเสิ่นชิงหยุนไว้ในคฤหาสน์ซานสุ่ย ขอเพียงรักษาชีวิตเขาไว้ได้ อย่างอื่นแล้วแต่จะทำ
ไม่รอให้ถังเฉาขึ้นรถออกไป เขาก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเสิ่นชิงหยุนที่โกรธแค้นถึงขั้นสุดลอยออกมาจากคฤหาสน์แล้ว
“ไม่—-แกทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”
ถังเฉาหัวเราะนิ่งๆ ก่อนจะขับรถออกไป
เขาสามารถเดาได้ว่าด้วยนิสัยเฉพาะของเฟิ่งหวง คงมอบเงื่อนไขที่พักย่ำแย่มากให้เสิ่นชิงหยุนอยู่
ในขณะเดียวกัน เขาก็สั่งเฟิ่งหวงไม่ต้องให้นักฆ่าที่มาถึงหมิงจูทั้งหมดบุ่มบ่ามในสองวันนี้ ทุกอย่างจึงสงบนิ่ง
ช่วงเวลาแบบนี้ ดำเนินต่อเนื่องมาได้สามวัน ในที่สุดก็มีคนสังเกตได้ถึงความผิดปกติ
เสิ่นชิงหยุนของตระกูลเสิ่นหายตัวไป
ที่ไหนก็ไม่มีภาพเงาของเขา เหมือนกับสูญหายไปจากโลกมนุษย์
ถังเฉาเพิ่งส่งถังเสี่ยวลี้ไปโรงเรียนอนุบาล จากนั้นได้รับสายโทรศัพท์ของต่งวี่ซู่
“คุณถังครับ เสิ่นชิงหยุนหายตัวไปครับ!”
ในสายโทรศัพท์ เสียงของต่งวี่ซู่มีอาการสั่นเครือที่เข้มข้น
ถังเฉากลับหัวเราะนิ่งๆ ยังคงไม่ไหวติง “ไม่ใช่แค่ไม่เจอตัวเขามาสามวันเท่านั้นเองเหรอ จะสรุปว่าหายตัวไปแล้ว?”
“มีคนบอกว่าล่าสุดที่เห็นเขาอยู่ในโรงแรมห้าดาวเมื่อสามวันก่อน หลังจากนั้นก็ไม่เคยลงมาอีกเลยครับ” ต่งวี่ซู่รายงานตามจริง
แต่ทว่าน้ำเสียงของถังเฉายังคงนิ่งเฉย “แม้แต่ตระกูลเสิ่นยังไม่ตื่นตกใจ นายตื่นเต้นอะไรกัน?”
ต่งวี่ซู่หายใจลึกๆ ทีหนึ่ง “คุณถังครับ ผมอยากบอกว่ามีอะไรที่ตระกูลต่งสามารถช่วยเหลือได้ บอกมาได้เลยนะครับ!”
นี่ไม่เพียงเป็นการแสดงความซื่อสัตย์ต่อถังเฉาเท่านั้น สิ่งสำคัญกว่านั้นคือเขาคิดว่ามีความเป็นไปได้มากว่าการที่เสิ่นชิงหยุนหายตัวไป เกี่ยวข้องกับถังเฉาโดยเฉพาะอย่างหนีไม่พ้น
“พอแล้ว ฉันต้องไปทำงานต่อ”
ถังเฉาวางสายโทรศัพท์ หัวเราะนิ่งๆ
ดูแล้วอิทธิพลแต่ละด้านล้วนสังเกตถึงการหายตัวไปของเสิ่นชิงหยุนแล้ว คงดูปฏิกิริยาของตระกูลเสิ่นเอา
ในขณะเดียวกัน คฤหาสน์ตระกูลเสิ่น
ผู้นำเสิ่นชิงหยุนนั่งอยู่ที่ตำแหน่งบนสุด สีหน้าอึมครึม
“นายท่าน ไม่มีข่าวคราวคุณชายมาสามวันแล้วครับ”
ผู้ดูแลบ้านลุงหยางยืนอยู่ด้านข้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรมั้งครับ?”
“ถูกต้อง ถึงแม้ว่าช่วงนี้มีนักฆ่าปรากฏตัว แต่แยกย้ายเป้าหมายแล้ว ไม่ควรไม่มีข่าวสักนิดสิ” เสิ่นป้านซานขมวดคิ้วแน่น พูดพึมพำกับตนเอง
“ถ้าไม่อย่างนั้นส่งคนไปหาสักหน่อยไหม?” ลุงหยางพูดแนะนำ
เสิ่นป้านซานพิจารณาอยู่นาน ยังส่ายหน้าแล้ว “ไม่ต้อง ชิงหยุนจะต้องเจอเรื่องวุ่นวายบางอย่างแน่ เขาไม่ได้โทรศัพท์หาที่บ้าน หมายความว่ายังไม่ถึงที่สุดจริงๆ”
“ตระกูลเสิ่นของฉันอยู่ในช่วงขาขึ้น สามวันมาแล้ว ถังเฉาคนนั้นได้ตอบกลับมาหรือเปล่า?”
เสิ่นป้านซานถามขึ้นอีก
ลุงหยางส่ายหน้า “เกรงว่าเขาคงลืมคำพูดตระกูลเสิ่นของพวกเราหมดจดแล้วครับ”
ในสายตาเสิ่นป้านซานมีความแหลมคมแวบผ่าน “พวกแต่งเข้าบ้านผู้หญิงกระจอกคนหนึ่ง กล้าเพิกเฉยตระกูลเสิ่นของฉัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ นายรีบตามฉันไปที่อาคารกั๋วจี้สักเที่ยว ยึดครองลี่จิงกรุ๊ปมา!”
“แต่ว่าเรื่องของคุณชาย……”
“พอแล้ว ผลประโยชน์ของตระกูลสำคัญกว่าทุกอย่าง ฉันเชื่อความสามารถของชิงหยุน!”
คำพูดของลุงหยางถูกเสิ่นป้านซานตัดบทอย่างไร้เยื่อใย เห็นแบบนี้ ลุงหยางถอนหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง ออกไปข้างนอกกับเสิ่นป้านซาน
……
หลินชิงเสว่กำลังดูปฏิทิน ครุ่นคิดถึงงานเลี้ยงฉลองของหวางหมิ่นเหมินในอาทิตย์หน้า เลขาฯหลี่ถาวรีบวิ่งเข้ามาแล้ว “ประธานหลินคะ เสิ่นป้านซานของตระกูลเสิ่นมาค่ะ!”
หลินชิงเสว่ได้ยินแล้ว ใบหน้าดูเย็นชาเช่นกัน เดินออกไปมอง เห็นเพียงเสิ่นป้านซานพาคนงานกลุ่มใหญ่มาที่หน้าประตูของลี่จิงกรุ๊ป ไม่ให้คนเข้า และไม่ให้คนออก
“นายท่านเสิ่น นี่คุณหมายความว่าอะไร ยังจะให้คนอื่นทำมาหากินหรือเปล่า?” หลินชิงเสว่ถามด้วยหน้าตาเย็นชา
“ให้ ให้แน่นอน ขอเพียงเธอเอาคนที่ควรเอาให้ออกมาให้ฉัน แล้วฉันจะรีบไปทันที”
เสิ่นป้านซานส่งเสียงหัวเราะเยาะ พูดขึ้น
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้วแน่นมาก “อะไรคือคนที่ควรเอาให้ คุณกำลังพูดอะไรอยู่?”
“ยังแกล้งไม่รู้! สามีแต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนนั้นของเธอติดหนี้ฉันห้าพันล้านยังไม่คืน วันนี้ถ้าเธอไม่เอาเขาออกมาให้ ลี่จิงกรุ๊ปแห่งนี้ก็ไม่ต้องทำมันแล้ว เอามาจ่ายหนี้เถอะ!”
“อะไรนะ? ห้าพันล้าน?”
ฟังคำพูดของเสิ่นป้านซาน หลินชิงเสว่ก็ตกใจยกใหญ่ นี่ไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลย
ลี่จิงกรุ๊ปพัฒนามาถึงปัจจุบันนี้ ยังมีมูลค่าประมาณหกพันล้าน
แต่หลินชิงเสว่รู้จักถังเฉาดี เขาจะไม่ทำเรื่องที่ติดหนี้ไม่คืนโดยเด็ดขาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจำนวนเงินห้าพันล้าน
“ฉันขอถามหน่อยได้หรือเปล่า สรุปเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ สามีฉันทำไมถึงติดหนี้คุณห้าพันล้านได้?” หลินชิงเสว่ถามอย่างใจเย็น
เสิ่นป้านซานมองเธออย่างเย็นชาแวบหนึ่ง น้ำเสียงไม่เป็นมิตร “สามีเธอเคยสัญญาไว้ จะให้ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลต่งกับตระกูลเสิ่นมา นอกจากส่วนที่ตระกูลเสิ่นซื้อมา ส่วนที่เหลือคิดเป็นตัวเงิน ประมาณห้าพันล้าน”
ชั่วขณะนั้นหลินชิงเสว่โมโหใหญ่ “นี่คุณกำลังเถียงข้างๆ คูๆ!”
“เถียงข้างๆ คูๆ? ฉันบอกว่าติดหนี้ก็คือติดหนี้สิ ที่หมิงจู ฉันมีอำนาจสูงสุด!”
เสิ่นป้านซานตบโต๊ะอย่างแรง สายตาที่มองทางหลินชิงเสว่เต็มไปด้วยการข่มขู่ “ตอนนี้ตระกูลเสิ่นของฉันเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่เพียงหนึ่งเดียวของหมิงจู เป็นศัตรูกับฉัน มีเพียงตายทางเดียว!”
“นายท่านเสิ่นวางอำนาจบาตรใหญ่ ลืมเรื่องสองวันก่อนที่ถูกนักฆ่าขู่จนสลบไปแล้ว?”
ในเวลานี้เอง หน้าประตูลิฟต์กลับมีเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยลอยมา
ถังเฉาเดินตัวตรงสง่าเข้ามาแล้ว ขวางไว้ตรงหน้าของหลินชิงเสว่
คนของลี่จิงกรุ๊ป มีหลี่ถาวนำหน้า ค่อยๆ หลบทางให้ถังเฉา หลังจากประกาศความสัมพันธ์ในวันนั้น พวกหล่อนก็รู้ความจริงว่าภรรยาของถังเฉาคือหลินชิงเสว่ ได้ยินเรื่องนี้ฟางหย่ายังขอลาไปสองวัน วันนี้ก็ไม่มา
“ถังเฉา ในที่สุดแกยอมออกมาแล้ว”
พอมองเห็นถังเฉา สีหน้าเสิ่นป้านซานเปลี่ยนไปอึมครึมในชั่วขณะนั้น “วันนี้ถ้าแกไม่เอาทรัพย์สินของตระกูลต่งทั้งหมดมา ฉันจะเอาลี่จิงกรุ๊ปของเมียแกใช้หนี้แทน!”
คำพูดนี้ออกมา หัวหน้าของลี่จิงกรุ๊ปทั้งหมดต่างสีหน้าเปลี่ยน สีหน้าของหลินชิงเสว่ดูอึมครึมเช่นกัน
แต่ว่าถังเฉายังคงท่าทางปกติ บนหน้ายังเย้ยหยันแบบชัดบ้างเลือนรางบ้าง “งั้นเหรอ ถ้าฉันกล้าเอาให้ นายยังมีชีวิตรอดรอรับได้เหรอ?”
“โอหัง!”
เสิ่นป้านซานทำหน้าอาฆาตแค้น “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ที่ก่อนหน้านี้แกอยู่มาได้ถึงปัจจุบัน ก็เป็นเพราะหลินชิงเสว่ รอหลังฉันทำลายลี่จิงกรุ๊ปที่หล่อนสร้างมากับมือลงก่อน ความมั่นใจของแกจะเหลืออยู่เท่าไรกัน?”
คนอื่นของตระกูลเสิ่นที่อยู่ด้านหลังมองถังเฉาและหลินชิงเสว่ด้วยหน้าตาเย็นเฉียบ เหมือนการพังทลายของลี่จิงกรุ๊ปเป็นสิ่งที่ฟ้าลิขิตเอาไว้
ถังเฉาส่ายหน้าแล้ว “นายกับเสิ่นชิงหยุนก็เหมือนกัน สายตาไม่ยาวไกล ขอเพียงนายเข้ามากับฉัน นายก็จะเข้าใจ ไม่ว่าตระกูลเสิ่นยิ่งใหญ่เกรียงไกรแค่ไหน ก็ยังเป็นเนื้อปลาบนเขียง ไม่มีความสามารถต้านทาน”
พูดจบ จึงเดินเข้าไปในห้องท่านประธานของลี่จิงกรุ๊ป
สายตาหลินชิงเสว่เปล่งประกาย ลังเลครู่หนึ่ง ทว่ากลับไม่ได้เข้าไป
“มาถึงเวลานี้แล้ว ยังจะดิ้นรนอยู่อีก”
“ผู้นำ อย่าไปสนใจเขาครับ รีบซื้อลี่จิงกรุ๊ปเถอะ!”
“ไม่เลว ช่วงนี้ลี่จิงกรุ๊ปได้รับโครงการของสำนักงานการก่อสร้างที่ครบถ้วน พอเป็นแบบนี้ ก็จะคือของตระกูลเสิ่นแล้ว”
คนอื่นของตระกูลเสิ่นต่างเร่งเร้าเสิ่นป้านซาน รีบซื้อลี่จิงกรุ๊ปมาให้เร็วหน่อย
แต่ว่าเสิ่นป้านซานนิสัยขี้สงสัย ถึงแม้รู้ว่าถังเฉากำลังอยากจับให้อยู่หมัดเลยทำปล่อยไปก่อน แต่ยังจิตใจหวั่นไหว “พวกผู้ชายแต่งงานเข้าบ้านผู้หญิงที่เอาแต่พึ่งเมียคนหนึ่งเท่านั้น จะสร้างคลื่นลูกใหญ่อะไรได้? ฉันอยากดูหน่อย แกจะเสแสร้งแกล้งทำไปได้ถึงเมื่อไร”
พูดจบ จึงเดินก้าวใหญ่ๆ เข้าไป
ปึง—-
เสียงประตูของห้องท่านประธานปิดสนิท ทุกคนรออยู่ด้านนอกกัน
“อ๊าก—-”
สามวินาทีต่อมา ภายในห้องมีเสียงตะโกนของเสิ่นป้านซานที่โกรธแค้นขั้นสุดลอยออกมา